cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 646 ผู้อาวุโสเย่จี

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 646 ผู้อาวุโสเย่จี
Prev
Next

บทที่ 646 ผู้อาวุโสเย่จี

สิ่งที่ควรมาก็มาแล้ว ท่านโหราจารย์พูดไม่ผิดเลยสักนิด ตัวแปรทั้งหมดล้วนอยู่ในหน้าหนาวนี้…สวี่ชีอันถอนหายใจในความคิด

เขาไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยสำหรับผลลัพธ์นี้ อย่างไรเสียก็เตรียมใจไว้นานแล้ว คาดไว้ก่อนแล้วว่าจะมีวันนี้

อวิ๋นโจวจะต้องตอบโต้ในไม่ช้าไม่เร็ว และก็ในหน้าหนาวนี้ ดังนั้นสำหรับสวี่ชีอันแล้ว ข่าวนี้มันเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นตามปกติเฉกเช่นตะวันจันทราสับเปลี่ยน

“รีบทำสัญญาของจิ้งจอกก้าวหางให้สำเร็จ ถอนตะปูตอกวิญญาณให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้าจึงจะสามารถฟื้นฟูพลังและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้นได้ เอ่อ ไม่รู้ว่าร่างจริงของฝูเซียงเป็นเช่นไร งดงามหรือไม่”

สวี่ชีอันหยิบหนังสือแผนการออกมาจากเศษชิ้นส่วนหนังสือปฐพี ในหนังสือวางแผนเป้าหมายของเขาไว้อย่างชัดเจน

“เรื่องการชุบชีวิตเว่ยกงคงต้องปล่อยไว้ภายหลัง ปลดผนึกเสินซูก่อนเถอะ อย่างไรก็ตามข้าคงหาหินตีฆ้องไม่เจอในตอนนี้ และในเมื่อไม่มีหินตีฆ้อง ก็ไม่สามารถกลั่นเสาของธงกวักวิญญาณได้…”

เขาปรับแผนการให้เหมาะสม จากนั้นโบกมือให้มู่หนานจือพร้อมเอ่ยว่า

“เอา ‘บันทึกภูมิศาสตร์ต้าฟ่ง’ มาให้ข้าดูหน่อย”

บันทึกภูมิศาสตร์ต้าฟ่งเป็นสิ่งที่มู่หนานจือซื้อมาด้วยตนเอง นางซื้อบันทึกภูมิศาสตร์ด้วยความสนใจเป็นล้นพ้นเฉกเช่นสตรีที่อยากออกไปท่องเที่ยวภายนอก ไม่ว่าไปที่ใดก็ต้องปล่อยให้ชมประเพณีพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน

“ซินเจียงตอนใต้อยู่ในอาณาเขตต้าฟ่ง”

มู่หนานจือพึมพำด้วยความไม่เข้าใจ แล้วหยิบหนังสือที่ยับย่นออกจากห่อผ้าเล็กๆ ของตนเองออกมาโยนไปให้

ไม่ทะนุถนอมหนังสือเลยสักนิด…สวี่ชีอันยื่นมือมารับไว้ แล้วเปิดอ่าน ‘บันทึกภูมิศาสตร์ต้าฟ่ง’ เขาต้องการอ่านหนังสือเล่มนี้เพราะว่าด้านบนได้วาดแผนที่ที่ราบกลางแบบเรียบง่ายเอาไว้

เรียบง่ายเสียจนสิบสามโจวของต้าฟ่งกลายเป็นก้อนสี่เหลี่ยมที่ผิดไปจากแบบแผนโดยเรียงเป็นก้อนๆ

“อวิ๋นโจวติดทะเล พื้นที่ทางตอนเหนือมีพรมแดนติดกับชิงโจวโดยส่วนใหญ่ สวี่ผิงเฟิงคิดที่จะใช้อวิ๋นโจวเป็นฐาน หากมุ่งหน้าไปเมืองหลวงโดยออกเดินทางไปทางเหนือ ก็จะต้องยึดชิงโจวก่อนเป็นแน่

“แต่ราชสำนักต้องการเวลาพักหายใจ แผนการรับมือที่ดีที่สุดก็คือสกัดกลุ่มกบฏไว้ที่อวิ๋นโจวอย่างสุดชีวิต

“เพราะอย่างนั้นต่อไปความชุลมุนก็จะไปรวมอยู่ที่ชิงโจว”

…

ณ ห้องทรงพระอักษร

จักรพรรดิหย่งซิ่งยืดเอวตรงขณะฟังการถกเถียงจากบรรดาขุนนางในท้องพระโรง

หลังจากข่าวการประกาศตนเป็นจักรพรรดิของสายเลือดของราชนิกุลเมื่อห้าร้อยปีก่อนส่งกลับมายังเมืองหลวง ราชสำนักและประชาชนล้วนสั่นคลอนไปทั่ว

แต่อารมณ์ของบรรดาข้าราชการชั้นสูงกลับแน่นิ่งมาก พวกเขามีการเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว หากไม่ใช่เพราะภัยหนาวโหมซัดเกินกว่าจะเอาตัวรอด พวกเขาก็คงมุ่งลงใต้ออกโจมตีเองเสียนานแล้ว

แต่สำหรับวงการข้าราชการทั้งหมดหรือกระทั่งประชาชนกลับคิดว่าเป็นการตีแสกหน้าให้ตื่นตัว

ตั้งแต่ปีที่การตรวจสอบข้าราชสำนักจบลง ต้าฟ่งผ่านเหตุการณ์สำคัญที่น่าตกใจจนพูดไม่ออก ในบรรดาเหตุการณ์เหล่านั้นมีทั้งการปราบปรามกองทัพสำนักพ่อมดจนพินาศย่อยยับ การสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิองค์ก่อนและภัยหนาว ส่วนตอนนี้อวิ๋นโจวกลับก่อกบฏอีก

แม้แต่ประชาชนทั่วไปในตลาดก็ยังรู้สึกว่าสภาพสังคมวุ่นวายอย่างยิ่ง การจลาจลกำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นเหตุให้เกิดความหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด

สำหรับบัณฑิตและขุนนางในเมืองหลวงที่ตำแหน่งไม่สูง ความรู้สึกหวาดกลัวและไม่พอใจของพวกเขาเพิ่มมากยิ่งขึ้น

หลายวันติดต่อกันมานี้ จำนวนครั้งในการจัดงานชุมนุมวรรณกรรมของบัณฑิตในเมืองหลวงบ่อยขึ้น พวกเขาเชิญชวนมิตรสหายมาอภิปรายเรื่องกลุ่มกบฏอวิ๋นโจวอย่างกว้างขวางและร่วมหารือสถานการณ์ของที่ราบกลาง

“ฝ่าบาท กลุ่มกบฏอวิ๋นโจวประกาศตนเป็นจักรพรรดิ สั่นคลอนไปทั้งราชสำนักและประชาชน อย่างไรก็ตาม มีผู้รู้เรื่องที่สำนักพุทธหนุนกลุ่มกบฏน้อยมาก ทว่ากระดาษห่อไฟไม่ได้ฉันใด ก็ปกปิดความจริงไม่ได้ฉันนั้น นี่ยังคงเป็นอันตรายที่แฝงเร้นอย่างถึงที่สุด”

ขุนนางใกล้ชิดของกรมทหารเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น

บรรดาข้าราชการชั้นสูงมีสีหน้าเคร่งขรึม พันธมิตรในอดีตย้ายข้างไปเป็นศัตรูมาห้ำหั่นกัน ซึ่งนี่จะเพิ่มความหวาดกลัวให้เลวร้ายลงอย่างไม่ต้องสงสัย

ความแข็งแกร่งของสำนักพุทธคือประชาชนทั่วไปเองก็สามารถรับรู้ข้อเท็จจริงอย่างลึกซึ้งได้

กองทัพกบฏที่อ้างตนว่าเป็นสายเลือดที่หลงเหลือของราชวงศ์เมื่อห้าร้อยปีก่อน และได้รับการสนับสนุนจากสำนักพุทธ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปจะทำให้ผู้คนทั่วใต้หล้าเกิดความเคลือบแคลงต่อราชสำนักและราชวงศ์ต้าฟ่ง

แม้ข้อสงสัยเช่นนี้จะไม่นำมาซึ่งปัญหาใดๆ ชั่วขณะ โดยส่วนใหญ่จะเกิดข้อวิพากษ์ตามตลาดและในชนบท แต่หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ข้อวิพากษ์หรือข้อสงสัยเหล่านี้ก็จะปะทุขึ้น

หากประชาชนยอมเข้าร่วมกับศัตรู ก็จะไม่มีภาระทางจิตใจ

อย่างไรเสียพวกเขาก็ยังคงเป็นประชากรของต้าฟ่ง แม้คนที่เข้าร่วมกับศัตรูจะเป็นสายเลือดที่แท้จริงก็ตาม

หากในอนาคตกลุ่มกบฏโค่นล้มราชสำนักในปัจจุบันได้จริงๆ ประชาชนอาจไม่สามารถแม้แต่จะยกธงกอบกู้ต้าฟ่ง

แต่โบราณมา โดยปรกติแล้วผู้ก่อเหตุและผู้ก่อสงครามล้วนให้ความสำคัญกับการส่งกองทัพอย่างเป็นไปตามเหตุผลอันควร

สาเหตุอยู่ที่นี่นี่เอง

เจ้ากรมอาญาเอ่ยด้วยเสียงอันหนักแน่นว่า

“การยับยั้งการกระจายข่าวลือเพียงหนทางเดียวคือ ผู้ที่สร้างความหวาดกลัว กระจายข่าวลือและกล่าวถึงเรื่องนี้จะต้องเข้าคุกและถูกกล่าวโทษ”

วิธีการเช่นนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ จำเป็นจะต้องยับยั้งข่าวลือไว้

ตัวอย่างมากมายในประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าข่าวลือเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการโจมตีทางจิตใจ หากปล่อยไว้โดยไม่สนใจก็เท่ากับเป็นการยื่นมีดให้ศัตรูด้วยตนเอง

แม้บรรดาข้าราชการชั้นสูงจะรู้สึกว่าวิธีการของเจ้ากรมอาญาเป็นแผนการที่แย่ แต่ก็เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในตอนนี้

จักรพรรดิหย่งซิ่งยิ้มเมื่อได้ยิน ก่อนเอ่ยว่า

“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ การปิดกั้นยากกว่าการกระจาย ในเมื่อกระดาษไม่อาจห่อไฟ เช่นนั้นก็เปิดเผยเรื่องนี้แก่ประชาชนเสียเอง แบบนี้ก็จะสามารถแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของราชสำนัก ทำให้ประชาชนของข้ารู้ว่า ข้าไม่เกรงกลัวสำนักพุทธ ราชสำนักไม่หวาดกลัวดินแดนประจิม”

‘แบบนี้มัน’…บรรดาข้าราชการชั้นสูงมองหน้ากัน เอ่ยในใจว่าแบบนี้มันไม่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติอันคร่ำครึและสุขุมของฝ่าบาท

เจ้ากรมอาญาขมวดหัวคิ้ว อดไม่ได้ที่จะมองสมุหราชเลขาธิการหวางที่มีสีหน้าสงบเสงี่ยม ก่อนเอ่ยอย่างได้ความคิดว่า

“ฝ่าบาทมีแผนการรับมือที่ดีเช่นนี้เลยหรือ”

จักรพรรดิหย่งซิ่งกวาดสายตามอง พบว่าพวกเขาก้มศีรษะเล็กน้อย และแสดงท่าทีตั้งใจฟัง บ้างก็แหงนศีรษะมองเขา แม้จะก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่อาจปกปิดความกระตือรือร้นในดวงตา

รอยยิ้มมุมปากของเขากว้างขึ้น เกิดความรู้สึกเป็นสุขในการควบคุมท้องพระโรงเล็กน้อย

“เยี่ยม” จักรพรรดิหย่งซิ่งเอ่ยช้าๆ

“ก่อนหน้านี้ไม่นาน สวี่ชีอันต่อสู้กับสำนักพ่อมด กลุ่มกบฏอวิ๋นโจวกับสำนักพุทธที่เจี้ยนโจว และสังหารเทพอารักษ์สองตนติดต่อกัน บัดนี้สำนักพุทธไม่มีผู้ปกปักรักษาศาสนาพุทธระดับเพชรอีกแล้ว”

“นี่เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของฆ้องเงินสวี่ และก็เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของข้าด้วย”

ภายในห้องทรงพระอักษรเงียบสงบ บรรดาข้าราชการชั้นสูงแสดงออกถึงความประทับใจ

“ฝ่าบาท ที่เอ่ย ที่เอ่ยมาจริงหรือ”

เจ้ากรมการตรวจตราฝ่ายซ้ายหลิงหงเอ่ยด้วยความตะลึง เขาถามข้อสงสัยของทุกคน

แม้จะบอกว่าผู้ที่อยู่ในที่นี้ล้วนเป็นปัญญาชน มีมือไว้เพียงจับด้ามพู่กัน แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับผู้ปกปักรักษาศาสนาพุทธระดับเพชรของสำนักพุทธในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดของต้าฟ่ง

ผู้ปกปักรักษาศาสนาพุทธระดับเพชรขั้นสาม

ขั้นสามหมายความว่าอะไร

ต้าฟ่งในตอนนี้มีจอมยุทธ์ขั้นสามสวี่ชีอันเป็นที่เชิดหน้าชูตา

จักรพรรดิหย่งซิ่งพยักหน้าเอ่ยว่า

“เรื่องนี้จะแพร่งพรายออกไปที่เจี้ยนโจวในไม่ช้า ไม่อาจโกหกได้”

ข้อมูลที่สามารถทำให้จักรพรรดิกล่าวออกมาในโอกาสเช่นนี้คงไม่มีข้อกังขาอย่างแน่นอน

บรรดาข้าราชการชั้นสูงได้ยินเสียงหัวใจเต้น ‘ตุบๆ’ ในหัว ความแปลกใจและความสั่นคลอนบนใบหน้าของพวกเขายากที่จะระงับไว้

ระดับความประหลาดใจที่พวกเขาได้รับจากข่าวนี้ไม่น้อยไปกว่าการประสบชัยชนะในศึกครั้งใหญ่ หรือยิ่งกว่านั้น

“ฝ่าบาทโปรดแจ้งข่าวสาร”

“ดีแท้ เช่นนี้ก็สามารถเปิดเผยข่าวที่สำนักพุทธหนุนกองทัพกบฏให้แก่ประชาชนได้อย่างนิ่งนอนใจ”

“ฆ้องเงินสวี่เป็นเสาหลักคุ้มกันดินแดนของต้าฟ่งไปแล้ว จิตใจมวลประชาคงสงบได้…”

จักรพรรดิหย่งซิ่งไม่ได้ห้ามปราม อย่างแรกเพราะประชุมย่อยราชสำนักในห้องทรงพระอักษรไม่ได้เข้มงวดเท่าประชุมราชสำนักช่วงเช้า

อย่างที่สองเพราะ เขารู้ว่าบรรดาข้าราชการชั้นสูงเองก็ต้องการสร้างความเชื่อมั่นและพื้นที่ระบายความรู้สึก สำนักพุทธก่อตั้งกลุ่มกบฏอวิ๋นโจว หากแพร่ออกไปจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก หรือว่าบรรดาข้าราชการชั้นสูงไม่มีความหวาดกลัวในจิตใจ

ภายนอกดูสงบนิ่งดั่งขุนเขา แต่ภายในจิตใจลุกลี้ลุกลนราวกระแสน้ำทะเลขึ้นลง

ผลการรบที่เจี้ยนโจวของสวี่ชีอันเป็นวีรกรรมที่ปลุกจิตใจของผู้คนอย่างไม่ต้องสงสัย

หากกลุ่มเล็กๆ ที่กุมอำนาจในมือนี้มีความเชื่อมั่น จะขับเคลื่อนความเหนียวแน่นทั้งราชสำนัก

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน จักรพรรดิหย่งซิ่งพบว่าเสียงเจรจาค่อยๆ สงบลง เขาจึงมองไปยังเจ้ากรมทหารพร้อมเอ่ยว่า

“ข้าได้อ่านสมุดพับของสวี่อ้ายชิงแล้ว ชิงโจวจะกลายเป็นสมรภูมิที่จำเป็นต้องแย่งชิงของราชสำนักและกลุ่มกบฏอวิ๋นโจว หากชิงโจวสูญเสียการป้องกัน กลุ่มกบฏก็จะมีฐานในการเดินทัพเหนือ ซึ่งจะยิ่งมีพื้นที่กันชนในการส่งกำลังทหาร”

“หากเอาแต่ยืนหยัดป้องกันลูกเดียว ราชสำนักจะเป็นฝ่ายถูกกระทำเกินไปหรือไม่ มีเหตุผลที่ต้องกันหัวขโมยเป็นพันวันเสียที่ใดกัน หากเดินทัพลงใต้เองจะได้หรือไม่”

เจ้ากรมทหารออกจากแถว ก่อนน้อมคำนับแล้วเอ่ยว่า

“ลงใต้ปราบกลุ่มกบฏก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสที่เหมาะสมที่สุดอย่างแน่นอน กลุ่มกบฏอวิ๋นโจวมีการวางแผนไว้นานแล้ว ทั้งยังมีสำนักพุทธให้การช่วยเหลือ เกรงว่าการเข้าไปในท้องศัตรูเองจะเป็นการเอาตัวเองเข้าไปติดตาข่าย”

“อีกประการหนึ่ง หลังจากเว่ยกงเสียชีวิตไป ต้าฟ่งก็ไม่มีทั้งจอมยุทธ์ระดับบรรลุธรรมและผู้มีความสามารถในการนำทัพ ด้วยเหตุนี้การโจมตีศัตรูอย่างเป็นขั้นตอนจึงแผนการในตัวเลือกแรก”

‘ราชสำนักไม่มียอดขุนพลหรือ’ ผู้มีความดีความชอบและผู้นำทางการทหารหลายคนมองหลิวหงด้วยความเย็นชา

บัณฑิตเอ่ยสบประมาทอย่างกับรู้ลึกจริงๆ

แม้จะกล่าวว่ายอดขุนพลแห่งยุคอย่างเว่ยเยวียนจะพบได้ยาก แต่ต้าฟ่งก็ไม่ได้ขาดแม่ทัพที่มีประสบการณ์เฟื่องฟูในการนำทัพ

พอกล่าวถึงสกุลสวี่ ฝ่ายกองทัพราชสำนักดูเหมือนบุคคลที่มีความสามารถจะซบเซา

ขณะนี้เอง ขุนนางใกล้ชิดกรมทหารออกจากแถว พร้อมเอ่ยว่า

“เรียกสวี่ชีอันกลับเมืองหลวง แล้วมอบอำนาจทางการทหารให้เขา จากนั้นส่งไปคุ้มกันชิงโจว

“สวี่ชีอันเป็นลูกศิษย์เว่ยเยวียน เคยศึกษาตำราพิชัยสงคราม ขนาดจางเซิ่นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ยังครวญว่าตนเองมิอาจเทียบ ทั้งยังเป็นจอมยุทธ์ระดับบรรลุธรรม ไม่มีผู้ใดเหมาะคุ้มกันชิงโจวมากว่าเขาอีกแล้ว”

ต้าฟ่งไม่มีจอมยุทธ์ขั้นสามอีกแล้วนอกจากสวี่ชีอัน

การมีอยู่ของสำนักโหราจารย์มักจะถูกบรรดาข้าราชการชั้นสูงมองข้ามหลายๆ ครั้ง

สมุหราชเลขาธิการหวางออกจากแถวมาเอ่ยโต้แย้งในทันทีว่า

“สวี่ชีอันไม่มีประสบการณ์ในสนามรบ หากให้เขานำทหารคุ้มกันชิงโจวจะเหมือนการเล่นเป็นเด็กๆ เกินไป ราชสำนักจะพ่ายแพ้ไม่ได้”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนกวาดสายตามองขุนนางหลายคนที่ไม่ค่อยจะยินยอม แล้วเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นว่า

“สวี่ชีอันไม่ได้ไร้เทียมทาน หากกลุ่มกบฏถูกควบคุมโดยจอมยุทธ์ระดับบรรลุธรรม และแกร่งถึงขั้นฆ่าเขาเสียชีวิต เช่นนั้นราชสำนักก็จะสูญเสียชิงโจว อีกประการหนึ่ง ชิงโจวอยู่ภายใต้การควบคุมของหยางกงทั้งหมดแล้ว หากเปลี่ยนแม่ทัพก่อนการรบไม่นาน ไม่กลัวว่าเขาจะเสียความจงรักภักดีหรือ”

ภายในห้องทรงพระอักษรเงียบไปพักหนึ่งโดยไม่มีใครโต้แย้ง

มันสมองของบรรดาข้าราชการชั้นสูงใช้การได้ดีในประเด็นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการช่วงชิงของกลุ่มและการต่อสู้ทางผลประโยชน์ พวกเขามองเห็นผลได้และผลเสียอย่างชัดเจนและตรงจุด

จักรพรรดิหย่งซิ่งพยักหน้า ก่อนเอ่ยเสียงดังว่า

“เคลื่อนทัพและส่งกำลังพลไปหนุนชิงโจวตั้งแต่วันนี้ไป”

กล่าวจบ เขามองไปยังสมุหราชเลขาธิการหวางพร้อมเอ่ยว่า “สวี่ซินเหนียน ซู่จี๋ซื่อประจำสำนักราชบัณฑิตฮั่นหลินเป็นลูกศิษย์ของจางเซิ่นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ แตกฉานยุทธวิธีการรบ เคยสร้างคุณงามความดีในการเดินทางไปช่วยศึกปีศาจแดนเหนือ จะต้องมีเขาในรายชื่อหนุนกำลังชิงโจวในครั้งนี้”

สมุหราชเลขาธิการหวางชะงักเล็กน้อย ก่อนเอ่ยต่อว่า

“รับทราบ”

จักรพรรดิหย่งซิ่งต้องการใช้สวี่ซินเหนียนเป็นข้อผูกมัดสวี่ชีอัน เพื่อให้ฆ้องเงินสวี่ผู้ถูกราชสำนักสั่งย้ายอย่างต่อเนื่องทุ่มเททำงานเพื่อความอยู่รอดของชิงโจว

ในขณะเดียวกันก็เป็นการบอกเป็นนัยสมุหราชเลขาธิการหวางว่าเขาต้องการเลื่อนตำแหน่งให้สวี่ซินเหนียน และให้โอกาสซู่จี๋ซื่อสร้างคุณงามความดีในการศึก

…

ณ จวนอ๋องเหยียน

องค์ชายสี่องค์ก่อน ซึ่งปัจจุบันคือเหยียนชินอ๋อง นั่งอยู่ในห้องศึกษาที่ไฟถ่านคละคลุ้ง เขาสวมชุดไหมสีขาว พร้อมด้วยจี้ห่วงหยกที่กระทบกันดังติ๊งตั๊ง ซึ่งแผ่ราศีความร่ำรวยกดดันผู้อื่น

โดยมือซ้ายถือหนังสือม้วนไว้ ส่วนมือขวาถือชาหอมและขนมแป้งอบ

บนปกหนังสีน้ำเงินเขียนชื่อหนังสือไว้ว่า ‘บันทึกโจว’ บทที่เหยียนชินอ๋องอ่านคือบทที่สิบสามม้วนที่สิบสอง

บนหน้าหนังสือบันทึกประสบการณ์วัยหนุ่มของจักรพรรดิในช่วงต้นและช่วงกลางของราชวงศ์ต้าโจว

เดิมทีจักรพรรดิองค์นั้นเป็นบุตรชายของนางสนม ซึ่งด้านบนยังมีพระราชโอรสทางสายเลือดสามพระองค์กดทับอยู่ ดังนั้นมงกุฎจักรพรรดิจึงไม่มีทางตกลงบนศีรษะเขาอยู่แล้ว

แต่เรื่องมันช่างประจวบเหมาะ พระราชโอรสทางสายเลือดทั้งสามอาจเสียชีวิตอย่างเกินความคาดหมายระหว่างการต่อสู้ที่เกี่ยวเนื่องกัน หรือถูกจักรพรรดิเอือมระอา จึงกลับเอาเปรียบพระราชโอรสที่ให้กำเนิดโดยนางสนมของเขาในท้ายที่สุด

“ฮว๋ายชิ่ง เจ้าเป็นน้องสาวที่ดีของข้าจริงๆ”

เหยียนชินอ๋องเอ่ยยิ้มว่า “เป็นเพราะข้าใจร้อนไป การต่อสู้ระหว่าง ‘บุตรทางสายเลือด’ จึงเพิ่งจะเปิดฉาก ‘บุตรสนม’ อย่างข้า จะไร้ความอดทนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

…

ณ ภูเขาสือว่าน ซินเจียงตอนใต้

มีเสียงร้องที่เปล่าเปลี่ยวของนกฮูกราตรีดังขึ้นเป็นครั้งคราว ท่ามกลางเทือกเขาสูงชันที่ติดต่อกันอย่างไร้ที่สิ้นสุดในแสงสียามราตรีที่เศร้าวังเวง

นกยักษ์สีชาดลำตัวยาวสองจั้ง (หนึ่งจั้ง = 3.33 เมตร) สยายปีกร่อนเวหาแวบผ่านแนวเทือกเขาเป็นชั้นๆ

เมื่อเดินทางมาถึงหุบเขาบางแห่ง มันหุบปีกขนาดใหญ่ลง ในฉับพลันนั้น ร่างกายของมันเปลี่ยนแปลงกลางอากาศ ปีกทั้งคู่แปลงเป็นแขนของมนุษย์ จะงอยปากที่แหลมคมแบนราบกลายเป็นริมฝีปาก

ศีรษะที่บวมราวลูกทรงกลมกลายเป็นหัวของมนุษย์…มันกลายเป็นชายผู้สง่าและห้าวหาญที่มีดวงตาแคบยาวเมื่อร่อนลงสู่หุบเขา

ในหุบเขามีถ้ำหินอยู่แห่งหนึ่ง ภายนอกถ้ำมีสตรีรูปงามสวมชุดหนังสัตว์ที่เผยให้เห็นขาอ่อนอันเต่งตึงและท้องน้อยที่แบนเรียบสองคนคุ้มกันอยู่

“คารวะผู้พิทักษ์หงอิง”

สตรีผู้มีเสน่ห์ชวนหลงทั้งคู่โค้งตัวทำความเคารพ

“สถานการณ์ของผู้อาวุโสเย่จีเป็นเช่นไรบ้าง”

สายตาของวิหคมารหงอิงมองไปยังส่วนลึกของถ้ำ

“ยังไม่ตื่น พวกเราส่งคนไปเชิญผู้พิทักษ์ชิงมู่แล้ว” สตรีผู้มีเสน่ห์ชวนหลงทางซ้ายเอ่ยตอบ

หงอิงขมวดคิ้ว พร้อมเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นว่า

“ใครทำร้ายผู้อาวุโสเย่จีบาดเจ็บกัน”

……………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 646 ผู้อาวุโสเย่จี"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF