cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 653 ชิ้นส่วนที่เหลือของเสินซู

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 653 ชิ้นส่วนที่เหลือของเสินซู
Prev
Next

บทที่ 653 ชิ้นส่วนที่เหลือของเสินซู

หลังจากส่งข้อความไป ผ่านไปนานก็ยังไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด

“ราชครู ข้าสวี่ชีอันไง ตอนนี้ชีวิตข้ากำลังเจอช่วงวิกฤตที่ซินเจียงตอนใต้ จึงต้องการความช่วยเหลือจากท่านโดยด่วน”

สวี่ชีอันแสร้งว่ากำลังเจอสถานการณ์เลวร้าย เพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจ

ทว่ายันต์คุ้มกายาในมือเขาก็ยังคงนิ่งเงียบ ไม่มีสิ่งใดแตกต่างไปจากเดิม ราวกับลั่วอวี้เหิงได้ขาดการติดต่อไป

ไม่สิ ในสถานการณ์เช่นนี้ สำหรับลั่วอวี้เหิงแล้ว น่าจะเป็นฝ่ายข้าที่อยู่ซินเจียงตอนใต้ขาดการติดต่อไปสิ…สวี่ชีอันพูดกับตัวเอง

“ราชครู ข้าคือสวี่หลางของท่านเองไง”

ลั่วอวี้เหิงก็ยังคงไม่ตอบกลับ

ดูท่าจะติดต่อหานางไม่ได้จริงๆ ด้วย! ท้ายที่สุดสวี่ชีอันก็แน่ใจแล้วว่าตนเองกับท่านน้าได้ขาดการติดต่อกันแล้ว

“ประการแรก อาจเป็นเพราะระยะทางระหว่างข้าและราชครูนั้น ห่างไกลเกินกว่าที่ยันต์คุ้มกายาจะส่งข้อความหาถึงได้ ซึ่งก็อธิบายทั่วไปได้ว่าไม่มีสัญญาณนั่นเอง!”

พูดกันตรงๆ ยันต์คุ้มกายาก็เป็นเพียงวิชาส่งกระแสจิตของสำนักพุทธอย่างหนึ่งเท่านั้น หากให้เทียบกับอาวุธเวทมนตร์ของสำนักโหราจารย์ที่ใช้ส่งกระแสจิตโดยเฉพาะก็ย่อมห่างชั้นกันมากอยู่

“ประการต่อมา ลั่วอวี้เหิงอาจยังอยู่ในช่วงเก็บตัว เพราะชะตากรรมของนางใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว และการสะสมพลังเพื่อรับมือกับชะตากรรมก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากว่ากำลังเก็บตัวอยู่จริงๆ เช่นนั้นก็เป็นเรื่องปกติที่ข้าจะติดต่อหานางไม่ได้ มีเพียงแต่ต้องรอให้ไฟแห่งกรรมของนางใกล้ถึงขีดสุดก่อน นางถึงจะออกมาหาข้าด้วยตัวเองได้”

เมื่อคิดถึงจุดนี้ สวี่ชีอันก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากเรื่องชะตากรรมส่งผลต่อความเป็นความตายของลั่วอวี้เหิง นางจึงต้องรับมืออย่างสุดความสามารถ เวลานี้เลยไม่สมควรที่จะใช้นางเป็นเครื่องมือ

“ประการสุดท้าย หลังจากสังคมรู้เรื่องน่าอับอายของลั่วอวี้เหิงจึงยังอยู่ในช่วงยากลำบากที่จะเจอหน้าใคร เลยไม่อยากจะตอบกลับ”

แต่เรื่องนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะด้วยนิสัยและกลอุบายของท่านน้าแล้ว เรื่องน่าอับอายเพียงแค่นี้ย่อมทนรับได้อยู่แล้ว

หากหลี่หลิงซู่ยังหน้าหนาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เรื่องน่าอับอายของท่านน้าก็เป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว…ถึงกระนั้นเขาก็ยังคิดอย่างไม่สบายใจอยู่เล็กน้อย

ตอนนั้นเองเย่จีที่คลุมร่างด้วยผ้าบางๆ ก็เข้ามาสวมกอดสวี่ชีอันจากด้านหลัง พร้อมวางคางไว้บนไหล่ของเขา และเอ่ยเสียงหวานว่า “สวี่หลาง ถือยันต์ไว้ทำอันใดหรือ?”

ติดต่อกับพี่สาวของเจ้าไงเล่า…จากนั้นสวี่ชีอันก็ตอบว่า “ข้าอยากจะเชิญราชครูให้มาช่วยจัดการเรื่องอาซูหลัว แต่เหมือนว่านางจะเก็บตัวอยู่น่ะ หรือไม่ก็ ระยะทางระหว่างซินเจียงตอนใต้กับเมืองหลวงมันไกลเกินไป จึงส่งข้อความไปไม่ถึง”

เย่จีจึงขมวดคิ้วถามว่า “เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี”

สวี่ชีอันแปลกใจเล็กน้อยที่นางไม่ได้ถามตนว่าเหตุใดถึงมีความสามารถที่จะเชิญลั่วอวี้เหิงได้ แต่ไม่นานก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือฝูเซียงที่มีจิตใจดีเข้าอกเข้าใจคนอื่น

นางไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของสวี่ชีอันกับผู้หญิงคนอื่น และไม่เคยซักถามถึงความลับของเขาเลย

“วางใจเถิด ข้ายังมีคนอื่นที่คัดเลือกมาแล้วอีกหนึ่งคน”

จากนั้นสวี่ชีอันก็กวักมือไปทางฉากกั้นลม แล้วเศษชิ้นส่วนหนังสือปฐพีก็ลอยเหาะออกจากกระเป๋าเสื้อมาอยู่กลางฝ่ามือทันใด

เขานำยันต์คุ้มกายาเก็บกลับเข้าไปในเศษชิ้นส่วนหนังสือปฐพี แล้วเอาหอยสังข์กระแสจิตออกมา

ท่านโหราจารย์เคยพูดไว้ว่า หอยสังข์นี้สามารถติดต่อซุนเสวียนจีได้ทั่วทุกแห่งหนในจิ่วโจว ซึ่งเป็นอาวุธเวทมนตร์ส่งกระแสจิตที่แสนล้ำค่ายิ่งของสำนักโหราจารย์

ขณะเดียวกันที่สวี่ชีอันกำลังถือหอยสังข์นั้น เขาก็ใคร่ครวญลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็นำหอยสังข์เก็บกลับไป แล้วหันหลังไปกดตัวฝูเซียงนั่งลงขอบอ่างน้ำ โดยให้นางค้ำยันขอบอ่าง ก่อนจะยกสะโพกของนางขึ้น

“พวกเรามาแนบชิดอิงกายกันอีกรอบสักหน่อยเถิด พอเสร็จแล้วข้าจะตามหาเขา”

สวี่ชีอันที่เคยถูกศิษย์พี่ซุนสร้างบาดแผลทางจิตใจมาแล้ว จึงไม่ได้ส่งข้อความทั้งหมดไป แม้ทางด้านนี้กำลังอาบน้ำอยู่ รุ่นพี่เสวียนย่อมปรากฏตัวออกมาแน่

จากนั้นเขาก็หยิกบริเวณเอวน้อยๆ ของฝูเซียง…

ซึ่งสภาพร่างในตอนนี้ประหนึ่งดั่งบุปผางามบอบบางเจอฝนครั้งแรก กอปรกับนางกำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บสาหัส ร่างกายจึงยังอ่อนแออยู่เล็กน้อย แต่ด้วยความที่สวี่ชีอันไม่ได้นอนกับนางมานาน จึงกระทำอย่างรุนแรงหนักหน่วง

“ศิษย์พี่ซุน ข้าอยู่ที่ภูเขาสือว่านในเขตชายแดนซินเจียงตอนใต้…” เขากล่าวอย่างเรียบง่ายเพียงรอบเดียว

“ได้!” ซุนเสวียนจีก็ตอบกลับอย่างสั้นๆ มาทันที

ยามนี้เย่จีได้สวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย นางแต่งกายด้วยชุดกระโปรงรัดอกสีอ่อนดูราบเรียบ ใส่คู่กับเสื้อคลุมสีเขียวอ่อน ซึ่งเป็นชุดที่ค่อนข้างสุภาพดูมีมารยาททีเดียว และชุดบนร่างที่ฝูเซียงสวมใส่ ก็ยังให้อารมณ์คล้ายกับกุลสตรีที่มาจากตระกูลใหญ่สูงศักดิ์อีกด้วย

ถึงกระนั้นชุดที่เย่จีสวมใส่ในตอนนี้ กลับดูยั่วยวนอยู่เล็กน้อย

เรือนร่างของนางช่างมีเสน่ห์เหลือล้น แม้จะพูดกันว่ารูปร่างของเผ่าจิ้งจอกมีชื่อเสียงเรื่องงามจนดึงดูดใจผู้คนเป็นทุนเดิม แต่ด้วยความงามสง่าบนเรือนร่างนั้น ก็สามารถยั่วยวนล่อใจชายได้ตลอดเวลา ต่อให้นางจะแต่งชุดที่เรียบร้อยกว่านี้ ก็เหมือนว่าจะยิ่งมีเสน่ห์ยั่วเย้ามากกว่าเดิมเสียอีก

ซึ่งความงามชวนหลงใหลของหลินอันกับความงามที่ดูยั่วยวนของฝูเซียงทั้งสองนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คนแรกงดงามระดับชาติ ส่วนคนหลังก็งามน่าดึงดูดใจฉบับปีศาจ

หลังจากสวี่ชีอันพยักหน้าตอบ ฝูเซียงถึงค่อยเดินออกไป

…

เมื่อถึงยามพลบค่ำ สวี่ชีอันที่กำลังนั่งขัดสมาธิฝึกคุมลมหายใจเข้าออกอยู่ในถ้ำนั้น ในใจก็พลันสัมผัสอะไรได้บางอย่าง จึงออกจากถ้ำ มายังทุบเขา

คราแรกเขาถูกเสียงร้องเพลงดังสนั่นดึงดูด ตอนนั้นเองก็เห็นเหมียวโหย่วฟางกำลังถือขวดสุรา พลางร้องเพลงเต้นรำกับวิหคมารหงอิง โดยทั้งสองเกี่ยวแขนและเต้นหมุนไปรอบๆ เช่นนั้น

เหมียวโหย่วฟางแหกปากร้องเพลงที่มีเนื้อหาลามกสัปดนอย่างยามอยู่หอคณิกา ส่วนหงอิงก็ร้องเพลงชาวเขาที่เป็นเอกลักษณ์ของซินเจียงตอนใต้

ทั้งยังมีปีศาจสาวหลายตนคอยเต้นอยู่รอบๆ พวกเขาทั้งสอง

ด้านผู้พิทักษ์ชิงมู่และผู้พิทักษ์วานรขาวก็นั่งชมอยู่ข้างๆ โดยคนหลังมีใบหน้าที่บวมช้ำ คงเพิ่งผ่านการชกต่อยมาแน่นอน

ทว่ามีโหรชุดขาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ด้านหลังของทุกคน รูปร่างสูงใหญ่ธรรมดา หน้าตาพื้นๆ กลิ่นอายทั่วไป เขาดูธรรมดาเกินไป จึงไม่มีใครสังเกตเห็นการมาของเขา

เมื่อทุกคนรับรู้ได้ว่าสวี่ชีอันออกมาแล้ว ก็พลันหันไปมองพร้อมหยุดเต้นรำทันที

“ศิษย์พี่ซุน!” สวี่ชีอันตะโกนเรียก

ทุกคนที่หันมาล้วนมีสีหน้าแปลกใจ เพราะไม่รับรู้ว่ามีคนมาโผล่อยู่ที่ด้านหลังอย่างกะทันหัน

ซุนเสวียนจีพยักหน้า ก่อนจะกระโดดลงจนเกิดแสงสว่างใต้ฝ่าเท้า และมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าสวี่ชีอัน

“ไฉนศิษย์พี่ไม่เข้ามาข้างในเล่า?” สวี่ชีอันเผยรอยยิ้มตื่นเต้นดีใจ

ศิษย์พี่ซุนเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด เพราะพละกำลังแข็งแกร่ง ทั้งยังไม่พูดมากอีกด้วย

วานรขาวจ้องมองคนแปลกหน้าคนนี้โดยไม่รู้ตัว และมองลึกไปถึงจิตใจข้างในอย่างทะลุปรุโปร่งด้วยดวงตาสีฟ้าคู่นั้น แล้วค่อยๆ พูดขึ้นว่า “จิตใจของผู้มีฝีมือคนนี้ได้บอกกับข้าว่า : ข้าเพิ่งลงใต้ไปยังชิงโจวพอดี เพราะตัดสินใจจะช่วยเสริมทัพของท่านอาจารย์ ซึ่งเดินทางไปได้ครึ่งทางแล้ว แต่ระยะทางค่อนข้างไกล ทำเอาข้าเหน็ดเหนื่อยมาก ก็เพิ่งได้พักนี่แหละ”

สวี่ชีอันเห็นว่าศิษย์พี่มีสีหน้าเรียบนิ่งชัดๆ

“คนผู้นี้คือผู้พิทักษ์หยวน เขาสามารถในการมองจิตใจของผู้คนได้ทะลุปรุโปร่ง และกำลังบำเพ็ญวิชาอ่านใจของสำนักพุทธ ซึ่งเยี่ยมยอดยิ่ง”

สวี่ชีอันพลันแนะนำผู้พิทักษ์หยวนให้ซุนเสวียนจีรู้จัก ยามพูดก็ใจเต้นแรงไปด้วย “ผู้พิทักษ์หยวน ช่วยตามข้าเข้าไปด้านในด้วย”

ช่วยแปลแทนข้าที…

ซุนเสวียนจีหันหน้าเหลือบมองผู้พิทักษ์หยวนปราดหนึ่ง ก่อนจะตามสวี่ชีอันเข้าไปข้างในถ้ำ

ผู้พิทักษ์ชิงมู่ก็เอ่ยเตือนว่า “คนผู้นั้นคือโหรระดับเหนือมนุษย์ อย่าไปพูดจาไร้สาระแล้วกัน เข้าใจหรือไม่”

ผู้พิทักษ์หยวนหันกลับไปมองผู้พิทักษ์ชิงมู่ “แต่ในใจของผู้อาวุโสมู่ชิงกำลังพูดว่า : เจ้าลิงบ้านี่ จะดีที่สุดถ้ามันพูดจาพล่อยๆ ไม่หยุด ข้ารอให้เจ้าโดนถลกหนังหักกระดูกอยู่นะ”

ผู้พิทักษ์ชิงมู่หน้าแดงทันใด มือที่กำไม้เท้าเถาวัลย์ประเดี๋ยวก็กำแน่น ประเดี๋ยวก็คลายมือวนอยู่อย่างนั้น

ผู้พิทักษ์หงอิงทำเป็นไม่รู้เห็น แล้วพูดเร่งอีกฝ่าย “รีบเข้าไปเถอะ อย่าให้ฆ้องเงินสวี่รอนานเลย”

ผู้พิทักษ์หยวนจึงพยักหน้า ก่อนจะเข้าไปในถ้ำ

“ผู้พิทักษ์คนนี้น่าสนใจดีทีเดียว…”

เหมียวโหย่วฟางที่เพิ่งจะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างกับตา ก็มองไปทางหงอิงโดยพลัน

เนื่องจากเพิ่งจะร้องเพลงเต้นรำมา ในหัวสมองจึงไร้ซึ่งความคิดอื่นๆ ทว่าเหมียวโหย่วฟางที่ซ่อนเรื่องน่าอายเอาไว้ ก็ไม่ได้ตระหนักถึงความน่ากลัวและอำมหิตของผู้พิทักษ์หยวน

ผู้พิทักษ์หงอิงถอนหายใจ “ตอนเด็กผู้พิทักษ์หยวนเป็นทาสรับใช้ในวัด ต่อมาพออายุมากขึ้น ความสามารถก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมาด้วย และได้แอบร่ำเรียนวิชาอ่านใจของสำนักพุทธโดยบังเอิญ ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถควบคุมความสามารถได้อีก”

เหมียวโหย่วฟางก็เข้าใจเรื่องราวได้ในทันที “เหตุใดเขาถึงกลายเป็นคนฝ่ายเดียวกับพวกเราได้ล่ะ?”

ผ่านไปแค่หนึ่งชั่วยามสั้นๆ เขาก็ได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกันกับเผ่าพันธุ์ปีศาจแห่งซินเจียงตอนใต้แล้ว

ผู้พิทักษ์หงอิงมุ่ยปาก “หลังๆ ภิกษุในวัดก็ทนเขาไม่ไหวน่ะ เลยขับไล่เขาออกจากสำนักพุทธ และปล่อยไปตามยถากรรม”

บ้าไปแล้ว! เหมียวโหย่วฟางลอบสบถ ยามเจอหน้าผู้พิทักษ์หยวน ต้องทำให้จิตประหนึ่งคันฉ่องใส ไร้มลทินให้มัวหมองเสียแล้ว

ผู้พิทักษ์หงอิงมองเขาปราดหนึ่ง “ผู้พิทักษ์หยวนอยู่ขั้นสี่แล้ว ความสามารถนั่นย่อมแข็งแกร่งกว่าเดิมแน่ ยอดฝีมือระดับเหนือมนุษย์ที่ไม่อาจหักห้ามความคิดตน ก็มีโอกาสโดนเขาอ่านใจได้ ความแข็งแกร่งในขั้นสี่นี้ นอกจากสำนักพุทธและพ่อมดแล้ว บางทีอาจไม่มีวิธีป้องกันความสามารถของผู้พิทักษ์หยวนได้ด้วยซ้ำ”

ทางด้านภายในถ้ำนั้น สวี่ชีอันก็เล่าสถานการณ์ให้ซุนเสวียนจีฟังอย่างละเอียด แล้วถามว่า “ศิษย์พี่ซุนเห็นว่าอย่างไร?”

แต่ซุนเสวียนจีมิได้กล่าวอันใด สวี่ชีอันเลยเหลือบมองผู้พิทักษ์หยวน ซึ่งเขาก็รู้เจตนาของสวี่ชีอันได้ในทันที ก็จ้องมองซุนเสวียนจีด้วยดวงตาสีฟ้า ก่อนพูดว่า “ในใจศิษย์พี่ซุนท่านนี้พูดว่า : เจ้ารับผิดชอบจัดการอาซูหลัว ส่วนข้าจะทำลายค่ายกลเอง เรื่องอย่างการเอาชีวิตไปทิ้งข้าไม่ทำหรอก!”

จากนั้นซุนเสวียนจีก็รีบเอ่ยทันใด “หลัง…หลัง…”

สวี่ชีอันจึงพูดแทนเขาให้ “ประโยคหลังไม่ต้องพูดออกมาก็ได้”

ผู้พิทักษ์วานรขาวพยักหน้า

สวี่ชีอันพูดต่อ “ไม่มีปัญหา อาซูหลัวปล่อยให้ข้าจัดการ ข้าจะพยายามสกัดกั้นเขาให้ได้มากที่สุด ศิษย์พี่ซุน ท่านก็รับผิดชอบทำลายค่ายกลใหญ่ของฉานซือนะ”

ในความคิดของเขา แผนการนี้ดูสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว ให้โหรทำลายค่ายกล ก็นับว่าตรงกับสถานะของเขาพอดี

การให้จอมยุทธ์จัดการเทพอารักษ์ ก็นับว่าเหมาะกับสถานะเช่นกัน ซึ่งก็เสมือนหันมีดปลายปืนเข้าใส่กัน[1] เพื่อดูว่าใครแข็งแกร่งกว่า!

จากนั้นสวี่ชีอันก็ถามเข้าประเด็น “ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่ซุนบอกว่าจะไปช่วยท่านโหราจารย์รบที่ชิงโจวหรือ?”

ซุนเสวียนจีพลันยืนเอามือไพล่หลัง โดยไม่กล่าวอะไร

ผู้พิทักษ์หยวนจึงเอ่ยว่า “กลุ่มกบฏอวิ๋นโจวกำลังโจมตีชิงโจว ท่านอาจารย์และศิษย์พี่ไต้ซือยังต้องต่อสู้กับพระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่ด้วย และต้าฟ่งก็ขาดแคลนผู้มีฝีมือระดับเหนือมนุษย์ ข้าเลยอยากจะไปร่วมรบที่แนวหน้า”

สวี่ชีอันใจสลดทันที “เช่นนี้จะไม่เป็นการเสียโอกาสไปรบหรือ?”

ซุนเสวียนจีส่ายหน้า ผู้พิทักษ์หยวนก็พูดขึ้นว่า “ยิ่งเก็บซ่อนมีดลึกเท่าใด ศัตรูก็ยิ่งหวาดกลัวมากเท่านั้น เพียงแค่ช่วงระยะสั้นๆ ไม่น่าเกิดเหตุอะไร นอกจากนี้ กลุ่มกบฏอวิ๋นโจวกำลังรอการโจมตีจากกองทหารของสำนักพุทธแดนประจิม หากพวกเราทางนี้สร้างความวุ่นวายได้มากก็ยิ่งดี เช่นนี้ก็จะสามารถสกัดกั้นฝ่ายศัตรูด้วย”

อีกอย่าง การที่กลุ่มกบฏอวิ๋นโจวดึงสำนักพุทธลงไปพัวพัน ย่อมไม่ใช่แค่พระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่คนเดียว ก็คงขอความช่วยเหลือจากกองทหารของแดนประจิมด้วย…หากข้าสามารถสกัดกั้นกองทหารของแดนประจิมได้ ความกดดันในราชสำนักก็อาจลดลงไม่น้อย…สวี่ชีอันผงกศีรษะ

เวลานั้นเองเขาก็เห็นดวงตาสีฟ้าของผู้พิทักษ์หยวนกำลังจดจ้องมาที่ตน จึงรีบส่ายมือใส่ทันที

“ไม่จำเป็นต้องพูดความคิดของข้าออกมา”

ผู้พิทักษ์หยวนพยักหน้า เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่อยากโดนท่าตบยุงของฆ้องเงินสวี่อีก

ขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าจากทางเดินก็ดังเข้ามา เป็นเย่จีที่กำลังแบกกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งกลับมา

‘ปัง!’

นางวางกล่องลงกับพื้น ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง

เสียงวางกล่องนี้ดึงดูงสายตาของทุกคนในทันใด กล่องเป็นสีดำสนิท แต่ก็มีความแวววาวจากโลหะ โดยด้านนอกถูกสลักด้วยอพุทธมนต์เต็มไปหมด ราวกับเป็นค่ายกลปิดผนึกบางอย่าง

“นี่คือตราค่ายกลปิดผนึกของสำนักพุทธที่จักรพรรดินีทรงสลักเองกับมือ เพื่อใช้ปราบส่วนที่เหลือของไต้ซือเสินซู ซึ่งทุกๆ สิบปีจะต้องสังเวยวิญญาณของสิ่งที่มีชีวิตมากมายหลายดวง มิเช่นนั้นผนึกอาจถูกคลายออกได้”

เย่จีกล่าวอย่างกังวลเล็กน้อย “หากคลายผนึกตอนนี้ออก องค์หญิงไม่อยู่ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะปิดผนึกใหม่อีกครั้ง”

ผู้พิทักษ์หยวนมองซุนเสวียนจี แล้วพูดว่า “ในใจของศิษย์พี่ซุนท่านนี้ได้บอกข้าว่า เฮอะ ค่ายกลของสำนักพุทธทั้งสุกเอาเผากินและไร้ค่า ประเดี๋ยวข้าจะแสดงฝีมือให้ดู จะทำให้พวกเจ้าอึ้งกันไปเลย”

ยามนี้มุมปากซุนเสวียนจีกระตุกอย่างแรง

ที่แท้ศิษย์พี่ซุนผู้มีใบหน้าแสนซื่อตรง ก็มีความคิดที่ไม่เรียบร้อยด้วยเหมือนกัน ตามที่คาดคิดนิสัยอย่างการเสแสร้งหรือการเที่ยวสำราญหวังกินเปล่าก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทั้งสิ้น…สวี่ชีอันพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้

“อะแฮ่ม!” เขาทำเสียงไอ ก่อนจะพูดว่า “เปิดกันเลยเถอะ”

เย่จีพยักหน้า แล้วหยิบกุญแจสีเขียวดอกหนึ่งออกมา ก้มตัวลงเสียบกุญแจเข้าไป

‘แกร๊ก!’

เสียงเปิดดังขึ้นภายในนั้น จากนั้นกลิ่นอายที่ทั้งน่ากลัวและแข็งแกร่งก็กระจายไปทั่วถ้ำ

ผู้พิทักษ์หยวนเดินโซเซล้มลงกับพื้น ตัวสั่นไม่หยุด

ส่วนเย่จีใบหน้างามก็พลันซีดเซียวและถอยหลังอย่างต่อเนื่อง

ทว่าด้านซุนเสวียนจีและสวี่ชีอันกลับนิ่งไม่ไหวติง และมองไปที่ข้างในกล่องพร้อมกัน

ไต้ซือเสินซูคนนี้มีความจำมากน้อยเท่าใด เป็นคนนิสัยอย่างไรกัน? หากสามารถทำได้ จะให้มันไปเจอมือที่ขาดอยู่ในเจดีย์พุทธะก็แล้วกัน…สวี่ชีอันคิดในใจ

………………………………………….

[1] หันมีดปลายปืนเข้าใส่กัน (拼刺刀) เป็นคำแสลงหมายถึงชายสองคนที่แข่งขันหรือทะเลาะกัน

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 653 ชิ้นส่วนที่เหลือของเสินซู"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF