cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 670 พลังของเทพเจ้ากู่

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 670 พลังของเทพเจ้ากู่
Prev
Next

บทที่ 670 พลังของเทพเจ้ากู่

“หัวหน้าเผ่าหลงถู ท่านพูดอะไรนะขอรับ”

เก่อเหวินซวนเกือบจะแคะหูดูว่าตนเองมีปัญหาทางการได้ยินหรือไม่

เมื่อเขามาถึงซินเจียงตอนใต้ในฐานะผู้เจรจา อาจารย์ได้ให้ข้อมูลโดยละเอียดกับเขามาฉบับหนึ่ง ประกอบด้วยสถานการณ์ภายในเผ่าพันธุ์กู่ทั้งเจ็ด จุดอ่อนและความชอบของเหล่าผู้นำเผ่าแต่ละเผ่า

ปัญหาใหญ่ที่สุดของลี่กู่คืออาหาร

คนในชนเผ่านี้กินจุ สมาชิกเผ่าแต่ละคนต้องกินอาหารในปริมาณถึงสิบเท่าของผู้ชายโตเต็มวัย หรือมากกว่านั้น

ทรัพยากรอาหารที่ขาดแคลน จำกัดทั้งประชากรเผ่าและการพัฒนาด้านอื่นๆ ในขณะที่เผ่าอื่นๆ อีกหกเผ่าอาศัยอยู่ในบ้านอิฐกันหมดแล้ว เผ่าลี่กู่ยังอาศัยอยู่ในบ้านดินเหลืองมุงจาก

ในขณะที่เผ่าอื่นสร้างถนน เทียมรถม้า ตีชุดเกราะ ทำเครื่องเหล็กกันนั้น เผ่าลี่กู่ยังมัวแต่คิดว่าจะขโมยม้าของคนในเผ่ากลับไปกินที่บ้านได้อย่างไร

เผ่าอื่นๆ สวมชุดผ้าไหม เผ่าลี่กู่ยังนุ่งห่มอาภรณ์ตัดเย็บจากหนังสัตว์ ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้จักวิธีการเลี้ยงหม่อนไหม แต่นั่นเป็นการเสียเวลาเปล่า

ดังนั้น ในสายตาของเก่อเหวินซวน การโจมตีต้าฟ่ง ปกครองผู้คนในภาคกลาง แล้วให้พวกเขาส่งส่วยผลิตอาหารมาป้อนพวกตน เป็นกลยุทธ์ต่างแดนที่ยั่งยืนที่สุดของลี่กู่

เผ่าลี่กู่มีทั้งแรงจูงใจและความต้องการในการเริ่มสงคราม เป็นผลให้แม้แต่ตู๋กู่ที่ไม่สนใจดินแดนที่ราบลุ่มภาคกลางยังตอบรับข้อเสนอ แต่ลี่กู่กลับปฏิเสธงั้นหรือ

มิใช่เพียงเก่อเหวินซวนเท่านั้นที่สับสน แม้แต่ผู้นำเผ่าพันธุ์กู่ทั้งหลายก็ยังประหลาดใจ คิดว่าตนหูฝาดไปหรือไม่

ตู๋กู่เอ่ยพึมพำกับตนเอง

“หลงถู เจ้าเผลอไปกินอาหารในเผ่าของข้าจนหมดหรือไร”

มนุษย์ศพในเสื้อคลุมเงยหน้าขึ้นในที่สุด จ้องมองหลงถูด้วยม่านตาขาวน่ากลัวอย่างสงสัย

“ข้าคิดว่าเขาคงจะหิวจนสับสนไป ใจคอพวกเจ้าเผ่าลี่กู่จะอยู่อาศัยในเขาป๋ออันคับแคบ ปล่อยให้ลูกหลานอยู่ในกระท่อมมุงจากไปตลอดกาลเลยหรือไร”

หัวหน้าเผ่าหญิงสองคนจากเผ่าฉิงกู่และซินกู่ไม่เอ่ยปากว่ากระไร คนหนึ่งแลบลิ้นเลียริมฝีปากแดงระเรื่อของตนด้วยรอยยิ้ม ส่วนอีกคนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

ส่วนหัวหน้าเผ่าอั้นกู่ที่ไม่รู้ว่าซ่อนตัวอยู่ที่ใดก็ไม่ปรากฏตัวและไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ออกมาเช่นกัน

แม่ย่าแห่งเทียนกู่เช็ดมือสองข้างกับผ้ากันเปื้อน และถามคำถามแทนทุกคน

“เป็นอะไรไปเล่า”

หลงถูกล่าว “ลี่น่ากลับมาแล้ว”

ดวงตาของแม่ย่าแห่งเทียนกู่พลันสว่างวาววับขึ้นมาทันที

หลงถูกวาดตามองเหล่าหัวหน้าเผ่าทั้งหลาย “นางพาสหายมาด้วย หนึ่งในนั้นมีนามว่าสวี่ชีอัน”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลงถูก็เห็นชายในชุดขาวสีหน้าเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน

สวี่ชีอัน…เหล่าหัวหน้าเผ่าพันธุ์กู่เมื่อได้ยินชื่อนี้ก็มีปฏิกิริยาต่างกันออกไป

หัวหน้าเผ่าตู๋กู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายว่ากำลังหวาดกลัวเล็กๆ

งูสองตัวเล็กๆ ที่เกี่ยวกระหวัดอยู่ที่ติ่งหูของหัวหน้าเผ่าซินกู่เหยียดตัวตรง ส่งเสียงขู่ฟ่อๆ ใส่แม่ย่าแห่งเทียนกู่

นางสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นเล็กๆ ในใจของแม่ย่าแห่งเทียนกู่ แม้จะหายไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาหัวหน้าเผ่าซินกู่อย่างนางได้

‘จิตร่วม’ และ ‘ควบคุม’ เป็นความสามารถหลักของซินกู่

ดวงตาคู่งามของหลวนอวี้เป็นประกาย ในหัวของนางมีเพียงคำว่า ‘จอมยุทธ์อันดับหนึ่งแห่งต้าฟ่ง!’

หัวหน้าเผ่าซือกู่ ควบคุมมนุษย์ศพให้เอ่ยปากเสียงเย็นยะเยือก

“พวกเจ้าลองสังหารเขาดูสิ”

เก่อเหวินซวนดวงตาสว่างวาบขึ้นมา นี่เป็นโอกาสอันดีในการไล่ล่าสวี่ชีอัน

ต่ำกว่าขั้นหนึ่ง ไม่มีใครต้านทานการล้อมสังหารของยอดฝีมือเผ่าพันธุ์กู่ได้ ขั้นสองยังต้องเก็บกดความเคียดแค้นไว้

หากเขาสามารถชักจูงให้เผ่าพันธุ์กู่ซุ่มโจมตี และสังหารสวี่ชีอันได้ เขาอาจจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในซินเจียงตอนใต้ แบบที่อาจารย์ก็ไม่สามารถทำได้

หลงถูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น กวาดตามองผู้คนรอบข้างอย่างเย็นชา

“เจ็ดเผ่าพันธุ์กู่ไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน พวกเจ้าอยากจะโจมตีต้าฟ่ง เป็นเรื่องของพวกเจ้า”

“เพียงเพราะสวี่ชีอันเป็นสหายกับลูกสาวของเจ้าน่ะหรือ”

หัวหน้าเผ่าอั้นกู่ที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเอ่ยถามด้วยสงสัย เสียงทุ้มต่ำดังก้องไปทั่วบริเวณลานบ้าน

“ไม่ใช่!” หลงถูคลี่ยิ้ม “ข้ารับศิษย์อัจฉริยะคนใหม่เข้ามา นางเป็นน้องสาวของสวี่ชีอัน”

“เพราะลูกศิษย์คนเดียวเนี่ยนะ?” หลวนอวี้เอ่ยถามด้วยเสียงกังวานใสน่าฟัง

คนทั้งกลุ่มจ้องมองหลงถูด้วยสายตาเหมือนจ้องมองคนโง่ คนของลี่กู่ไม่ค่อยฉลาดเฉลียวอยู่แล้ว แต่ไม่น่าจะโง่เง่าถึงขั้นนี้

การรับคนจากที่ราบลุ่มภาคกลางมาเป็นสาวกเดิมทีก็เป็นการกระทำที่ไร้สมองอยู่แล้ว ซ้ำยังผิดกฎข้อห้ามของเผ่าพันธุ์กู่อีกต่างหาก

แต่การละทิ้งแผนการพัฒนาเผ่าพันธุ์ เพื่อลูกศิษย์จากราบลุ่มภาคกลางนั้นเป็นเรื่องที่โง่เง่ายิ่งกว่า

หลงถูกล่าวเรียบๆ

“ในเมื่อพวกเจ้าฉลาดกันนัก เหตุใดไม่ลองไตร่ตรองดูเล่าว่าเหตุใดข้าถึงยอมฝ่าฝืนกฎ รับคนจากที่ราบลุ่มภาคกลางมาเป็นศิษย์ด้วย”

ใบหน้าหยาบกร้านเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน

“การพัฒนาเผ่าพันธุ์และการปลูกฝังผู้สืบทอดที่มีพลังต่อสู้ไร้เทียมทานนั้นสำคัญพอกัน

“หากโจมตีต้าฟ่ง ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหลังจากโค่นล้มราชวงศ์ต้าฟ่งได้แล้ว จะมีผู้บาดเจ็บล้มตายกันมากเพียงใด แล้วศิษย์เอกของท่านโหราจารย์นั่นจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้จริงหรือ แม้ว่าเขาทำได้ หลังจากพ่ายแพ้พวกเราก็ต้องคว้าน้ำเหลว สิ่งเหล่านี้เป็นความเสี่ยงที่เราต้องแบกรับ เช่นเดียวกับการล่าสัตว์ เหยื่อที่ดูเจ้าเล่ห์เกินไป เราไม่ต้องการ

“สู้เอาเวลาที่เสียไปกับการล่ามัน ไปล่าเหยื่อที่ไม่ค่อยฉลาดได้อีกมากโข

“ดังนั้นข้าจึงเลือกวิธีอย่างหลัง นี่เป็นวิธีที่พอจะเห็นผล และยังไม่สุ่มเสี่ยงเกินไป”

หากเผ่าลี่กู่โจมตีต้าฟ่ง สวี่ชีอันย่อมต้องแตกหักกับเผ่าลี่กู่อย่างแน่นอน สวี่หลิงอิน ศิษย์ใหม่ที่รับเข้ามาก็ต้องถูกพรากไปในพริบตา

หลังจากผ่านไปราวๆ สิบวินาที เหล่าหัวหน้าเผ่าก็เริ่มเข้าใจความหมายแฝงที่เข้าสื่อ หลวนอวี้เอ่ยถามด้วยท่าทียากจะเชื่อ

“เจ้าจะบอกว่าลูกศิษย์ที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่คนนั้น ต่อไปจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่จะมาคานอำนาจได้งั้นหรือ”

หลงถูหัวเราะอย่างภูมิอกภูมิใจ

“พรสวรรค์ของนางดีกว่าข้า ดีกว่าลี่น่าเสียด้วยซ้ำ”

ลี่น่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งอยู่แล้ว นี่หมายความว่าในภายภาคหน้า เผ่าลี่กู่จะมีเหนือมนุษย์ถึงสองคน

หากเพิ่มตนเองเข้าไป ก็กลายเป็นสามคน

เมื่อหลงถูคิดถึงอนาคตเช่นนั้น เลือดก็สูบฉีดด้วยความตื่นเต้น

เขาจะฉีกภาพอนาคตที่สวยงามลงกับมือได้อย่างไร

“พวกเจ้าอยากจะโจมตีต้าฟ่งก็เป็นเรื่องของพวกเจ้า จะล้อมสังหารสวี่ชีอันข้าก็จะไม่ห้าม”

หลงถูพูดจบ ก็หันไปพยักหน้าให้กับแม่ย่าแห่งเทียนกู่ ค้อมศีรษะเดินออกไปจากลานบ้านเสีย

ทุกคนเฝ้ามองดูเขาจากไปเงียบๆ

เก่อเหวินซวนส่งเสียงกระแอมไอหนึ่งครั้ง และพยายามเกลี้ยกล่อม

“ท่านหัวหน้าเผ่าทุกท่าน สวี่ชีอันเป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งของต้าฟ่ง ทั้งยังเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการทำลายต้าฟ่งอีกด้วย หากสามารถสังหารเขาที่นี่ได้ การทำลายต้าฟ่งก็เหมือนดั่งตอกตะปูลงบนไม้กระดาน

“หากทำการใหญ่สำเร็จ อนาคตก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมมิใช่หรือ”

คำพูดของเขามีความปลุกเร้าอย่างรุนแรง ไม่มีการปิดบัง

เก่อเหวินซวนเชื่อว่าเหล่าหัวหน้าเผ่าจะตัดสินใจเลือกทางที่ถูกต้อง คำพูดเหล่านี้ใช้ไม่ได้กับกลุ่มที่เป็นกลางหรือเป็นพันธมิตร แต่เผ่าพันธุ์กู่และต้าฟ่งมีเรื่องบาดหมางกันอยู่

ตราบใดที่พวกเขายังชิงชังต้าฟ่ง ตราบใดที่พวกเขาตกลงว่าจะส่งกองกำลังให้ เวลานี้ก็เป็นโอกาสเหมาะที่จะล้อมสังหารสวี่ชีอัน

เขาเชื่อว่าเหล่าหัวหน้าเผ่าต้องเข้าใจเรื่องนี้

ทันทีที่พวกเขาสังหารสวี่ชีอัน พวกเขาก็จะต้องเข้ามาอยู่บนกระดานหมากโดยสมบูรณ์ ต้องลงเรือลำเดียวกับข้าเท่านั้น…เก่อเหวินซวนลอบคิดในใจ

“ท่านหัวหน้าเผ่าซือโหยว ข้าลืมบอกท่านไป สวี่ชีอันผู้นั้นเป็นลูกศิษย์ของเว่ยเยวียน เป็นลูกน้องที่เว่ยเยวียนไว้ใจมากที่สุด”

เก่อเหวินซวนมองไปทางหลวนอวี้ แล้วกล่าวยิ้มๆ

“สวี่ชีอันไม่เพียงแต่เป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่งแห่งต้าฟ่ง แต่ยังได้รับพลังเทพวชิระจากสำนักพุทธ มีสายเลือดพลังเทพวชิระ แม้ว่าจะยังเทียบกับเทพอารักษ์ไม่ได้ แต่ก็ห่างชั้นกันเพียงเล็กน้อย

“หัวหน้าเผ่าหลวนอวี้ ชายผู้นี้ล้ำค่ายิ่งกว่าทหารชั้นยอดนับแสนคนอีกนะขอรับ

“แม่ย่าแห่งเทียนกู่ ในกายของสวี่ชีอันมีชะตาบ้านเมืองที่สามีเก่าของท่านสละชีพเพื่อแลกมาอยู่ ในเมื่อสามีท่านไม่อยู่แล้ว ท่านก็จงชิงมันกลับมาเพื่อสามีของท่านเถิด”

เมื่อเห็นว่าหัวหน้าเผ่าตู๋กู่ไม่ได้สนใจหรือกระตือรือร้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เก่อเหวินซวนก็ใจหายวาบ

“ท่านหัวหน้าเผ่าป๋าจี้ ท่านเคยได้ยินเรื่องเทพดอกไม้กลับชาติมาเกิดหรือไม่”

ชายวัยกลางคนในเสื้อคลุมเย็บด้วยหนังสัตว์ตัวแข็งทื่อทันที พร้อมเบิกตากว้าง

“เทพดอกไม้แห่งราชวงศ์ต้าโจวองค์นั้นน่ะหรือ”

เก่อเหวินซวนกล่าวเสริม

“สวี่ชีอันมีเบาะแสการกลับชาติมาเกิดของเทพดอกไม้องค์นั้นอยู่ หากข้าจำไม่ผิด เทพดอกไม้องค์นั้นน่าจะได้รับการอุปถัมภ์จากเขาอย่างลับๆ อยู่ที่ใดสักแห่ง”

ในวันเดียวกับที่พระมเหสีในอ๋องสยบแดนเหนือขึ้นเหนือ จี๋ลี่จือกู่และจู๋จิ่ว โหรที่เป็นสายให้กับเขาก็ฆ่าพระมเหสี และชิงพลังปราณสะสมของเทพดอกไม้มา

หลังจากวันนั้น พระมเหสีก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่พวกเขารู้ว่าต้องถูกสวี่ชีอันผู้นั้นซ่อนตัวเอาไว้เป็นแน่

ป๋าจี้ หัวหน้าเผ่าตู๋กู่สูดหายใจหนักหน่วง

เทพดอกไม้เป็นเทพในหมู่มวลบุปผา มีอิทธิฤทธิ์ช่วยให้พืชพรรณเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อิทธิฤทธิ์ที่ว่านี้ส่งผลต่อวัชพืชพิษและผลไม้มีพิษด้วย

หากชิงตัวเทพดอกไม้กลับมาได้ และปล่อยให้นางปลูกวัชพืชพิษทุกวัน ชาวเผ่าตู๋กู่จะมีวัชพืชพิษคุณภาพสูงให้กินไม่รู้จักหมดสิ้น

“ข้าจะไปที่เผ่าลี่กู่เดี๋ยวนี้”

มนุษย์ศพในเสื้อคลุมกลับหลังหัน และเดินจากไปเงียบๆ

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ป๋าจี้ก็ลุกเดินตามมนุษย์ศพไป เขารอแทบไม่ไหวแล้ว

“พวกเจ้ารอข้าก่อนสิ”

หลวนอวี้บิดเอวคอดกิ่ว ยกกระโปรงขึ้น แล้วเดินตามไปพร้อมกับรอยยิ้มหวาน

ฉุนเอียนบีบตัวงูที่ใบหูเบาๆ นิ่งเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะลุกเดินตามไปอีกคน

เงาจากแสงดวงอาทิตย์ทอดทับผ่านเงาของฉุนเอียนไปแวบหนึ่ง

แม่ย่าแห่งเทียนกู่จ้องมองเก่อเหวินซวนก่อนจะถอนกายใจ

“ยายเฒ่าคนนี้ก็ขอร่วมสนุกด้วยคนก็แล้วกัน”

เก่อเหวินซวนยิ้มอย่างมั่นใจ เผ่าพันธุ์กู่ทั้งเจ็ดร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว เมื่อเขาโน้มน้าวใจหัวหน้าเผ่าได้สามคนแล้ว เขาก็ไม่สนใจการต่อต้านของผู้อื่น

เผ่าพันธุ์กู่แบ่งปันทุกข์และสุข นี่เป็นจุดที่นำมาใช้ประโยชน์ได้

มีหลายครั้งที่คนกลุ่มน้อยต้องเอนเอียงตามคนกลุ่มมาก อย่าได้เห็นว่าเผ่าพันธุ์กู่ปากหนักเชียว ในยามที่หัวหน้าเผ่าพวกนี้เผชิญความเป็นความตาย เผ่าพันธุ์กู่เผชิญกับวิกฤตภัย เผ่าลี่กู่ก็ลุกขึ้นสู้ด้วย

“สวี่ชีอัน ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะทำลายหมากตานี้อย่างไร!”

เก่อเหวินซวนกดเสียงเอ่ย ในฐานะลูกศิษย์ขสวี่ผิงเฟิง เขาเชี่ยวชาญทั้งการประสานพันธมิตรทั้งน้อมสวามิภักดิ์[1]

“ต่อให้หลงถูไม่ลงมือ แต่ลำพังพลังต่อสู้ของเหล่าหัวเผ่าพันธุ์กู่ทั้งหกเผ่า ก็เพียงพอจะสังหารเขาได้สบายๆ หากทำไม่สำเร็จก็อย่าหวังว่าจะได้วางแผนขั้นต่อไป”

เก่อเหวินซวนพ่นลมหายใจออกมา ลุกขึ้นยืนต้านลม ก่อนจะบินออกไปจากลานบ้าน

…

“พร้อมหรือยัง”

นิ้วมือหยาบกร้านของหัวหน้าใหญ่จางแตะที่หลังคอของสวี่หลิงอิน

“พร้อมอะไร”

สวี่หลิงอินถามด้วยความงุนงง

…หัวหน้าใหญ่จางเงียบไปสักครู่หนึ่ง “จำไว้ว่าจงข่มอารมณ์ อย่าคิดวู่วาม แล้วข้าจะช่วยให้เจ้าคว้าพลังของเทพเจ้ากู่มาเอง”

ผู้อาวุโสห้าคนที่คนเรียงรายอยู่ข้างๆ ต่างเอ่ยตักเตือน

“อย่าเพิ่งคิดถึงของกิน ใจเย็นๆ ปล่อยวางความคิด อย่าฟุ้งซ่าน จดจ่อกับความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย”

สวี่หลิงอินส่งเสียงร้อง ‘โอ้’ หนึ่งคำ ก่อนจะเริ่ม เพราะหิวนางจึงกินบะหมี่โร่วเกิงมาก่อน ตอนนี้ยังอิ่มแปล้อยู่

เมื่อเห็นนางตอบสนองอย่างมีความสุขเช่นนี้ เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างมองหน้ากันอย่างเคร่งขรึม ไม่คลายความระแวง

ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกพวกเขาว่าคนของชนเผ่าลี่กู่ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เพราะมัวแต่กังวลเรื่องอาหารของวันนี้หรือพรุ่งนี้

สิ่งนี้ทำให้พลังของเทพเจ้ากู่ยุ่งเหยิง สร้างความเสียหายต่อร่างกายได้ ด้วยเหตุนี้ชาวเผ่าทั่วไปจึงต้องให้ผู้อาวุโสสะสางพลังของเทพเจ้ากู่อยู่ข้างกาย

“เริ่มกันเถิด!”

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกล่าว

ผู้อาวุโสพยักหน้า นิ้วมือที่แตะต้นคอของสวี่หลิงอินพองตัวและหนาขึ้น

บนผิวหนังอ่อนนุ่มที่ต้นคอของสวี่หลิงอิน มีร่างของหนอนโผล่ออกมา มันคือลี่กู่หลอมรวมเข้ากับกระดูกสันหลังของนาง เป็นลูกหนอนกู่ที่เกิดจากแม่หนอนกู่ของลี่น่า

ลูกกู่ตัวนี้ถูกปลุกขึ้นมาด้วยพลังปราณโลหิตจากผู้อาวุโส มันเขมือบพลังภายนอกอย่างตะกละตะกลาม

เมื่อเห็นดังนั้น ผู้อาวุโสก็ถอนมือออก แต่กู่เจ้าชะตาที่ตื่นขึ้นมาแล้วตัวนี้ยังกัดกินไม่หยุด มันเริ่มเบนเป้าหมายไปกลืนกินพลังของคนรอบข้างแทน

อีกด้านหนึ่ง รูปม่านตาของสวี่ชีอันเปลี่ยนเป็นแนวตั้งสีเขียวเหมือนแมลง

เขาเห็นสิ่งที่เรียกว่าพลังของเทพเจ้ากู่ เป็นหิ่งห้อยสีแดงและสีดำบินวนอยู่รอบๆ บางเบาทว่าสะดุดตา

ที่แท้พลังจากเทพเจ้ากู่ที่เผ่าลี่กู่ดูดกลืน คือปราณโลหิตจากเทพเจ้ากู่นั่นเอง…สวี่ชีอันกระจ่างชัดขึ้นมาทันที

ปราณโลหิตของพลังเทพเจ้ากู่ไม่เหมือนกับของจอมยุทธ์ หากกลืนกินโดยไม่ระวังจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดได้ ไม่แปลกใจเลยที่สัตว์และพืชที่อาศัยอยู่ที่นี่ตลอดทั้งปีถึงได้กลายเป็น ‘กู่’

สวี่ชีอันพยายามที่จะดูดซับ ‘หิ่งห้อย’ สีดำและสีแดงบางส่วนและได้ข้อสรุป

พวกมันไม่สามารถถูกจอมยุทธ์ดูดกลืนและนำไปใช้ได้โดยตรง จำต้องบีบให้มันกัดกินกันเอง จนกลายเป็นสัตว์ประหลาด หรือไม่ก็ต้องกำจัดพวกมันออกไป นอกเสียจากว่าภายในร่างกายจะมีลี่กู่อยู่

ลี่กู่เปรียบเสมือนตัวกรอง ‘สารพิษ’ จากเทพเจ้ากู่

หลังจากยืนยันแล้วว่าปราณโลหิตของเทพเจ้ากู่ไม่สามารถทำอันตรายต่อตัวเขาได้ สวี่ชีอันก็ปลีกตัวออกไปไกล ปลดปล่อยพลังของเจ็ดยอดกู่ที่ถูกผนึกไว้ ปล่อยให้กลืนกินปราณโลหิตของปราณโลหิตเทพเจ้ากู่โดยรอบ

นี่เป็นการหลีกเลี่ยงการแช่งยิงขุมพลังของเสี่ยวโต้วติง

เมื่อเวลาผ่านไป พลังของปราณโลหิตรอบด้านก็ถดถอยลง

“อัจฉริยะ!”

ผู้อาวุโสรู้สึกตะลึง เขาเห็นลี่กู่ที่อยู่บนต้นคอของสวี่หลิงอินกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ราบรื่น ไม่มีสัญญาณของความผิดปกติใดๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ดูแล้วท่าทางจะยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ

แต่พลังที่นางดูดกลืนเข้าไป มีปริมาณเกินกว่าที่ชาวเผ่าลี่กู่ทั่วไปต้องการแล้ว

แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของเด็กคนนี้มีมากกว่าที่พวกเขาคาดคิด

“นางเป็นอัจฉริยะที่ไม่เคยมีบันทึกในประวัติศาสตร์”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวแก้

“นางตั้งจิตให้เป็นอิสระได้อย่างไร”

ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งรู้สึกประหลาดใจ เอ่ยพึมพำกับตัวเองด้วยความสับสน

จิตใจของเด็กๆ นั้นช่างเรียบง่าย ทว่าความคิดนั้นยุ่งเหยิงที่สุด ซับซ้อนเสียยิ่งกว่าผู้ใหญ่ เพราะพวกเด็กๆ ไม่สามารถควบคุมจินตนาการสุดบรรเจิดของตนได้

“ไม่รู้ เช่นนี้ก็หมายความว่าศิษย์ของข้าคนนี้ นางเป็นอัจฉริยะที่ยังไม่เคยถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์น่ะสิ” ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นของตน

“วันข้างหน้าข้าจะให้หลานชายแต่งงานกับนาง” ผู้อาวุโสลั่นวาจาดังสนั่น

ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ทำสีหน้าหวาดระแวงและเป็นปฏิปักษ์ หลังจากสบสายตา พวกเขาก็ถอยห่างจากกัน แววตาแปรเปลี่ยนเป็นความระแวดระวังและพร้อมต่อสู้

ในตอนนี้เอง ผู้อาวุโสท่านหนึ่งก็หันไปมองรอบๆ

“พลังเทพเจ้ากู่รอบๆ เบาบางลงงั้นหรือ”

…………………………………………………….

[1] 合纵连横 ประสานพันธมิตรน้อมสวามิภักดิ์ เป็นกลยุทธ์การทำศึกในสมัยยุครณรัฐ (战国 425-221 B.C.) คือการรวมตัวของรัฐที่อ่อนแอเพื่อป้องกันการรุนรานและผนวกเข้ากับรัฐที่แข็งแกร่งกว่า ในขณะเดียวกันก็น้อมสวามิภักดิ์กับรัฐที่แข็งแกร่งเพื่อให้อีกฝ่ายสนับสนุนการโจมตีรัฐอื่นๆ และขยายดินแดนต่อไป

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 670 พลังของเทพเจ้ากู่"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF