cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 614 บุตรในเงามืด

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 614 บุตรในเงามืด
Prev
Next

บทที่ 614 บุตรในเงามืด

หวางโหยวเขียนข้อมูลที่สืบมาลงในจดหมายลับ และในส่วนสุดท้ายเขาก็เขียนสรุปของตัวเองเพิ่ม

“ลูกๆ ของเฉาชิงหยางยังเด็ก พวกเขาถูกเลี้ยงดูในคฤหาสน์ลึก ไม่ค่อยได้ติดต่อกับคนภายนอก และดูไม่แตกต่างจากคนทั่วไป เด็กๆ เพิ่งอยู่ระดับก่อปัญญา สติปัญญายังไม่เจริญเต็มที่ แม้ว่าจะมีปราณมังกรสถิตร่าง เกรงว่าก็ยังไม่อาจแสดงอิทธิฤทธิ์ได้ ข้าไม่สามารถสืบเรื่องปราณมังกรได้ หวังว่าใต้เท้าจะหาวิธียืนยันได้แต่เนิ่นๆ บรรพชนแห่งกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ยังคงเร้นกายอยู่ ด้านหลังภูเขาเป็นเขตหวงห้าม นอกจากเฉาชิงหยางแล้ว ผู้ใดที่บุกรุกเข้าไปจะถูกสัตว์ร้ายแห่งภูเขาเฉวี่ยนหรงสังหาร แต่หลังจากไปสืบมา ข้าก็พบว่าบริเวณรอบๆ ด้านหลังภูเขามีกองกำลังลับกลุ่มหนึ่งเฝ้ายามอยู่ ข้าจึงคิดว่าสภาพของบรรพชนแห่งกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์อาจจะแย่ลงเรื่อยๆ”

เมื่อเขียนเสร็จ เขาก็เป่าหมึกให้แห้งและผิวปาก

ครู่หนึ่ง นกป่าสีดำตัวหนึ่งก็บินมาจากป่าในลานหลังบ้าน และร่อนลงมาเกาะหน้าต่างที่เปิดอยู่ ดวงตาสีดำจ้องมองเขาอย่างเงียบๆ

หวางโหยวหยิบกระบอกไม้ไผ่ออกมาผูกไว้ที่ขาของนกป่าแล้วลูบหัวมัน

นกป่ากระพือปีกบินออกไป

หวางโหยวมองส่งนกป่าจนลับตาไปแล้วถอนหายใจ

นกชนิดนี้เป็นนกป่าธรรมดา มันไม่เด่นสะดุดตาเท่านกพิราบส่งสาร การใช้นกพิราบส่งสารในกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์นั้นถือเป็นการดูถูกไอคิวของกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์และไม่รับผิดชอบชีวิตตัวเอง

การใช้นกป่าที่พบเห็นได้ทั่วไปจึงสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงส่วนใหญ่ได้ดีกว่า

ภูเขาเฉวี่ยนหรงทอดยาวนับร้อยลี้ ป่าดงดิบก็กว้างใหญ่ และสิ่งที่ไม่ได้ขาดแคลนเลยก็คือนกป่า

แน่นอนว่ายังคงมีความเสี่ยงที่จะถูกคนยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นหากไม่ใช่ข้อมูลสำคัญก็จะไม่ใช้นกพิราบส่งสาร

ประเด็นสำคัญคือ นกชนิดนี้ได้รับการฝึกฝนโดยปรมาจารย์ซินกู่แห่งเผ่าพันธุ์กู่ ดังนั้นจึงสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารได้

หวางโหยวปิดหน้าต่าง เติมถ่านไฟหนึ่งกำมือในเตา คลุมร่างด้วยหนังแกะหนาและนอนลงบนเตียง ก่อนจะหลับไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด ใบหูของเขาที่กำลังหลับใหลก็ขยับ เขาตื่นขึ้นในทันทีแล้วเอื้อมมือไปแตะมีดสั้นที่อยู่ใต้หมอน

‘ตุบ!’

ขณะเดียวกับที่เขาจับมีดสั้น ศีรษะของเขาก็ถูกอาวุธที่ไม่มีคมฟาดเข้าอย่างแรง ความคิดทั้งหมดพลันหายไป

ขณะที่สะลึมสะลือ และไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ความหนาวเย็นที่เสียดแทงเข้ากระดูกก็รดบนใบหน้า หวางโหยวตื่นขึ้นพร้อมกับคร่ำครวญ

แววตาของเขาเปลี่ยนจากว่างเปล่าเป็นเฉียบคมในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที เขาระงับความตื่นตระหนกในใจแล้วมองไปรอบๆ อย่างใจเย็น

ในเวลาเดียวกันเขาก็รับรู้ถึงสภาพร่างกายของเขา เขาถูกมัดไพล่หลังไว้ ร่างทั้งร่างอ่อนปวกเปียก ดูเหมือนจะถูกวางยาสลบ

นี่เป็นห้องที่ปิดสนิท บนกำแพงหินมีเครื่องทรมานแขวนอยู่ เช่น โซ่ตรวน กระบองหนามและกุญแจมือ

ตรงมุมห้องก็มีเครื่องทรมานขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ เช่น ตั่งเสือนั่ง มีดสับเท้า และโต๊ะถลกหนัง

นอกจากนี้ หวางโหยวยังเห็นเครื่องมือทรมานที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับนักโทษหญิงด้วย เช่น ลาไม้ คนขี่นับพันและอื่นๆ

ภายในห้องลับกระถางถ่านกำลังลุกไหม้ บนเก้าอี้ทางซ้ายของกระถางถ่านมีชายชุดดำคนหนึ่งนั่งอยู่

บนแก้มซ้ายของเขามีแผลเป็นน่าเกลียดน่ากลัว หน้ายาวเหมือนม้า ดวงตาเท่าเมล็ดถั่วเขียว หน้าตาน่าเกลียดพอๆ กับรอยแผลเป็น

หวางโหยวรู้จักเขา เขาคือหัวหน้าผู้คุมเรือนจำของกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ที่รับผิดชอบการลงโทษ

“ชื่อจริงของเจ้าชื่ออะไร”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำยิ้มตาหยี

หวางโหยวแสดงสีหน้าตื่นตระหนกและสับสนออกมา ก่อนจะตอบอย่างเกรงกลัว

“ผู้น้อยชื่อหวางโหยว เป็นพลธนูผู้เฝ้ายอดเขาทิศใต้ ไม่ทราบว่ากระทำผิดอันใด ขอหัวหน้าผู้คุมเรือนจำชี้แจงด้วย”

“ไม่ไม่ไม่!” หัวหน้าผู้คุมเรือนจำโบกมือไปมาและอธิบายอย่างจริงใจ

“อย่าดูถูกตัวเองจนเกินไป เจ้าไม่ได้แค่ทำผิด แต่เจ้าก่ออาชญากรรมร้ายแรง”

หวางโหยวหน้าถอดสีและตะโกนเสียงดัง “ผู้น้อยจงรักภักดีและรับใช้กลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์มาหลายปี จะก่ออาชญากรรมร้ายแรงได้อย่างไร หัวหน้าผู้คุมเรือนจำอย่าปรักปรำผู้น้อย”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำยิ้ม

“เจ้าคิดว่า นายน้อยกับคุณหนูยังเด็ก แต่คงไม่ตายด้วยฝ่ามือของศัตรู เรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ คิดว่าเฉาเหมิงจู่จะไม่สนใจหรือ จะไม่ตรวจสอบหรือ เจ้าลองคิดดูสิ วันนั้นมีองครักษ์เป็นจำนวนมาก คนอื่นๆ ล้วนปิดปากเงียบ แล้วเหตุใดผู้เฒ่าโจวจึงไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดปาก”

“ข้าเอาฟันปลอมซี่นั้นของเจ้าออกให้แล้ว ข้างในมียาพิษอยู่ ข้าทดสอบกับสุนัขดูแล้วมันก็ตายในทันที จุ๊ๆ พิษนี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะกลั่นได้”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำยังคงยิ้มตาหยี “ชื่อจริงของเจ้าชื่ออะไร”

หวางโหยวก้มศีรษะลงและแก้ตัว “ผู้น้อยเพียงแค่อยากรู้อยากเห็นจึงถามผู้เฒ่าโจว หัวหน้าผู้คุมเรือนจำเข้าใจผิดแล้ว”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำยิ้ม

“ข้าไม่เคยถามรอบที่สาม แม้ว่าข้าจะไม่ชอบทรมานใคร แต่ก็ไม่เคยคัดค้านการใช้วิธีโหดร้ายเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อืม เทียบกับการลงโทษทั่วไปแล้ว ข้าชอบใช้วิธีอื่นมากกว่า เปลี่ยนเป็นวิธีใหม่ๆ แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจพอ ตัวอย่างเช่น เครื่องทรมานคนขี่นับพันก็สามารถใช้จัดการกับผู้ชายได้เหมือนกัน ถอดกางเกงเขาออก”

ผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนก้าวไปข้างหน้า ยกหวางโหยวที่ร่างกายอ่อนปวกเปียกขึ้นและจับเขานอนบนเครื่องทรมาน ก่อนใช้เชือกมัดเขาไว้แน่น

ประเด็นสำคัญคือ รูปลักษณ์ของ ‘คนขี่นับพัน’ นั้นคล้ายกับลำกล้องปืนใหญ่

หวางโหยวกัดฟัน ไม่พูดไม่จา เขารู้ว่าตัวเองกำลังจะเผชิญกับความอัปยศอดสูแบบไหน

แต่แล้วการกระทำของหัวหน้าผู้คุมเรือนจำก็ทำให้ทั้งสามคนซึ่งรวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาสองคนด้วยหน้าเปลี่ยนสี

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำหยิบคีมเหล็กที่อังอยู่ในกระถางถ่านขึ้นมาแล้วเป่าเบาๆ เหล็กสีแดงก่ำสะท้อนใบหน้าของเขา รอยยิ้มมุมปากลุ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ

หวางโหยวหน้าซีดเผือดทันที

ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองเกร็งกล้ามเนื้อส่วนบั้นท้าย

…

ยามค่ำคืนมืดมิด ลมหนาวพัดเย็นยะเยือก

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำสวมชุดคลุมสีดำและเดินนำผู้ติดตามสองคนเข้าไปในคฤหาสน์ผู้นำพันธมิตรท่ามกลางความมืดมิด

ภายในห้องโถง เฉาชิงหยางที่ได้รับแจ้งข่าวรออยู่ก่อนแล้ว เขาสวมเพียงชุดคลุมสีน้ำเงินตัวบาง ร่างกายกำยำหนาราวกับภูเขา สงบนิ่งและเก็บตัว

ใบหน้าไร้อารมณ์ทรงสี่เหลี่ยมแบบตัวอักษรจีนแฝงความจริงจังไว้

“ท่านผู้นำ!”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำประสานมือคำนับ

เฉาชิงหยางยกมือขึ้นเพื่อเชิญให้เขานั่งและสั่งให้คนรับใช้ยกน้ำชาร้อนๆ เข้ามา

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำดื่มชาร้อนอึกหนึ่งและเอ่ยขึ้นช้าๆ

“ข้าตรวจสอบจนแน่ชัดแล้ว หวางโหยวเป็นสายลับของตำหนักความลับสวรรค์ ลอบแทรกซึมเข้ามาในกลุ่มพันธมิตรเมื่อเจ็ดปีก่อน จากคำสารภาพของเขา เขาถูกส่งมาเพราะสายลับคนก่อนเสียชีวิตในอุบัติเหตุ แต่เขาไม่รู้ว่าสายลับคนก่อนเป็นใคร เสียชีวิตเมื่อไหร่”

เฉาชิงหยางขมวดคิ้วหนา กึ่งครุ่นคิดกึ่งไตร่ตรอง

“ตำหนักความลับสวรรค์หรือ ชื่อนี้ฟังดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับสำนักโหราจารย์”

ในฐานะหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์แห่งเจี้ยนโจว เขารู้ว่าโหรระดับสามคือปรมาจารย์ความลับสวรรค์

“ตำหนักความลับสวรรค์ไม่น่าจะเล่นงานข้า พวกเจ้าจับผิดคนหรือเปล่า”

เฉาชิงหยางขมวดคิ้ว

เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ภรรยาเขาถูกซุ่มโจมตีตอนกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ เห็นได้ชัดว่าในกลุ่มพันธมิตรมีสายลับคอยแพร่งพรายข้อมูล

เฉาชิงหยางแอบสืบสวนมาโดยตลอด เพื่อควานหาสายลับ

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำมีสีหน้าประหลาดใจ

“ผู้ใต้บังคับบัญชาตรวจพบเรื่องอื่นด้วย…”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำคิดคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง

“จากคำสารภาพของหวางโหยว เขากำลังมองหาสิ่งที่เรียกว่าปราณมังกร สิ่งนี้จะสถิตบนร่างของมนุษย์ เมื่อได้รับมันจะกลายเป็นคนโชคดีอย่างมากและแสดงความผิดปกติบางอย่างออกมา ตัวอย่างเช่น คนที่มีคุณสมบัติปานกลางจะเปิดปัญญาและกลายเป็นคนที่มีคุณสมบัติปราดเปรื่องในทันที ทหารระดับต่ำจู่ๆ ก็ตบะเพิ่มขึ้นสูงและบังเอิญเจอแต่ความโชคดีซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

พูดถึงตรงนี้ หัวหน้าผู้คุมเรือนจำก็เหลือบมองสีหน้าของเฉาชิงหยาง เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไม่พูดไม่จา จึงกล่าวต่อ

“เขาคิดว่า นายน้อยกับคุณหนูที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาอาจเป็นเพราะปราณมังกร แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ วันนี้นกป่านำสารไปส่งให้ผู้บังคับบัญชาแล้ว และหวังว่าเขาจะหาวิธียืนยันได้ ระดับของหวางโหยวค่อนข้างต่ำ ส่วนเรื่องภายในและภูมิหลังของตำหนักความลับสวรรค์ เขาไม่รู้มากนัก”

เฉาชิงหยางเงียบอยู่นาน ราวกับกำลังซึมซับข้อมูล ครู่หนึ่ง เขาก็ถามว่า

“ปราณมังกรหรือ”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำเอ่ยขึ้น “ผู้ใต้บังคับบัญชาก็สงสัยเช่นกัน แต่หวางโหยวเองก็ไม่รู้ว่าปราณมังกรคืออะไรกันแน่ ตำหนักความลับสวรรค์น่าจะใช้วิธีหว่านแหเพื่อค้นหาปราณมังกร เขาเพียงแค่เปิดเผยปรากฏการณ์ที่ปราณมังกรอาจทำให้เกิดขึ้น แต่ไม่ได้อธิบายลักษณะของมัน”

เฉาชิงหยางเคาะนิ้วกับโต๊ะและพูดช้าๆ

“จากที่กล่าวมา ตำหนักความลับสวรรค์นั่นมีวิธีสังเกตปราณมังกร แต่ข้ายังไม่พบว่าบนร่างของฉวนเอ๋อร์กับเสวี่ยเอ๋อร์มีสิ่งที่เรียกว่าปราณมังกรเลย อืม วิชามองปราณเป็นวิชาของโหร ตำหนักความลับสวรรค์คงมีความเกี่ยวข้องกับสำนักโหราจารย์จริง เรื่องนี้ไขข้อสงสัยของข้าแล้ว”

น่าเสียดายที่บรรพชนอยู่ในสภาพย่ำแย่อย่างมากหลังจากการสู้รบที่เมืองหลวงและต้องเข้าสู่นิทราไป มิเช่นนั้นในวันที่เด็กทั้งสองประสบอุบัติเหตุ เขาอาจจะหาคำตอบจากบรรพชนได้

เฉาชิงหยางดื่มชาอึกหนึ่งและถามว่า “หวางโหยวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่”

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำยิ้ม “ยังมีชีวิตอยู่ขอรับ สายลับทุกคนล้วนมีคุณค่า”

เฉาชิงหยางร้อง ‘อืม’ ออกมา

“หากเขาเป็นคนของสำนักโหราจารย์ก็ไว้ชีวิตเขาเป็นการชั่วคราวก่อน ส่งคนไปยังเมืองหลวงเพื่อหาคำตอบที่สำนักโหราจารย์”

เขาครุ่นคิด จากนั้นก็ยกมือขึ้นพลางพูดว่า “ไม่สิ อย่าเพิ่งแพร่งพรายตอนนี้ คอยฟังคำสั่งข้า”

ก่อนอื่นไปถามบรรพชนเพื่อยืนยัน ทำความเข้าใจปราณมังกรและฟังความคิดของบรรพชน

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลูกของเขา เขาจึงต้องรอบคอบ

หัวหน้าผู้คุมเรือนจำพยักหน้าแล้วลุกขึ้นประสานมือคารวะ “ผู้ใต้บังคับบัญชาขอตัว”

…

เฉาชิงหยางออกจากห้องโถง เลี้ยวเข้าไปลานด้านใน แยกตัวไปดูลูกชายกับลูกสาว

พวกเขาเป็นฝาแฝด ปีนี้อายุเจ็ดขวบ ต่างกันแค่อายุที่นั่ง

เมื่อหลายปีก่อนเฉาชิงหยางหมกมุ่นอยู่กับวิทยายุทธ หลังจากได้เป็นผู้นำพันธมิตร เขาก็ทำงานภายในกลุ่มพันธมิตรอย่างหนัก จนกระทั่งอายุสามสิบถึงแต่งงานมีลูก

แม้ว่ายังไม่แก่เกินไปที่จะมีลูก แต่เขาก็อายุมากแล้ว

ด้วยเหตุนี้เขาจึงรักฝาแฝดมาก

ภายในห้องโถงอันอบอุ่น ณ ลานด้านใน เฉาฉวนซึ่งเห็นดาบไม้ไว้ที่เอวกำลังเล่นอยู่ในห้องโถงที่มีถ่านไฟร้อนระอุ

แม่นมวิ่งไล่ตามเขาอยู่ข้างหลังและคอยเตือนให้เขาระวังกระถางถ่านอยู่ตลอดเวลา

เฉาเสวี่ยนั่งอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนแม่อย่างเงียบเชียบและอ่านหนังสือภาพสำหรับเด็กกับนาง

เมื่อเห็นเฉาชิงหยางเดินเข้ามา เฉาฉวนก็เลิกเอะอะทันที เฉาเสวี่ยก็นั่งตัวตรงอยู่ในอ้อมแขนแม่ ยืดร่างเล็กๆ ขึ้น

สองพี่น้องค่อนข้างกลัวพ่อผู้สำรวมกิริยา

เฉาชิงหยางถอดชุดคลุมออก ยื่นให้แม่นมที่เดินเข้ามาและกวักมือเรียก

“ฉวนเอ๋อร์ มานี่สิ”

เฉาฉวนยืนตัวตรงเบื้องหน้าเขาและตะโกนว่า “ท่านพ่อ!”

เฉาชิงหยางพยักหน้าเล็กน้อยและเผยรอยยิ้มออกมา “พ่อไม่ได้ทดสอบวิชาดาบของเจ้านานมากแล้ว”

เมื่อเขาเหลือบไปเห็นดาบไม้ที่เหน็บอยู่ตรงเอวลูกก็เอ่ยต่อ “แสดงให้พ่อดูหน่อยสิ”

“ขอรับ!”

เฉาฉวนพยักหน้าด้วยดวงตาที่สดใส ใบหน้าดูตื่นเต้นเล็กน้อย

เขาชักดาบไม้ออกมาทันทีและแสดงเพลงดาบที่เลียนแบบมา ซึ่งค่อนข้างทรงพลัง

ภรรยายิ้ม

“ไม่รู้เหตุใดฉวนเอ๋อร์ถึงจู่ๆ ก็เปิดปัญญาได้ สวามี เขาเหมือนกับท่านหรือไม่”

ตอนเฉาชิงหยางยังเด็กเคยถูกเยาะเย้ยว่าคุณสมบัติห่วยแตก แม้แต่ผู้นำพันธมิตรคนก่อนก็ถูกคนแอบเยาะเย้ยว่าไม่รู้จักดูคน

เขามีจิตใจแน่วแน่ หมกมุ่นอยู่กับการฝึกอย่างหนัก ชกหมัดแปดพันครั้งทุกวัน ทว่าวันหนึ่งหลังจากผ่านไปหลายปี จู่ๆ เขาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของฝั่งรุ่นเยาว์แห่งกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์

แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องราวดีๆ

เฉาชิงหยางไม่ยิ้มเลยแม้แต่น้อย เขาสวมเสื้อคลุมโดยไม่พูดอะไรและออกจากลานด้านในไป

เขาออกจากคฤหาสน์และมุ่งหน้าไปยังด้านหลังภูเขาโดยมีเป้าหมายชัดเจน

เขามีข้อสงสัยที่อยากถามบรรพชนอยู่เต็มไปหมด

ปราณมังกรคืออะไร เหตุใดถึงมาอยู่บนตัวลูกทั้งสองคนของเขา ทัศนคติของสำนักโหราจารย์ที่มีต่อสิ่งที่เรียกว่าปราณมังกรอีกและอื่นๆ

เขามาถึงหน้าผาอย่างรวดเร็ว ก่อนไปหยุดยืนตรงหน้าประตูหินที่ปิดสนิท

“ท่านบรรพชน ชิงหยางมีเรื่องจะสอบถาม”

เขาโค้งคำนับ

แม้จะตะโกนเรียกถึงสามครั้งแล้วก็ยังไม่มีการตอบกลับจากในประตูหิน

บรรพชนยังคงหลับใหลอยู่ เมื่อไหร่ถึงจะตื่นกัน การสู้รบที่เมืองหลวงในวันนั้นทำให้สภาพของเขาย่ำแย่ลงเรื่อยๆ แถมรากบัวเก้าสีที่สวี่ชีอันสัญญาว่าจะมอบให้ก็ยังมาไม่ถึง…ภายในใจของเฉาชิงหยางหนักอึ้ง เขากำลังจะตะโกนอีกครั้ง

ทันใดนั้นโคมสีแดงเลือดหมูสองโคมบนหน้าผาก็สว่างขึ้นและมองมาอย่างเย็นชา

เฉาชิงหยางรู้ว่า เป็นภูเขาเฉวี่ยนหรงที่คอยปกป้องบรรพชนกำลังบอกให้เขาออกไป อย่ารบกวน

เขาโค้งคำนับอย่างช่วยไม่ได้และเดินกลับไปทางเดิม

…

ณ เมืองเล็กๆ ตรงชายแดนเจียงโจว

เหมียวโหย่วฟางกัดปิงถังหูลู่แล้วพูดว่า

“ข้าพบว่าผู้ลี้ภัยที่อยู่ชายแดนนั้นมีเยอะกว่าที่อื่นมาก”

หลี่หลิงซู่ก็กัดปิงถังหูลู่เช่นกันแล้วพูดว่า

“นั่นเป็นเพราะที่นี่อยู่ใกล้กับเจี้ยนโจว ผู้ลี้ภัยต่างก็หนีไปที่นั่นกัน”

ใบหน้าของเหมียวโหย่วฟางเต็มไปด้วยความสงสัย “เจี้ยนโจวอุดมสมบูรณ์มากหรือ”

“ดินแดนที่ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลก็ต้องอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เจี้ยนโจวมีกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ ซึ่งถูกเรียกขานว่าเป็นผู้นำที่แท้จริงของเจี้ยนโจว แม้แต่สามกองแห่งเจี้ยนโจวยังต้องเกรงกลัว” หลี่หลิงซู่พูดจาฉะฉาน “ยุทธภพเจี้ยนโจวเป็นระเบียบมาก คนที่ก่อกรรมทำชั่วจะถูกกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์กำจัดด้วยวิธีสายฟ้าแลบ ตรงข้ามกับอวิ๋นโจวที่ฆาตกรมารวมตัวกัน ในเวลาเดียวกัน สถานที่ราชการกับกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ก็ถ่วงดุลกันและกัน จึงไม่มีใครกล้าทำตามอำเภอใจจนเกินไป”

“ข้าได้ยินมาว่าเจี้ยนโจวเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของวิทยายุทธ” เหมียวโหย่วฟางไม่ค่อยเชื่อจึงโต้แย้งว่า “จากที่เจ้าพูด ราชสำนักจะไม่สนใจเรื่องนี้เลยหรือ ปล่อยให้อิทธิพลของยุทธภพหนึ่งแผ่ขยายเช่นนี้”

“ข้าได้ยินว่ากลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์แห่งเจี้ยนโจวมีบรรพชนระดับบรรลุธรรมอยู่ ไม่รู้ว่าจริงไม่” หลี่หลิงซู่หัวเราะ

“เช่นนั้นเจ้าก็พูดจาเพ้อเจ้อแล้ว” เหมียวโหย่วฟางเบ้ปาก

ทั้งสองคนเริ่มโต้เถียงกันแล้วหัวข้อก็ค่อยๆ เบี่ยงเบนไปจาก ‘ผู้ลี้ภัย’ กับ ‘ความอุดมสมบูรณ์’

“หากเจ้าไม่เชื่อก็ไปถามสวีเชียนดูได้”

หลี่หลิงซู่ทำเสียงฮึดฮัด

ตัวตนกับสถานะของสวี่ชีอันจะต้องรู้ความลับเหล่านี้แน่

เหมียวโหย่วฟางมองมาทันที มู่หนานจือที่กำลังกินถังหูลู่กับไป๋จีที่กำลังเลียถังหูลู่ก็มองไปทางสวี่ชีอันผู้จูงม้าเข้ามาด้วยความสนใจอย่างยิ่ง

“ตาเฒ่าคนนั้นมีอยู่จริง และยังเป็นตาเฒ่าที่มีอายุเท่าๆ กับดินแดนอีกด้วย”

สวี่ชีอันพิจารณา “เพียงแต่ราชสำนักทนต่อการมีอยู่ของกลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ได้ ไม่ใช่เพราะกลัวทหารเหนือมนุษย์คนหนึ่ง ต้องรู้ว่า ในยุคที่ต้าฟ่งเจริญรุ่งเรือง อย่าว่าแต่ทหารเหนือมนุษย์หนึ่งคนเลย ทหารเหนือมนุษย์สองคนยังไม่เพียงพอให้มอง”

“นั่นเป็นเพราะอะไรหรือ” เหมียวโหย่วฟางงุนงงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เปี่ยมด้วยความสนใจ

หลี่หลิงซู่ฟังอย่างตั้งใจ เขารู้ว่าสวี่ชีอันมีเรื่องราวสนุกๆ ที่เป็นความลับมากมาย ตอนที่ตัวตนยังไม่ถูกเปิดเผย เขาก็ได้ฟังเรื่องราวที่เป็นความลับในสมัยโบราณมาจากเขา

ด้วยเหตุนี้เอง เขาถึงเชื่อมั่นในตัวตนของสวีเชียนโดยไม่สนใจรายละเอียดกับข้อบกพร่องบางอย่าง และไม่ได้มองข้ามตัวตนของเขา

สวี่ชีอันตอบ

“ในปีนั้นต้าโจวยังไม่สูญสิ้น เหล่าวีรบุรุษลุกฮือขึ้น ชาวยุทธภพคนหนึ่งจับมือกับกำลังพลกลุ่มหนึ่งในเจี้ยนโจวและเริ่มต้นการเดินทางเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ ต่อมา กำลังพลแต่ละฝ่ายก็ถูกกำจัดและรวมเข้าด้วยกัน เหลือเพียงสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือกองกำลังของจักรพรรดิผู้ก่อตั้งต้าฟ่ง อีกกลุ่มคือกองกำลังของทหารเจี้ยนโจวผู้นี้ ต้าโจวในเวลานั้นได้สูญสิ้นลง และที่ราบตอนกลางก็กำลังฟื้นฟู เขาไม่อยากฆ่าแกงมนุษย์อีก จึงนัดสู้กับจักรพรรดิผู้ก่อตั้งต้าฟ่ง ผู้ชนะได้ครอบครองที่ราบตอนกลาง ส่วนผู้แพ้ต้องล่าถอยไป ผลลัพธ์ในเวลาต่อมาพวกเจ้าก็รู้กันแล้ว ต้าฟ่งก่อตั้งมาได้ด้วยเหตุนี้

“ตอนแรกที่ได้ยินเรื่องนี้ ข้าเพียงแค่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของจักรพรรดิเกาจู่ ทว่าตอนนี้ข้าเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ตาเฒ่าแห่งเจี้ยนโจวผู้นี้ไม่มีความคิดที่จะตั้งตนเป็นจักรพรรดิเลย เขาก่อกบฏเพราะประชาชนในเวลานั้นไม่สามารถเลี้ยงชีพได้ ภายในใจเขา สิ่งที่แสวงหาน่าจะเป็นวิทยายุทธ กลับกันจักรพรรดิเกาจู่ไม่ค่อยสนใจวิทยายุทธและอายุยืนยาว เขาง่วนอยู่กับการตั้งตนเป็นจักรพรรดิ ทั้งสองคนแสวงหาสิ่งที่ต่างกัน จึงถูกลิขิตผลลัพธ์เอาไว้แล้ว

“เมื่อตาเฒ่าแห่งเจี้ยนโจวล่าถอยไป จักรพรรดิเกาจู่ก็ทำข้อตกลงกับเขาไว้สามข้อ และอนุญาตให้เขาเก็บกองกำลังที่อยู่ใต้บังคับบัญชาโดยตรงไว้ในเจี้ยนโจว เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้ตัวเองและคนรุ่นหลัง จนถึงตอนนี้ ทัศนคติของจักรพรรดิที่มีต่อเจี้ยนโจวนั้นไม่สำคัญแล้ว แต่ทัศนคติของท่านโหราจารย์คือกุญแจสำคัญ เจี้ยนโจวสามารถอยู่มาได้จนถึงตอนนี้เป็นเพราะท่านโหราจารย์ยินยอม”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ สวี่ชีอันก็ถอนหายใจ

ตอนนี้คิดๆ ดูแล้ว กลุ่มพันธมิตรจอมยุทธ์ก็เป็นหนึ่งในหมากของท่านโหราจารย์เช่นกัน

ไม่รู้ว่าหมากบนกระดานของเฒ่าเหรียญปากผีคนนี้เหลืออีกกี่ตัว

ปรมาจารย์ลิขิตฟ้าเป็นผู้เล่นหมากรุกโดยกำเนิด…สวี่ชีอันลอบทอดถอนใจ

…

ณ อวิ๋นโจว เมืองเฉียนหลง

ภิกษุที่สวมผ้ากาสาวะเรียบง่าย เผยหน้าอกกำยำครึ่งหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงโต๊ะน้ำชา

“เจ้าวางแผนมาตั้งหลายปี คงไม่ได้ไม่นึกถึงวันนี้ไว้หรอกนะ”

พระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่เหลือบมองโหรชุดขาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม

เขาหมายถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากของอวิ๋นโจวในเวลานี้

ท่านโหราจารย์ถูกกันไว้ด้านนอกอวิ๋นโจว ใครกล้าออกไปก็เตรียมใจตายเป็นคนแรกได้เลย

แน่นอนว่า สำหรับพระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่แล้ว มันก็เป็นแค่ความแข็งกร้าว

แม้ว่าที่ราบตอนกลางจะเป็นดินแดนของท่านโหราจารย์ เขาก็สามารถนอนราบได้

ในฐานะที่เขาเป็นผู้ควบคุมร่างธรรมแห่งวชิระและร่างธรรมแห่งมัญชุศรี ไม่มีใครในขั้นหนึ่งสามารถสังหารเขาได้

หากสวี่ผิงเฟิงเริ่มก่อจลาจล เขาจะรับผิดชอบตรึงท่านโหราจารย์ไว้ ส่วนสวี่ผิงเฟิงรับผิดชอบบุกเมืองและชิงพื้นที่

แต่พระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่รู้สึกว่า หากวันนี้สวี่ผิงเฟิงไม่อาจแก้ไขวิกฤตตรงหน้าได้ พันธมิตรผู้นี้ก็คงไร้ประโยชน์เกินไป

สวี่ผิงเฟิงยิ้ม “อย่าวิตกไป อ๋องสยบแดนเหนือกับเว่ยเยวียนเป็นหมากด้านสว่างที่ท่านอาจารย์โหราจารย์วางไว้ เขายังมีบุตรในเงามืดอีกมากมายรอให้ไปข้ากำจัดทีละคน”

…………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 614 บุตรในเงามืด"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF