cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 637 ห้าร้อยปีต่อมา

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 637 ห้าร้อยปีต่อมา
Prev
Next

บทที่ 637 ห้าร้อยปีต่อมา

คำสัญญา…ชายชราได้ยินเช่นนี้ก็หรี่ตาลง ก่อนจะละสายตาจากสวี่ชีอันพลางมองไปยังทิวทัศน์ที่อยู่ห่างไกล

มีความเฉี่อยชาปรากฏขึ้นในตัวเขา อันที่จริงคำว่าเฉื่อยชานี้ไม่ใช่คำดูถูกแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงการโหยหาชีวิตใหม่ของมนุษย์ ดังนั้นคำนี้จึงมักจะไม่ถูกใจผู้คนเท่าใดนัก

ความเฉี่อยชาในตัวของชายชราเป็นกลิ่นอายอันแข็งแกร่งที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน

เขาอายุเท่ากับอาณาจักร เกิดในช่วงสุดท้ายของสมัยต้าโจว เขาได้เห็นทั้งความรุ่งเรืองและร่วงโรยของทั้งสองยุคสมัย

เขาชูธงขึ้นก่อการปฏิวัติท่ามกลางยุคสมัยที่ยุ่งเหยิง เป็นผู้นำกองกำลังทหารรบเพื่อล้มล้างการปกครองแบบเผด็จการ เขาผ่านเรื่องราวมามากเกินไป พบเจอผู้คนมามากเกินไป

ความเฉื่อยชาค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในกระดูกของเขาอย่างช้าๆ

สิ่งที่น่าแปลกคือ สวี่ชีอันไม่เห็นความเฉื่อยชาเช่นนี้ในตัวของท่านโหราจารย์ พระอรหันต์ตู้ฉิงหรือแม้แต่ยอดฝีมือเหนือมนุษย์อย่างเทพอารักษ์ทั้งสองท่านแต่อย่างใด

เป็นเพราะเขาอยู่ในสังคมโลกมนุษย์มาโดยตลอดงั้นรึ?…หรือเป็นเพราะเขาเป็นจอมยุทธ์ที่หยาบคาย…สวี่ชีอันคิดในใจ

หลังจากนั้นไม่นาน ชายชราก็กล่าวช้าๆ ว่า “ตอนที่จักรพรรดิอู่จงก่อกบฏแย่งชิงราชบัลลังก์ ข้ายังไม่ได้เก็บตัว ตอนนั้นจักรพรรดิแห่งต้าฟ่งสนิทสนมกับขุนนางทุจริต ทำให้ราชสำนักและประชาชนทั้งหมดตกอยู่ในความสับสน แน่นอนว่าความวุ่นวายทางการเมืองชั่วขณะนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเมื่อเทียบกับความวุ่นวายของราชวงศ์ในช่วงปลายยุคสมัย มันไม่ควรค่าแก่การพูดถึง อู่จงเป็นหลานชายของเกาจู่ พรสวรรค์ของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าปู่ของเขา ทั้งลักษณะนิสัยก็ยังเหมือนกัน พวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นฮีโร่ที่เก่งกาจและมีกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม เขาใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจของราชสำนักและประชาชนที่มีต่อขุนนางทรยศในตอนนั้นในการรับสมัครทหาร ซื้อม้าและเริ่มก่อกบฏเพื่อกำจัดขุนนางชั่วข้างองค์จักรพรรดิ ซึ่งเป็นวิธีการที่ฉลาดมาก หากเขาก่อการกบฏขึ้นโดยตรง เขาก็จะไม่สามารถเอาชนะใจประชาชนได้และคงไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทหาร ตอนนั้นเขาเป็นเพียงจอมยุทธ์ขั้นสาม การคิดที่จะก่อกบฏภายใต้สายตาขอโหราจารย์รุ่นที่หนึ่งนั้นเป็นเรื่องยากพอๆ กับการขึ้นสวรรค์ ดังนั้น เขาจึงหาผู้ช่วยทั้งสามอย่างชาญฉลาด นั่นก็คือ ลัทธิขงจื๊อ สำนักพุทธ และท่านโหราจารย์คนปัจจุบัน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สวี่ชีอันก็อดที่จะพูดขัดจังหวะด้วยความแปลกใจไม่ได้ “แต่ข้าได้ยินมาว่า การก่อกบฏของจักรพรรดิอู่จงเมื่อห้าร้อยปีก่อน ลัทธิขงจื๊อวางตัวเฉยตั้งแต่ต้นจนจบ”

ชายชราหัวเราะเฮอเฮอพลางกล่าวว่า “การวางตัวเฉยนั่นแหละเป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มิเช่นนั้น ด้วยเส้นสนกลในของลัทธิขงจื๊อในตอนนั้น ประกอบกับโหราจารย์รุ่นที่หนึ่ง อู่จงจะทำสำเร็จรึ? เว้นแต่พระพุทธเจ้าจะลงมือเอง ลัทธิขงจื๊อไม่พอใจจักรพรรดิในตอนนั้นมานานแล้ว เพียงแต่มีโหราจารย์รุ่นที่หนึ่งตรวจสอบและถ่วงดุลอยู่ในนั้น ทำให้ลัทธิขงจื๊อหมดหนทาง”

เขารอครู่หนึ่ง เมื่อเห็นสวี่ชีอันไม่มีข้อสงสัยอีก จึงกล่าวต่อไปว่า “ในช่วงเริ่มแรก จักรพรรดิอู่จงไม่มีทหารและม้าเพียงพอที่จะต่อกรกับต้าฟ่ง ดังนั้น เขาจึงหันไปสนใจกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ และคนที่รับผิดชอบในการเที่ยวพูดให้ข้าเคลื่อนทัพก็คือท่านโหราจารย์คนปัจจุบัน ในตอนแรกข้าไม่เห็นด้วย ถ้าเรื่องนี้จบลงแล้วข้าจะได้ประโยชน์อะไร? อู่จงไม่มีทางยกเจี้ยนโจวให้ข้า แต่ถ้าแพ้ กลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ที่ข้าเพียรพยายามประคองมากว่าร้อยปีก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกทำลายในบัดดล เจ้าน่าจะเดาออกว่าท่านโหราจารย์พูดโน้มน้าวข้าอย่างไร”

สวี่ชีอันคล้อยตาม “เกี่ยวกับคำสัญญานี้หรือไม่?”

ชายชราพยักหน้า ก่อนจะส่ายศีรษะอีกครั้ง “ถ้าจะพูดให้ชัดก็คือมันเป็นข้อตกลง ในช่วงร้อยกว่าปีที่ข้ากลับมาเจี้ยนโจวและก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ ข้าเลื่อนสู่ระดับสูงสุดของขั้นสามนานแล้ว แต่กลับไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้มาโดยตลอด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกไม่ใช่ความยากลำบากและความพ่ายแพ้ แต่เป็นการไร้ซึ่งความหวัง สกุลจีในตอนนั้นคล้ายกับข้าในตอนแรก หลังจากประกาศตัวเป็นจักรพรรดิ โชคก็เพิ่มขึ้น การบำเพ็ญพัฒนาขึ้นทุกวัน จนในที่สุดก็ก้าวเข้าสู่ขบวนของจอมยุทธ์ขั้นหนึ่ง ข้าไม่ค่อยมั่นใจนัก ดังนั้นจึงไม่เคยอายที่จะถามเขาเกี่ยวกับประสบการณ์ของระดับผสานเต๋า”

“ตอนนั้นข้าไม่รู้กฎที่ว่าคนที่ได้รับโชคจะไม่สามารถมีชีวิตยืนยาว หลังจากนั้นหลายสิบปี ข้ายังไม่ทันเกลี้ยกล่อมตนเอง สกุลจีก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน กลายเป็นผีอายุสั้น…”

ชายชราส่ายศีรษะพลางแค่นหัวเราะ “เกรงว่าเหล่ามารดารุ่นแรกคงร้องไห้ฟูมฟายเป็นแน่ ฮ่าๆๆ ข้าสงสัยมาโดยตลอดว่าเขาเป็นเทพกระต่าย แค่ก แค่ก…สรุปคือข้าหยุดอยู่ระดับสูงสุดของขั้นสามมากหลายปี ไม่สามารถฝ่าฟันไปได้ และมองไม่เห็นความหวังที่จะผ่านมันไปเช่นกัน จนกระทั่งวันนั้น ท่านโหราจารย์คนปัจจุบันมาหาข้า เขาพูดว่า ตราบใดที่ข้าเต็มใจเคลื่อนทัพไปช่วยอู่จงชิงราชบัลลังก์ เขาก็จะช่วยให้ข้าเลื่อนขึ้นสู่ขั้นสอง”

สวี่ชีอันหัวเราะฮ่าขึ้นมาเสียงดัง “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านผู้เฒ่าถูกท่านโหราจารย์หลอกแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนั้นท่านโหราจารย์ก็เป็นนักการเมืองด้วย”

ชายชราชำเลืองมองเขาและแสยะยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้ม “แต่ก่อนข้าก็เคยคิดเช่นนี้ แต่ตอนนี้ข้าเลื่อนสู่ขั้นสองอย่างแท้จริงแล้ว”

ภายในสิบวินาทีหลังจากประโยคนี้จบลง รอยยิ้มบนใบหน้าของสวี่ชีอันยังคงเหมือนในตอนแรก หลังจากนั้นดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง รอยยิ้มนั้นค่อยๆ แข็งขึ้น สุดท้ายก็จางหายไปช้าๆ

หากมีกล้องบันทึกกระบวนการทั้งหมดในตอนนี้ นับว่า ‘ทักษะการแสดง’ ของเขาน่าเหลือเชื่ออย่างมาก

…สวี่ชีอันมองชายชราด้วยความเฉื่อยชา ริมฝีปากขยับและกล่าวด้วยความยากลำบาก “ท่านหมายถึงรากบัวเก้าสี ไม่สิ การช่วยเหลือของข้าเป็นเพราะท่านโหราจารย์กำลังทำตามสัญญาในตอนนั้นรึ?”

ชายชราตอบรับ ‘อืม’ และกล่าวต่อไปว่า “ข้าคิดคำอธิบายที่ดีกว่านี้ไม่ออกแล้ว”

‘ตึก! ตึก! ตึก!’

สวี่ชีอันก้าวถอยหลังไปสามก้าวพลางจ้องมองชายชราด้วยความว่างเปล่า สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความประหลาดใจหรือหวาดกลัวกันแน่

หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่าง

บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้ความเคลื่อนไหวในจิตใจของเขา ภายใต้ใบหน้าอันเฉื่อยชานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ทรงพลังและข้อมูลที่เดือดพล่านราวกับระเบิด

หากเรื่องราวเป็นจริงอย่างที่ชายชรากล่าว เช่นนั้นความหมายอันลึกซึ้งคืออะไร?

“ข้าจำได้ว่าสวี่ผิงเฟิงเคยบอกว่าปรมาจารย์ลิขิตฟ้ามีความสามารถในการสอดส่องความลับสวรรค์และสามารถทำนายอนาคตได้ในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ท่านโหราจารย์จึงไม่สามารถแทรกแซงเรื่องที่เขาทำนายได้ ทำได้เพียงวางหมากและผลข้างเคียงอย่างลับๆ สอดส่องความลับสวรรค์เป็นการทำลายกฎธรรมชาติ หากความลับรั่วไหล สวรรค์ก็จะลงโทษโดยตรง แต่นี่ก็ยังไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญคือ…ห้าร้อยปีก่อน ท่านโหราจารย์ไม่ใช่ปรมาจารย์ลิขิตฟ้า เขาจะทำนายอนาคตได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร!”

สีหน้าของสวี่ชีอันแทบจะดูไม่ได้ ราวกับทัศนคติทั้งสามพังทลายลงแล้ว

“ดูเหมือนเจ้าจะคิดอะไรออกงั้นรึ?” ชายชราเห็นสีหน้าของเขาไม่ปกติอย่างมากจึงขมวดคิ้วถาม

สวี่ชีอันไม่ได้ตอบกลับ แต่สีหน้ายังคงดูไม่ได้เช่นเดิม เขาใช้เวลาอยู่นานถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้

หลังจากนั้น จากข้อมูลนี้ก็ทำให้เขาเดาออกสามข้อและเกิดความสงสัยหนึ่งข้อ

เดาข้อที่หนึ่ง คนที่ทำนายเหตุการณ์ห้าร้อยปีต่อมาในตอนนั้นไม่ใช่ท่านโหราจารย์ แต่เป็นโหราจารย์รุ่นที่หนึ่ง

หากเป็นเช่นนี้จริงๆ ความลับที่เกี่ยวข้องในนั้นก็น่ากลัวมาก

เดาข้อที่สอง ตัวตนของท่านโหราจารย์คนปัจจุบันมีปัญหา มีความเป็นไปได้อย่างมากที่เขาจะเป็นโหราจารย์รุ่นที่หนึ่ง ลูกศิษย์ในตอนแรกอาจจะเป็นหุ่นเชิดของรุ่นที่หนึ่ง

แต่หากเป็นเช่นนี้ ทำไมรุ่นที่หนึ่งถึงครุ่นคิดอย่างหนักในการ ‘ฆ่าตัวตาย’ จุดประสงค์คืออะไรกัน?

นอกจากนี้ พระโพธิสัตว์ของสำนักพุทธก็เข้าร่วมในเรื่องนี้ด้วย พระโพธิสัตว์ทุกองค์ล้วนมีอานุภาพล้นฟ้า จึงยากมากที่รุ่นที่หนึ่งคิดจะซ่อนหุ่นเชิดจากพวกเขา

เดาข้อที่สาม สองข้อก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้องทั้งหมด เรื่องที่ท่านโหราจารย์คนปัจจุบันสามารถทำนายเหตุการณ์ห้าร้อยปีข้างหน้าได้เป็นเพราะตัวเขาเองมีปัญหา

สำหรับข้อสงสัย…

ตอนนี้เมื่อนึกย้อนไปถึงระบบโหร คำสาปที่ลูกศิษย์ทรยศอาจารย์นั้น ความจริงก็ยังมีความขัดแย้งอยู่

ท่านโหราจารย์คนปัจจุบันน่ากลัวเพียงใด รุ่นที่หนึ่งน่ากลัวเพียงใด

ท่านโหราจารย์คนปัจจุบันสามารถทำนายอนาคตได้ รุ่นที่หนึ่งก็ทำได้ เขาสามารถหาทางกำจัดจักรพรรดิอู่จงก่อนที่จะก่อกบฏได้อย่างสมบูรณ์

แม้ว่าปรมาจารย์ลิขิตฟ้าจะไม่สามารถแทรกแซงอนาคตได้ แต่สวี่ชีอันเชื่อว่าในช่วงชีวิตการรบของจักรพรรดิอู่จงต้องมีสถานการณ์รอดตายมานับครั้งไม่ถ้วน

ตราบใดที่โหราจารย์รุ่นที่หนึ่งคว้าโอกาสในการสร้างผลกระทบข้างเคียง จักรพรรดิอู่จงก็จะสวรรคต

โหราจารย์รุ่นที่หนึ่งสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ยังมีวิธีการที่คล้ายกันอีกมากมาย โหราจารย์รุ่นที่หนึ่งมีความสามารถในการทำให้จักรพรรดิอู่จงหาโอกาสที่จะก่อกบฏไม่ได้

ตรรกวิทยานี้ มองผ่านๆ จะดูเหมือนยืนยันการคาดเดาข้อที่หนึ่งและข้อที่สองได้แล้ว แต่ความจริงก็สามารถยืนยันการคาดเดาข้อสามได้เช่นกัน

หากตัวท่านโหราจารย์คนปัจจุบันมีปัญหา เช่นนั้นก็สามารถทำลายตรรกวิทยานี้

“อีกหนึ่งคำอธิบายคือ โหราจารย์รุ่นที่หนึ่งมองเห็นการทรยศของโหราจารย์คนปัจจุบันล่วงหน้า แต่ไม่ได้ขัดขวางและเลือกที่จะเล่นเกมกับเขา เช่นเดียวกับทัศนคติของโหราจารย์คนปัจจุบันที่มีต่อสวี่ผิงเฟิง ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการทรยศข้า แต่ข้าไม่ขัดขวาง พวกเราใช้วิธีการของโหรมาสู้สุดตัวครั้งสุดท้าย ว่าตามคำพูดของสวี่ผิงเฟิง นี่คือคำสาปของระบบโหรที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เว้นแต่จะทำให้ระบบโหรถูกตัดขาด ตราบใดที่ต้องการสืบทอดต่อไปก็จำเป็นต้องรับลูกศิษย์ หลังจากนั้นก็ยอมรับการทรยศของลูกศิษย์ หรือที่เรียกติดปากกันว่า…กฎของเส้นทางสายนี้!”

นอกจากการคาดเดาทั้งสามข้อและข้อสงสัยอีกหนึ่งข้อแล้ว ในใจของสวี่ชีอันยังมีเหตุผลข้อหนึ่งที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

เหตุผลนี้ไม่มีทฤษฎีสมทบอะไรมากมายนัก ความจริงก็คือ ท่านโหราจารย์ในตอนนั้นเป็นนักการเมืองเฒ่าที่เอาแต่หลอกคนอื่นไปทั่วจริงๆ

อย่างที่ทราบกันว่า นักการเมืองในโลกนี้ล้วนทำการต่อรองไว้ก่อนเพื่อผลประโยชน์ในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ท่านโหราจารย์เลื่อนสู่ขั้นหนึ่งอย่างราบรื่น กลับกลัวการแก้แค้นจากจอมยุทธ์หยาบคายคนหนึ่งงั้นรึ?

ห้าร้อยปีต่อมา ตาเฒ่าพึ่งพารากบัวเก้าสีในการเลื่อนขึ้นสู่ขั้นสองจริงๆ เป็นไปได้ว่าหลังจากผ่านไปหลายปี ท่านโหราจารย์ค้นพบว่าตนเองสามารถรักษาสัญญาได้ด้วยการช่วยเหลือรากบัวเก้าสี ด้วยเหตุนี้เขาจึงวางแผนและดำเนินการ

แท้จริงแล้วไม่มีสิ่งที่เรียกว่าการทำนายห้าร้อยปีนี้อยู่เลย

เมื่อวิจารณ์ด้วยจิตใจที่สงบแล้ว สวี่ชีอันรู้สึกว่านี่คือความจริง

เหตุผลนั้นง่ายมาก เรื่องการทำนายบางสิ่งบางอย่างได้อย่างแม่นยำในอีกห้าร้อยปีต่อมา ความสามารถเช่นนี้ ผู้บำเพ็ญขั้นหนึ่งไม่สามารถกระทำได้

แม้ระดับเหนือมนุษย์ก็ยังทำไม่ได้

ตอนนี้เขาก็ไม่ใช่มือสมัครเล่นที่เพิ่งมาเยือนเป็นครั้งแรก เขาสังหารจักรพรรดิเจินเต๋อขั้นสอง เอาชนะร่างธรรมขั้นหนึ่ง แม้ว่าจะไม่เคยสัมผัสกับเหนือมนุษย์ แต่ในใจก็ยังมีความคิดเล็กน้อย

สวี่ชีอันรวบรวมความคิดที่กระจัดกระจายและถามว่า “ผู้อาวุโสจะตัดสินอย่างไร คำสัญญาที่ท่านโหราจารย์พูดถึงคือข้างั้นรึ?”

ชายชราถอนหายใจกล่าวว่า “ตอนนั้นตาเฒ่านั่นเคยพูดกำชับประโยคหนึ่งว่า ใช้ชีวิตต่อไปให้ดี วันที่เจ้าผสานเต๋าคือเวลาที่ผู้คนที่ราบลุ่มกลางต้องการเจ้า แน่นอนว่าบางทีอาจจะเป็นเพียงข้ออ้าง โหรมักจะใช้คำพูดเก่ง แต่ในเมื่อข้าเลื่อนขั้นสำเร็จแล้ว นั่นจึงถือว่าเขาบรรลุคำสัญญา”

…สวี่ชีอันกังวลมาก

เวลานี้ มีคนบินขึ้นมาบนยอดผาในพริบตาและหยุดลงในระยะไกล ยกมือขึ้นมาประสานกันระดับหน้าอกพลางกล่าวว่า “ท่านบรรพชน ข้ารุ่นน้องเวินเฉิงปี้”

สีหน้าของชายชรามีความสับสนเล็กน้อย

สวี่ชีอันช่วยแนะนำ

“นี่คือรองผู้นำพันธมิตรกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ของพวกเจ้า”

ชายชราพยักหน้าทันทีและถามว่า “มีเรื่องอันใดรึ?”

เวินเฉิงปี้พูดถึงปัญหาที่กลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์กำลังเผชิญอยู่ก่อนจะถามหยั่งเชิงว่า “หากขยายกองกำลังโดยมีกองทหารรักษาการณ์ชายแดนเป็นแกนหลักจะสามารถช่วยประหยัดกำลังคนและทรัพยากรได้มาก เฉาเหมิงจู่ยังลังเลไม่ตัดสินใจและสั่งให้ข้ามาขอความคิดเห็นจากท่านบรรพบุรุษ”

ปัญหาหลักคือเงินทุนไม่เพียงพอสินะ…สวี่ชีอันได้ข้อสรุปแล้ว

ในยุคที่อุปกรณ์ด้อยพัฒนา การทำการก่อสร้างเป็นการใหญ่มีค่าใช้จ่ายสูงมากในแง่ของเงินและกำลังคน ในประวัติศาสตร์ที่สวี่ชีอันคุ้นเคย มีไม่น้อยที่ประเทศถูกปราบปรามลงเนื่องจากการก่อสร้างขนาดใหญ่

ราชวงศ์สุยและราชวงศ์ฉินเป็นตัวอย่าง ถึงแม้การล่มสลายของราชวงศ์จะมีสาเหตุเพียงประการเดียวไม่ได้และจำเป็นต้องมีปัจจัยอื่นๆ แต่เหตุผลนี้ทำให้คนรุ่นหลังขึ้นสวมมงกุฎได้

นี่เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าการก่อสร้างขนาดใหญ่ใช้แรงงานจำนวนมากและมีค่าใช้จ่ายสูงเพียงใด

ชายชรากล่าวพึมพำว่า “เรื่องเงินไม่เป็นไร เงินเหล่านั้นที่ถูกฝังอยู่ด้านล่างภูเขา ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบในการค้นหาเอง ส่วนกลางยังคงสร้างอยู่บนภูเขา คงไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว”

สวี่ชีอันเข้าใจความหมายของเขา ความโกลาหลกำลังใกล้เข้ามา ส่วนกลางของกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์เป็นเหมือนทางผ่านที่อันตราย ซึ่งสามารถโจมตีและป้องกันได้

หากมันถูกสร้างขึ้นในค่ายทหารรักษาการณ์ชายแดนที่มีภูมิประเทศราบเรียบ เช่นนั้นก็จะพ่ายแพ้ทันทีเมื่อข้าศึกมาถึง

เวินเฉิงปี้กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “แต่ด้วยวิธีนี้ เงินที่สะสมมาหลายปีในกลุ่ม เกรงว่า…คิดเสียว่าเป็นวันธรรมดาแล้วกัน พี่น้องส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างอดออม แต่ตอนนี้มีหายนะไปทั่ว หากไม่มีเงินสำหรับบรรเทาภัยพิบัติ สถานการณ์ในเจี้ยนโจวอาจตกอยู่ในความโกลาหล”

ชายชรากล่าวทันทีว่า “เช่นนั้นก็ให้พี่น้องในกลุ่มทำด้วยกันกับพลทหาร”

เวินเฉิงปี้ส่ายศีรษะ “กำลังคนไม่พอแล้วขอรับ”

ชายชราขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองสวี่ชีอันและกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

สวี่ชีอันกล่าวด้วยความไม่พอใจ “เรื่องง่ายมาก จัดหางานเพื่อบรรเทาความยากจน รวบรวมผู้ประสบภัยในการสร้างส่วนกลาง ไม่ให้เงินแต่ให้อาหาร ไม่เพียงแก้ปัญหาอาหารและเสื้อผ้าของผู้ประสบภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดเงินอีกด้วย”

ดวงตาของเวินเฉิงปี้เป็นประกายในทันใด เขากล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ฆ้องเงินสวี่มีความคิดที่ยอดเยี่ยมมาก สมแล้วที่เป็นฆ้องเงินสวี่ คิดแผนการอันชาญฉลาดเช่นนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ”

นี่ไม่ใช่แผนการอันชาญฉลาด แต่เป็นประเพณีต่างหาก…สวี่ชีอันพยักหน้าอย่างสงวนท่าที

“มันไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์!” ชายชราขมวดคิ้วแน่น

ที่ผ่านมาไม่มีแบบอย่างสำหรับการทำงานเพื่อบรรเทาทุกข์ โดยปกติผู้ประสบภัยจะรับประทานโจ๊กที่ราชสำนักหรือมีครอบครัวมั่งคั่งบริจาคให้ด้วยความสบายใจ รอให้ภัยพิบัติสิ้นสุดลงและฟื้นตัว

แม้ว่าจะมีเหตุการณ์เล็กน้อยเกี่ยวกับอาหารสำหรับการทำงานเป็นครั้งคราว แต่ก็ยากที่จะกลายเป็นกระแสหลัก

“ท่านบรรพชน แผนการนี้ชาญฉลาดมาก” เวินเฉิงปี้กล่าวอย่างเร่งรีบ “ในเวลาพิเศษ เราควรดำเนินการในลักษณะที่พิเศษ ขอท่านบรรพชนโปรดเห็นด้วยขอรับ”

ชายชราเพียงแค่โบกมือราวกับขี้เกียจเกินไปที่จะสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้

“ไปเถอะ”

สวี่ชีอันมองเวินเฉิงปี้จากไปและกล่าวว่า “ท่านอาวุโส ตอนนี้ข้าอยู่ขั้นสามแล้ว ขั้นต่อไปก็เป็นการผสานเต๋า แต่จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของการผสานเต๋าเลย”

ชายชราไม่ปิดบังสิ่งที่ตนรู้ “ผสานเต๋าคือการเปลี่ยนแปลง ‘เจตนา’ ข้าเรียกมันว่าเป็นการเติมเต็มวิทยายุทธของตนเอง จอมยุทธ์ขั้นสี่ทุกคนล้วนทำได้เพียงเข้าใจ ‘เจตนา’ เท่านั้น ซึ่งเป็นวิทยายุทธที่ตนเลือก เจตนาคือต้นแบบของเต๋า เติมเต็มเส้นทางที่ตนเองเดินให้สมบูรณ์ เป็นความหมายที่แท้จริงของการผสานเต๋าขั้นสอง แต่การพูดย่อมง่ายกว่าการลงมือทำ ตลอดชีวิตของข้า ข้าฝึกฝนทักษะดาบอย่างหนัก รวบรวมทักษะปรมาจารย์ดาบต่างๆ และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว แต่สุดท้ายก็ยังคงติดอยู่ระดับสูงสุดของขั้นสอง และยังเกือบจะล้มเหลวในการผสานเต๋า”

สวี่ชีอันรีบถามต่อว่า “ท่านอาวุโสผสานเต๋าได้อย่างไร?”

“มีวิถีแห่งดาบเป็นพันวิธี หากเข้าใจความหมายที่แท้จริงก็จะผสานเต๋าได้ แต่มีเส้นทางนับไม่ถ้วนที่จะนำไปสู่ความหมายที่แท้จริง ระหว่างที่ข้าเก็บตัว ร่างกายของข้ากลายเป็นชิ้นเนื้อ เนื้อทุกชิ้นแสดงถึงเส้นทางการใช้ดาบที่แตกต่างกัน พวกมันทั้งหมดมีวิธีคิดเป็นของตนเองและคิดว่าตนเองถูกต้อง”

“รากบัวเก้าสีช่วยให้คนผสานเต๋าได้หรือไม่?”

“เม็ดบัวเก้าสีดลบันดาลทุกสิ่ง รากบัวก็ย่อมทำได้เช่นกันและยังทรงพลังกว่าด้วย บทบาทของมันคือดลบันดาลผู้คนนับหมื่นที่ติดอยู่ในหนองเลน แน่นอนว่า ‘ข้า’ กำหนดให้ ‘ข้า’ มีตำแหน่งที่เหนือกว่า เม็ดบัวไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะบรรลุผลดังกล่าว แต่รากบัวเก้าสีทำได้ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ตอนนั้นชิงหยางต้องการแย่งชิงรากบัวเก้าสีแทนข้า”

รากบัวเก้าสีค่อนข้างคงที่และมั่นคง ซึ่งมีบทบาทในการเร่งปฏิกิริยาและเสถียร…สวี่ชีอันเข้าใจโดยทั่วไป

ข้ายังมีรากบัวเก้าสีเล็กๆ ท่อนหนึ่ง อืม ให้หนานจือเพาะเลี้ยงรากบัวให้ข้าต่อไป ด้วยวิธีนี้ ข้าจะก้าวสู่ขั้นสองและอาจจะไม่จำเป็นต้องฉกชิงหลิงยวิ่นของนางไป

ก่อนที่สวี่ชีอันจะส่งมอบรากบัวเก้าสี เขาได้เฉือนท่อนเล็กๆ ออกมาไว้กับตัว เหมือนกับรากบัวเก้าสีในตอนนั้น

สมบัติธรรมชาติเช่นนี้ ต้องทำให้มันพัฒนาต่อไปแน่นอน

เขาบอกลาชายชราและกลับไปยังค่ายทหาร สวี่ชีอันเสาะหาช่วงหนึ่งของลานบ้าน ก่อนจะเชิญมู่หนานจือและไฉซิ่งเอ๋อร์มา ฝ่ายหลังถูกจองจำอยู่ในเจดีย์พุทธะมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้อวัยวะสำคัญในร่างกายอ่อนแอลง สวี่ชีอันจึงวางแผนที่จะปล่อยออกมาช่วงเวลาหนึ่ง

นางยังคงมีประโยชน์ สุสานใหญ่ที่ได้รับการปกป้องโดยบรรพบุรุษตระกูลไฉ มันสามารถดึงดูดความสนใจจากสวี่ผิงเฟิงได้ เจ้าของสุสานไม่ธรรมดาจริงๆ

มู่หนานจือสวมเสื้อนวมปุยฝ้ายสีพลัมและกระโปรงจับจีบราบเรียบแต่เปล่งประกายออร่าของเด็กสาวในตระกูลที่ร่ำรวย

แม้ว่ารูปลักษณ์ของนางจะดูธรรมดาแต่ก็ยากที่จะซ่อนเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของนางได้

สุนัขจิ้งจอกสีขาวฉวยโอกาสตอนที่สวี่ชีอันเดินจากไปในการรีบกล่าวว่า “ท่านป้า ข้าปวดฉี่”

นางกระโดดออกจากอ้อมแขนของมู่หนานจือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงและวิ่งจากไปด้วยความดีอกดีใจ

มันแสดงพลังเหนือธรรมชาติ กลายเป็นเงาสีขาว กะพริบวูบวาบในค่ายทหาร ห่างไกลออกไปจากอาคารที่ซับซ้อน จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในเทือกเขาฟู่หลงที่เต็มไปด้วยป่าไม้อันกว้างใหญ่

ช่วงเวลาหนึ่งถ้วยชา ไป๋จีก็แอบเข้าไปในภูเขาลึกอันเก่าแก่ซึ่งอยู่ห่างจากยอดสูงสุดของเทือกเขาเฉวี่ยนหรง

มันกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อเลือกก้อนหินสูงในการกระโดดขึ้นไป

องค์หญิงเยื้องกรายมาถึงอย่างเอิกเกริก

…………………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 637 ห้าร้อยปีต่อมา"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF