cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 600 ข้าอยู่ตรงนี้ตลอด

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 600 ข้าอยู่ตรงนี้ตลอด
Prev
Next

บทที่ 600 ข้าอยู่ตรงนี้ตลอด

เจ้าไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ หรือ?!

สวี่ชีอันอยากจะคว้าคอเสื้อของจ้าวโส่วแล้วตะโกนถามประโยคนี้เสียงดังๆ

ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว สวี่ชีอันรู้ว่าปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ได้ผนึกเทพเจ้ากู่และเทพอูเอาไว้ แต่เรื่องการผนึกพระพุทธเจ้า เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

แต่ไหนแต่ไรก็ไม่มีใครเคยพูดถึงเรื่องนี้เสียด้วย

แม้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งมากพอแล้ว ทั้งยังได้รู้จักกับผู้บำเพ็ญตนระดับสูงมากมาย แม้แต่ผู้นำเต๋าลั่วอวี้เหิงก็เคยบำเพ็ญคู่กับเขามาแล้ว

แต่ก่อนที่จะถึงวันนี้ ก็ยังไม่เคยมีใครเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยสักครั้ง

บางที อาจจะไม่ใช่ว่าไม่มีใครเปิดเผยเรื่องนี้กับข้า แต่เป็นเพราะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยต่างหาก ความคิดในหัวของสวี่ชีอันสว่างวาบขึ้น

ตอนนี้ผู้ที่รู้ความลับนี้นั้น นอกจากสำนักพุทธแล้ว เกรงว่าคงจะมีแต่จ้าวโส่ว ผู้เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของลัทธิขงจื๊อท่านนี้…เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับระดับขั้น แต่เป็นเพราะจ้าวโส่วนั้นสืบทอดลัทธิขงจื๊อ เขาก็ย่อมต้องสืบทอดความลับที่ถูกกาลเวลากลบเอาไว้เหล่านั้นด้วย…สวี่ชีอันเริ่มครุ่นคิด ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจในเรื่องที่แต่ก่อนตนไม่เข้าใจขึ้นมาแล้ว

จากข้อมูลที่ไป๋จีอธิบายเกี่ยวกับองค์หญิงของอาณาจักรหมื่นปีศาจ เมื่อห้าร้อยปีก่อน อาณาจักรหมื่นปีศาจได้ช่วยเหลืออู่จงชิงบัลลังก์ พระโพธิสัตว์องค์หนึ่งก็ได้สิ้นชีพด้วยน้ำมือของท่านโหราจารย์รุ่นแรก คราวนั้นข้ากลับไม่สงสัยว่าเหตุใดพระพุทธเจ้าไม่ลงมือหยุดยั้ง

ยอดฝีมือขั้นหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มอิทธิพลใดล้วนแต่มีค่าอย่างยิ่ง ถึงขั้นเป็นการดำรงอยู่ระดับลูกพี่ แม้ว่าสำนักพุทธจะมียอดฝีมือมากมาย แต่ก็ทนต่อการสูญเสียเช่นนี้ไม่ไหว

อีกอย่าง เมื่อสามร้อยปีก่อน ต้าฟ่งทรยศไร้สัจจะ ลัทธิขงจื๊อได้ทำลายสำนักพุทธ พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ออกโรงเช่นกัน ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ที่แท้เขาก็ถูกผนึกเอาไว้ตั้งนานแล้ว

สวี่ชีอันครุ่นคิดอะไรมากมายภายในชั่วขณะสั้นๆ จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “ปีนั้นลัทธิขงจื๊อทำลายสำนักพุทธก็เพราะเหตุผลเช่นนี้หรือ”

ถ้าหากปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ผนึกพระพุทธเจ้า เช่นนั้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพุทธและลัทธิขงจื๊อ ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าเป็นแบบไหน

“เจ้าจะคิดเช่นนั้นก็ได้” จ้าวโส่วดื่มชาที่มีรสขมฝาดเล็กน้อย

“ไม่ถูกสิ!” จู่ๆ สวี่ชีอันก็คิดอะไรได้ เขาส่ายหน้าติดๆ กัน

“ถ้าหากพระพุทธเจ้าถูกผนึกไปแล้ว เช่นนั้นการกวาดล้างปีศาจหกสิบปีเมื่อห้าร้อยปีก่อนคืออะไร ข้าได้ยินว่าเจ้าแห่งอาณาจักรหมื่นปีศาจ จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางผู้นั้น เพียงแค่ครึ่งก้าวก็จะกลายเป็นเทพยุทธ์แล้ว พลังต่อสู้มหาศาลนัก แม้แต่พระโพธิสัตว์ก็มิใช่คู่ต่อสู้ สุดท้ายพระพุทธเจ้าก็ออกโรงเองแล้วกำจัดนางทิ้ง แต่ถ้าหากพระพุทธเจ้าถูกผนึกไปแล้ว เช่นนั้นใครเป็นผู้สังหารเจ้าแห่งอาณาจักรหมื่นปีศาจแล้วทำลายล้างอาณาจักรหมื่นปีศาจกันล่ะ”

จ้าวโส่วส่ายหน้าเบาๆ

“รายละเอียดนั้น ข้ามิรู้ เรื่องนี้น่าจะเป็นความลับสุดยอดของสำนักพุทธ”

สวี่ชีอันผิดหวังอย่างหาใดเปรียบในทันใด เขาเงียบไปนานก็เอ่ยหยั่งเชิง

“ข้าออกท่องยุทธภพในครั้งนี้ ได้ไปเยือนที่เหลยโจวและเกิดความขัดแย้งมากมายกับสำนักพุทธ จึงพบเรื่องหนึ่งที่ควรค่าแค่การสืบเสาะอย่างยิ่ง วัดซานฮัวของเหลยโจวมีของวิเศษชิ้นหนึ่งชื่อว่าเจดีย์พุทธะ เจ้าของของมันคือพระโพธิสัตว์ฝ่าจี้ พระโพธิสัตว์ท่านนี้หายตัวไปเมื่อสามร้อยกว่าปีแล้ว เจ้าสำนักคิดว่า เรื่องนี้มีนอกในหรือไม่”

พระโพธิสัตว์ฝ่าจี้หายตัวไปสามร้อยกว่าปี พระโพธิสัตว์หลิวหลีของสำนักพุทธออกไปตามหาหลายครั้งแต่ก็ไร้ผล

เรื่องนี้มีจุดที่น่าสนใจหลายอย่าง

พระโพธิสัตว์ฝ่าจี้ไปไหน? เพราะอะไรที่ทำให้เขาไม่กลับไปอรัญตาอีก? หรือว่าเขาถูกจำกัดขอบเขตจึงไม่อาจกลับไปยังสำนักพุทธและไม่มีทางถูกหาตัวพบ

เช่นนั้นเป็นตัวตนแบบใดกันที่สามารถกักขังพระโพธิสัตว์ขั้นหนึ่งไว้ได้

จ้าวโส่วครุ่นคิด จากนั้นน้ำเสียงก็เข้มงวดยิ่งขึ้น “หนิงเยี่ยน ข้าคือปัญญาชนผู้หนึ่ง”

“อะไร?” สวี่ชีอันไม่เข้าใจ

“ข้าดูดวงไม่เป็น”

“…”

สวี่ชีอันเลิกสนใจหัวข้อนี้ทันที เขาเปลี่ยนไปถามอีกเรื่อง “ปรมาจารย์เต๋าก็ถูกปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ผนึกไว้ด้วยหรือไม่”

จ้าวโส่วส่ายหน้า “ปรมาจารย์เต๋าคือผู้ที่ลึกลับที่สุดในบรรดายอดฝีมือเหนือระดับขั้น เขาสำเร็จมรรคาเต๋าในยุคโบราณ และในยุคที่ปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ยังมิถือกำเนิด ปรมาจารย์เต๋าก็ได้หายตัวไปแล้ว”

เมื่อเป็นเช่นนี้ การหายตัวไปของปรมาจารย์เต๋าก็เป็นความลับอีกอย่างหนึ่ง เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างลึกลับขององค์เทพแห่งนิกายสวรรค์อย่างแน่นอน…สวี่ชีอันคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยวิเคราะห์

“เป็นเพราะแตกดับแล้วหรือไม่”

“ความเป็นไปได้นี้มิอาจตัดออก” จ้าวโส่วเอ่ยด้วยท่าทางราวกับกำลังอภิปรายทางวิชาการ

“สิ่งที่รู้ในตอนนี้ นอกจากลัทธิขงจื๊อของข้าแล้ว อายุขัยของยอดฝีมือเหนือระดับขั้นนั้นแทบจะไร้ที่สิ้นสุด ไม่อาจดับสูญตามธรรมชาติได้ แต่ปรมาจารย์เต๋าหายตัวไปหลายพันปีแล้ว ทั้งยังไม่มีร่องรอยเกี่ยวกับเขาเลย เคยมีบรรพชนผู้หนึ่งวิเคราะห์ไว้ว่า ในปีนั้นปรมาจารย์เต๋าพบเจอกับเคราะห์ร้ายที่มิอาจผ่านไปได้ และเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป เขาจึงถูกบีบให้สลายปราณเป็นไตรวิสุทธิเทพ”

สวี่ชีอันออกความเห็นของตนบ้าง “การคาดเดานี้มีความสมเหตุสมผลอยู่พอสมควร หนึ่งปราณกลายเป็นไตรวิสุทธิเทพ มีเพียงร่างแปลงเท่านั้นที่จะอยู่รอดและไม่ถูกทำลาย อ๋องสยบแดนเหนือก็คือตัวอย่าง”

จ้าวโส่วเอ่ยเสียงขรึม “แต่สุดท้ายเขาก็ยากจะหลีกหนีเคราะห์ร้ายได้ ร่างแปลงของนิกายสวรรค์หายตัวไปอย่างแปลกประหลาด ร่างแปลงของนิกายปฐพีประสบเหตุแห่งกรรมสะท้อนกลับ ร่างแปลงของนิกายมนุษย์มีไฟแห่งกรรมพัวพันกาย สุดท้ายก็เผชิญเคราะห์ตายทั้งสิ้น”

“นี่เป็นการคาดเดาจากบรรพบุรุษคนใดกัน”

สวี่ชีอันตกตะลึง ผลข้างเคียงของลัทธิเต๋าสามนิกายก็นับว่าเป็นความลับระดับสูงของสายการฝึกตนทีเดียว

ไฟแห่งกรรมของนิกายมนุษย์เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว

แต่ผลข้างเคียงจากการถูกเหตุแห่งกรรมสะท้อนกลับของนิกายปฐพีนั้น แม้แต่เว่ยเยวียนในตอนนั้นก็ยังไม่รู้ ต่อมานักพรตเต๋าจื่อเหลียนตายด้วยคมหอกของหยางเยี่ยน เว่ยเยวียนจึงเริ่มคิดวิเคราะห์ได้ว่าผู้นำเต๋านิกายปฐพีนั้นมีปัญหาแล้ว

ยิ่งตนเองที่เป็นบุตรรักได้แฝงตัวไปสืบดู จึงรู้ว่าผู้นำเต๋านิกายปฐพีถูกเหตุแห่งกรรมสะท้อนกลับและตกสู่ทางมาร

แต่เรื่องที่องค์เทพแห่งนิกายสวรรค์หายตัวไปอย่างผิดปกตินั้น เป็นเรื่องลับยิ่งกว่าภัยแฝงของนิกายปฐพีเสียอีก

จ้าวโส่วหัวเราะ “บรรพบุรุษผู้นี้มีสมญานามเต๋าว่าจินเหลียน”

“…”

สวี่ชีอันมุมปากกระตุก ไม่ใช่ สมญานามเต๋าของเขาก็คือแมวส้ม

เขาสูดหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยถามคำถามสุดท้าย “สาเหตุที่ปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ผนึกผู้อยู่เหนือระดับหลายคนนั้น คืออะไร”

เกี่ยวกับคำถามนี้ จ้าวโส่วไม่ได้ตอบ ทั้งยังไม่ได้ปฏิเสธในทันทีด้วย เขานิ่งเงียบไปเนิ่นนานจึงเอ่ยอย่างจนใจ

“ถ้าจะให้พูด ในจดหมายลาที่เว่ยเยวียนทิ้งไว้ให้เจ้าก็ได้บอกเรื่องนี้หมดแล้ว มิใช่ว่าพวกข้ากำลังเล่นตุกติกอะไร แต่เป็นเพราะถ้าหากเอ่ยออกไปก็จะส่งผลต่อแผนการของใครบางคนและจะถูกขัดขวางไว้ในทันที”

คำพูดนี้เท่ากับว่าได้เปิดเผยหมดแล้ว

ท่านโหราจารย์!

ท่านโหราจารย์ก็มีแผนการที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้อยู่ด้วยหรือ?

สีหน้าของสวี่ชีอันเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย เขาคิดมาตลอดว่าแผนการใหญ่ที่สุดของท่านโหราจารย์ก็คือการต่อกรกับสวี่ผิงเฟิงและช่วยเหลือต้าฟ่ง

ตอนนี้พอคิดดูแล้ว เรื่องที่เจ้าเฒ่าเหรียญเงินปากผีนั่นคิดคำนวณล้วนเกี่ยวข้องกับผู้อยู่เหนือระดับด้วย

ก็จริง เทพอูและพระพุทธเจ้าล้วนต้องการรุกรานภาคกลาง และท่านโหราจารย์กับโชคชะตาแคว้นต้าฟ่งก็เกี่ยวพันด้วย หรือพูดอีกอย่างก็คือ ผู้อยู่เหนือระดับคือศัตรูของท่านโหราจารย์…สวี่ชีอันคิดเชื่อมโยงตรรกะเหตุผลได้แล้วก็เข้าใจคำพูดของจ้าวโส่ว

“เอาล่ะ ข้าไม่มีอะไรจะตอบเจ้าแล้ว”

จ้าวโส่วจบบทสนทนาในครั้งนี้แล้วถอนหายใจออกมาก่อนบีบนวดหว่างคิ้วแล้วเอ่ย “เจ้าสามคนข้างนอกนั่นตีกันไปไม่น้อยแล้ว”

เขาโบกมือแล้วปลดเขตแดนที่ครอบคลุมอยู่รอบนอกของเรือนออกไป

ครู่ต่อมา สวี่ชีอันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแปรปรวนที่กำลังพลุ่งพล่านและรุนแรงด้านนอก และรู้สึกเพียงแค่ว่าปราณหลักอันไพศาลทั่วทั้งภูเขาชิงหยุนกำลังเดือดพล่านราวกับคลื่นยักษ์

“ไป!”

จ้าวโส่วโบกมือจนเกิดม้วนแสงสีใสขึ้นแล้วพาสวี่ชีอันจากไป

ภาพตรงหน้าเปล่งประกายวาบ ทั้งคู่มาถึงยังยอดเขาและมองไปยังท้องฟ้า เห็นเพียงแต่ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามท่าน คนหนึ่งถือพู่กัน คนหนึ่งถือตำรา และอีกคนถือที่ทับกระดาษ

สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือดเสมือนไฟโหม

จางเซิ่นที่ถือตำราอยู่เอ่ยเสียงต่ำ

“พันทหารหมื่นม้าศึก จงเข้าสู่โลกา!”

ตำราทหารในมือระเบิดแสงพร่างพราวออกมา กลางอากาศมีเงาเลือนรางมารวมกัน พวกเขาบ้างก็ขี่ม้าถือดาบ บ้างก็สวมชุดเกราะถือหอก บางคือถือปืนใหญ่หน้าไม้

นี่มันวิชาอะไรกัน สวี่ชีอันตกตะลึง

“เวทที่จางจิ่นเหยียนใช้วิชาลั่นประกาศิตนั้นสามารถเรียกกองทัพออกมาจากตำราได้ ดูแล้วคล้ายอยู่ในหมวดหมู่เสริมกำลังแบบเดียวกับ ‘ถอยร้อยลี้’ แต่มีความประณีตละเอียดมากกว่า” จ้าวโส่วอธิบาย

“ทำไมตอนที่ข้าใช้วิชาเวทถึงทำไม่ได้แบบนี้ล่ะ?” สวี่ชีอันอิจฉาตาร้อนนัก

“ของเจ้าน่ะเป็นการใช้งานแบบพื้นฐานที่สุด เมื่อมิใช่คนของลัทธิขงจื๊อ ก็มิอาจใช้วิชาเวทที่ประณีตสุดยอดเช่นนี้ได้หรอก” จ้าวโส่วกล่าว

ภายใต้การควบคุมของจางเซิ่น ทหารม้าและทหารราบของกองทัพมายาก็ได้เปิดฉากสังหารไปยังหลี่มู่ไป๋ ส่วนทางทหารปืนใหญ่ก็เปิดฉากยิงใส่เฉินไท่

อีกด้านหนึ่ง เฉินไท่ถือพู่กันตวัดเขียนอย่างแข็งขันกลางความว่างเปล่า ทว่าสิ่งที่ออกมานั้นไม่ใช่ตัวอักษร แต่เป็นเงาร่างทหารม้ามายาสวมชุดเกราะและถือดาบ

เขาลอกเลียนมาจากวิชาของจางเซิ่น

นี่คือความสามารถของระดับกำเนิดปราชญ์ขั้นหก สามารถบันทึกวิชาเวทและทักษะของคนอื่นมาใช้เองได้

เฉินไท่เรียกเงาร่างมายาออกมาและแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเปิดฉากยิงใส่จางเซิ่น ส่วนอีกกลุ่มไปสังหารหลี่มู่ไป๋

‘ปัง ปัง ปัง!’

ปืนใหญ่ยิงติดต่อกัน ระลอกคลื่นกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าระเบิดขึ้นกลางอากาศด้วยพลังอันน่าสะพรึงราวกับสายอัสนี

เทียบกับปืนใหญ่อาวุธเวทมนตร์ของจริงแล้วพลังยังอ่อนกว่ามากนัก เป็นการยากยิ่งที่จะปิดล้อมเมือง แต่เพียงพอสำหรับการสังหารศัตรูในสนามรบแล้ว ทั้งยังเป็นเงามายาที่เกิดขึ้นมาจากวิชาเวท เท่านี้ก็มีคุณภาพยิ่งกว่าศพของสำนักพ่อมดเยอะ…

“อืม นี่ไม่น่าจะอยู่ได้นาน ทั้งยังไม่อาจร่ายออกมาแบบไม่จำกัดด้วย…”

สวี่ชีอันต้องชื่นชมเลยว่าลัทธิขงจื๊อแทบจะไม่มีข้อบกพร่องใดๆ เลย นอกเสียจากการที่มีอายุขัยสั้น

หลี่มู่ไป๋ถือที่ทับกระดาษแล้วยกแขนโบกกว้าง เพื่อสลายกองทัพศัตรูสองระลอกที่ฟาดฟันเข้ามาจนแตกกระจายเป็นปราณใส

“ฮึ่ม รู้ตำราศึกแล้วเก่งกาจนักหรือ”

หลี่มู่ไป๋รวบรวมปราณไว้ที่ปลายลิ้น ก่อนจะขับเคลื่อนปราณหลักอันไพศาลแล้วเอ่ยเสียงดัง

“ที่แห่งนี้ห้ามใช้ตำรา ที่แห่งนี้ห้ามใช้พู่กัน”

ตำราในมือของจางเซิ่นพลันถูกพลังผนึกเอาไว้และไม่อาจสร้างกำลังทหารได้อีก

พู่กันในมือของเฉินไท่ก็เช่นเดียวกัน เขาไม่อาจเขียนอะไรออกมาได้อีก

เมื่อทั้งคู่เห็นเช่นนั้นก็รีบขับเคลื่อนปราณหลักอันไพศาลแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ที่แห่งนี้ห้ามใช้อาวุธเวทมนตร์”

เป็นการตัดอาวุธเวทมนตร์ออกไปจากสนามรบตรงๆ

หลี่มู่ไป๋แค่นเสียงเย็นชา “พอเถอะ เช่นนั้นก็ใช้ ‘ลั่นประกาศิต’ มาสู้กันดู ดูว่าปราณหลักอันไพศาลของผู้ใดมากล้นยิ่งกว่ากัน”

ปราณหลักอันไพศาลสามารถต้านทานผลของลั่นประกาศิตได้

ปราณหลักของผู้ใดเหือดแห้งก่อน เท่ากับผู้นั้นแพ้

“ข้าก็มิใช่พวกไร้น้ำยาเช่นกัน”

“วันนี้ข้าจะตีจนพวกเจ้าสองคนยอมจำนนให้ดู”

ทั้งคู่แสดงท่าทีออกมาแล้ว

“ที่แห่งนี้ห้ามลอยอยู่บนฟ้า”

“ที่แห่งนี้ห้ามพูดจา”

“หลี่มู่ไป๋ จงร้องเหมือนสุนัข”

“จางเซิ่นเป็นไอ้ลูกน้อย”

“เจ้าตัวสารเลว เฉินไท่สวมเสื้อผ้าไม่ได้…”

“รนหาที่ตายหรือ? เข็มขัดของพวกเจ้าจงขาด”

เมื่อเห็นว่าการต่อสู้เริ่มเดินไปในทางที่ไม่ค่อยดีนัก ในที่สุดเจ้าสำนักจ้าวโส่วก็ออกโรง เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ยเสียงดัง

“สำนักศึกษาเป็นสถานที่สำคัญ ห้ามต่อสู้”

ปราณใสหนึ่งสายของตำหนักศึกษารองปราชญ์เอกกระเพื่อมขึ้นและปกคลุมทั่วทั้งบริเวณภูเขาชิงหยุน

ภายในขอบเขตของภูเขาชิงหยุน จ้าวโส่วสามารถใช้พลังของตำหนักศึกษารองปราชญ์เอกได้ ซึ่งพลังของตำหนักศึกษารองปราชญ์เอกก่อนหน้านี้ถูกสยบเอาไว้ในแผ่นศิลาจารึกของรองปราชญ์เอกแล้ว

หลังจากศิลาแตกร้าว ตำหนักศึกษารองปราชญ์เอกก็หลุดพ้นจากผนึกนั้น

ส่วนจ้าวโส่วที่เป็นผู้ควบคุมตำหนักศึกษารองปราชญ์เอก เมื่ออยู่ในเขตแดนของภูเขาชิงหยุน เขาย่อมมีพลังต่อสู้ไม่เป็นสองรองใคร หากมีดาบสลักปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์และมงกุฎแห่งปราชญ์เอกมาหนุนอีกแรง ต่อให้เป็นขั้นหนึ่ง จ้าวโส่วก็สามารถต้านทานได้

จ้าวโส่วเอ่ยต่อ “พวกเจ้าสามคน กลับไปกักบริเวณตัวเองสามวัน”

เมื่อคิดดูอีกทีก็เพิ่ม ‘กฎ’ เข้าไปอีกอย่าง

“ภายในสามวันนั้น ห้ามตั้งชื่อให้บทกลอน”

ส่วนข้าทำได้…

“โจรเฒ่าไร้ยางอาย!”

ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามส่งเสียงโกรธเกรี้ยวแล้วถูกบีบให้กลายเป็นปราณใสเข้าไปในส่วนลึกของสำนักศึกษา

เท่านี้ก็จบแล้วหรือ…สวี่ชีอันยังดูไม่สาแก่ใจ เขาจึงน้อมคำนับอย่างแสนเสียดายแล้วเอ่ยว่า

“เช่นนี้ข้าขอลาล่ะ”

“เชิญ” จ้าวโส่วพยักหน้า

…

เขาเจอมู่หนานจือที่กำลังอุ้มจิ้งจอกขาวและยืนดูเรื่องสนุกอยู่ในลานกว้างพร้อมกับพวกบัณฑิตในสำนักศึกษา เขาจึงไปพานางลงจากเขาด้วยกัน

ทั้งคู่ขี่แม่ม้าน้อยกลับมายังเมืองหลวง เมื่อเข้ามาในเมือง สวี่ชีอันก็เอ่ยถามนาง

“กลับบ้าน หรือว่าจะไปที่จวนสกุลสวี่”

มู่หนานจือคิดดูแล้วก็เอ่ยตอบ “กลับบ้าน”

สวี่ชีอันซื้อของสดที่ข้างทางแล้วพานางกลับไปยังจวนเล็กๆ หลังนั้น ดอกไม้ใบหญ้าที่ปลูกไว้ในสวนเหี่ยวเฉาไปนานแล้ว เมื่อไม่มีคนอาศัยอยู่เดือนกว่า ก็มองเห็นความเหงาหงอยเศร้าซึมได้อย่างชัดเจน

แต่มู่หนานจือกลับสุขใจและสบายใจเหมือนได้กลับบ้าน

“ในบ้านยังพอมีฟืน แต่ไม่มีถ่าน เดี๋ยวข้าจะออกไปซื้อข้างนอก เย็นๆ หน่อยเจ้าก็ต้มน้ำอาบเองเลยนะ ข้ายังมีธุระต้องทำ…”

สีหน้าของมู่หนานจือนิ่งไป จากนั้นก็หัวเราะเสียงเย็น

“ฆ้องเงินสวี่จะไปนัดพบท่านราชครูอีกแล้วสิท่า”

ไม่ใช่ราชครู แต่เป็นปลาตัวอื่นต่างหาก…สวี่ชีอันอธิบายอย่างจริงจัง

“เมื่อครู่ข้าเพิ่งรับตำแหน่งผู้ดูแลที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลแทนหลิวหง จากนี้ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ”

มู่หนานจือไม่เชื่อ นางเอ่ยยิ้มๆ “ฆ้องเงินสวี่ รสชาติของราชครูเป็นอย่างไรบ้างเล่า”

อ้อ เรื่องนี้น่ะหรือ นุ่มละมุนมากทีเดียว…สวี่ชีอันถอนหายใจ “ช่างเถอะ เดี๋ยวดึกๆ จะมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”

ตอนนี้เอง จู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากได้หนึ่งปราณแปลงเป็นไตรวิสุทธิเทพของลัทธิเต๋าอย่างยิ่ง

ภายใต้อาทิตย์อัสดง สีของท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน

ในห้องจุดเทียนสว่างไสว ควันดำลอยขึ้นมาจากปล่องไฟของห้องครัว

มู่หนานจือทำกับข้าวง่ายๆ สองสามอย่าง เรื่องศิลปะการทำอาหารของนางนั้น สามารถคาดเดาได้จากท่าทีร่าเริงของไป๋จีที่เปลี่ยนเป็นความผิดหวังหมดทั้งใจได้

“ถ้าไม่อยากกิน เจ้าจะไม่กินก็ได้นะ”

มู่หนานจือเอ่ยเสียงเย็น

ไป๋จีได้ยินแล้วก็ดีใจสุดๆ สุดท้ายมันก็ไม่กินจริงๆ

‘แอ๊ด…โครม!’…ประตูห้องถูกเปิดและปิดลง มู่หนานจือเดินไปนั่งที่โต๊ะพร้อมสีหน้าดำทะมึน จากนั้นก็ก้มหน้ากินข้าว

ด้านนอกประตู จิ้งจอกขาวน้อยยืดตัวอยู่หน้าประตู อุ้งเท้าสองข้างของมันตบลงบนประตูเสียงดัง ‘ปัง ปัง’

“ท่านป้า ให้ข้าเข้าไปนะ ให้ข้าเข้าไป”

มันร้องเรียกเสียงน่าสงสาร

สวี่ชีอันเอ่ยในใจว่า เจ้านี่มันเด็กน้อยแท้ๆ ความปรารถนาที่จะอยู่รอดต่ำมากจริงๆ

เมื่อทานอาหารเสร็จ สวี่ชีอันก็ต้มน้ำร้อนให้สาวงามอันดับหนึ่งแห่งต้าฟ่งอาบ ส่วนตนใช้น้ำเย็นในบ่อมาอาบน้ำง่ายๆ

เมื่ออาบน้ำเสร็จ ฟ้าก็มืดพอดี

มู่หนานจือนั่งอยู่ที่โต๊ะและอุ้มไป๋จีเอาไว้ ไม่พูดอะไรสักคำ

เทียนถูกเผาไปครึ่งหนึ่งแล้ว นางก็เริ่มง่วงนอน แต่กลับฝืนเปิดเปลือกตาเอาไว้ อย่างไรก็ไม่ยอมหลับ

สวี่ชีอันอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนแล้วเอ่ยเสียงเบา “ข้าอยู่ตรงนี้ จะอยู่ตรงนี้ตลอด”

นางถึงหลับสนิท

…………………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 600 ข้าอยู่ตรงนี้ตลอด"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF