cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 668 พรสวรรค์โดดเด่น

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 668 พรสวรรค์โดดเด่น
Prev
Next

บทที่ 668 พรสวรรค์โดดเด่น

เทพวชิระขั้นสาม!

เมื่อเห็นสวี่ชีอันแสดงพลังเทพวชิระระดับบรรลุสมบูรณ์ออกมา ชนเผ่าลี่กู่ก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พากันก้าวถอยหลัง เสียงฝีเท้าฟังดูทุลักทุเลยิ่ง

“เทพวชิระของสำนักพุทธรึ?”

“นี่มันสภาวะเหนือมนุษย์…”

“กลับบ้านไปเอาอาวุธมาฆ่ามัน!”

ชนเผ่าชาวลี่กู่เอาแต่ร้องตะโกน แววตาหวาดระแวงไร้ซึ่งความไว้วางใจ

ในยุทธการด่านซานไห่ สำนักพุทธกับราชวงศ์ต้าฟ่งเป็นพันธมิตรกัน ทั้งยังมียอดฝีมือเผ่าพันธุ์กู่มากมายตายไปภายใต้น้ำมือของภิกษุสำนักพุทธ

“เทพวชิระองค์ใหม่ของสำนักพุทธรึ?”

ผู้อาวุโสใหญ่อิงไม้เท้าทำสีหน้าจริงจัง

เขาไม่ได้สนใจโลกภายนอกมาหลายปีแล้ว เขาจดจำเทพวชิระที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้

“ข้ามาจากที่ราบลุ่มภาคกลาง ข้ามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักพุทธ ข้าเพียงได้เรียนรู้พลังเทพวชิระเข้าโดยบังเอิญ”

เมื่อคำนึงถึงว่าเผ่าพันธุ์กู่ไม่เคยใช้อินเทอร์เน็ต มันก็ยากที่จะอธิบาย ครู่ต่อมาสวี่ชีอันจึงกระซิบว่า

“สำหรับร่างเทพวชิระนี้ ข้าได้สังหารเทพวชิระไปสององค์ แล้วกลืนเลือดของเทพวชิระองค์หนึ่งเข้าไป”

เขาบังเอิญโชคดีได้เรียนรู้พลังเทพวชิระมาและสังหารเทพวชิระไปสององค์เชียวรึ? หัวหน้าใหญ่จางหันไปมองหลงถูที่อยู่ข้างๆ

“เจ้าก็ทำได้ด้วยรึ?”

หลงถูยิ้ม “ไม่มีปัญหาหรอก จับได้เท่าไหร่ก็สู้เท่านั้น หนึ่งต่อสอง ส่วนมากก็ชนะ”

หัวหน้าเผ่ารูปร่างสูงใหญ่กำยำมองคนแปลกหน้าแวบเดียว ก็เห็นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันฮึกเหิมในดวงตา

ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า “เด็กคนนี้พยายามจะทำให้เราเชื่อ เอาจริงด้วย…อะไรทำให้เขากล้าขนาดนี้”

เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่หลงถูซึ่งอยู่ในจุดสูงสุดขั้นสามจะสังหารเทพวชิระได้ถึงสององค์ นอกจากนี้ ตามกฎแห่งกรรมของสำนักพุทธ หากเด็กคนนี้สังหารเทพวชิระไปสององค์จริงๆ ก็ต้องมีพระอรหันต์หรือพระโพธิสัตว์มาโปรดเขาแล้ว

ผู้อาวุโสซ้ายเอ่ยวาจาเคร่งขรึม “ผู้อาวุโสใหญ่ นี่คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา”

ผู้อาวุโสขวาเอ่ยวาจาแก้ไข “ไม่ถูกต้อง เป็นโฉมภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ภายในจิตใจขี้ขลาดตาขาว แข็งนอกอ่อนในต่างหาก”

ผู้อาวุโสใหญ่เคาะไม้เท้า ขัดจังหวะการโต้เถียงของทั้งสองคนแล้วกวักมือตะโกนเรียก “ลี่น่า มานี่ที”

ลี่น่าขยับขายาวๆ ของนางเข้ามาใกล้และพูดจาปากเสีย

“เรียกทำไม ตาแก่ตัวเหม็น”

ผู้อาวุโสใหญ่ถามเป็นภาษาชายแดนตอนใต้

“เด็กคนนี้มีภูมิหลังอย่างไร? ราชวงศ์ต้าฟ่งมียอดฝีมือเหนือมนุษย์เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

ผู้อาวุโสซ้ายพูดเสริมว่า “ในสำนักพุทธไม่มีเทพวชิระ”

“นี่คือสวี่ชีอัน ฆ้องเงินสวี่ชีอัน ท่านไม่รู้จักเขารึ?”

ลี่น่าก็เหมือนเด็กผู้หญิงที่เพิ่งกลับจากเมืองใหญ่ บางคนก็ดูถูกคนแก่ในหมู่บ้านที่ไม่รู้เรื่องโลกภายนอก “กองคาราวานจากที่ราบลุ่มภาคกลางไม่ได้บอกข่าวอะไรเลยรึ?”

เผ่าพันธุ์กู่ทางชายแดนตอนใต้อยู่ในสภาพกึ่งปิด ชนเผ่านี้ไม่ค่อยออกไปไหนและไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปในดินแดน

มีเพียงกองคาราวานจากที่ราบลุ่มภาคกลางส่วนน้อยเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาค้าขายได้

ส่วนใหญ่แล้วแหล่งข่าวเกี่ยวกับโลกภายนอกของเผ่าพันธุ์กู่จะมาจากกองคาราวานเหล่านั้นและมีเพียงคนในชนเผ่าส่วนน้อยเท่านั้นที่เข้ามาสอบถามโดยไม่ได้สนใจว่าจะเป็นข่าวสารเรื่องอะไร

หลงถูพูดจาเคร่งขรึม

“ราชวงศ์ต้าฟ่งกำลังยุ่งเหยิง นานมากแล้วที่ไม่มีกองคาราวานมาถึงฝั่งเรา”

พวกเขารับรู้ถึงเหตุการณ์สำคัญ เช่น ความวุ่นวายในที่ราบลุ่มภาคกลางและการลุกฮือของกลุ่มกบฏ

“ตอนนี้…สวี่หนิงเยี่ยน ไม่สิ สวี่ชีอันเป็นทหารอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าฟ่งและเป็นที่รักของปวงชนจริงๆ”

ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้ว “ทหารอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าฟ่งไม่ใช่อ๋องสยบแดนเหนือรึ?”

ลี่น่ามองเขาเหมือนคนโง่ “ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเรื่องในอดีต ในช่วงปีที่ผ่านมา มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในราชวงศ์ต้าฟ่ง!”

หลงถูผู้เป็นบิดาขมวดคิ้วพลันถามว่า “เขาสังหารเทพวชิระไปสององค์จริงรึ?”

ลี่น่าพยักหน้า “ใช่ มันเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว”

จากนั้นนางก็เล่าเรื่องที่สวี่ชีอันทำให้ฟังสั้นๆ เช่น การสังหารอ๋องสยบแดนเหนือกับจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ซ่ง…และเมื่อเร็วๆ นี้ เขายังตัดหัวอาซูหลัว บุตรชายคนสุดท้องของราชันอสูรในภูเขาสือว่านด้วย

เมื่อนางพูดจบ เหล่าผู้อาวุโสก็เงียบไปและไม่พูดอะไรอีกนาน

หลงถูขมวดคิ้ว จ้องมองสวี่ชีอันทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายเจิดจ้าและหัวใจของเขาก็เต้นเร็วรี่

ลี่น่ารู้ว่านั่นหมายถึงเลือดในกายบิดานางกำลังเดือดพล่าน แต่ด้วยความหวาดหวั่นและหวาดกลัว นางจึงเลือกที่จะสะกดอารมณ์ตัวเองไว้

ตั้งแต่เล็กจนโตนางยังไม่เคยเห็นใครทำให้บิดาของนางต้องสะกดอารมณ์ขนาดนี้

เหล่าผู้อาวุโสพึมพำเพื่อหารืออีกครั้ง จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็กระแอมไอและมองไปยังสวี่ชีอัน

“ในเมื่อเจ้าเป็นยอดฝีมือในสภาวะเหนือมนุษย์ เราก็ไม่อยากรบกวนเจ้า พาน้องสาวเจ้าไปซะ”

คำพูดเช่นนี้ตรงใจเกินไป ชนเผ่าชาวลี่กู่ไม่ว่าคนไหนต่างพากันพยักหน้า ไม่มีใครรู้สึกว่าคำพูดของผู้อาวุโสใหญ่หยาบคายและไม่ไว้หน้า

ในเผ่าลี่กู่ คู่ต่อสู้หรือสหายที่ทรงพลังจะได้รับความเคารพอย่างสูง

สวี่ชีอันพูดว่า “น้องสาวข้าอยากกราบลี่น่าเป็นครูของนาง ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะให้การสนับสนุน”

ถ้ามันเกี่ยวกับอนาคตของสวี่หลิงอิน เขาก็ต้องสู้เพื่อให้ได้มันมา

เจ็ดยอดกู่ในร่างกายนางมีลักษณะแตกต่างจากไสยศาสตร์กู่ประเภทอื่นๆ เจ้าสิ่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทพกู่ เพียงแค่ให้อาหารที่ต้องการก็สามารถงอกงามได้เอง

ยกเว้นเรื่องพลังและวิชาลับของเทพกู่

ดังนั้นสวี่ชีอันจึงไม่สามารถสอนเสี่ยวโต้วติงให้ฝึกฝนพลังลี่กู่ได้ นอกจากนี้ แม่ย่าแห่งเทียนกู่ก็ยังอยู่ในเผ่าเทียนกู่ ไม่ต้องพูดถึงทัศนคติที่หญิงชราผู้นี้มีต่อเขา

เมื่อพิจารณาจากมุมมองของเผ่าพันธุ์กู่เจ็ดเผ่าหลักแล้ว สวี่ชีอันเกรงว่าแม่ย่าแห่งเทียนกู่อาจไม่สามารถชี้นิ้วสั่งการเผ่าลี่กู่ในเรื่องนี้ได้

ที่ข้าเป็นอยู่ตอนนี้ก็เหมือนพ่อแม่ในชาติก่อนที่คร่ำครวญอยากให้ลูกได้เข้าโรงเรียนดีๆ…เขาแอบบ่นในใจ

ถ้าโอภาปราศรัยไปแล้วไร้ประโยชน์ เขาก็พร้อมที่จะใช้กำปั้นเพื่อกำราบเผ่าลี่กู่ให้ยอมจำนน

ลี่น่าพูดซ้ำ

“หลิงอินเป็นอัจฉริยะ อัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนในหนังสือประวัติศาสตร์ ข้าทำเช่นนี้เพื่อประโยชน์ของเผ่าลี่กู่ของเรา เพื่อดึงดูดอัจฉริยะเข้ามา”

“เผ่าพันธุ์กู่ของเราไม่มีหนังสือประวัติศาสตร์”

แม่นาง ‘อาซี’ ผู้ได้รับคำชมว่าฉลาดจากผู้อาวุโสใหญ่พูดขึ้น

ลี่น่าสำลัก ตอนที่นางอยู่ในเมืองหลวง นางมักได้ยินสวี่ฉือจิ้วเอ่ยวาจาเช่นนี้ “นับตั้งแต่พันปีที่แล้ว พิจารณาจากพงศาวดารประวัติศาสตร์แล้ว ไม่มีสมัยโบราณหรือสมัยใหม่ ย่อมแสดงว่าท่านอ่านหนังสือประวัติศาสตร์หมดแล้ว…”

หลังจากได้ยินคำพูดพวกนี้บ่อยๆ ลี่น่าก็รู้สึกว่าตราบใดที่ไม่มีอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ ก็หมายความว่าเป็นพวกที่มีพลังพิเศษ

ผู้หญิงคนนี้ฉลาดมาก…สวี่ชีอันชำเลืองมองหญิงสาวผิวคล้ำร่างกายบอบบาง

ผู้อาวุโสใหญ่พูดจาแช่มช้า

“เผ่าพันธุ์กู่ของเราไม่มีปัญหาการขาดแคลนอัจฉริยะ แต่ละรุ่นจะมีอัจฉริยะถือกำเนิดขึ้นหลายคน พ่อเจ้าและเจ้าก็เช่นกัน ดังนั้นถ้าผู้หญิงคนนี้ที่มาจากที่ราบลุ่มภาคกลางเป็นอัจฉริยะแล้วจะเป็นเช่นไร”

“หรือจะเป็นไปได้ว่าเผ่าพันธุ์กู่ของเราจะอดอยากปากแห้งอย่างยิ่ง? เจ้าจึงเสนอนางขึ้น? เสนอมาแล้วก็คิดว่าเราจะรีบรับนางเป็นศิษย์งั้นหรือ?”

สำนวนโวหารของผู้อาวุโสใหญ่ทำให้ลี่น่าพูดไม่ออก

หลงถูมองไปที่ลูกสาวของเขาแล้วถามว่า

“มื้อหนึ่งกินข้าวได้กี่ชาม”

ลี่น่าตอบว่า

“มื้อเดียวกินได้สิบชาม ถ้าไม่มีผักก็กินได้สิบห้าชาม”

ชนเผ่าชาวลี่กู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วผู้อาวุโสใหญ่ก็จ้องมองสวี่หลิงอินด้วยความประหลาดใจ

ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วย

“กินได้สิบชามเหรอ ลูกข้าอายุเท่านี้แต่กินได้ห้าชามเอง”

“สิบห้าชามเรอะ ลูกชายเจ้าปกติกินข้าวห้าชาม ส่วนของคนอื่นกินข้าวเปล่าสิบห้าชาม”

“ดูเหมือนว่าจะมีคุณสมบัติที่ดีจริงๆ”

ชาวเผ่าพันธุ์ลี่กู่พูดคุยกันใหญ่ พวกเขาทำหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

สวี่ชีอันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย สไตล์ของคนเผ่านี้ทั้งเผ่าทำให้เขาทำตัวผสมกลมกลืนได้ยากและมีปัญหาในการปรับตัว

เขารู้สึกอยู่เสมอว่ากับคนกลุ่มนี้ ช่องว่างระหว่างวัยและความห่างเหินนั้นลึกเกินไป

ผู้อาวุโสใหญ่กระแอม ยุติการสนทนารอบๆ ตัว เหยียดกล้ามเนื้อหน้าอกอันน่าภาคภูมิใจของเขา และพูดว่า

“จะว่าดีมันก็ดีจริงๆ แต่ในเผ่าพันธุ์ของเรามีเด็กหลายคนที่กินได้เหมือนนาง”

เขาพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

สวี่ชีอันก็ไม่คิดว่ามันแปลก แม้ว่าหลิงอินจะอยากอาหารมาก แต่ก็ต้องมีเด็กที่มีความอยากอาหารแบบเดียวกันในเผ่าลี่กู่ หากตัดสินพรสวรรค์จากความอยากอาหารแล้ว เผ่าพันธุ์กู่ก็ย่อมต้องมีเด็กที่มีพรสวรรค์ในระดับเดียวกันแน่

เด็กอย่างหลิงอินนั้นไม่ได้มีอยู่คนเดียว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เผ่าพันธุ์กู่จะฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ในเผ่าเพื่อนาง

แม่นางที่ชื่อ ‘อาซี’ มองไปยังสวี่หลิงอินแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับกำลังคิดอะไรอยู่

“ผู้อาวุโสใหญ่…”

แม่นางอาซีร้องตะโกนและเมื่อทุกคนหันไปมอง นางก็ลังเลและพูดว่า

“แต่ในเผ่ามีการปลูกฝังกู่เจ้าชะตาให้เด็กๆ มาตั้งแต่ยังเล็ก”

ผู้อาวุโสใหญ่พูดด้วยอาการไม่พอใจ

“เจ้าอยากจะบอกอะไร มีใครบ้างที่ไม่ได้หลอมรวมกับกู่เจ้าชะตาตั้งแต่ตอนเด็ก…”

ทันใดนั้นเขาก็ตกตะลึงแล้วบิดคอแข็งทื่อหันไปมองสวี่หลิงอิน

“ลี่…ลี่น่าขึ้นเหนือไปที่ราบลุ่มภาคกลางตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ผู้อาวุโสใหญ่ถามหลงถูข้างหลังเขาด้วยน้ำเสียงระมัดระวังระคนสงสัย

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ คนในเผ่าพันธุ์ลี่กู่ที่อยู่รายรอบ ตลอดจนผู้อาวุโสคนอื่นๆ รวมทั้งหลงถูก็เบิกตากว้างทันทีเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่าง

เด็กคนนี้ไม่ได้มาจากเผ่าพันธุ์ลี่กู่…

หลงถูเค้นคำพูดทีละคำ “ฤดูร้อนปีนี้!”

ถูกต้อง หลิงอินเพิ่งหลอมรวมพลังลี่กู่มาได้ไม่นานนี้เอง เต็มที่ก็ไม่เกินสามถึงสี่เดือนเท่านั้น เทียบเท่ากับว่าใช้เวลาสามถึงสี่เดือนตั้งแต่ไม่มีรากฐานจนมาถึงจุดสูงสุดขั้นเก้า…สวี่ชีอันคิดตามอย่างมีความสุข

ตอนนี้เอง มู่หนานจือก็พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“คนกลุ่มนี้แปลกจริงๆ เลย อยู่กับพวกเขานานๆ แล้วรู้สึกเหมือนไม่ได้ใช้สมองเลย”

สวี่ชีอันตัวแข็งทื่อทันที ความสงสัยผุดขึ้นในใจ

ทำไมตอนนี้ข้าใช้ความอยากอาหารเพื่อวัดพรสวรรค์? ทำไมข้าไม่ทันคิดว่าหลิงอินเพิ่งจะหลอมรวมพลังลี่กู่ได้เพียงสามหรือสี่เดือนเท่านั้น?

“อัจฉริยะ อัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาก่อนในหนังสือประวัติศาสตร์…”

ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะจับไม้เท้าไม่อยู่และรีบวิ่งไปหาสวี่หลิงอินอย่างรวดเร็ว แล้วจ้องมองตรวจสอบนางราวกับกำลังตรวจสอบสมบัติล้ำค่า

“ข้าจำได้ว่าตอนที่หลงถูยังเป็นเด็ก เขาอายุเพียงเก้าขวบตอนที่เขาอยู่ในจุดสูงสุดขั้นเก้า เขากินอาหารมากมายไปในเวลาเก้าปี แต่ยังเทียบกับที่สตรีนางนี้ฝึกฝนมาเป็นเวลาสามหรือสี่เดือนไม่ได้” ผู้อาวุโสใหญ่พูดเสียงดัง

หลงถูดูละอายใจยิ่ง

จะนับอย่างนี้ไม่ได้ จะนับรวมถึงเวลาของทารกกับเด็กเล็กในนั้นไม่ได้…สวี่ชีอันหวนกลับไปใช้ไหวพริบตัวเองแล้วแอบบ่นอยู่เงียบๆ

ผู้อาวุโสใหญ่ยังใช้มือทั้งสองข้างบีบไหล่ แขนและต้นขาของสวี่หลิงอินไม่หยุดแล้วจู่ๆ ก็ตะโกนว่า

“กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง นี่คือร่างกายที่เกิดมาเพื่อพลังลี่กู่”

ผู้อาวุโสที่เหลืออีกห้าคนรวมทั้งหลงถูก้าวไปข้างหน้า หมอบลง สัมผัสตามร่างกายของสวี่หลิงอินให้รู้สึกถึงกระดูกและบีบเส้นเอ็น สีหน้าของพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป จากประหลาดใจเป็นตกใจ จากตกใจก็เป็นปีติยินดี

ผู้อาวุโสใหญ่มองไปทางสวี่ชีอันแล้วถามด้วยความตื่นเต้น “นางกินเก่งเป็นพิเศษตั้งแต่ยังเด็กใช่หรือไม่?”

อาหารมื้อละสามชาม ไม่ใช่จาน…สวี่ชีอันพูดว่า “อืม” โดยไม่แสดงท่าทีอื่นใด

“เจ้าหิวบ่อยใช่หรือไม่?” ผู้อาวุโสอีกคนเอ่ยถาม

“อืม”

“เจ้าอยากกินทุกอย่างที่เจ้าเห็นใช่หรือไม่?” หลงถูยังพูดแทรก

ไป๋จีในอ้อมแขนมู่หนานจือหดตัวลงโดยไม่รู้ตัว

นางอยากกินผีด้วยซ้ำ…สวี่ชีอันยังคงพยักหน้า

เหล่าผู้อาวุโสที่ได้รับคำตอบยืนยันพลันตื่นเต้นอีกครั้ง

“ไม่เลวจริงๆ อัจฉริยะที่ดีจะต้องผ่านความเป็นผู้ใหญ่ขั้นแรกให้ได้ภายในสามหรือสี่เดือน”

ลี่น่าหยิกเอวนางอย่างภาคภูมิใจ “ใช่ไหม ใช่ไหม เขาว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะ”

ชาวเผ่าลี่กู่มองเสี่ยวโต้วติงด้วยความประหลาดใจ

สวี่ชีอันตีเหล็กในขณะที่ยังร้อน “ถ้าอย่างนั้น น้องสาวข้ากราบลี่น่าเป็นครูก็จะได้เรียนวิชาลับของลี่กู่น่ะสิ?”

ผู้อาวุโสอารมณ์เย็นลงเรื่อยๆ พวกเขามองดูเสี่ยวโต้วติงอย่างลึกซึ้งแล้วมองหน้ากัน ผู้อาวุโสใหญ่เริ่มพูดก่อน เขาส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เหมาะสม!”

“มันไม่ถูกต้อง” ผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินตามมาและส่ายหัว

“ไม่เหมาะสมจริงๆ ที่จะให้ลี่น่าเป็นครู” ผู้อาวุโสอีกคนส่ายหัว

“สมควรต้องกราบไหว้เราเป็นอาจารย์”

“ใช่ ใช่”

ลี่น่าตกตะลึง กระโดดขึ้นและพูดว่า “นี่ลูกศิษย์ข้า”

ผู้อาวุโสใหญ่ชำเลืองมองนาง “เราคือผู้อาวุโส เราได้ให้คำตอบสุดท้ายแล้ว”

ลี่น่าบีบเอวของเธอ จ้องไปที่ผู้อาวุโสด้วยความโกรธและร้องตะโกน

“ท่านพ่อ ช่วยข้าตัดสินที”

“กราบไหว้ผู้อาวุโสเหล่านั้นเป็นครูเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง”

หลงถูส่ายหัวและพูดกับลี่น่าลูกสาวของเขา

“ท่านพ่อ…” ลี่น่าอ้อนเสียงหวานน้ำเสียงกระเง้ากระงอดเล็กน้อย

“แค่รับข้าเป็นครูของเจ้า”

หลงถูไม่ได้เข้าข้างลูกสาวตัวเอง

สวี่ชีอันหันไปมองลี่น่าที่อยู่ด้านข้าง ใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขของนางแข็งค้างเล็กน้อย ราวกับภาพวาดหรือรูปปั้น

…

เผ่าเทียนกู่

ในบ้านที่มีลานเฉลียง แม่ย่าแห่งเทียนกู่ในชุดผ้าสีน้ำเงินนั่งอยู่บนแท่นไม้เล็กๆ หยิบตัวอ่อนที่เพิ่งขุดขึ้นมาจากพื้นดินซึ่งดูเหมือนดักแด้จักจั่นขึ้นมา

ตัวขาวและอวบอ้วน ตามตัวมีวงแหวนปกคลุมด้วยไขมัน

นี่คือตัวอ่อนของกู่ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘หนอนไหมเนื้อ’ เมื่อหนอนไหมเนื้อโตเต็มวัยจะมีสีเข้มและมีพิษร้ายแรงสามารถฆ่าทหารขั้นเก้าได้อย่างง่ายดาย

แต่เมื่อมันยังอยู่ในระยะตัวอ่อน จะมีเพียงไขมันและพลังงาน ตัวอ่อนของหนอนไหมห้าตัวเทียบเท่ากับอาหารของคนธรรมดาหนึ่งมื้อ ไม่ว่าจะนำไปทอดหรือประกอบอาหารก็มีรสชาติดีมาก

ใต้ชานบ้านมีคนห้าคน เรียงรายจากซ้ายไปขวา

สวมเสื้อคลุม สวมผ้าคลุมหัว ซากศพเน่าเปื่อย

โฉมงามสะคราญตาสวมชุดคลุมสีสันสดใสถือแมงป่องไว้ในฝ่ามือ ตุ้มหูเป็นงูสองตัว สีแดงเรียวเล็กอ้าปากงับหางตัวเองเกิดเป็นวงแหวน

บุรุษวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าทำจากหนังสัตว์นั่งอยู่บนพื้นดิน หยิบยาพิษทุกชนิดออกจากถุงผ้าตัวเองโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดได้แต่กัดกินมันอย่างเอร็ดอร่อย

สตรีน่าเสน่หาผู้นี้สวมกางเกงชั้นในสีขาวใส่เสื้อเกาะอกสวมกระโปรงผ้าโปร่ง ขาเรียวกระชับ หน้าท้องแบนราบ เห็นสายเสื้อในชัดเจน หน้าอกอวบอิ่มสูงใหญ่กอปรกันเป็นเรือนร่างมีเสน่ห์น่าหลงใหล

ม่านตาสีฟ้าอ่อนเป็นประกาย ดูสดใสเปล่งประกาย

คนสุดท้ายเป็นชายหนุ่มรูปงาม สุภาพเรียบร้อย นุ่งขาวห่มขาว อ่อนช้อย สง่างามดุจบัณฑิต ไร้ซึ่งความแข็งแกร่งดุจชายชาตรี

“เหตุใดหลงถูยังไม่มา?”

ชายในชุดคลุมถามเสียงแหบห้าว น้ำเสียงของเขาร้อนรนอย่างยิ่ง

“ส่งจดหมายถึงเขาแล้ว”

แม่ย่าแห่งเทียนกู่หยิบตัวอ่อนหนอนไหมออกมาด้วยตัวเองและอธิบายประโยคหนึ่งอย่างไม่เร่งรีบ

ชายในชุดขาวพูดไปยิ้มไป “ผู้วางแผนการใหญ่ อย่าได้รีบร้อน”

สตรีทรงเสน่ห์ในชุดกระโปรงผ้าโปร่งหัวเราะคิกคักพลางพูดว่า

“พูดได้ดี ผู้วางแผนการใหญ่จะไม่ตระหนี่ในการตอบสนองตัณหาทาส นายพลเก่อ คืนนี้ข้าจะรอท่านอยู่ที่เผ่าฉิงกู่”

ใบหน้าของชายชุดขาวแข็งค้างไปเล็กน้อย แต่เขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและพูดกลั้วรอยยิ้ม

“เมื่องานใหญ่เสร็จสิ้น ท่านนายพลจะส่งชายฉกรรจ์ผู้แข็งแกร่งหนึ่งแสนนายไปหาหัวหน้าเผ่าหลวนอวี้ ปัญหาคืออะไร?”

เขามองไปทางทิศตะวันออกและดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “หัวหน้าเผ่าหลงถูอยู่ที่นี่”

………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 668 พรสวรรค์โดดเด่น"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF