cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 663 ระหว่างทาง

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 663 ระหว่างทาง
Prev
Next

บทที่ 663 ระหว่างทาง

ไกลออกไปจากเขตแดนภูเขาสือว่าน เริ่มมีที่ราบและทะเลสาบมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบเป็นทิวทัศน์ที่มีความอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสีสัน

ใน ‘บันทึกภูมิศาสตร์จิ่วโจว’ ซินเจียงตอนใต้สามารถแบ่งออกเป็นสองภูมิภาคกว้างๆ ได้แก่ ‘ภูเขาสือว่าน’ และ ‘จี๋เยวียน’ ซึ่งทั้งสองชื่อนี้แสดงถึงสองกองกำลังใหญ่ที่มีความโดดเด่นในซินเจียงตอนใต้

นั่นคืออาณาจักรหมื่นปีศาจและเผ่าพันธุ์กู่

“ทำไมใน ‘บันทึกภูมิศาสตร์จิ่วโจว’ ไม่มีการเขียนถึงอาหารรสเลิศของซินเจียงตอนใต้เลยเล่า?”

มู่หนานจือนั่งขัดสมาธิอยู่บนโขดหินริมลำธาร ถือสมุดปกสีน้ำเงินพลางอ่านอย่างตั้งใจ

เหมียวโหย่วฟางและผู้พิทักษ์หงอิงรับผิดชอบในการดูแลเรื่องอาหาร โดยมีไป๋จีกำลังนอนรอกินอยู่ข้างๆ

“เช่นนั้นเจ้าคงต้องถามปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์แล้ว”

สวี่ชีอันนั่งลงข้างนางพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “บางทีปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์อาจจะไม่ชอบกินกระมัง”

‘บันทึกภูมิศาสตร์จิ่วโจว’ เป็นหนังสือที่เขียนโดยปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมาจากประสบการณ์การเดินทางไปทั่วจิ่วโจวในระยะเวลาสามปีของเขา มันเป็นบันทึกลักษณะของภูเขาและแม่น้ำ การกระจายตัวของลำน้ำและประเพณีพื้นบ้านที่ค่อนข้างเรียบง่าย

ส่วนบันทึกภูมิศาสตร์ต้าฟ่งในเวลาต่อมานั้น ถูกเขียนขึ้นโดยคนลัทธิขงจื๊อรุ่นหลังที่เลียนแบบมาจากปราชญ์ขงจื๊อศักดิ์สิทธิ์

มู่หนานจือเชื่อด้วยใจจริงและกล่าวว่า “แต่ลักษณะภูเขาแม่น้ำและชนเผ่าที่กระจายอยู่ทุกหนทุกแห่งต่างก็ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด”

นางมองอย่างครุ่นคิด ทันใดนั้นมุมปากก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย “นี่มันพวกป่าเถื่อนประเภทไหนกันนะ?”

ในซินเจียงตอนใต้มีชนเผ่าจำนวนนับไม่ถ้วน ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันคน กระจายไปทั่วซินเจียงตอนใต้ราวกับดาวที่อยู่บนท้องฟ้า

ประเพณีของพวกเขาแปลกมาก ในมุมมองของมู่หนานจือ พวกเขาเป็นเพียงคนป่าเถื่อนที่ไร้อารยธรรม

สวี่ชีอันหยิบ ‘บันทึกภูมิศาสตร์จิ่วโจว’ มาอ่านอย่างใจจดใจจ่อ ในนั้นเขียนว่ามีชนเผ่าหนึ่ง ตั้งอยู่ห่างจากทางซินเจียงตอนใต้ไปทางตะวันตกสามร้อยยี่สิบลี้ เรียกว่า ‘เทพเจ้าสุนัข’ ชนเผ่านั้นมีประเพณีว่า เมื่อชายหญิงเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ จะต้องแต่งงานกับสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า ‘เจี้ยวเฉวี่ยน’ และกลายเป็นคู่ชีวิตกัน

ตั้งแต่นั้นก็จะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ออกล่าด้วยกัน และพึ่งพาอาศัยกัน

สวี่ชีอันอ่านอีกครั้งและค้นพบว่าสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า ‘เจี้ยวเฉวี่ยน’ มีลักษณะพิเศษคืออยู่กันเป็นฝูง เข้าใจอารมณ์และความคิดของผู้คนผ่านการแสดงออกและการเคลื่อนไหวเท่านั้น อีกทั้งยังมีนิสัยดุร้ายและก้าวร้าวอีกด้วย

พวกมันอาศัยอยู่พื้นที่โดยรอบของเผ่า ‘เทพเจ้าสุนัข’

“นี่เป็นเรื่องปกติมาก”

สวี่ชีอันลุกขึ้นยืน มือหนึ่งถือม้วนสมุด มือหนึ่งแนบไว้ที่ด้านหลัง วางมาดราวกับเป็นท่านอาจารย์สอนเกร็ดความรู้ทั่วไปให้กับมู่หนานจือ “การกำเนิดของประเพณีและวัฒนธรรมใดๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ อาจกล่าวได้ว่า สิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนดวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น การทำไร่ในที่ราบลุ่มกลางของพวกเราและการเลี้ยงสัตว์ของเผ่าปีศาจในแดนเหนือ ก็ถูกกำหนดโดยสภาพแวดล้อม”

มู่หนานจือฟังด้วยความรู้ที่มีอย่างงูๆ ปลาๆ พลางขมวดคิ้วกล่าวราวกับเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ “เช่นนั้น เช่นนั้นการแต่งงานของพวกเขาและเจี้ยวเฉวี่ยนก็เกิดจากสิ่งแวดล้อมด้วยรึ?”

“ในหนังสือกล่าวว่าสัตว์ประหลาดอย่าง ‘เจี้ยวเฉวี่ยน’ มีความก้าวร้าวโดยธรรมชาติ ทั้งยังเข้าใจอารมณ์และความคิดของผู้คนผ่านการแสดงออกและการเคลื่อนไหวเท่านั้น พวกมันย่อมเป็นพันธมิตรกันอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้าคงเข้าใจไปว่าเป็นการอยู่ร่วมกันอย่างคู่ครองกระมัง”

“เช่นนั้นพวกเขาสืบพันธุ์อย่างไร?”

มู่หนานจือกระพริบตาช้าๆ แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาราวกับไม่รู้เรื่องอะไร

หัวข้อนี้ทำให้บรรยากาศมีสีสันขึ้นโดยไม่รู้ตัว…สวี่ชีอันหัวเราะเฮอะๆ และกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากรู้อยากเห็นเรื่องนี้ที่สุด”

มู่หนานจือถูกมองออกในพริบตา นางอุทาน ‘เชอะ’ และไม่เสแสร้งอีกต่อไป

“ข้าคิดว่านี่เหมือนเป็นการฝึกให้ความเคารพมากกว่า เจี้ยวเฉวี่ยนก้าวร้าวและตัดสินผู้คนผ่านการแสดงออกและการเคลื่อนไหว มีสติปัญญาหลักแหลม ซึ่งจะนำไปเทียบกับสุนัขทั่วไปไม่ได้ ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีทางเชื่องได้ แต่หลังจากใกล้ชิดกับที่ราบลุ่มกลางของพวกเรา เผ่าเทพเจ้าสุนัขก็พบว่า ‘การแต่งงาน’ เป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่พอสมควร ดังนั้นจึงเลียนแบบพิธีเช่นนี้เพื่อแสดงความเคารพต่อเจี้ยวเฉวี่ยน และเจี้ยวเฉวี่ยนก็ยอมรับพิธีนี้เช่นกัน” สวี่ชีอันแสดงการตัดสินชี้ขาดของตนเอง การแต่งงานที่นี่อาจแตกต่างจากงานแต่งงานที่ชาวที่ราบลุ่มกลางเข้าใจ

“เช่นนั้นเจ้าเปิดไปอีกสามหน้าสิ” มู่หนานจือกล่าว

สวี่ชีอันพลิกกระดาษไปอีกสามหน้าตามที่นางบอก บนหน้านั้นมีบันทึกของเผ่า ‘ผาน’ เมื่อหนุ่มสาวแต่งงานกัน หัวหน้าเผ่ามีอำนาจในการช่วงชิงหญิงสาวที่เพิ่งแต่งงานในคืนแรกไป

“คงไม่ถูกกำหนดโดยสภาพแวดล้อมเสมอไปกระมัง” นางเท้าสะเอว

มู่หนานจือส่ายศีรษะ

“สิงโตตัวผู้หนึ่งตัวจะปกครองสิงโตตัวเมียหนึ่งฝูง เมื่อสิงโตตัวผู้ครองฝูงครั้งแรก มันจะกัดลูกสิงโตรุ่นก่อนตายทั้งหมด สำหรับคืนแรกนี้ อันที่จริงก็มีเหตุผลไม่ต่างกัน” สวี่ชีอันอธิบายเหตุผลอย่างชอบธรรม

“เจ้าคิดดูสิ ถ้ามีหนึ่งในเจ้าสาวเหล่านั้นให้กำเนิดบุตรของหัวหน้าเผ่า เช่นนั้นสายเลือดของเขาก็จะถูกสืบทอดต่อไป สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม แต่เกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตในการสืบพันธุ์และแพร่ขยายเผ่าพันธุ์”

คำพูดของเขาไม่ใช่คำพูดไร้สาระ เดิมทีประเพณีของสิ่งมีชีวิตล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและสัญชาตญาณ มิเช่นนั้นจะมีคำพูดที่ว่า ลักษณะพิเศษของสภาพแวดล้อมและผู้คนที่ต่างกันย่อมก่อเกิดและหล่อเลี้ยงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ต่างกันจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างไร

ในคำพูดที่เรียบง่ายนั้นประกอบด้วยความจริงที่เป็นแก่นแท้ของวิวัฒนาการทางชีววิทยา

มู่หนานจือครุ่นคิดครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ยอมรับอย่างไม่เต็มใจนักและกล่าวอีกว่า “เจ้าเปิดย้อนกลับไปอีกแปดหน้าสิ”

สวี่ชีอันพลิกย้อนกลับไปอีกแปดหน้า เผ่าที่บันทึกอยู่บนหน้านั้นมีประเพณีที่ลูกชายต้องท้าทายบิดาของตนเมื่ออายุครบสิบแปดปี ถ้าแพ้จะต้องถูกไล่ออกจากบ้าน ถ้าชนะก็จะได้สืบทอดทุกอย่างของบิดา รวมทั้งน้องชายและน้องสาวของตนเองด้วย

ข้าไม่มีอะไรให้พูดแล้ว ข้าไม่เคยติดต่อหรือใกล้ชิดกับเผ่าเหล่านี้เลย แล้วข้าจะรู้ที่มาที่ไปและประเพณีของพวกเขาได้อย่างไร…สวี่ชีอันบ่นอย่างบ้าคลั่งในใจ

“ช้าก่อน ทำไมเผ่าที่เจ้าจำได้ถึงมีแต่เผ่าที่แปลกประหลาดเช่นนี้เล่า?”

สวี่ชีอันมองนางด้วยความสงสัย

มู่หนานจือรู้สึกราวกับตนเองถูกขัดขาในขณะที่กำลังได้เปรียบ ริมฝีปากบางพึมพำครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปอย่างร้อนตัวและแสร้งมองทิวทัศน์ที่อื่น “ก็ ก็เพราะว่าแปลกไง ข้าเลยจำได้ขึ้นใจเลย…”

ไม่ เจ้าทำให้ข้านึกถึงประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาในชาติก่อน ‘เทพธิดาก็ชอบดูหนังรักโรแมนติกเช่นกัน’…สวี่ชีอันโยน ‘บันทึกภูมิศาสตร์จิ่วโจว’ ไปด้านข้าง ก่อนจะหยิบชิ้นส่วนหนังสือปฐพีออกมา

หมายเลขสาม ‘ลี่น่า เจ้ากับหลิงอินยังอยู่บนเรือใช่หรือไม่? แล้วจะถึงชิงโจวเมื่อใด’

เขาขี่ผู้พิทักษ์หงอิงไม่ถึงห้าวันก็สามารถไปถึงเผ่าพันธุ์กู่ได้ เมื่อพิจารณาว่าเผ่ากู่ก็เป็นชาวหมานอี๋เช่นกัน ย่อมไม่ต้อนรับแขกความจริงใจแน่นอน การพาคนในพื้นที่ไปด้วยจะช่วยลดความขัดแย้งได้

หมายเลขห้า ‘ข้าอยู่ที่อวี่โจว เมื่อวานก็อยู่ที่อวี่โจวแล้ว’

ลี่น่าตอบกลับ

เร็วเช่นนั้นเลยรึ? สวี่ชีอันตกตะลึง

หมายเลขสาม ‘ใครเป็นคนพาเจ้าไปที่อวี่โจว’

การลำเลียงทางน้ำไม่มีทางรวดเร็วเช่นนี้ ลี่น่ายังเป็นกองกำลังเผ่ากู่ที่บุ่มบ่ามยิ่งกว่าจอมยุทธ์ เป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมกระบี่บิน

หมายเลขห้า ‘พวกเราพบท่านอาจารย์ของศิษย์พี่เอ้อร์หลางบนเรือก็เลยตามพวกเขาไปที่ชิงโจวด้วยกัน วันมะรืนก่อน ศิษย์พี่เอ้อร์หลางขับไล่ข้าและหลิงอินออกจากชิงโจว’

เจ้าทั้งสองขโมยของเขากินใช่หรือไม่…สวี่ชีอันส่งข้อความโต้ตอบว่า ‘เจ้ารู้ทางรึ?’

หมายเลขห้า ‘สวี่หนิงเยี่ยน เจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว เอ้อร์หลางเคยกำชับสูตรว่า ขึ้นเหนือลงใต้ไปทางซ้ายของตะวันตก ทางขวาของตะวันออกแล้วพุ่งไปทางใต้’

ยอดเยี่ยม ช่างคล้องจองกันจริงๆ! สวี่ชีอันเห็นหลี่เมี่ยวเจินกระโดดออกมาส่งข้อความ หมายเลขสอง ‘หลงทางก็ถามคนที่สัญจรผ่านไปมา ทางใต้ของอวี่โจวก็คือซินเจียงตอนใต้ ตอนเจ้าขึ้นทางเหนือมาที่เมืองหลวงต้องผ่านอวี่โจวก่อน คงไม่ลืมกระมัง’

หมายเลขห้า ‘น่าจะไม่นะ’

ลี่น่ากล่าว

สมาชิกพรรคฟ้าดินซักถามข้อสงสัยครู่หนึ่ง

หมายเลขสาม ‘เจ้าใช้เวลาเดินทางจากอวี่โจวไปซินเจียงตอนใต้นานเท่าใด?’

หมายเลขห้า ‘หากไม่หลงทาง ไม่ถูกคนหลอก แบกหลิงอินวิ่งไปก็คงใช้เวลาประมาณเจ็ดวันเจ็ดคืนก็น่าจะถึง’

‘ฟู่’…สวี่ชีอันพ่นลมหายใจออกมาอย่างหใดหนทางและส่งข้อความไปอีกว่า ‘อย่าสนใจคนแปลกหน้า มีปัญหาให้ติดต่อข้าได้ทุกเมื่อ แล้วหลิงอินเป็นอย่างไรบ้าง?’

หมายเลขห้า ‘กินได้ ดื่มได้ หลับได้ ไม่มีปัญหาอะไร’

อืม ก่อนหน้านี้นักบวชเต๋าจินเหลียนเคยบอกว่าชีวิตของหลิงอินลำบากมาก…สวี่ชีอันกำลังจะเก็บชิ้นส่วนหนังสือปฐพี จู่ๆ ก็เห็นหลี่หลิงซู่ส่งข้อความมาว่า ‘ทุกคน จะควบคุมและสั่งการกองกำลังสามร้อยคนได้อย่างไร?’

ทันทีที่สวี่ชีอันเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องขึ้น เขาส่งข้อความไปถามว่า ‘เจ้าทำอะไรลงไป’

หมายเลขเจ็ด ‘ข้าไม่ได้ทำอะไร ก็แค่ห้ามพวกเขาปล้นคนจน ห้ามพวกเขาข่มขืนผู้หญิง ห้ามปล้นขบวนพ่อค้า ห้ามปรามไม่ให้ทำเรื่องชั่วร้ายทั้งปวง ข้ายังห้ามพวกเขาออกจากหมู่บ้าน แต่ยังแจกจ่ายข้าวสารให้พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ’

หลังจากที่หลี่หลิงซู่รวบรวมผู้ลี้ภัยแล้วก็ตั้งรกรากอยู่ในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง

หมายเลขเจ็ด ‘ตอนแรกพวกเขาก็ยังดีอยู่ แต่ภายในไม่กี่วันก็คิดจะฆ่าข้าแล้ว’

หมายเลขสอง ‘เจ้าโง่ เจ้ากำลังกักขังพวกเขา ปกติแล้วเจ้าจัดการคนพวกนี้อย่างไร’

หมายเลขเจ็ด ‘ไม่ได้จัดการ…’

หมายเลขสอง ‘เจ้าโง่ เจ้าต้องฝึกฝนพวกเขา ไม่ได้จัดการอีกทั้งยังกักขังอิสรภาพของพวกเขา ไม่ลอบสังหารเจ้าแล้วจะลอบสังหารใคร ช่างเถอะ เจ้าค่อยส่งข้อความส่วนตัวมาหาข้าภายหลัง ข้าจะสอนวิธีปกครองกองกำลังให้เจ้าเอง’

มังกรหนุ่มแห่งนิกายสวรรค์กล่าวจบแล้ว ฉู่หยวนเจิ่นก็กล่าวว่า ‘ทางด้านนี้ข้ารวบรวมผู้ลี้ภัยได้หนึ่งพันคน การฝึกฝนก็บรรลุผลขั้นต้นแล้ว ในอีกไม่กี่วัน ข้าวางแผนจะพาพวกเขาไปเข้าร่วมสงครามที่ชิงโจว ยังมีอีกเรื่อง ตามที่กลุ่มผู้ลี้ภัยที่หลบหนีจากเจียงโจวซึ่งอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของข้ารายงาน ทางด้านนั้นก็มีชาวยุทธจักรที่กำลังรวบรวมผู้ลี้ภัย ปล้นพ่อค้าและคหบดีในชนบท’

หมายเลขสอง ‘บุตรของจักรพรรดิไม่ยอมรับคำแนะนำของสวี่หนิงเยี่ยนหรอกรึ เป็นเรื่องบังเอิญงั้นรึ?’

หมายเลขสี่ ‘ฝ่าบาท ท่านคิดว่าอย่างไร?’

ฉู่หยวนเจิ่นเผชิญหน้ากับฮว๋ายชิ่งโดยตรง

หมายเลขหนึ่ง ‘ข้าส่งคนไปทำเอง’

ฮว๋ายชิ่งยอมรับอย่างใจกว้าง

หมายเลขหนึ่ง ‘กลยุทธ์ของหนิงเยี่ยนได้ผลดีมาก ข้าแต่งตั้งคนสนิทที่ไว้ใจได้จำนวนยี่สิบคนไปรวบรวมผู้ลี้ภัยและปล้นสะดมคหบดีที่ร่ำรวยในชนบท ทุกวันราชสำนักได้รับสาส์นของกลุ่มโจรที่อาละวาดและก่อความวุ่นวาย แต่ตามรายงานลับที่ข้าได้รับ สถานที่ต่างๆ กลับมีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น’

ความมั่นคงและปลอดภัยนี้เทียบได้กับก่อนหน้านี้เท่านั้น ด้วยกำลังคนที่นางส่งไปและความเพียรพยายามของสมาชิกพรรคฟ้าดิน เป็นไปไม่ได้ที่จะปราบปรามผู้ลี้ภัยในที่ราบลุ่มกลางทั้งหมด

แต่ต้องพูดว่า กลยุทธ์ของสวี่หนิงเยี่ยนนั้นเห็นผลในทันที

ปล้นสะดมพ่อค้าและคหบดีผู้ร่ำรวยในชนบทมาสนับสนุนผู้ลี้ภัย ปล้นครัวเรือนหนึ่งมาเลี้ยงดูหนึ่งร้อยครัวเรือน ท้องที่ก็จะมีความเสถียรภาพอย่างรวดเร็ว

ราคาที่ต้องจ่ายคือ การทำเช่นนี้จะสั่นสะเทือนชนชั้นปกครองของเขตแดน

หากหัวหน้ากลุ่มโจรเป็นพวกหยาบคายและบ้าบิ่น เช่นนั้นอำนาจการปกครองของราชสำนักแห่งต้าฟ่งก็จะตกอยู่ในอันตราย

แต่เมื่อหัวหน้าโจรเป็นคนของตนเอง ก็มีเพียงพวกตระกูลผู้ดีในชนบท ชนชั้นปกครองระดับกลางและระดับล่างเท่านั้นที่ต้องเสียสละ

ฮว๋ายชิ่งส่งข้อความต่อไปว่า ‘ฉู่หยวนเจิ่น หากทีมของเจ้ามีวินัยเพียบพร้อมในขั้นแรก เช่นนั้นก็ตุนเสบียงอาหารและหญ้าเพื่อเตรียมตัวมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเถอะ พวกเจ้าก็เหมือนกัน โดยเฉพาะหลี่เมี่ยวเจิน ข้ารู้ว่าการนำทัพเข้าสู้รบเป็นจุดแข็งของเจ้า ตอนนี้ไปทางทิศตะวันตกจะดีที่สุด แล้วรวบรวมผู้ลี้ภัยระหว่างทางเพื่อจัดตั้งกองกำลัง’

หมายเลขสอง ‘ทำไม ทำไมต้องฟังเจ้าด้วยเล่า’

จอมยุทธ์หญิงนกนางแอ่นเหินเถียงขึ้นมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

ฉู่หยวนเจิ่นส่งข้อความว่า ‘ข้าเข้าใจความหมายของฝ่าบาท ตอนนี้สงครามในชิงโจวกำลังลุกเป็นไฟ สำนักพุทธที่สนับสนุนฝ่ายต่อต้านในอวิ๋นโจวจะไม่มีการเคลื่อนไหวได้อย่างไร? ไม่ช้าก็เร็วต้องส่งกองกำลังทหารไปเล่ยโจว’

ฮว๋ายชิ่งกล่าวต่อไปว่า ‘ถึงเวลานั้น ราชสำนักจะทำสงครามทั้งสองด้านควบคู่ไปกับศึกภายใน ทำได้เพียงถูกบังคับให้ตรึงแนวรบ ทหารพันธมิตรของอวิ๋นโจวและสำนักพุทธจะผลักดันแนวรบตลอดทั้งทางจนถึงเมืองหลวง’

หลี่เมี่ยวเจินตกตะลึงจนร่างแข็งทื่อในฉับพลัน

ความสามารถในการนำทัพของนางแข็งแกร่งมาก แต่สถานการณ์โดยรวมแย่เล็กน้อย นางคิดมาโดยตลอดว่าชิงโจวมีความสำคัญสูงสุดในสงคราม โดยไม่ได้สนใจสำนักพุทธแม้แต่น้อย

หมายเลขหก ‘ถึงเวลานั้น ไม่รู้ว่าจะมีผู้บริสุทธิ์กี่คนที่ต้องตายในเปลวเพลิงแห่งสงคราม’

ไต้ซือเหิงหย่วนส่งข้อความอย่างหมดหนทาง

สวี่ชีอันส่งข้อความว่า ‘สำนักพุทธคงไม่ส่งกองทัพขนาดใหญ่ไปทางตะวันออก อย่างมากก็เป็นแค่การรังควานเล็กๆ น้อยๆ’

หมายเลขหนึ่ง ‘เหตุใดเจ้าถึงคิดเช่นนั้น?’

ฮว๋ายชิ่งส่งข้อความไปถามด้วยความสงสัย

หมายเลขสาม ‘ข้าทำเรื่องที่ไม่มีค่าพอให้กล่าวถึงที่ซินเจียงตอนใต้ นั่นก็คือต่อสู้กับพระอรหันต์อาซูหลัวขั้นสอง ปลดผนึกเสินซูและบรรลุในการเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรหมื่นปีศาจ ไม่กี่วันมานี้ อาณาจักรหมื่นปีศาจจู่โจมกองกำลังสำนักพุทธในภูเขาสือว่านเพื่อกอบกู้ดินแดนเก่า พวกเจ้ารอฟังข่าวเถอะ’

เกิดความเงียบขึ้นในพรรคฟ้าดินชั่วครู่ บรรยากาศเงียบสนิทจนแปลกประหลาดเล็กน้อย

หมายเลขเจ็ด ‘เจ้าต่อสู้กับพระอรหันต์ขั้นสองและยังปลดผนึกเสินซูอะไรนั่นสำเร็จด้วยรึ?’

นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีค่าพอให้กล่าวถึงงั้นรึ? จิตใจของหลี่หลิงซู่แทบทรุด เจ้าเด็กน้อยสวี่ชีอันถูกปิดผนึกอยู่ไม่ใช่รึ เขาเติบโตขึ้นจนกระทั่งรับมือกับระอรหันต์ขั้นสองตั้งแต่เมื่อใด?

ที่เจี้ยนโจวครั้งล่าสุด เขายังเกือบตายด้วยน้ำมือของเจ้าแห่งวัสสานขั้นสองอยู่เลย เมื่อเทียบกับขั้นสอง ความแข็งแกร่งของเขายังตามหลังอยู่มาก

หมายเลขหนึ่ง ‘เรื่องนี้เป็นความจริงรึ? เจ้าเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรหมื่นปีศาจจริงรึ? อาณาจักรหมื่นปีศาจต้องการเปิดสงครามกับสำนักพุทธเพื่อกอบกู้ดินแดนเก่าใช่หรือไม่?’

ฮว๋ายชิ่งถามคำถามสามคำถามติดต่อกัน สำหรับองค์หญิงองค์โตที่หยิ่งยโสและเย็นชา นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าสภาพอารมณ์ของนางแปรปรวนเพียงใด

อีตาสวี่หนิงเยี่ยนไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ…หลี่เมี่ยวเจินทอดถอนใจ

หมายเลขสี่ ‘ยอดเยี่ยม เช่นนั้นข้าก็สามารถลงใต้ไปสนับสนุนชิงโจวได้อย่างวางใจ ตอนนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการใช้อาณาจักรหมื่นปีศาจตรึงสำนักพุทธเอาไว้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดวิธีการนี้ได้ แต่คนที่สามารถเชื่อมต่อกับอาณาจักรหมื่นปีศาจได้ มีเพียงเจ้าเท่านั้นสวี่หนิงเยี่ยน’

หมายเลขหก ‘อมิตตาพุทธ ครั้งนี้ใต้เท้าสวี่ได้ช่วยชีวิตไว้นับไม่ถ้วน’

หลังจากสิ้นสุดการสนทนากลุ่ม สวี่ชีอันก็เก็บชิ้นส่วนหนังสือปฐพีลงไป ก่อนจะพบว่ามู่หนานจือได้ถอดรองเท้าลายปักออกแล้ว เท้าขาวเรียวคู่สวยแช่อยู่ในลำธารและตีเท้าจนน้ำกระเซ็นเป็นฝอยอย่างมีความสุข

เท้าคู่เล็กๆ ของนางใหญ่กว่าฝ่ามือของสวี่ชีอันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ผิวเท้าของนางทั้งบอบบางและเนียนละเอียดไร้ซึ่งจุดด่างดำ นิ้วเท้าขนาดสมส่วน ปลายเท้ากลม ฝ่าเท้าสีชมพู นี่ไม่ใช่ฝ่าเท้า หากแต่เป็นงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบที่สุดในมือของปรมาจารย์สักคน

เสน่ห์ของเทพดอกไม้อยู่ที่ความสมบูรณ์แบบของนาง ทั้งนิสัยใจคอ รูปร่างหน้าตา ทุกอย่างล้วนเป็นเลิศ…จะว่าไปแล้ว นี่น่าจะถึงเวลาที่ราชครูควรมาบำเพ็ญคู่กับข้าแล้ว ทำไมยังไม่ติดต่อข้ามาอีก…แย่แล้ว บางทีสัญญาณอาจจะขาดหาย นางเลยหาข้าไม่พบ…สวี่ชีอันตอบสนองด้วยความตกตะลึงอย่างยิ่ง

…

เมืองหลวง สำนักโหราจารย์

ลั่วอวี้เหิงควบคุมแสงสีทองลงจอดที่แท่นแปดทิศ

ท่านโหราจารย์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะและหลับตาราวกับรูปปั้นประติมากรรม

ลั่วอวี้เหิงกวาดสายตามองอย่างใจจดใจจ่อและพบว่านี่เป็นเพียงร่างกายที่เป็นเปลือกนอก ส่วนจิตเดิมนั้นไม่อยู่นานแล้ว

นางเดินลงบันไดไปข้างล่าง หลังจากหลับตาลงครู่หนึ่งก็ตรงไปที่ห้องโอสถชั้นที่เจ็ด

ห้องโอสถขนาดใหญ่เต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักของกลุ่มโหรชุดขาวที่กำลังวุ่นวาย ปากก็บ่นต่อว่าไม่หยุด

“สงครามอีกแล้ว สมควรตายจริงๆ!”

“ใช่ ใช่ ต้องเริ่มกลั่นอาวุธเวทมนตร์อีกแล้ว อาวุธเวทมนตร์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีจิตวิญญาณ นี่เป็นการดูถูกโหรเล่นแร่แปรธาตุอย่างพวกเราชัดๆ”

“มีเพียงความรู้อันเร้นลับอย่างวิชาเล่นแร่แปรธาตุสิ่งมีชีวิตเท่านั้น ถึงจะเป็นการแสวงหาของคนรุ่นข้า”

“ศิษย์พี่ซ่ง ท่านพาพวกเราออกไปจากสำนักโหราจารย์แล้วตั้งสำนักเองเถอะ พวกเรามาก่อตั้งนิกายนักเล่นแร่แปรธาตุด้วยกันดีกว่า”

ซ่งชิงกล่าวตำหนิว่า “เจ้าอยากถูกท่านโหราจารย์โยนลงไปในเตาเหมือนฟืนงั้นรึ?”

เขาหยุดชะงักชั่วครู่และกล่าวว่า “เว้นแต่ข้าจะมาแทนที่ท่านโหราจารย์ในอนาคต”

ลั่วอวี้เหิงเข้าไปในห้องโอสถพร้อมกับน้ำเสียงไพเราะน่าฟัง “ไม่มีใครอยู่ในสำนักโหราจารย์หรอกรึ?”

ซ่งชิงเห็นลั่วอวี้เหิงก็ตกตะลึงจนร่างแข็งทื่อและนึกสงสัยในใจว่าเจ้าเป็นใคร ปรากฏตัวที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด

ลั่วอวี้เหิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ลั่วอวี้เหิง”

“อ๋อ ท่านราชครู…” ซ่งชิงนึกขึ้นได้โดยพลัน

เมื่อเห็นชายที่มีใต้ตาดำคล้ำที่เบื้องหน้า ลั่วอวี้เหิงเกือบจะสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ ในหมู่ลูกศิษย์ของท่านโหราจารย์มีใครไม่รู้จักนางด้วยรึ?

นางกลับรู้จักซ่งชิงและเคยเห็นภาพเหมือนของเขา

“สวี่ชีอันล่ะ? หยกกระแสจิตของข้าหาเขาไม่พบ” ลั่วอวี้เหิงขมวดคิ้วกล่าว

“คุณชายสวี่ไม่ได้มาที่สำนักโหราจารย์นานแล้ว ตั้งแต่เข้าไปในยุทธภพ ข้าก็แทบไม่ได้พบเขาเลย”

ซ่งชิงกวาดสายตามองใบหน้าสวยของลั่วอวี้เหิงเพียงครั้งหนึ่งก็คิดว่าไม่มีอะไรน่าดึงดูดเท่ากับการทดลองในมือของตนเอง เขาไม่ได้สนใจอีกและก้มหน้าปรับแต่งอุปกรณ์ต่อไปพลางกล่าวว่า “ข้าก็ไม่มีวิธีติดต่อเขา แต่ศิษย์พี่ซุนมีหอยสังข์กระแสจิตอยู่ในมือซึ่งเป็นคู่กับหอยสังข์ในมือของคุณชายสวี่ หาศิษย์พี่ซุนพบ ก็จะได้พบคุณชายสวี่ อืม ตอนนี้ศิษย์พี่ซุนน่าจะอยู่ที่ชิงโจว”

กล่าวจบแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นไปมองและพบว่าราชครูหายไปแล้ว

“ศิษย์พี่ซุน นั่นคือท่านราชครูนะ”

ใบหน้าของนักเล่นแร่แปรธาตุท่านหนึ่งที่อยู่ข้างเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ช่างงดงามจนล่มเมืองได้จริงๆ”

ซ่งชิงกล่าวด้วยความโกรธ “อย่าได้คิดเลย ผู้หญิงเช่นนั้นไม่ใช่คนที่เจ้าจะเฝ้าคะนึงหาได้”

นักเล่นแร่แปรธาตุกล่าวด้วยความไม่พอใจ “ศิษย์พี่ซ่งคงกำลังสงสัยว่าข้าอุทิศตนให้กับวิชาเล่นแร่แปรธาตุจริงหรือไม่ ข้าสาบานนานแล้วว่าชีวิตนี้จะอุทิศให้แก่วิชาเล่นแร่แปรธาตุและไม่แต่งงานตลอดชีวิต สิ่งที่ข้าอยากจะพูดคือ พวกเรามากลั่นร่างผู้หญิงให้คุณชายสวี่กันเถอะ อ้างอิงแบบอย่างจากท่านราชครูเลย”

ทันทีที่กล่าวประโยคนี้ นักเล่นแร่แปรธาตุที่อยู่รอบๆ ต่างก็คล้อยตามกัน

“เป็นความคิดที่ดีมาก ด้วยนิสัยหื่นกามของคุณชายสวี่ เขาจะต้องปลาบปลื้มใจและกอดนางทั้งคืนจนลุกออกจากเตียงไม่ขึ้นเป็นแน่”

“เยี่ยมเลย เช่นนี้คุณชายสวี่ก็สามารถมอบสมุดปกสีน้ำเงินที่เหลืออีกครึ่งเล่มให้ข้าได้แล้ว”

“แต่เช่นนี้จะทำให้ท่านราชครูโกรธหรือไม่?”

“กลัวอะไรเล่า มีท่านโหราจารย์แบกภาระแทนพวกเราอยู่แล้ว”

……………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 663 ระหว่างทาง"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF