cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 581 รุ่งอรุณ

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 581 รุ่งอรุณ
Prev
Next

บทที่ 581 รุ่งอรุณ

การร่วมมือกันครั้งแรกของเหล่ายอดฝีมือจากสำนักพุทธและเมืองเฉียนหลงคว้าน้ำเหลว สั่นคลอนความมั่นใจและจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาเป็นอย่างมาก

จีเสวียนขมวดคิ้วมุ่น

ในทางตรงกันข้าม ในฐานะที่เป็นผู้ชมและผู้ที่มีประสบการณ์มากที่สุด นักพรตเต๋าเจียวเยี่ยจึงตัดสินสถานการณ์ได้ทันที เขาส่งเสียงทางจิตไปว่า

“อย่าลน นายน้อย สวี่ชีอันเป็นขั้นสามจริงๆ กายเนื้อของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าของพวกท่าน แต่การที่กายเนื้อแข็งแกร่ง ไม่ได้หมายความว่าพลังต่อสู้จะแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน สาเหตุที่เขาสามารถตัดกรงเล็บหินผาของไป๋หู่ได้อย่างง่ายดายก็เพราะอาศัยอาวุธวิเศษ เพียงหาวิธีจัดการกับดาบเล่มนั้นได้ สวี่ชีอันก็เป็นเพียงจอมยุทธ์ขั้นสี่ที่มีการป้องกันระดับขั้นสามเท่านั้น ด้วยพลังต่อสู้ของพวกเรา ก็เพียงพอที่จะสู้พัวพันกับเขาได้แล้ว”

ตอนนี้ นักพรตเต๋าเจียวเยี่ยไม่กล้าคุยโวอีกแล้วว่าจะสามารถเอาชนะสวี่ชีอันได้ และเขาเชื่อว่าในใจของพวกจีเสวียนก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน

‘ต้องจัดการดาบเล่มนั้น…’ จีเสวียนขมวดคิ้วมุ่น ความคิดมากมายแล่นผ่านสมองไป แล้วสรุปข้อมูลออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมพิจารณาข้อได้เปรียบ จุดเด่น และพลังต่อสู้ของฝ่ายตนอย่างรวดเร็วไปด้วย

แววตาของเขาสว่างวาบ จากนั้นก็เอ่ยเสียงต่ำ

“ฉีฮวนตานเซียง ข้าจำได้ว่าซินกู่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาไม่สูงมากใช่หรือไม่ ในที่นี้รวมถึงวิญญาณอาวุธที่เพิ่งเริ่มตระหนักรู้ปัญญาด้วยหรือเปล่า”

ตรงนี้ล้วนมีแต่คนฉลาด พวกเขารีบหันหน้าไปมองฉีฮวนตานเซียงทันที

“ตามทฤษฎีแล้ว แค่เป็นของที่มีสติปัญญาก็สามารถควบคุมและส่งผลได้แล้ว แต่ข้ายังไม่เคยลองส่งผลต่ออาวุธวิเศษเลย”

ฉีฮวนตานเซียงเอ่ยช้าๆ

“เท่านี้ก็พอแล้ว!”

จอมยุทธ์ภิกษุจิ้งหยวนเอ่ยเสียงต่ำ

“ไม่จำเป็นต้องสู้เพื่อชนะเขา แค่ยื้อเวลาจนอรหันต์ตู้ฉิงหรือระดับเพชรทั้งสองท่านจัดการศัตรูเสร็จ เท่านั้นพวกเราก็ชนะแล้ว หากตั้งนานแล้วพวกเขาก็ยังไม่ได้ชัย เช่นนั้นพวกเราก็ค่อยๆ ทรมานสวี่ชีอันจนตายอย่างช้าๆ แล้วกัน”

หลังจากส่งเสียงพูดคุยปรึกษากันเสร็จ ทุกคนก็ฟื้นฟูพลังความมั่นใจขึ้นอีกครั้ง อย่างน้อยก็ยังเห็นความหวังของชัยชนะอยู่

เมื่อมีความหวัง ก็มีจิตวิญญาณในการต่อสู้

สวี่ชีอันมองพวกเขาส่งเสียงทางจิตปรึกษากันอย่างเงียบๆ ไม่ร้อนรน

สายตาของเขากวาดมองพวกจีเสวียน และมองไปยังน้องชายและน้องสาวที่อยู่ไกลๆ

ถือว่ายังเชื่อฟัง ไม่ได้เข้ามาขวางทางอีก…เขาเอ่ยประเมินอยู่ในใจ

หากลักพาตัวสวี่หยวนซวงและสวี่หยวนไหวเพื่อใช้บีบบังคับสวี่ผิงเฟิง? นี่อาจจะมีเรื่องประหลาดใจอะไรที่คาดไม่ถึงก็ได้?

ไม่สิ เพื่อเลื่อนสู่ขั้นหนึ่ง สวี่ผิงเฟิงก็ไม่ใช่มนุษย์แล้ว ในเมื่อเขามองบุตรคนหนึ่งเป็นเครื่องมือและตัวหมาก ก็ย่อมมองบุตรและธิดาอีกคนเป็นตัวหมากได้ด้วยเช่นกัน

ความแตกต่างของข้ากับพวกสวี่หยวนไหวอยู่ที่ข้าเกิดก่อน และไม่ใช่ลูกรักของสวี่ผิงเฟิงอย่างพวกเขา

หากบุตรคนที่สองและธิดาคนโตขัดขวางไม่ให้เขาเลื่อนสู่ขั้นหนึ่ง เขาคิดจะทิ้งและสามารถโละทิ้งได้เช่นกัน

ข้าบำเพ็ญคู่กับราชครูมาตั้งนาน พลังปราณก็กล้าแกร่งขึ้น ใช้พวกเขามาฝึกมือได้พอดี

สวี่ชีอันถอนสายตากลับมา แล้วมองจิ้งซินนำพวกฉานซือนั่งเจริญสมาธิภาวนา

คิดจะใช้วิชาฉานมาต่อกรกับสิงโตคำรามของข้าสินะ…

เป็นอย่างที่คิด หลังจากนั่งลงเป็นรูปแบบกระบวนแล้ว สายตาของจิ้งซินก็มองมาที่เขาอย่างล้ำลึกแล้วเอ่ยเสียงขรึม

“จงวางดาบลง!”

ค่ายกลทำให้พลังของวิชาทรงศีลแผ่ขยายไปได้มากขึ้น ในชั่วพริบตา สวี่ชีอันก็รู้สึกจิตสงบอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งยังไม่เกิดความคิดอยากจะต่อสู้ แม้แต่ดาบไท่ผิงก็ยังอยากจะวางลงไปด้วย

เช่นเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงความคิดของดาบไท่ผิงผ่านจิตสัมผัสที่ส่งเข้าไปด้วยว่า ‘อา นายท่าน ข้าไม่อยากต่อสู้แล้ว!’

‘ตึง ตึง ตึง…’

จิ้งหยวนเป็นผู้นำเข้าสู้คนแรก ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้กำปั้นทรงพลังเพื่อทุบสวี่ชีอันอีก แต่คว้าดาบไท่ผิงไปจากมือของเขาแทน

และได้มาอย่างง่ายดายอย่างยิ่ง

ไม่ว่าจะเป็นสวี่ชีอันหรือว่าดาบไท่ผิงล้วนแต่ไม่ได้ปฏิเสธหรือต่อต้านใดๆ เลย

เมื่อได้มาแล้ว จิ้งหยวนก็ไม่คิดอะไร เขาโยนดาบไท่ผิงกลับไปให้ข้างหลังทันที

ฉีฮวนตานเซียงก้าวมาข้างหน้าแล้วหยิบดาบขึ้นมาด้วยมือ เขากุมด้ามดาบเอาไว้ เมื่ออาวุธวิเศษมาอยู่ในมือ เขาก็ใช้วิธีการของซินกู่พยายามควบคุมมันและทำให้มันกลายเป็นอาวุธของฝ่ายตน

ถึงอย่างนั้นก็ทำไม่สำเร็จ อาวุธวิเศษกลับสั่นสะเทือนและเกือบจะหลุดมือไปหลายครั้ง

ฉีฮวนตานเซียงเปลี่ยนกลยุทธ์ เขาใช้ ‘การสื่อสาร’ ที่อ่อนโยนมาส่งอิทธิพลต่ออาวุธวิเศษ และมอบความคิด ‘หยุดรบ’ ให้แก่มัน

ดาบไท่ผิงปฏิเสธอยู่พักหนึ่ง เมื่อรู้สึกว่าไม่มีอะไรผิดปกติมันก็ไม่ดิ้นรนอีก ท่าทางดูไม่ค่อยฉลาดนัก

สำเร็จแล้ว!

พวกจีเสวียนดีใจอย่างยิ่ง

สวี่ชีอันที่ไม่มีดาบไท่ผิงก็เป็นเพียงเต่าหนังหยาบ ระดับภัยคุกคามที่มีก็ลดลงเป็นอย่างมาก

ตอนนี้เอง สวี่ชีอันก็หลุดออกจากสภาวะจำศีล ร่างกายของเขามีเงามืดอึมครึมปกคลุมอยู่หนึ่งชั้นโดยไม่สนว่ามีจอมยุทธ์ภิกษุจิ้งหยวนอยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็หลอมรวมเข้าไปในเงาจิ้งหยวน

เขาใช้เงาของจิ้งหยวนกระโดดข้ามไปปรากฏตัวอยู่ในเงาของหลิ่วหงเหมียน

‘พลั่ก!’

ชายกระโปรงของหลิ่วหงเหมียนพลิ้วไหว รองเท้าผ้าปักกระโดดจนพื้นเป็นรูลึก

แต่สวี่ชีอันรีบกระโดดข้ามไปยังเงาใต้เท้าของจีเสวียนอีกครั้งอย่างรวดเร็วก่อนที่นางก็เคลื่อนเท้าออก

เขากระโดดข้ามเงาของทุกคนอย่างไม่หยุดยั้ง และสุดท้ายก็มาปรากฏตัวอยู่ในเงาของฉีฮวนตานเซียง

เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก นั่นคือการชิงดาบไท่ผิงคืนมา

จิ้งซินเลิกคิ้วแล้วเอ่ยเสียงขรึม

“ห้ามฆ่าสัตว์!”

สวี่ชีอันที่กำลังจะลงมือพลันแข็งทื่อ

จิ้งหยวนถือโอกาสนี้หันกลับไปช่วยเหลือ แสงทองบนร่างกายทำให้เขาดูเหมือนเป็นสายฟ้าสีทองอร่าม

‘โครม!’

จิ้งหยวนส่งหมัดเข้าไปที่ใบหน้าของสวี่ชีอัน

วิชาทรงศีลส่งผลต่อข้าแค่ไม่กี่วินาที วิชาทรงศีลหนึ่งครั้งต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าวินาทีถึงจะใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง…สวี่ชีอันแสยะยิ้ม ตาต่อตาฟันต่อฟัน ใช้หมัดของตนเหวี่ยงกระแทกเข้าที่หน้าผากของจิ้งหยวน

‘พลั่ก!’

หน้าผากของจิ้งหยวนสาดแสงสีทองอร่าม แสงทองที่ปกคลุมร่างกายพลันหม่นลงทันใด จากนั้นก็กระเด็นออกไปเหมือนกับปืนใหญ่

“ถอย!”

จีเสวียนผลักฉีฮวนตานเซียงออกแล้วพุ่งเข้าไป กระบี่เงาจันทร์ระเบิดประกายแสงเจิดจ้าออกมา ครั้งนี้เป้าหมายของมันคือหว่างคิ้ว

“โฮก…”

เสียงสิงโตคำรามที่ระเบิดความน่าเกรงขามทรงอานุภาพของสวี่ชีอันสั่นสะเทือนจนเบื้องหน้าของจีเสวียนดำมืดไม่เห็นสิ่งใด เขาได้ยินเสียง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ อยู่ที่ทรวงอกของตน ราวกับเสียงตีเหล็กหนักๆ

วินาทีต่อมา ความเจ็บปวดรุนแรงก็แผ่กระจาย ทรวงอกของเขาเว้าลึกลงไปทั้งแผง

หลิ่วหงเหมียนได้สติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นางรีบจับจีเสวียนบินออกมาแล้วพาตัวถอยออกไป

ใบหน้าของหญิงงามจากหอหมื่นบุปผาซีดเผือดเล็กน้อย

จีเสวียนขั้นสี่พ่ายแพ้อย่างรวดเร็วขนาดนี้เลยหรือ จเป็นอย่างที่สวี่ชีอันผู้นี้พูดจริงหรือว่าเมื่อครู่เป็นแค่การอุ่นเครื่อง

“นายน้อย!”

ฉีฮวนตานเซียงตะโกนลั่น สีหน้าของเขาโหดเหี้ยมราวกับโมโหและละอายใจอย่างที่สุด มือหนึ่งกำดาบ ส่วนอีกมือบีบกระเป๋าหนังที่เอว

‘พลั่ก!’

กลุ่มควันสีเขียวลอยล่องออกมา เสียงกระพือปีกบินเข้ามารวมตัวกันแล้วกระจายออกไป

พวกหลิ่วหงเหมียนและไป๋หู่หน้าเปลี่ยนสี จากนั้นก็รีบถอยอย่างรวดเร็ว

พิษที่น่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ ฉีฮวนตานเซียงตั้งชื่อเอาไว้ว่า แมลงกร่อนกระดูก มันเติบโตอยู่ในหุบเหวลึกที่ผนึกเทพเจ้ากู่เอาไว้ ดูดกินพลังที่เทพเจ้ากู่แผ่ออกมาเป็นอาหาร

พวกเขามีพิษทั่วร่าง ปากจะคายพิษที่สามารถกร่อนร่างกายของจอมยุทธ์ขั้นสี่ออกมา ตั้งแต่ผิวไปจนถึงเนื้อ และตั้งแต่เนื้อไปจนถึงกระดูก ฝูงแมลงกร่อนกระดูกที่เติบใหญ่จนเพียงพอแล้วจะสามารถสังหารจอมยุทธ์ขั้นสี่ผู้หนึ่งได้ภายในสามอึดใจ

นี่คือวิธีการก้นกรุของฉีฮวนตานเซียง ยามปกติมักไม่นำมาใช้ เพราะเมื่อแมลงกร่อนกระดูกพวกนี้ได้ดื่มเลือดมนุษย์เข้าไป แม้แต่ตัวเขาก็ยากที่จะควบคุมได้

ปรมาจารย์ซินกู่ผู้มีบุคลิกสุดโต่งเอ่ยเสียงเฉียบว่า

“เจ้าคนแซ่สวี่ ไม่ว่าเจ้าจะอัจฉริยะเพียงใด และต่อให้วันนี้ข้าจะถูกแมลงกร่อนกระดูกสะท้อนกลับมา อย่างไรก็จะต้องทำให้เจ้าจ่ายค่าตอบแทนอย่างแน่นอน”

ที่ไกลๆ สวี่หยวนซวงพาน้องชายถอยหลังทันใด เห็นได้ชัดว่านางรู้ดีว่าแมลงพิษชนิดนี้น่ากลัวขนาดไหน

กลุ่มหมอกสีเขียวบินล่องอยู่เต็มท้องฟ้า แล้วเข้าไปปกคลุมตัวสวี่ชีอันอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของฉีฮวนตานเซียง ปกคลุมทั้งร่างกายและใบหน้าของเขาเอาไว้อย่างแน่นขนัด

เมื่อเห็นภาพนี้ สวี่หยวนไหวก็สัมผัสได้ทันทีว่าพี่สาวของตนหยุดชะงัก เมื่อหันหน้าไปมองก็เห็นสีหน้าของนางดูซับซ้อนหาใดเปรียบ นางกำลังจดจ้องไปยังร่างสีเขียวทึมที่อยู่ไกลๆ นั่นตาด้วยสายตาตะลึง

‘ตอนนี้ก็เพียงพอจะทำให้เขาจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลได้แล้ว…’ สวี่หยวนไหวเกิดความคิดซับซ้อนขึ้นมา

ทันใดนั้นเขาก็พลันเบิกตาโต สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ผู้ที่มีสีหน้าเช่นนี้ยังมีสวี่หยวนซวง นักพรตเต๋าเจียวเยี่ย หลิ่วหงเหมียน และคนอื่นๆ ในสายตาของทุกคน แมลงพิษที่ควรจะกระหายเลือดกลับ ‘ละลาย’ เป็นวงกว้างในฉับพลัน

มันกลายเป็นของเหลวสีเขียวบริสุทธิ์ ของเหลวเหล่านี้ไม่ได้ไหลหยดลงมา แต่กลับซึมผ่านรูขุมขนของสวี่ชีอันแล้วรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างของเขา

ดังนั้น แสงทองบนร่างของสวี่ชีอันก็สลับไปเป็นแสงสีเขียว

หลังจากเป็นเช่นนี้อยู่พักหนึ่ง แสงสีเขียวก็ค่อยๆ สลายและหายวับไปกับตาโดยสมบูรณ์

“อื้ม…”

สวี่ชีอันงึมงำออกมาแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

“ขอบคุณที่ต้อนรับ”

‘นี่มัน…’ ม่านตาของฉีฮวนตานเซียงหดเกร็ง สีหน้าซีดเผือดในทันใด เขาตะโกนคำรามออกมาราวกับเสียสติ

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!”

“นี่แหละคือฆ้องเงินสวี่ ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก…”

พลังใจในการต่อสู้ของหลิ่วหงเหมียนหายวับไปกว่าครึ่ง

“ยังมีโอกาส ควบคุมดาบเล่มนั้นไว้ซะ ข้าจะไปหยุดเขา”

จอมยุทธ์ภิกษุจิ้งหยวนคำรามลั่น หน้าผากของเขามีเส้นเลือดสีเข้มนูนขึ้นมา ใบหน้าหล่อเหลาก็เพิ่มความดุร้ายขึ้นเล็กน้อย

นี่ไม่เหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้เลย ในสายตาของเขา เมื่อมียอดฝีมือขั้นสี่ตั้งมากมายขนาดนี้ร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งยังมีจิ้งซินคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ข้างๆ อย่างไรการสยบสวี่ชีอันก็ควรเป็นเรื่องง่ายดายราวพลิกฝ่ามือมิใช่หรือ?

แต่ถึงอย่างนั้นความแข็งแกร่งของสวี่ชีอันก็เหนือกว่าที่ทุกคนจินตนาการเอาไว้แล้ว

จิ้งหยวนยิ่งรู้ดีว่าสวี่ชีอันยังมีลูกไม้อื่นที่ทรงพลังยิ่งกว่าและยังไม่ได้ใช้ออกมาด้วย

เมื่อเทียบกับตอนอยู่ในเซียงโจว เขาเหมือนจะแข็งแกร่งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

นี่ไม่ใช่การคิดไปเอง สวี่ชีอันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากจริงๆ ผนึกยังอยู่ เขาถอนตะปูออกไปแค่สองตัวเท่านั้น

แต่ระดับฝีมือโดยรวมของเขากลับเพิ่มขึ้น เป็นเพราะการบำเพ็ญคู่ในช่วงนี้นี่เอง

การบำเพ็ญคู่กับยอดฝีมือหญิงที่อยู่ขั้นสองสูงสุดทำให้พลังปราณของเขาหนาแน่นและบริสุทธิ์ขึ้น ไม่เหมือนกับแต่ก่อนอีกต่อไป

ยิ่งรวมกับกายเนื้อของขั้นสาม การช่วยเหลือจากดาบไท่ผิง และวิธีการจากเจ็ดยอดกู่ ต่อไปผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขั้นสามและสามารถจัดการเขาได้ก็แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

“ห้ามฆ่าสัตว์!”

จิ้งซินร่วมมือกับจิ้งหยวนอย่างใจเย็น เขาใช้วิชาทรงศีลออกมาเพื่อห้ามเป้าหมาย

‘ตุบ ตุบ ตุบ!..’

จิ้งหยวนใช้ร่างกายโจมตี โดยทำให้ร่างกายทุกส่วนกลายเป็นอาวุธ เสียงระเบิดแตกดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และหนักหนาสาหัสยิ่งขึ้นเรื่อยๆ การโจมตีนี้ราวกับพายุฝนโหมกระหน่ำ

จิ้งหยวนเริ่มเข้าสู่สภาวะยอดเยี่ยม รู้สึกว่ายิ่งสู้ก็ยิ่งราบรื่น แต่ทันใดนั้น สัญญาณเตือนอันตรายของจอมยุทธ์ก็ส่งเสียงเตือน

ทว่าไม่มีภาพรายละเอียดที่แน่ชัด ราวกับว่าวิกฤตนั้นมาจากทุกทิศทาง

‘พิษ!’

เขาเคยเจอกับสวี่ชีอันที่เหลยโจว ดังนั้นจึงนึกขึ้นได้ทันทีว่าที่มาของวิกฤตนี้คือสิ่งใด

ขณะเดียวกัน ผิวหนังของเขาก็เริ่มปวดแสบปวดร้อน พิษราวกับหนอนแมลงวันแทรกซึมเข้าสู่กระดูกผ่านทางรูขุมขน

‘พิษของเขาคุกคามข้าได้แล้ว’…จิ้งหยวนใจตกไปที่ตาตุ่ม เขาระงับการหายใจโดยสัญชาตญาณแล้วหยุดชะงักไปติดๆ กัน

ตอนนี้เอง ในที่สุดสวี่ชีอันที่คว้าโอกาสได้ก็พ่นกลุ่มควันสีเขียวใส่ตัวเขา

ในชั่วพริบตา ด้านหน้าของจิ้งหยวนก็ดำสนิทจนมองอะไรไม่เห็น ต่อด้วยความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนอันรุนแรงยิ่งที่ดวงตาทั้งสองข้าง

เลือดไหลออกมาจากตาของเขาเป็นสองสาย ลูกตาของเขาถูกกัดกร่อนและหดตัวจนมืดบอดเสียแล้ว

สีหน้าของจิ้งซินเปลี่ยนไปยกใหญ่ เพราะด้วยระยะห่างเขาจึงไม่อาจสัมผัสถึงพิษได้เช่นเดียวกัน ไม่คาดคิดเลยว่าจิ้งหยวนที่ก่อนหน้านี้ยังดุดันราวกับพยัคฆ์ กลับตามืดบอดในครู่ต่อมาเช่นนี้ได้

สวี่ชีอันบิดเอวและเหวี่ยงแขน ท่าทางคล้ายจะลงมือสังหารแล้ว

“ห้ามฆ่าสัตว์!”

จิ้งซินรีบสวดท่องออกมาอย่างด่วนจี๋ เขาใช้วิชาทรงศีลเพื่อช่วยเหลือศิษย์น้อง

‘ติดกับแล้ว…’ สวี่ชีอันหายวับไปทันใดแล้วอาศัยการกระโดดข้ามเงาไปปรากฏตัวอยู่ในเงาของฉีฮวนตานเซียง

ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ซินกู่ ผลลัพธ์จากการถูกจอมยุทธ์ลอบสังหารก็คือตายสถานเดียว

ฉีฮวนตานเซียงพยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างสุดกำลังโดยไม่หันเหจิตใจจนส่งผลกระทบต่อดาบไท่ผิง เขากระตุ้นซินกู่ให้ส่งคลื่นสะเทือนจิตเดิมออกมา

แต่เขาไม่อาจอาศัยกำลังของตนมาส่งอิทธิพลต่อจิตเดิมของจอมยุทธ์ขั้นสามได้ ดังนั้นตรงหน้าของเขาจึงเต็มไปด้วยกำปั้น

ในตอนนี้เอง ลมหอบหนึ่งก็พัดมา ไป๋หู่ที่แขนหักเข้ามาขวางตรงหน้าเขาและรับกำปั้นนี้เอง

‘โครม!’

กายเนื้อของเผ่าพันธุ์ปีศาจขั้นสี่แข็งแรงไม่แพ้กัน ไป๋หู่คำรามเสียงต่ำและกลิ้งกระเด็นออกไปพร้อมกับฉีฮวนตานเซียง

ในชั่วขณะนี้เอง เพราะเมื่อครู่สูญเสียการควบคุมซินกู่ไป ดาบไท่ผิงจึง ‘ฟื้นตื่น’ ขึ้นมาแล้วหลุดออกจากมือของฉีฮวนตานเซียงโดยอัตโนมัติ แล้วบินกลับไปอยู่ข้างกายเจ้านายตัวเอง

‘หวึ่ง หวึ่ง หวึ่ง’…

ดาบไท่ผิงส่งคลื่นจิตออกมาซึ่งมีความหมายคร่าวๆ ว่า ‘เรื่องไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด ท่านฟังข้าอธิบายก่อนนะ’…

คำอารัมภบทแบบผู้ชายสารเลวพรรค์นี้ อย่าเอามาใช้กับข้าเด็ดขาด…สวี่ชีอันจับดาบไท่ผิงแล้วถอยไปด้านหลังเพื่อเว้นระยะห่าง คิดจะออกกระบวนดาบจากระยะไกล

ระยะนี้อยู่ไกลจากขอบเขตของวิชาทรงศีล

‘เขาคิดจะทำอะไร’

พวกฉานซือและจิ้งซินมองท่าทางของเขาไม่เข้าใจ

ระยะห่างที่ไกลขนาดนี้ แม้จะฟันดาบออกมา แต่จะเหลือพลังทำลายล้างอยู่สักเท่าไหร่กัน

เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังโจมตีที่สามารถทะลวงผ่านค่ายกลของฉานซือตั้งมากมายขนาดนี้ได้หรอก

“หยกสลาย!”

สวี่ชีอันเอ่ยเสียงเบา หลังจากสะสมพลังช่วงสั้นๆ เขาก็ฟันดาบไท่ผิงลงไป

เสียงสิงโตคำรามน่าเกรงขามดังขึ้น ประกายดาบสีทองหม่นสาดส่องในทันใด ครู่ต่อมามันก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกจิ้งซิน

ยอมเป็นหยกสลาย ไม่ขอเป็นกระเบื้องสมบูรณ์

เพียงแค่เล็งเป้าหมาย ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจระยะห่าง

‘ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ’….

ทรวงอกของฉานซือแต่ละรูปมีรอยดาบน่าสยดสยองปรากฏอยู่ ทำลายไปถึงหัวใจและทำลายปราณชีวิตของพวกเขาทุกคน

ค่ายกลวิชาฉานไม่อาจขวางจิตดาบอันรุนแรงเช่นนี้ไว้ได้

จิ้งซินเป็นฉานซือคนเดียวที่รอดพ้นจากหายนะ แม้ว่ากายเนื้อของเขาจะไม่แกร่งเท่าจอมยุทธ์ แต่หลังจากมาถึงขั้นสี่ พลังชีวิตก็อยู่เหนือกว่าปุถุชนทั่วไป

หลังจากหัวใจโดนทำลาย เขาก็ยังไม่ได้ตกตายในทันที

เขาหยิบขวดกระเบื้องออกมาจากในจีวรด้วยมืออันสั่นเทาแล้วเทขี้เถ้าธูปออกมาถูที่ทรวงอก

นี่คือขี้เถ้าธูปจากกระถางธูปที่อรหันต์ตู้ฉิงนั่งทำสมาธิ ซึ่งได้ปนเปื้อนกลิ่นอายที่ช่วยลบล้างผลลัพธ์ออกมา

ทั้งยังมีสรรพคุณชุบเนื้อและกระดูก

อีกด้านหนึ่ง ทรวงอกของสวี่ชีอันก็มีรอยเลือดระเบิดออกมาติดๆ กัน เลือดและเนื้อปะปนจนเลือนรางกรีดหัวใจ

ราคาที่ต้องแลกจากหยกสลาย

แต่สำหรับเขาที่มีกายเนื้อขั้นสาม พลังเท่านั้นยังไม่ถึงตาย อย่างมากก็เพราะยังมีตะปูตอกวิญญาณอยู่ บาดแผลจึงรักษาได้ช้าหน่อย

ร่างกายบอบบางของหลิ่วหงเหมียนสั่นเทาเล็กน้อย สองขาอ่อนแรง ทั้งใจเหลือเพียงความหวาดผวา

จีเสวียนบาดเจ็บสาหัสแต่ยังไม่หมดสติ เขามองเห็นภาพทุกอย่าง แววตานั้นหม่นหมองไร้แสง เต็มไปด้วยความสะเทือนใจหนักหน่วง

ส่วนฉีฮวนตานเซียงที่ชิงชีวิตคืนมาได้ สุดท้ายก็เกิดความหวาดกลัวอย่างหนักต่ออัจฉริยะจากภาคกลางที่โด่งดังผู้นี้

ตอนนี้ไป๋หู่คิดแต่จะหนี ไม่มีความคิดอื่นใดเหลืออยู่อีก

ส่วนอีกด้าน สวี่หยวนไหวกำหมัดแน่น ในใจของเขาทั้งขื่นขมและสิ้นหวัง เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็ไม่มีความคิดที่จะแข่งขันกับสวี่ชีอันอีกแม้แต่น้อย

‘แพ้แล้ว พ่ายแพ้ยับเยิน อีกทั้งนี่ยังเป็นช่วงที่พลังฝึกตนของเขาถูกผนึกอยู่ด้วยซ้ำ…’ สวี่หยวนซวงตกตะลึง

“ขะ แข็งแกร่งเกินไปแล้ว นี่สินะ ระดับขั้นที่ข้าใฝ่ฝันถึง” เหมียวโหย่วฟางเอ่ยพึมพำ

เขาหันไปมองด้านข้างและพยายามขอความเห็นชอบจากนักพรตเฒ่า แต่กลับพบว่าเจ้าคนแก่นั่นถอยไปอยู่ไกลๆ ตั้งนานแล้ว โดยเว้นระยะห่างจากตัวเองไกลมาก

ขณะเดียวกันนั้น ชามทองคำที่ลอยอยู่บนฟ้าก็พลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และแผ่แสงสีทองออกมาเป็นวงกลม

การต่อสู้ของอรหันต์ตู้ฉิงและลั่วอวี้เหิงใกล้จะสิ้นสุดแล้ว

พวกจิ้งซินและจีเสวียนที่กำลังสิ้นหวังกลั้นหายใจ พยายามคว้าจับแสงแห่งรุ่งอรุณเฮือกสุดท้ายท่ามกลางความมืดมิด

………………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 581 รุ่งอรุณ"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF