cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 609 มหาราชครูผู้เสียศักดิ์ศรียามชรา (2)

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 609 มหาราชครูผู้เสียศักดิ์ศรียามชรา (2)
Prev
Next

บทที่ 609 มหาราชครูผู้เสียศักดิ์ศรียามชรา (2)

ฮว๋ายชิ่งมองขันทีครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยว่า

“ฝ่าบาทอนุญาตให้คุณหนูสกุลสวี่เข้าเรียนในวังเป็นกรณีพิเศษ”

ฮว๋ายชิ่งจึงเอ่ยว่า “ข้าจะพานางไปห้องศึกษาเอง”

ขันทีไม่กล้าปฏิเสธ จึงโค้งตัวแล้วถอยออกไป

“ไปกันเถอะ” ฮว๋ายชิ่งมองเสี่ยวโต้วติงด้วยหน้าตาที่อ่อนโยน

นางกับคุณหนูสกุลสวี่คลุกคลีกันไม่มากนัก เคยเจอหน้ากันที่พิธีศพของสวี่ชีอันเท่านั้น ต่อจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเท่าไร

อย่างไรเสียไม่ว่าความสัมพันธ์กับสวี่ชีอันจะดีเพียงใด จะชื่นชมสวี่เออร์หลางแค่ไหน ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะติดต่อกับเด็กอ่อนเยาว์อายุหกเจ็ดขวบ

นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลี่น่ารับสวี่หลิงอินเป็นศิษย์ ยิ่งกว่านั้นยังไม่รู้ความร้ายกาจของเสี่ยวโต้วติง

หมายเลขหนึ่งเย็นชามาแต่ไหนแต่ไรและไม่ค่อยเข้ากับผู้อื่น สมาชิกพรรคฟ้าดินคงไม่มีใครพูดเรื่องหยุมหยิมในชีวิตประจำวันพวกนี้กับนาง

“พี่สาว ท่านสวยจริงๆ”

เสี่ยวโต้วติงเงยหน้าเอ่ยประโยคหนึ่งขณะเดินตามฮว๋ายชิ่งข้างๆ ว่า

ฮว๋ายชิ่งยิ้ม

“พี่สาว ท่านสวยจริงๆ”

ผ่านไปสักพัก นางก็เอ่ยซ้ำประโยคเดิม

ฮว๋ายชิ่งก้มศีรษะลง นางเห็นสีหน้าเอาอกเอาใจระยิบออกมาจากดวงตากลมโตของเด็กสาว

“เจ้าอยากพูดอะไร”

ฮว๋ายชิ่งเพียงหรี่ตาก็อ่านความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของนางออกอย่างง่ายดาย

“ข้าไปทานขนมอบที่บ้านท่านได้ไหม”

เสี่ยวโต้วติงแผนแตกในท้ายที่สุด

ฮว๋ายชิ่งยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “ได้สิ”

นางชอบคนฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร เด็กฉลาดก็รวมอยู่ในนั้น นอกจากนี้ เด็กคนนี้ไม่เพียงมีไหวพริบ ยังกล้าหาญมากอีกด้วย

จากนั้นไม่นาน เสี่ยวโต้วติงก็ตามฮว๋ายชิ่งมายังห้องศึกษา

ภายในห้องโถงที่กว้างขวางจัดวางโต๊ะไว้สิบสองตัว พร้อมด้วยเด็กสิบสองคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะอย่างเฉลียวฉลาด กำลังฟังการบรรยายของมหาราชครูเฒ่าหน้าห้องด้วยสายตาจดจ่อ

มหาราชครูอายุปูนจะแปดสิบ เป็นอาวุโสผู้ทรงคุณวุฒิสามราชวงศ์ และเป็นปั้งเหยี่ยนของรัชศกเจินเต๋อ เขาเคยสอนจักรพรรดิหยวนจิ่ง ฮว๋ายชิ่งและหลินอัน ขณะนี้ก็ยังต้องสอนราชวงศ์รุ่นใหม่อยู่

ในตอนแรกที่จักรพรรดิหยวนจิ่งละทิ้งการเมืองไปบำเพ็ญธรรม มหาราชครูมุ่งเข้าวังไปดุด่าจักรพรรดิผู้เอาแต่ใจด้วยความโกรธหน้าห้องทรงพระอักษร

ครั้นแล้วก็ท้อใจ จึงอยู่อย่างสันโดษในเมืองหลวง

หลังจักรพรรดิหยวนจิ่งสิ้นพระชนม์ เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ความลับ ดังนั้นเขาจึงคลายปมในใจและเริ่มทำงานที่รักใหม่อีกครั้งตราบเท่าที่จะทำได้ในวัยชรา

“มหาราชครู”

ฮว๋ายชิ่งพาเสี่ยวโต้วติงก้าวข้ามธรณีประตูไปทำความเคารพ

“คารวะองค์หญิงใหญ่”

มหาราชครูโค้งตัวรับคารวะ

“คารวะองค์หญิงใหญ่”

พระราชโอรส พระราชธิดา องค์หญิงและราชนิกุลสิบกว่าพระองค์ลุกขึ้นทำความเคารพ

ฮว๋ายชิ่งพยักหน้าเล็กน้อย แล้วมองสวี่หลิงอินพร้อมเอ่ยว่า

“ขอรบกวนเด็กคนนี้กับมหาราชครูด้วย นางเป็นน้องสาวคนเล็กของสวี่ชีอัน ท่านและคนอื่นๆ ห้ามรังแกนาง”

นางพาสวี่หลิงอินมาเพื่อเตือนชนรุ่นหลังของราชวงศ์เป็นหลัก เพื่อเลี่ยงไม่ให้เด็กไร้เดียงสาคนนี้ถูกรังแกที่นี่

แล้วบอกวีรกรรมคราวก่อนของสวี่หลิงอินไปรอบหนึ่ง

ฮว๋ายชิ่งมองเด็กสาวน่ารักตัวกลมด้วยความประหลาดใจ แล้วยิ้มเอ่ยว่า

“ข้าไม่เคยรู้มาก่อน”

มหาราชครูเอ่ยอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า

“ฝ่าบาทเหินห่างเรื่องในวังเกินไปแล้ว”

ฮว๋ายชิ่งยิ้มบอกลาแล้วจากไปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรมาก

มหาราชครูกวักมือเรียกสวี่หลิงอินมาข้างหน้าแล้วถามว่า

“คราวที่แล้วยังไม่ทันได้สอบเจ้า เจ้าก็ออกจากวังไปเสียแล้ว ก่อนมาที่นี่เจ้าเรียนที่ใด ใครเป็นผู้สอนเจ้า”

เสี่ยวโต้วติงเอียงศีรษะคิด ก่อนตอบไปซื่อๆ ว่า

“ลืมแล้ว”

‘หา’ มหาราชครูชะงักไปครู่หนึ่ง ลืมอาจารย์ที่ให้ความรู้ไปแล้ว หรือว่า เด็กคนนี้ยังไม่เคยเรียน’

เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ท่องคัมภีร์สามอักษรได้ไหม”

“ได้สิๆ ”

สวี่หลิงอินพยักหน้าอย่างตื่นเต้น

มหาราชครูทำสีหน้าผ่อนคลาย พร้อมกับพยักหน้ายิ้มเอ่ยว่า “ท่องให้ปู่ฟังหน่อย”

…

ฮว๋ายชิ่งไปที่สำนักบัณฑิตฮั่นหลินหลังออกจากวัง เพื่อนำเรื่องที่สวี่ชีอันมอบหมายไปบอกต่อสวี่เออร์หลาง

จักรพรรดิหย่งซิ่งหวาดกลัวนางและพระราชโอรสองค์ที่สี่ผู้เป็นพี่ชายร่วมบิดามารดาของนางอย่างมาก เพราะอย่างนั้นเรื่องนี้จึงต้องบอกโดยสวี่เออร์หลาง

หากปล่อยให้จักรพรรดิหย่งซิ่งรู้ว่าสวี่ชีอันมีความสัมพันธ์อันแนบชิดกับนางเป็นการส่วนตัว จะเกิดการระแวงอย่างเลี่ยงไม่ได้

ขณะจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์จะเป็นช่วงที่อ่อนไหวที่สุด ฮว๋ายชิ่งจึงไม่อยากก่อปัญหา

“โธ่ ผืนน้ำแข็งสามฉื่อมิได้เกิดจากความหนาวเพียงหนึ่งวัน”

สวี่ซินเหนียนทอดถอนใจเฮือกใหญ่

“การปกครองประเทศเหมือนการต้มปลา ต้องค่อยๆ วางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่หากประเทศชาติป่วยวิกฤติเกินเยียวยา ควรจัดการเช่นไรหนอ ฝ่าบาทก็ดี สมุหราชเลขาธิการหวางก็ด้วย รวมถึงข้าราชการทั้งหลายในท้องพระโรงล้วนไม่มีประสบการณ์ในทำนองเดียวกัน”

ฮว๋ายชิ่งเอ่ยอย่างเย็นชาว่า

“ใต้เท้าสวี่ ยังจำการเดิมพันที่พวกเราประเดิมกันตอนเล่นหมากรุกในวันนั้นได้หรือไม่”

สวี่ซินเหนียนเผยสีหน้าเข้มขรึม เขาลังเลใจครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “จำได้อยู่แล้ว”

ฮว๋ายชิ่งพยักหน้าเอ่ยว่า “พวกเราตั้งตารอดูกัน”

นางนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเปลี่ยนเรื่องว่า “อีกสามวันจะถึงมหาพิธีบูชาสวรรค์ ฝ่าบาทจะเรียกบริจาคในตอนนั้น ใต้เท้าสวี่คิดจะบริจาคเงินเท่าไร”

สวี่ซินเหนียนรู้ว่านางกำลังเตือนสติตน จึงเอ่ยว่า

“ฝ่าบาทวางใจ เรื่องนี้ข้าหารือกับพี่ใหญ่อย่างเหมาะสมมาก่อนแล้ว”

“ข้าจะบริจาคเงินเดือนสามเดือน ส่วนพี่ใหญ่ก็จะบริจาคห้าพันสองร้อยตำลึงเงิน”

“เช่นนี้ข้าก็จะไม่ถูกฟ้องให้ออกจากตำแหน่งเพราะบริจาคเยอะ และก็จะไม่มีคนตำหนิข้าว่าส่งเสริมการบริจาค แต่ตนเองกลับตระหนี่ในทรัพย์สินเงินทอง”

ซู่จี๋ซื่อเพียงคนเดียวบริจาคห้าพันสองร้อยตำลึงเงิน เรื่องนี้จะสร้างปัญหา

แต่หากไม่บริจาค ก็จะสร้างชื่อเสียงในทางไม่ดีประดุจเผชิญมรสุมอีก

“เช่นนั้นก็ดี”

ฮว๋ายชิ่งหมดห่วงในทันที พร้อมเอ่ยเปลี่ยนเรื่องว่า “ตอนมาข้าพบน้องสาวของใต้เท้าสวี่ในวัง”

พอได้ยิน สวี่เออร์หลางมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล เขาถอนหายใจพร้อมเอ่ยว่า

“หากวันนี้ฝ่าบาทไม่มีธุระ ท่านไปดูแลนางที่ห้องศึกษาได้หรือไม่”

ฮว๋ายชิ่งยิ้มเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี่กลัวนางถูกรังแกหรือ”

ข้าคิดถึงความปลอดภัยของมหาราชครู…สวี่เออร์หลางถอนหายใจ แล้วรายงานวีรกรรมอันเจ็บแสบของเสี่ยวโต้วติงทีละอย่าง จากนั้นจึงเอ่ยด้วยความจนปัญญาว่า

“ข้าปฏิเสธฝ่าบาทอย่างอ้อมค้อมไปแล้ว แต่ฝ่าบาทดึงดันจะทำให้ได้เสียอย่างนั้น โธ่”

ทุกเรื่องที่ฮว๋ายชิ่งได้ฟังทำให้หัวตื้อ

อาจารย์แห่งเขาชิงอวิ๋นท้อจนเป็นต้องหลบเมื่อเจอนาง หลี่เมี่ยวเจินท้อจนกัดฟันกรอดๆ ฉู่หยวนเจิ่นท้อจนหน้าเขียว ทั้งยังทำให้หวางซือมู่ผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและชื่อเสียงท้อจนร้องไห้โฮกใหญ่…

“น้องหลิงอินแสร้งทำมึนเพราะไม่ชอบเรียนสินะ” ฮว๋ายชิ่งเอ่ย

“หากนางแสร้งทำมึน อาจารย์ที่สำนัก หลี่เต้าฉาง พี่ฉู่และซือมู่คงจะไม่ท้อแม้ถอดใจจนถึงขั้นร้องห่มร้องไห้เพราะความล้มเหลวเช่นนี้”

สวี่ซินเหนียนเอ่ยด้วยการยิ้มเจื่อนๆ

เพราะนางเรียนไม่ได้จริงๆ จึงทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองล้มเหลว ไม่เหมาะเป็นอาจารย์

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความสงสัยในตนเองและการปฏิเสธตนเองอย่างรุนแรง

หากหลิงอินแสร้งทำมึน พวกเขาคงยิ้มๆ ไม่ถือสา ไม่ต้องปวดกบาล

ฮว๋ายชิ่งเดินทางกลับวังไปโดยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ขณะที่เพิ่งจะก้าวเท้าหน้าเข้าพระราชวังก็ได้รับข่าวตามมาในทันทีว่า

มหาราชครูป่วยกะทันหันถึงขั้นนอนติดเตียง

ฮว๋ายชิ่งตกใจอย่างมาก นึกในใจว่าเมื่อครู่มหาราชครูยังดีอยู่เลย ไฉนจึงป่วยกะทันหัน…

นางนึกถึงเรื่องที่สวี่เออร์หลางพูดระหว่างสนทนาเมื่อครู่ นางเกิดใจไม่ดีอย่างฉับพลัน จึงรับไปเยี่ยมในทันที

ฮว๋ายชิ่งวิ่งจับกระโปรงไปที่ห้องศึกษาอย่างรวดเร็ว นางเห็นมหาราชครูเอนกายบนเตียงนั่ง พร้อมด้วยแพทย์ประจำพระองค์หลายคนกำลังถามอาการอยู่

“คารวะองค์หญิงใหญ่”

แพทย์ประจำพระองค์พากันน้อมคำนับ

ฮว๋ายชิ่งโบกมือ แล้วเอ่ยด้วยใบหน้างดงามอันเย็นชาที่เต็มไปด้วยความเข้มขรึมว่า

“ร่างกายมหาราชครูเป็นเช่นไร”

แพทย์ประจำพระองค์คนหนึ่งเอ่ยว่า “องค์หญิงใหญ่อย่ากระวนกระวายใจ ราชครูไม่เป็นไร เพียงมีอาการปวดหัวและวิงเวียนศีรษะเฉียบพลัน นอนพักรักษาไม่กี่วันก็หาย”

แพทย์ประจำพระองค์อีกคนเอ่ยเสริมว่า “แต่ในช่วงนี้ไม่อาจรับความกระทบกระเทือนได้อีก ต้องพักผ่อนอย่างสงบ”

อธิบายด้วยคำพูดที่ค่อนข้างเข้าใจง่ายได้ว่า

มหาราชครูไม่ได้เป็นอะไร แค่ความดันโลหิตพุ่งสูง

ฮว๋ายชิ่งเดินไปดูมหาราชครูที่ลมปราณอิดโรยตรงริมเตียง แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า “มหาราชครู นี่มันเกิดอะไรขึ้น ท่านเผชิญเหตุใดมา”

มหาราชครูเอ่ยอย่างอิดโรยว่า

“พยุงข้าลุก ข้ายังไหว ข้าไม่เชื่อว่าในโลกจะมีคนทึ่มเช่นนี้”

“วันนี้ข้าจะต้องสอนนางท่องคัมภีร์สามอักษรให้ได้ มิเช่นนั้นก็เท่ากับว่าอ่านหนังสือปราชญ์มาตลอดชีวิตอย่างเสียเปล่า”

ฮว๋ายชิ่งสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย นางจับมือที่แห้งเหี่ยวของมหาราชครูไว้พร้อมเอ่ยว่า “มหาราชครู เรื่องนี้ลำบากท่านเกินไปแล้ว”

มหาราชครูเอ่ยอย่างฮึกเหิมว่า

“ไม่ ต่อให้ข้าตายก็จะต้องสอนนางท่องคัมภีร์สามอักษรให้ได้”

“ข้าเคยสอนจักรพรรดิองค์ก่อน เคยสอนพวกฝ่าบาท ข้าจะเสียศักดิ์ศรีตอนแก่ไม่ได้”

“ไม่ถึงขนาดนั้นๆ เช่นนั้นหากท่านตายก็คงไร้ค่าเกินไป” …ตอนนี้ฮว๋ายชิ่งไม่รู้ว่าจะปลอบขวัญเขาเช่นไร

ขณะนี้เอง มหาราชครูหนังตากลอกและสลบไป

…

ณ เซียงโจว

ตงฟางหว่านหรงนั่งรถลากกลับบ้าน พร้อมด้วยสาวกตำหนักมังกรตงไห่หลายสิบคนเดินติดตามไปเป็นขบวนอย่างโอ้อวดและดึงดูดความสนใจ

ตงฟางหว่านชิงผู้มีหน้าตาเหมือนกันแต่นิสัยเยือกเย็นนั่งอยู่ข้างกายนาง

“ท่านอาจารย์ พวกข้ารวบรวมผู้ถูกปราณมังกรอาศัยได้แปดคนแล้ว ควรส่งพวกเขากลับเมืองจิ้งซานหรือไม่”

ตงฟางหว่านหรงเอ่ยถาม

“ไม่ต้อง”

เสียงของน่าหลันเทียนลู่ก้องขึ้นในหัวของนาง และเอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า

“ปราณมังกรมีคุณสมบัติพิเศษที่ดึงดูดซึ่งกันและกัน ยิ่งพวกเรารวบรวมปราณมังกรที่กระจัดกระจายมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดึงดูดผู้ถูกปราณมังกรอาศัยมากขึ้นเท่านั้น

“หากส่งพวกเขากลับเมืองจิ้งซาน พวกเราก็จะขาดหินแม่เหล็กที่ใช้งมเข็มในมหาสมุทร”

ตงฟางหว่านหรงพยักหน้า แล้วเอ่ยถามว่า

“ท่านยึดครองกายหยาบของผู้ถูกปราณมังกรอาศัยเสียเลยเถิด พวกเขาล้วนเป็นผู้โชคดี มีบุญวาสนามาก”

“พวกเขานับว่ามีบุญวาสนามากอะไรกัน ในสายตาของผู้แข็งแกร่งระดับบรรลุธรรม พวกเขาเพียงโชคดีได้รับผลประโยชน์เล็กน้อยเท่านั้นเอง หากต้องการคนที่จะให้อาจารย์ยึดร่าง อย่างไรเสียก็ต้องเป็นระดับบรรลุธรรม

“หากไม่ได้จริงๆ ขั้นสี่ระดับสูงสุดก็ได้ อย่างเช่นเจ้า”

ตงฟางหว่านหรงเอ่ยยิ้มเยาะว่า “ศิษย์ยินดีเสียสละให้ท่านอาจารย์”

น่าหลันเทียนลู่ส่ายศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ช่างพูดช่างจา”

แม้ขั้นสี่ระดับสูงสุดจะพบได้น้อย แต่ก็หาไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องยึดร่างลูกศิษย์

กล่าวอีกก็คือ ลูกศิษย์คนนี้เป็นเด็กผู้หญิง น่าหลันเทียนลู่คงไม่อยากคืนชีพด้วยร่างสตรี

ตงฟางหว่านหรงครุ่นคิด ก่อนเอ่ยอย่างใคร่รู้ว่า “หากสามารถครองร่างสวี่ชีอันได้ล่ะ นั่นสิจึงนับว่ามีบุญวาสนามาก”

น่าหลันเทียนลู่ส่ายศีรษะแล้วยิ้ม เอ่ยว่า

“เด็กคนนี้เต็มไปด้วยเหตุต้นผลกรรมทั่วร่าง อาจารย์ยอมอยู่ในสภาวะวิญญาณเร่ร่อนดีกว่ายึดร่างเขา”

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อว่า

“สิ่งที่อาจารย์รู้ในจิ่วโจวคือ มีเพียงจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางแห่งอาณาจักรหมื่นปีศาจที่สามารถสร้างกายหยาบที่สมบูรณ์แบบได้ด้วยพลังวิญญาณของตนเอง

“หากติดต่อนางได้ อาจารย์ก็ไม่จำเป็นต้องยึดร่างแล้ว”

ผลสืบเนื่องจากการยึดร่างรุนแรงมาก กายหยาบและจิตเดิมจะขับไล่กัน หลายร้อยปีก็ไม่อาจเข้ากันได้

และก็หมายความว่า ตบะของเขายากจะก้าวหน้าแม้เพียงเล็กน้อยเป็นหลายร้อยปี

ตงฟางหว่านหรงเอ่ยด้วยความไตร่ตรองว่า

“พวกเรากำลังรวบรวมผู้ถูกปราณมังกรอาศัย สำนักพุทธเองก็กำลังรวบรวมผู้ถูกปราณมังกรอาศัยเช่นกัน แล้วก็ยังมีสวี่ชีอันนั่น

“ท่านอาจารย์ ท่านว่าพวกเราต่างฝ่ายจะมีโอกาสได้พบกัน ณ ที่ใดที่หนึ่งในช่วงใดช่วงหนึ่งหรือไม่”

น่าหลันเทียนลู่ให้คำตอบด้วยความมั่นใจว่า

“ได้สิ นั่นจะต้องยอดมากแน่ๆ

“ถึงตอนนั้น อาจารย์จะช่วยเจ้าอีกแรง

“เว่ยเยวียนยึดเมืองจิ้งซาน ฆ่าบุตรชายของข้า ข้าก็จะฆ่าชนรุ่นหลังที่เขาพึ่งพาและไว้วางใจเพื่อจบสิ้นเหตุต้นผลกรรมนี้”

………………………………………..

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 609 มหาราชครูผู้เสียศักดิ์ศรียามชรา (2)"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF