ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 105 ไฟล์ 11 เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง 9.4
- Home
- All Mangas
- ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
- ตอนที่ 105 ไฟล์ 11 เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง 9.4
รูนะยกแขนยื่นออกไปหน้าตัวเองเหมือนกับเป็นซอมบี้ เดินโซซัดโซเซมาทางพวกเรา เหมือนกับจะพยายามขยับออกมาให้ห่างจากตัวของอุรุมะ ซัทสึกิที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฉันกับโทริโกะมองหน้ากัน ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย ในตอนนั้น เรารู้ว่าพวกเรา 2 คนคิดอย่างเดียวกัน
ต้องช่วยรูนะออกมา
ถ้าเป็น 10 นาทีก่อน ฉันคงจะทิ้งยัยนั่นไว้นี่ได้อย่างไม่ลังเลเลยล่ะนะ คือ ถ้าลองคิดด้วยหัวโล่งๆ ดูล่ะก็ ยัยนั่นเป็นศัตรูของพวกเรา สำหรับฉันแล้ว ยัยนั่นก็เป็นหัวหน้าลัทธิ สำหรับโทริโกะ ยัยนั่นก็—ไม่สิ ต่อให้ไม่ไปคิดถึงเรื่องพวกนั้น ยัยนั่นก็มีเรื่องอีกเยอะแยะไปหมดที่จะทำให้ฉันโมโหได้เลย
แต่ถึงยังงั้น ฉันก็ทิ้งยัยนั่นไว้นี่ไม่ได้อยู่ดี
เป็นป้าขอบคุณนั่นแหละที่ทำให้ฉันเปลี่ยนใจ ตอนที่ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องของรูนะตอนที่อุรุมะ ซัทสึกิฆ่าแม่ของเธอเอง ฉันก็ ทำไม่ได้…
ฉันกับโทริโกะคว้าแขนรูนะไว้แน่น แล้วดึงกระชากมา ถึงยัยนั่นจะยังมีสีหน้าเหมือนกับยังเป็นบ้าอยู่กับกรามล่างที่เหมือนจะหลุดออกมาก็เถอะ แต่ยัยนั่นก็ล้มมาทางพวกเรานะ
ฉันหันกลับไปมองข้ามไหล่ฉันอีกที เกทที่ทาสของรูนะ—ผู้ติดต่อประเภท 4 คนที่หัวโต—เปิดเอาไว้ก็กว้างพอจะให้พวกเราข้ามไปได้แล้ว
“โซราโอะ! ไปเอาตัวโคซากุระมานะ!”
“ได้! เธอไปก่อนเลย!”
ฉันทิ้งรูนะไว้กับโทริโกะ ก่อนจะรีบวิ่งไปข้างตัวคุณโคซากุระ
“เราต้องวิ่งแล้วค่ะ! ลุกเร็ว!”
“ฉัน… ทำไม่ได้…”
“…โอเค ถ้างั้น จับไว้นะคะ”
คุณโคซากุระกอดฉันไว้แน่น พอเธอโอบไปรอบคอฉันแบบนี้ ฉันก็อุ้มเธอลุกขึ้นมายืนได้แล้ว กลายเป็นว่าอุ้มเธอในท่าเจ้าหญิงซะงั้น มันบังเอิญล่ะนะ ต้องขอบคุณที่เธอตัวเล็กเหมือนเด็กประถมแบบนี้ด้วย แค่แรงจากกล้ามเนื้อของฉันก็ยังพอจะอุ้มเธอไหวเลย อาจจะไม่ได้ดูดีอะไร แต่ฉันก็เดินก้าวเท้ากว้างๆ โซไปเซมา ตรงไปที่เกทได้อยู่
มันเป็นเกทโดยตรงที่แทบไม่มีพื้นที่คั่นกลางเลยที่ช่วยเราเอาไว้ ฉันเดินต่ออีก 2 ก้าว 3 ก้าว อยู่ในช่องว่างระหว่าง 2 โลก จนกลับมาที่โลกเบื้องหน้าได้ซักที
“โซราโอะ! เร็วเข้า!”
โทริโกะตะโกนบอกมาจากโลกเบื้องหน้า
แต่พอฉันพยายามรีบก้าวไปหาเธอ หลังหัวมันก็เจ็บแปล๊บ เหมือนถูกดึงกระชากไปข้างหลัง
ตอนที่โทริโกะมองมาที่ฉัน สีหน้าของเธอมันตกใจจนตึงไปหมด คุณโคซากุระที่เงยหน้าจากที่มองตรงอกฉันข้ามไหล่ไปก็มีสีหน้าแบบเดียวกันเลย
“ซัทสึกิ…”
คำพูดที่โทริโกะพึมพำออกมานั่นคำเดียว ทำให้ฉันเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้เลย
ซัทสึกิคว้าผมที่หลังหัวของฉันเอาไว้
ผมที่ฉันไว้ยาวพอจะมัดรวบไว้ข้างหลังได้แล้ว
ผมที่หลังหัวของฉัน ที่โทริโกะกับคุณโคซากุระชอบมากๆ
ผมที่ยิ่งไว้ยาว มันก็ทำให้ฉันยิ่งดูเหมือนอุรุมะ ซัทสึกิ ผมนั่นนั่นแหละ
“โทริโกะ! รับ!”
ฉันตะโกนบอกเธอไป ทำให้เหมือนเป็นการกระตุกให้โทริโกะได้สติกลับมากับเนื้อกับตัว ฉันสลัดให้แขนของคุณโคซากุระที่โอบอยู่รอบฉันหลุดออกมา ก่อนจะโยนร่างเล็กๆ ของเธอไปหาโทริโกะ
“กรี๊ดดด!”
คุณโคซากุระกรี๊ดออกมาในขณะที่ตัวลอยไปในอากาศเป็นพาราโบลาเล็กๆ แล้วโทริโกะก็คว้าตัวเธอเอาไว้ได้พอดีแบบเกือบจะกระแทกพื้นอยู่แล้ว
ตอนนั้น ฉันก็ดึงมีดที่ขโมยมากจากสาวกัทธิชายคนนึงออกมา แล้วก็ชักมันออกมากจากปลอก
ฉันเอามืออ้อมไปหลังหัว แล้วก็ทาบมีดไปบนผมของฉัน
มีดนี่น่ะ คมใช้ได้เลยนะ
เฉือน เฉือน เฉือน เฉือนไป 3 ที หัวฉันกับหลุดจากมือของอุรุมะ ซัทสึกิได้แล้ว โมเมนตัมที่มากเกินไปก็ทำเอาฉันล้มคะมำมาข้างหน้า ก่อนที่โทริโกะกับคุณโคซากุระจะจับตัวฉันเอาไว้ แล้วทั้งคู่ก็ดึงตัวฉันออกมาจากโลกเบื้องหลังได้สำเร็จ
ฉันหันกลับไปมองข้างหลัง แล้วตาฉันกับสบกับตาคู่นั่นของอุรุมะ ซัทสึกิที่มองมาที่ฉันผ่านทางเกทที่หดเล็กลงเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกับว่าเธอทำอะไรกับผู้ช่วยชีวิตของพวกเราอย่างผู้ติดต่อประเภท 4 หัวโตคนนั้น แต่หัวของเขาบุบบี้ไปเหมือนพระจันทร์เสี้ยวแล้วตอนนี้ แถมพอเขาชักกระตุก มันก็มีของเหลวสีดำในตัวไหลซึมออกมาจาก… ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นจมูกหรือปากของเขาน่ะนะ
พอเห็นริมฝีปากของอุรุมะ ซัทสึกิขยับ ฉันก็ตอบกลับไป
“ไม่ ฉันหมายถึง วันนั้นมันเป็นสีแดง”
อุรุมะ ซัทสึกิพูดอีกครั้ง ฉันก็ส่ายหน้าอย่างจริงจัง
“ไม่ ฉันไม่สัญญา แล้วถ้าฉันตัดขาดไป ฉันก็อยู่ไม่ได้ แล้วหน้ามีเขาพวกนั้นก็ลอยมาใช่มั้ย จากนั้น มันก็คงเป็บบททดสอบล่ะสิ?”
“โซราโอะ?”
“ฉันไม่รู้ว่าจุดจบมันจะมาตอนไหน แต่ในฐานะคนแล้ว มันไม่น่าให้อภัยใช่มั้ยล่ะ? เพราะฉันเองก็ให้อภัยไม่ได้เหมือนกัน”
“โซราโอะ! พูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? โซราโอะ!”
“เมื่อไหร่ที่ฉันถูกเผาจนเหลือแต่กระดูกล่ะก็ ฉันไปแน่—”
ฉันกำลังพูดคุยกับอุรุมะ ซัทสึกิอยู่ แต่มันก็จบลงห้วนๆ เลยตอนที่ฉันถูกตบเข้าที่แก้ม
รู้สึกตัวอีกที โทริโกะก็จับไหล่ฉันไว้ แล้วก็มองเข้ามาใกล้กับหน้าของฉันเลย
“…โทริโกะ? ตบฉันทำไมเนี่ย…?”
ฉันถามออกไปอย่างงงๆ พร้อมกับสติที่กลับมาอย่างช้าๆ
เมื่อกี้ ฉันพูดอะไรอยู่เนี่ย? ระหว่างบทสนทนานั่น รู้สึกเหมือนกับว่ามันมีความหมายจริงๆ นะ
พอมองผ่านไหล่ของโทริโกะไป ฉันก็เห็นเกทหดเล็กลงเรื่อยๆ แสงสีน้ำเงินจากนัยน์ตาปีศาจคู่นั้นจางหายไปจากสายตา แล้วรูในอากาศนั่นก็ปิดลงจนสนิท
โทริโกะเองก็หันกลับไปมองตรงที่เคยมีเกทอยู่เหมือนกัน
ตัวฉันมันยังเกร็งอยู่ กลัวว่าอุรุมะ ซัทสึกิอาจจะเปิดเกทออกมาอีกรอบนึงเพื่อไล่ตามพวกเรามาก็ได้ แต่หลังจากผ่านไปได้ซักนาทีนึง ฉันก็บอกตัวเองว่าเธอคงไม่ได้คิดจะทำตอนนี้หรอก แล้วในที่สุด ฉันก็ถอนหายใจที่กลั้นเอาไว้ตลอดเวลาออกมาเฮือกใหญ่
ฉันเอามือวางบนโต๊ะเขียนหนังสือ ประคองตัวเองลุกขึ้นยืน แฟ้มเอกสารของป้าขอบคุณยังวางอยู่บนนั้นอยู่เลย แต่สมุดโน้ตของอุรุมะ ซัทสึกิกับหินกระจก ของทั้ง 2 ชิ้นนั้นหายไปแล้ว มองหาตรงไหนก็ไม่เจอ
อุรุมะ รูนะยังนอนอยู่แทบเท้าฉัน อยู่ในสภาพที่ยับเยินสุดๆ แต่ก็ยังหายใจอยู่ สีหน้าของเธอดูแย่มากๆ โทริโกะก็เลยถอดเสื้อแจ๊กเกตออกมาคลุมหน้าเธอเอาไว้ แล้วก็ควักมือถือออกมา โทรถามคุณมิงิวะให้เตรียมหมอหรือพยาบาลด้วย
ระหว่างที่ฉันยังฟังเธอไปแบบเรื่อยเปื่อย คุณโคซากุระก็นั่งลงทางด้านซ้ายของฉัน
“เธอมาช่วยฉันด้วยเหรอ โซราโอะจัง?”
“คิดว่า ใช่นะคะ”
“ฉันเองก็ด้วยนะ โคซากุระ”
โทริโกะที่โทรคุยเสร็จแล้วก็พูดเสริม คุณโคซากุระได้ยินก็ส่ายหัว
“นึกว่าพวกเธอ 2 คนจะไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับฉันซะอีก”
“อื้อๆ ไม่ใช่แบบนั้นแล้วซักหน่อย”
“…ก็ ตอนนี้พวกเราทิ้งคุณไปไม่ได้นี่คะ”
“ยัยโง่ ที่บอกว่า ‘แล้ว’ นี่หมายความว่ายังไงน่ะฮะ? ทำเอาฉันบ่อน้ำตาแทบแตกเลยเนี่ย”
คุณโคซากุระหัวเราะออกมานิดๆ อย่างอ่อนแรง
“โซราโอะ เออ ผมของเธอ…”
โทริโกะยื่นมือออกมาลูบไปที่ผมที่กระเซอะกระเซิงของฉัน
“มันก็แค่กลับไปสั้นเท่าเดิมเท่านั้นเองนี่”
ฉันบอกไปแบบนั้น โทริโกะก็พยักหน้าให้ เหมือนจะพอใจกับคำตอบของฉันนะ
มาลองนึกๆ ดูแล้ว ในซีรีส์เรื่องเล่าน่ากลัวแนวรับผิดชอบตัวเองนี่ มีเรื่องนึงที่เขียนไว้เหมือนกันด้วยนี่นา อย่างการที่มีใครซักคนตัดผมตัวเองออกเพื่อหนีให้พ้นจากคำสาปน่ะ พอรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปมันตรงตามเรื่องเล่าผีนั่นแบบไม่ได้ตั้งใจแบบนี้แล้ว ก็ทำเอารู้สึกไม่สบายใจยังไงไม่รู้แฮะ
“เฮ้อออ บางทีฉันน่าจะต้องตัดผมตัวเองด้วยล่ะมั้งเนี่ย…”
คุณโคซากุระบ่นออกมา
แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าเธอหมายถึงอะไรกันแน่ ไม่รู้เลยว่าจะตอบกลับยังไงดี คุณโคซากุระหันคอไปมาจนมันลั่นดังแกร๊ก ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ฉันถึงขีดจำกัดแล้ว เดี๋ยวก่อนนะ… โซราโอะจัง ขอใช้ตักหน่อยนะ…”
ก่อนที่เธอจะทันพูดจบ คุณโคซากุระก็เอนหัวมานอนที่หน้าขาของฉัน แล้วก็หลับตาลง ฉันรู้สึกว่าความตึงเครียดมันบางเบาลงไป แล้วร่างกายของเธอก็อ่อนยวบไปเลย
“คุณโคซากุระ…?”
ฉันเรียกชื่อของเธอออกมาอย่างเป็นห่วง แต่ทั้งหมดที่ตอบกลับมาก็มีแต่เสียงหายใจเข้าออกลึกๆ เท่านั้นเอง ฉันไม่รู้ว่านี่เธอเป็นลมไปแล้ว หรือแค่หลับไปกันแน่… จะยังไงก็เถอะ แต่เธอคงไม่จำเป็นต้องปฐมพยาบาลสินะ ก่อนที่ฉันจะเอนหลังพิงกับโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้น
โทริโกะนั่งลงข้างๆ ตัวฉันที่อีกฝั่งนึงจากคุณโคซากุระ บทสนทนามันจบลง แล้วพวกเราก็อยู่กันเงียบๆ ไปซักพัก
ก่อนที่ฉันจะเป็นคนแรกที่เปิดปากพูด
“เธอจะไม่โมโห เรื่องที่ฉันปิดเรื่องคุณซัทสึกิเอาไว้ ใช่มั้ย?”
ไม่มีคำตอบอะไรกลับมา
“ต่อให้เธอจะโกรธ ฉันก็ไม่คิดจะขอโทษหรอกนะ มันบ้าชะมัดเลย พยายามจะตามเธอคนนั้นไปน่ะ”
“…”
โทริโกะยังเงียบอยู่ ไม่มีท่าทางตอบโต้กับความคิดเห็นของฉันเลย ฉันก็เลยพูดเรื่องที่ยังอยู่ในใจต่อออกมาทั้งๆ ยังงั้น
“ตอนที่ฉันบอกให้พวกเราหนีกันเถอะน่ะ ฉันดีใจนะที่เธอตามมาเงียบๆ ถ้าเธอบอกว่า ‘แต่—!’ หรือ ‘ปล่อยฉัน!’ ล่ะก็ ฉันพร้อมจะซัดเธอให้ร่วงเลยล่ะ”
“เธอ? จะชกฉันเหรอ?”
โทริโกะขำออกมานิดๆ อย่างไม่กระตือรือร้นอะไร
“แปลกรึไง?”
“ก็นะ นิดนึง”
“ฉันจริงจังนะ”
“อื้อ ฉันรู้”
รู้จริงๆ หรือเปล่าเนี่ย?
“ก่อนหน้านี้ เธอก็ตบฉันมาหลายครั้งแล้วนะ อย่าง ตอนนั้นที่เราเกือบตายเพราะโคโทริบาโกะกันไง ฉันนึกว่าตอนนั้น เธอจะหลับไม่ตื่นแล้วนะนั่นน่ะ”
“ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน คือแบบ ฉันได้มือซ้ายข้างนี้มาก็เพราะตบเธอหลังจากที่คุเนะคุเนะเล่นงานเธอนี่นา ตอนนั้น เธอเอาแต่พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้เรื่องเลยซักอย่าง มือของฉันมันเลยขยับไปเองก่อนที่จะทันหยุดได้น่ะ”
วิธีที่โทริโกะพูดนั่น ดูเหมือนพยายามจะแข่งอะไรซักอย่างกันเลยแฮะ
“รุนแรงจะเลยนะเธอเนี่ย รู้ตัวหรือเปล่า โทริโกะ? จะเป็นพวกใช้ความรุนแรงในครอบครัวหรือไง?”
“เปล่าซักหน่อย… เรื่องที่พูดนั่นมันแย่มากเลยนะรู้มั้ย?”
โทริโกะทำปากบุ้ยเหมือนกับว่าจะเจ็บเพราะคำพูดนั่นอยู่นะ ฉันก็เลยตัดสินใจไม่ไล่บี้อะไรต่อ
“…ตอนที่เธอจับมือคุณซัทสึกิ ฉันนึกว่าทุกอย่างมันจะจบแล้วนะ”
พอบอกไปแบบนั้น โทริโกะก็หันหน้ามามองที่ฉัน
“เธอเจอคนที่ออกตามหามานานซักทีนี่นา คำโกหกของฉันก็โดนเปิดโปงแล้วด้วย ฉันคิดว่า มันจบแล้วสินะ เธอคงตัดฉันทิ้งแน่นอนเลย…”
“ไม่ใช่แบบนั้นซักหน่อยนะ โซราโอะ ไม่ใช่แบบนั้นเลย”
โทริโกะส่ายหน้าตอบ
“ซัทสึกิเป็นคนที่สำคัญกับฉันนะ แต่เธอเองก็เป็นคนสำคัญกับฉันเหมือนกัน พวกเราเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกันไม่ใช่เหรอ? ไว้ใจฉันมากกว่านี้หน่อยสิ ว่ามั้ย?”
ไม่คิดเลยว่าคำพูดของเธอจะเป็นแบบนี้ รู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆ เต้นตุบๆ ลึกอยู่ในอกได้เลย
“แต่—ไม่เป็นไรเหรอ? แบบว่า ฉัน…”
“มันเย็นน่ะ”
จู่ๆ โทริโกะก็พูดแบบนั้นขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“หมายถึงอะไรเหรอ?”
“ตอนที่จับมือของซัทสึกิ…”
ระหว่างที่พูด โทริโกะก็ลูบมือซ้ายของเธอไปด้วย
“มือของเธอมันเย็น… เย็นเฉียบเลย ยังกับว่าในนั้นไม่มีเลือดไหลมา ไม่เหมือนกับครั้งสุดท้ายที่เจอเธอเลย”
โทริโกะพูดเอง ก็ดูสับสนกับคำพูดของตัวเอง
“ว่าตามตรง ตอนแรกฉันก็โกรธนะ แต่พอเห็นว่าเธออาจจะโดนเอาตัวไปน่ะ โซราโอะ ทั้งหมดนั่น… มันก็หายไปหมดเลย แค่คิดว่าอาจจะเสียเธอไปด้วยอีกคน… มันบ้ามากเลย… ฉัน ก… ฉันกลัว”
ตอนที่โทริโกะเริ่มจะตัวสั่น ฉันก็เอื้อมออกไป ยื่นมือขวาให้เธอ
“แล้วของฉันล่ะ? เย็นหรือเปล่า?”
โทริโกะมองเข้ามาที่ตาของฉัน ก่อนจะเหลือบลงไปมองที่มือของฉันต่อ
แล้วเธอก็กุมมือข้างนั้นไว้ด้วยมือทั้ง 2 ข้างของเธอ
“อุ่นนะ”
เธอตอบมาด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะยกมือของฉันไปที่ปากของเธอ
ริมฝีปากของเธอแตะที่ข้อนิ้วชี้ของฉันเบาๆ
“ขอบใจนะ โซราโอะ—รักเธอนะ”
โทริโกะหลับตาลงแล้วกระซิบแบบนั้น ลมหายใจอุ่นๆ จากริมฝีปากของเธอลอดมาตามร่องนิ้วของฉัน วิ่งไปตามหลังมือ
สัมผัสที่วิ่งลงมาตามแขนของฉัน มันรู้สึกหวานสุดๆ ไปเลย
TN: โอ้โห… (,,>__<,,)
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r