ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 114 ไฟล์ 12 เรื่องราวของฟาร์มนั้น 9
เกทที่ท้ายโถงทางเดินชั้น 1 จะเปิดไปเจอถ้ำที่เดินไปได้ครึ่งทางก็จะเจอหน้าผา มีแผ่นไม้วางพาดก้อนหินไปทางซ้ายทางขวา ดูเหมือนพวกเราจะไปทางไหนก็ได้นะ แต่ทางเดินมันแคบมากขนาดที่ว่าถ้าเสียสมาธิไปซักนิดก็ก้าวพลาด ตกลงไปได้ง่ายๆ เลย ข้างล่างนั่นเป็นป่ามืดทึม กับทางคดเคี้ยวเล็กๆ ที่ให้ฝ่ากิ่งก้านต้นไม้ไปได้
ที่ห้องแรกของชั้นที่ 2 จะเปิดออกไปเจอกับที่ที่ดูเหมือนสวนสนุกร้าง ที่ฉันบอกแบบนั้นก็เพราะมันมีโครงคล้ายๆ กับชิงช้าสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยนั่นแหละ แต่พอพวกเราเดินเข้าไปใกล้เท่านั่นแหละ ก็เห็นว่าสิ่งที่ติดอยู่กับแท่งเหล็กนั่น จริงๆ แล้วเป็นแค่หินก้อนใหญ่เท่านั้นเอง เครื่องเล่นสวนสนุกใกล้ๆ ก็สนิมขึ้น มีชิ้นส่วนชิ้นเล็กชิ้นน้อยร่วงลงมาจากพวกมันด้วย แต่ก็นะ ต่อให้มันจะดูใหม่เอี่ยมหมดเลยทุกชิ้น ฉันก็นึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่ามนุษย์หน้าไหนจะเข้าไปเล่นพวกมันล่ะนะ
ที่ส่วนโล่งๆ กลางป่ามีของดูเหมือนหุ่นไล่กาที่ทำจากกิ่งไม้ปักเรียงอยู่เป็นแถวด้วย ในป่ามันมืดมากจนมองไม่เห็นอะไรในนั้นเลย ตรงกลางที่เปิดโล่งนั่นมีเนินดินสูงที่เหมือนกับมีอะไรฝังอยู่ตรงนั้น แล้วตรงจุดนั้นก็มีกอเห็ดสีขาวโตอยู่ตรงนั้นที่เดียวเลย บวกกับว่ามีกลิ่นมิ้นต์แรงๆ ลอยมาจากที่ไหนซักที่ด้วย
มีลานหินที่มีขยะเกลื่อนกลาด บนพื้นมีขวดน้ำพลาสติกกับเศษพลาสติกที่แตกเป็นชิ้นๆ เพราะตากแดดตากลมมา แล้วก็มีผิวหินสีนำ้เงินโผล่มาให้เห็นด้วย มันมีเสียงฮัมหึ่งๆ ดังออกมาจากในกองขยะด้วย ฉันเดาว่าอาจจะเป็นเสียงจากมอเตอร์ตัวเล็กๆ หรือเสียงร้องจากแมลงก็ได้ แต่จากการที่ฉันลองใช้เท้าเขี่ยๆ รื้อกองขยะดูแล้ว ก็ไม่เจอแหล่งที่มาของเสียงที่ว่านั่นเลยนะ
ฉันเห็นห้องน้ำแบบที่เจอได้ในสวนสาธารณะตั้งอยู่บนยอดเนินทรายด้วย ได้ยินเสียงก้องๆ แบบเสียงน้ำผุดถูกเปิดเล่นผ่านเครื่องเลียนเสียงน้ำไหลโอโตฮิเมะเสียงดังๆ พร้อมกับลมที่พัดผ่านกองทรายเลย พอมองลอดผ่านประตูเข้าไปในห้อง ฉันก็เห็นมอสหนามๆ โตออกมาจากโถส้วมในห้องน้ำซองนึง
TN: トイレ用擬音装置 (Toireyou Kion Souchi) หรือเครื่องเลียนเสียงน้ำไหล เพราะในอดีต มีสาวๆ บางคนอายเสียงทำธุระในห้องน้ำของตัวเอง เลยใช้วิธีกดน้ำไปด้วยทำธุระไปด้วย ซึ่งการทำแบบนั้นจะเปลืองทั้งน้ำ เปลืองทั้งเงิน เครื่องเลียนเสียงน้ำไหลจึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ไขทั้ง 3 ปัญหาดังกล่าว
หนึ่งในเครื่องเลียนเสียงน้ำไหลที่นิยม และพบเห็นได้บ่อยก็คือเครื่องเลียนเสียงน้ำไหลของบริษัท TOTO มีชื่อว่า “音姫 (Otohime)” ซึ่งออกเสียงพ้องกับ “乙姫” ชื่อเจ้าหญิงที่อาศัยอยู่ในปราสาทใต้น้ำ ในนิทานเด็กเรื่องดังอย่างอุราชิมาทาโร่นั่นเอง
มีเกทที่ไม่มีแสงเรืองออกมาอยู่ที่เปิดตรงเข้าไปเจอคราบเชื้อราเหม็นๆ ด้วยนะ พวกเราพยายามเปิดไฟดู ถึงได้เห็นโถงทางเดินที่มีตู้ล็อกเกอร์วางเรียงอยู่ทั้งทางซ้ายทางขวา ก่อนที่เราจะทันไปดูว่ามันทอดยาวไปถึงไหน พวกเราก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีดวงตาหลายคู่จ้องตรงมาที่พวกเราจากข้างในล็อกเกอร์พวกนั้น เรา 2 คนก็เลยรีบหนีออกมาทันทีเลย
มีที่เหมือนแคมป์ไฟถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ที่มีขนาดกำลีงดี ยังกับว่าเตรียมไว้ให้เราใช้ยังไงยังงั้น กองไฟนั้นลุกไหม้อยู่ตรงกลางทุ่งราบเปิดโล่ง แต่เท่าที่สายตามองเห็น แถวนี้ก็ไม่มีใครอยู่เลยซักคน รอบกองไฟนั้นมีใยแมงมุมอยู่รอบๆ กับกองกระดูกของสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ฉันดูไม่ออกเหมือนกันว่าเป็นตัวอะไร
สถานที่สวยงาม พื้นที่ลึกลับ กับบริเวณที่น่าขนลุก… พวกเราเปิดเกทที่ดูมีหวังออกทีละอัน ทีละอัน พลางดื่มด่ำไปกับเศษเสี้ยวของโลกเบื้องหลังไปด้วย พวกเราค่อยๆ ดูตัวเลือกที่มีแนวโน้มใช้ในการเดินทางได้ไปอย่างระมัดระวัง ไล่ตามหน้าต่างสู่อีกโลกที่ไม่รู้จักไปเรื่อยๆ
จากที่มองผ่านๆ นี่ เกทแต่ละอันมันไม่ได้เปิดไปใกล้กับที่ที่เรารู้จักอันไหนเลย แต่ถ้าไม่ได้เดินทางไปให้ไกลกว่านี้มันก็พูดอะไรแน่ๆ นอนๆ ไม่ได้อยู่แล้ว
ท้ายที่สุด ก็มีเกทอยู่ 6 อันที่พวกเราใช้งานได้ ถึงลัทธิของอุรุมิ รูนะจะมีมัดรวมมาแต่พวกขี้แพ้ไร้ค่า แต่ก็คงพูดได้อยู่นะว่าผลงานชิ้นนี้นี่ไม่เลวเลย
เกทอันสุดท้ายที่พวกเราทดลองใช้ได้เปิดออกไปเจอกับบริเวณริมทะเลสาบในภูเขา ตอนนี้ ดวงอาทิตย์ก็คล้อยลงมาต่ำแล้ว ท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีทองสวย พร้อมกับฉายแสงเหลื่อมๆ สีรุ้งออกมา
ณ ริมชายฝั่งที่มีคลื่นพัดเข้ามาอย่างเงียบๆ มีเศษไม้สีขาวลอยมาเกยตื้นอยู่เพียบ แต่ละชิ้นวางทับกันไปมายุ่งเหยิงไปหมด ระหว่างที่พวกเรามองดูผิวทะเลสาบด้วยกันอยู่แบบนั้น ฉันก็เพิ่งสังเกตได้อย่างนึง
เวลาที่ฉันไม่ได้เดินตามโทริโกะหรือโดนเธอลากไปมา เธอก็จะมาเดินอยู่ข้างๆ ฉันแทน ออกสำรวจไปที่นู่นที่นี่กัน มันสนุกมากเลยนะ พอคิดว่านั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงได้เริ่มทำท่าทางเหมือนกับเป็นแฟน (?) ของฉันแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้แฮะ
มันเหมือนกับว่า ระหว่างที่พวกเรารีบออกจากที่นึงไปหาอีกที่นึง โทริโกะก็กลับมาเป็นตัวเธอเหมือนอย่างทุกทีแล้ว ตอนนี้ เธอมองดูท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปด้วยสีหน้าเงียบสงบ ฉันมองเธออย่างชื่นชมในขณะที่มีลมพัดข้ามผ่านทะเลสาบมาตีผมหน้าม้าสีบลอนด์ทองของเธอ
แล้วเหมือนโทริโกะจะรู้สึกถึงสายตาของฉันได้ เธอเลยหันขวับมาหาฉัน
“อะไรเล่า?”
“เปล่า ก็แค่—”
ตอนแรกฉันก็ส่ายหน้า แต่พอคิดดูอีกที ฉันเลยบอกไปว่า
“สำหรับฉันแล้วเนี่ย ที่ฉันอยากได้ก็แค่ความเรียบง่ายเท่านั้นเอง เพื่อจะออกสำรวจโลกเบื้องหลังนี่ ก็แค่นั้น แค่พวกเรา 2 คน ไม่มีใครที่ไหนมายุ่มย่าม ที่ฉันอยากได้มันก็แค่นี้แหละ แต่ว่า เธอคิดว่าไงบ้างล่ะโทริโกะ?”
“หมายความว่าไงน่ะ?”
“ก็… ตอนแรกเธอมาที่นี่ก็เพื่อจะตามหาใครซักคนนี่นา แต่เธอคนนั้น ตอนนี้ก็ดูจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ไปแล้วด้วย ว่ามั้ย?”
อุรุมะ ซัทสึกิที่พวกเราเจอในห้วงลึกของโลกเบื้องหลังน่ะ เธอกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว แค่การที่โทริโกะเลือกจะถอยออกมาตอนที่อุรุมะ ซัทสึกิพยายามจะพาตัวเธอไปนั่นก็เห็นได้แล้วนะว่ามันแย่ขนาดไหน
“แบบว่า เธอก็เสียเป้าหมายเดิมของเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้างั้น มีเหตุผลอะไรที่เธอต้องมาที่โลกเบื้องหลังนี่อีกล่ะ?”
หลังจากที่ถามแบบนั้นออกไป ขนาดฉันก็ยังตกใจตัวเองเลย มันเป็นคำถามที่เมื่อไม่นานนี้ ฉันยังกลัวเกินกว่าที่จะถามเธออยู่เลยแท้ๆ แต่เพราะอะไรไม่รู้ คราวนี้ถึงได้ถามมันออกไปได้ง่ายๆ เลย
โทริโกะเงียบอยู่ซักพัก จนฉันเริ่มคิดว่ามันเป็นคำถามที่แย่เกินไปหรือเปล่านะ? เธอก็เปิดปากพูดซักที
“โซราโอะ อยากออกสำรวจโลกเบื้องหลังกับฉัน ใช่มั้ย?”
“อื้อ”
“ฉันก็คิดแบบนั้นแหละ ฉันเองก็อยากอยู่กับเธอเหมือนกัน อยากให้พวกเราไปที่ไหนก็ได้ที่ไปถึง อยู่ด้วยกันแบบนี้น่ะ”
“…เธออยากได้แบบนั้นเหรอ โทริโกะ?”
“อื้อ”
เธอพยักหน้าตอบ
โล่งอกไปที แต่ซักพัก ฉันก็รู้สึกเขินขึ้นมาแทน ก่อนจะหันหน้าหนี แล้วพูดต่อแบบงึมงำ
“อ้อ งั้นเหรอ? ถ้างั้น ขอฝากตัวด้วยนะ โทริโกะ”
“เหมือนกัน ฝากตัวด้วยนะ โซราโอะ”
ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าของเธอก็เถอะ แต่เสียงของเธอฟังดูดีใจมากเลยนะ
TN: ( ^ /// ^ )
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r