cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 557 กิ่งทองใบหยก

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 557 กิ่งทองใบหยก
Prev
Next

บทที่ 557 กิ่งทองใบหยก

“เมื่อพูดถึง ในปีนั้นบ้านสกุลสวี่ก็เป็นครอบครัวทรงอิทธิพลเช่นกัน”

สมุหราชเลขาธิการหวางถอนหายใจอย่างไม่มีมูล

หนังตาของสวี่ซินเหนียนกระตุก เงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ย “เรื่องทางอวิ๋นโจว ราชสำนักคิดจะแก้ไขอย่างไร”

หลังจากจักรพรรดิหยวนจิ่งถูกประหาร สำนวนคดีสองชุดถูกเก็บเป็นความลับ ผนึกอยู่ในห้องลับที่สำนักราชเลขาธิการ

หนึ่งในนั้นมีเพียงขุนนางที่มีอำนาจเหนือขั้นสามและปราชญ์มหาสำนักเท่านั้นที่จะได้อ่าน

เนื้อหาในสำนวนคดีคือทั่นฮวาหลางและสวี่ผิงเฟิง ศิษย์รองของท่านโหราจารย์ในปีนั้น สมคบคิดกับลูกหลานของราชวงศ์เมื่อห้าร้อยปีก่อน ตั้งฐานที่มั่นในอวิ๋นโจว พัฒนาอย่างลับๆ และพยายามก่อกบฏ

เหตุการณ์เก่านำมาซึ่งเรื่องราวต่างๆ เช่น คดีที่อดีตพรรคฉีสมคบคิดกับสำนักพ่อมดและสนับสนุนโจรภูเขา การลักลอบขนแร่เหล็กจากอวี่โจวเข้าอวิ๋นโจว จากขายตำแหน่งบรรดาศักดิ์ของจักรพรรดิหยวนจิ่ง

ปัจจุบันหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล ฝ่ายตรวจการ และศาลต้าหลี่กำลังสอบสวนขุนนางเมืองหลวงทุกคนอย่างเข้มงวดลับๆ เพื่อระบุตัวสายลับที่น่าจะเป็น

ขุนนางทุกพื้นที่ต่างก็เจอกับการสอบสวนอย่างลับๆ เฉกเช่นเดียวกัน

สำนวนคดีอีกชุดหนึ่งบันทึกความจริงที่จักรพรรดิหยวนจิ่ง อ๋องสยบแดนเหนือ และจักรพรรดิเจินเต๋อเป็นคนเดียวกัน

สำนวนคดีชุดนี้ไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ มีผู้รู้เรื่องราวเพียงน้อยนิด

องค์รัชทายาท ไม่สิ จักรพรรดิหย่งซิ่งทรงวางแผนส่งต่อเป็นความลับของวงศ์ตระกูลต่อไป

“เขตแดนของชิงโจวกับยงโจวได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี ราชสำนักยังออกพระราชโองการหลายฉบับไปยังอวิ๋นโจว ขอให้หยางชวนหนาน ผู้บัญชาการของเมืองอวิ๋นโจวกลับมารายงานที่เมืองหลวง ทว่าก็ไร้วี่แวว”

สมุหราชเลขาธิการหวางเอ่ยเสียงขรึม

“อวิ๋นโจวไม่ได้กบฏ ทว่านี่เป็นเรื่องของเวลา บุตรในเงามืดของหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลที่อวิ๋นโจวยังอยู่ กองกำลังทหารและวงราชการในอวิ๋นโจวไม่มีการเคลื่อนไหวชั่วคราว ราชสำนักสูญเสียการควบคุมพวกเขาไปแล้ว ลุงของเจ้าทำการค้าที่อวิ๋นโจวมานานแรมปี แผนการกว้างไกล”

สวี่ซินเหนียนขมวดคิ้วแน่น “ดังนั้นเจตนาของราชสำนักคือสังเกตการเปลี่ยนแปลงเงียบๆ หรือ”

สมุหราชเลขาธิการหวางพยักหน้า “ฝ่าบาทมีพระราชประสงค์จะปราบปรามลูกหลานของราชวงศ์เมื่อห้าร้อยปีก่อนในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ ทว่าก่อนหน้านั้น อวิ๋นโจวอาจจะลุกขึ้นกระทำการก่อนก้าวหนึ่ง ราชสำนักก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว”

สวี่ซินเหนียนกระจ่างแจ้ง “ดังนั้น คลังหลวงจึงไม่มีเงินและเสบียงสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเหลือมากพอ”

สมุหราชเลขาธิการหวางเงียบกริบ

…

ภายในห้องอันกว้างใหญ่เงียบสงัดไปพักหนึ่ง

สะใภ้รองจ้าวอวี่หรงกระแอมไอ ใช้น้ำเสียงสั่งสอนความรู้ให้เด็กน้อย

“คุณหนู ถ่านที่บ้านของเจ้าไม่เหมือนกับของที่นี่ นี่เป็นถ่านเนื้อทองที่ราชวงศ์ใช้กัน ใช้ได้เพียงในพระราชวังเท่านั้น”

อันที่จริงด้วยรูปแบบการทำงานที่เสื่อมโทรมและทุจริตของต้าฟ่งในปัจจุบัน จึงมีการขายถ่านเนื้อทองที่ตลาดมืดมากมาย ในบ้านของขุนนางเรืองอำนาจต่างมีถ่านชนิดนี้ไม่มากก็น้อย ทว่าตามปกติจะไม่นำออกมาใช้ยามที่รับแขก

ต่างเสพสุขลับหลังทั้งนั้น

มีเพียงผู้ที่ได้รับพระราชทานเฉกเช่นบ้านสกุลหวางที่จะใช้ได้อย่างเปิดเผย

สะใภ้ใหญ่หลี่เซียงหานหยิบผลไม้เชื่อมใส่ปาก มองสวี่หลิงเยวี่ยที่นั่งเยื้องอยู่ตรงข้าม แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“คนกันเอง อีกสักพักจะให้คนใช้ห่อถ่านเนื้อทองให้สองจิน ไม่ใช่ของหายากอะไรเสียหน่อย”

ความหมายในประโยคนี่ก็คือ ‘แม้จะได้มาจากจักรพรรดิ ทว่าสำหรับบ้านสกุลหวางก็ไม่นับว่าเท่าไร’

ตระกูลร่ำรวยชั้นสูงแม้จะมีของร่วงหล่นออกมาจากร่องนิ้วก็เป็นสิ่งที่ครอบครัวธรรมดามิอาจได้เพลิดเพลินในชีวิตนี้

ฮูหยินหวางยิ้มกริ่มประคองถ้วยชาดื่ม นางต้องการให้สะใภ้ทั้งสองมา ‘โอ้อวด’ สายสนกลในของบ้านสกุลหวาง แล้วขับบารมีของลูกสาวให้เด่น

สวี่หลิงเยวี่ยเอ่ยเสียงนุ่มนวล “ขอบคุณพี่สะใภ้เจ้าค่ะ ทว่าในบ้านยังมีถ่านเนื้อทองอีกหกสิบจิน น่าจะเพียงพอสำหรับฤดูหนาวนี้แล้ว”

เสียงของนางเบาละมุน สีหน้านอบน้อมจริงใจ มองไม่ออกว่ากำลังโอ้อวด

“ซื้อมาจากตลาดมืดหรือ หกสิบจิน นี่ต้องใช้เงินมากเท่าไร…”

ฮูหยินหวางสำลัก ใช้สายตาหยุดคำถามของสะใภ้ใหญ่ แล้วเอ่ยอย่างแผ่วเบา

“หลิงเยวี่ย ถ่านเนื้อทองเป็นของที่ราชวงศ์ใช้กัน แม้จะบอกว่าตระกูลทรงอิทธิพลมากมายต่างก็แอบซื้อมาใช้ ทว่าเรื่องนี้ไม่ควรป่าวประกาศ หากแพร่ออกไป ในวังจะลงโทษเอาได้ จากนี้ไปก็อย่าไปพูดข้างนอก เข้าใจแล้วใช่หรือไม่”

คำพูดของฮูหยินหวางไม่อ้อมค้อม เป็นคำเตือนที่จริงจัง

บ้านสกุลสวี่ใจกล้าเกินไปแล้ว ถ่านเนื้อทองหกสิบจินไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ซื้อขนาดนี้ได้ที่ไหน อาศัยบ้านสกุลสวี่เป็นผู้ดีรุ่นใหญ่จึงเติบโตเช่นนี้ กลัวว่าจะเป็นญาติที่ทำเรื่องชั่วในอนาคต…

บิดาของสะใภ้รองดำรงตำแหน่งอยู่ที่ศาลต้าหลี่ จึงอ่อนไหวกับด้านนี้เป็นพิเศษ

ในเมืองหลวงคล้ายกับมีพวกผู้ดีรุ่นใหญ่แบบนี้จะกระหยิ่มยิ้มย่องหลังจากเรืองอำนาจและเดินอย่างลอยล่องสู่จุดจบที่ไม่ค่อยดีนัก

สวี่หลิงเยวี่ยส่ายหน้า แล้วเอ่ยอย่างไร้เดียงสา “องค์หญิงฮว๋ายชิ่งกับองค์หญิงหลินอันทรงประทานให้”

“?” ฮูหยินหวางชะงักอย่างเห็นได้ชัด แล้วกลับไปสงบเงียบอย่างรวดเร็ว ไม่เอื้อนเอ่ยวาจา

สะใภ้ใหญ่เอ่ยอย่างประหลาดใจ “องค์หญิงทั้งสองทรงประทานให้หรือ”

แววตาของนางกับสะใภ้รองมิอาจเก็บซ่อนความสับสน ในฐานะภรรยาตระกูลร่ำรวยที่เก็บตัวอยู่ในจวนใหญ่ พวกนางถูกปิดกั้นข้อมูลจากโลกภายนอก รู้เพียงว่าต้าหลางบ้านสกุลสวี่สุดยอดมาก ทว่ารายละเอียดในแต่ละด้านกลับไม่แน่ชัด

ตัวอย่างเช่น ต้าหลางบ้านสกุลสวี่เป็นทาสสามตระกูล ในสองตระกูลนั้น ตระกูลหนึ่งเป็นพระธิดาองค์โตที่ถูกยกย่องในพระปรีชาสามารถแห้งต้าฟ่ง อีกตระกูลหนึ่งคือหลินอันที่เคยได้รับความโปรดปรานที่สุด

สวี่หลิงเยวี่ยอธิบาย “องค์หญิงทั้งสองทรงเห็นแก่หน้าพี่ใหญ่ จึงดูแลบ้านสกุลสวี่เป็นอย่างดี”

สวี่ต้าหลาง…

ไม่รู้ว่านึกถึงตำนานของสวี่ต้าหลางขึ้นมาหรืออย่างไร ฉับพลันสองสะใภ้ก็สุภาพขึ้นมากในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าอบอุ่นขึ้นเช่นกัน

สีหน้าของฮูหยินหวางเคร่งขรึมพร้อมเอ่ย “ได้ยินซือมู่บอกว่าสวี่อวิ๋นหลัวไม่อยู่ที่เมืองหลวงแล้วหรือ”

“พี่ใหญ่ออกไปท่องโลกแล้ว” สวี่หลิงเยวี่ยตอบ

ในบทสนทนาต่อมา สะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รองก็ ‘อวดรวย’ ไม่หยุด เผยความรู้สึกเหนือกว่าของตระกูลร่ำรวยทรงอิทธิพลเสมอ แสดงอำนาจของบ้านสกุลหวางด้วยสิ่งเหล่านี้

สะใภ้ใหญ่เอ่ย “เอ้อร์หลางดำรงตำแหน่งที่สำนักบัณฑิตฮั่นหลิน แม้จะบอกว่าเป็นขุนนางมั่งคั่งชั้นสูง ทว่าไม่ค่อยมีอำนาจ หลังจากแต่งงาน จะพยายามส่งไปทำงานต่างถิ่นหลังปีใหม่”

สวี่หลิงเยวี่ยเอ่ย “ก่อนที่พี่ใหญ่จะไปก็จัดเตรียมให้พี่รองเรียบร้อยแล้ว”

สะใภ้รองเอ่ย “เอ้อร์หลางกำเนิดในสำนักอวิ๋นลู่ พรสวรรค์ล้ำเลิศ ทว่าไมตรีจิตในวงราชการมีแค่งานเขียน ไมตรีจิตนั้นต้องอาศัยเงินผลักดันขึ้นไป ทว่าก็ไม่สำคัญ เรื่องเหล่านี้ขันทีจะต้องจัดเตรียมอย่างเหมาะสมอยู่แล้ว”

สวี่หลิงเยวี่ยเอ่ย “ในจวนยังมีผงปรุงรสไก่ที่พี่ใหญ่เหลือเป็นเงินปันผลส่วนหนึ่ง รายได้หลายหมื่นตำลึงต่อปี”

สะใภ้ใหญ่กล่าว “น้องสาวยังไม่แต่งงานสินะ พี่สะใภ้จะแนะนำหนุ่มรูปงามพรสวรรค์ชั้นยอดจากหลายตระกูลให้เจ้า”

สวี่หลิงเยวี่ยกล่าว “ขอบคุณพี่สะใภ้ ได้ฝีมือสักครึ่งของพี่ใหญ่ก็พอแล้วเจ้าค่ะ”

สะใภ้ใหญ่ “…”

หลังจากทำสงครามไปรอบหนึ่ง สะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รองก็พ่ายแพ้

ทันใดนั้นพวกนางก็ค้นพบว่าบ้านสกุลหวางในหลากหลายด้าน เช่น ทรัพย์สิน เส้นสาย และอำนาจของตระกูล คล้ายจะไม่มีอะไรเหนือไปกว่าบ้านสกุลสวี่เลย

ความรู้สึกเหนือกว่าหายไปในทันใด

ยายโง่…หวางซือมู่แอบส่ายหน้า

สองสะใภ้ถูกสวี่หลิงเยวี่ยปลุกปั่น เมื่อเห็นพวกนางทำตัวเหนือกว่า สวี่หลิงเยวี่ยจึงยกสวี่ชีอันออกมาให้ประจักษ์ชัด เปรียบเทียบความแข็งแกร่งโดยรวมของบ้านสกุลหวางกับบ้านสกุลสวี่

บีบให้สวี่หลิงเยวี่ยที่โฉมนอกไร้พิษภัยเปรียบเทียบบ้านสกุลหวางกับสวี่ชีอัน

เทียบกันได้หรือ

สองสะใภ้ถูกโฉมนอกของสวี่หลิงเยวี่ยทำให้สับสน คิดไปเองว่าคุมสถานการณ์ได้ คงไม่น่ามีปัญหา สุดท้ายก็เงียบกริบกันไปทีละคนสองคน เพราะบ้านสกุลหวางเทียบบ้านสกุลสวี่ไม่ติดจริงๆ

บัดนี้เสียงหัวเราะดุจกระดิ่งเงินก็ดังมาจากนอกห้อง

ชั่วพริบตาเด็กน้อยคู่หนึ่งวิ่งเข้ามา ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง

เด็กชายกำยำน่าเอ็นดู สวมเสื้อคลุมกำมะหยี่พร้อมกับหมวกขนจิ้งจอก ผิวคล้ำเล็กน้อย อายุประมาณสิบขวบ

เด็กหญิงผิวขาวละเอียด ใบหน้ากลมกลึง ดวงตากลมโต มองแวบแรกก็ดูเหมือนสาวงามตัวน้อย อายุประมาณเจ็ดขวบ

“ท่านย่า! ”

รอยยิ้มของเด็กน้อยทั้งสองจางลง แล้วเอ่ยอย่างนอบน้อม

“พี่เฮ่ากับพี่เตี๋ยมาแล้ว”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮูหยินหวาง เรียกเด็กน้อยคู่หนึ่งมาที่ข้างกายตน

หวางซือมู่ถือโอกาสแนะนำตัว “นี่คือลูกของพี่ใหญ่”

สวี่หลิงเยวี่ยพยักหน้า

เด็กน้อยทั้งสองนั่งลงข้างกายฮูหยินหวาง เด็กหญิงพิจารณาเด็กน้อยเนื้อแน่นที่รุ่นราวคราวเดียวกันด้วยดวงตาใสแจ๋ว

เด็กชายก็มองสำรวจสาวน้อยแปลกหน้าผู้นี้

สะใภ้ใหญ่ตาเป็นประกาย ทำเสียง ‘โอ๊ะ’ แล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เฮ่าเอ๋อร์ เตี๋ยเอ๋อร์ มาทักทายน้องสาวเร็ว”

เด็กน้อยทั้งสองทักทายสวี่หลิงอินทันที

สวี่หลิงอินกินขนมอบ ผลไม้แห้ง และผลไม้เชื่อมอย่างจดจ่อ จมอยู่ในโลกของตนเอง

เซ่อซ่าแถมยังตะกละตะกลาม…สะใภ้ทั้งสองส่ายหน้าอย่างเงียบๆ

ใบหน้าของฮูหยินหวางประดับรอยยิ้มน้อยๆ

สะใภ้ใหญ่ยิ้มพลางเอ่ยถาม “ยังไม่ได้ถามเลย คุณหนูหลิงอินอยู่ในระดับก่อปัญญาหรือยัง”

สวี่หลิงเยวี่ยส่ายหน้าพร้อมเอ่ยเสียงเบา “ยังเจ้าค่ะ หลิงอินหัวทึบ แม้แต่คัมภีร์สามอักษรยังท่องไม่เป็น ส่งไปร่ำเรียนก็ไม่มีประโยชน์”

รอยยิ้มบนใบหน้าของสะใภ้ใหญ่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

“นี่ไม่ได้นะ แม้จะบอกว่าหญิงสาวอย่างพวกเราไม่จำเป็นต้องสอบเพื่อลาภยศ ทว่าต้องชำนาญในศาสตร์ทั้งสี่[1] ข้าคิดว่าส่งคุณหนูหลิงอินไปที่สำนักศึกษาเอกชนของบ้านสกุลหวางได้”

ฮูหยินหวางพยักหน้าด้วยใบหน้าเป็นมิตร “ยังมีโอกาสเข้าวังเรียนหนังสือร่วมกับพระราชโอรสสองวันในทุกเดือน ตั้งใจฟังมหาราชครูสั่งสอน”

“แค่กๆ…”

หวางซือมู่สำลักชาจนน้ำตาไหล

“เป็นอะไรไป” ฮูหยินหวางมองลูกสาวของตน

“นายจางกับมหาราชครูต่างก็อายุมากแล้ว…” หวางซือมู่เอ่ยเสียงเบา

ดังนั้นท่านแม่ก็ปล่อยพวกเขาไปเถอะ

“ตกลงเจ้าค่ะ! ”

สวี่หลิงเยวี่ยเอ่ย “ขอบคุณฮูหยินหวางมากเจ้าค่ะ”

สวี่หลิงเยวี่ยชะงัก ก่อนจะเอ่ย “อันที่จริงหมู่นี้หลิงอินกำลังฝึกวิทยายุทธ์ จึงทิ้งร้างวิชาการ ข้าก็คิดว่านางควรเรียนหนังสือให้มาก”

“ฝึกวิทยายุทธ์หรือ”

หญิงสาวในห้องเผยสีหน้า ‘นี่ช่างป่าเถื่อน’ ออกมา จอมยุทธ์ก็ป่าเถื่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หญิงสาวเรียนวิทยายุทธ์ นับว่ายิ่งป่าเถื่อนในหมู่คนป่าเถื่อนเสียอีก

หวางเฮ่าที่ผิวคล้ำตาเป็นประกาย ลุกขึ้นยืนจ้องสวี่หลิงอินเขม็งพร้อมเอ่ย

“เจ้าก็เรียนวิทยายุทธ์หรือ พวกเรามาประลองกัน”

ข้อเสนอของเด็กชายถูกผู้เป็นมารดาปัดตก สะใภ้ใหญ่ตำหนิ “หยุดพล่ามไร้สาระ เจ้าเป็นต้นกล้าชั้นดีที่เยี่ยมยอด คุณหนูหลิงอินไม่เหมือนกับเจ้า ไม่ใช่ว่าเจ้าจะรังแกนางหรอกหรือ”

แล้วหันไปพูดกับสวี่หลิงเยวี่ย “เฮ่าเอ๋อร์หน่วยก้านดี ขุนนางต่างแดนในจวนชมว่าเป็นต้นกล้าชั้นดี จึงรับเป็นลูกศิษย์ ขันทีก็กล่าวเช่นกัน เรียนวิทยายุทธ์ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้นับเป็นเรื่องดี ในอนาคตเฮ่าเอ๋อร์ก็จะได้ทั้งบู๊และบุ๋น”

น้ำเสียงภาคภูมิใจยิ่งนัก

สวี่หลิงเยวี่ยก้มหน้า “น้องสาวของข้ามีแต่พละกำลัง”

ท่าทางช่างน้อยเนื้อต่ำใจ

หวางเฮ่าไม่เคยพบคู่ต่อสู้รุ่นราวคราวเดียวกันตามปกติ ยากจะพบสักคน จึงเอ่ยอย่างร้อนรน

“ท่านย่า ข้ารู้จักบันยะบันยัง ท่านให้ข้าประลองกับนางเถิด หากกลัวว่าข้าจะทำนางบาดเจ็บก็ให้ทหารรักษาพระองค์มาดูแลก็ได้”

ฮูหยินหวางยังคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมอยู่ดี กำลังจะปฏิเสธกลับได้ยินสวี่หลิงเยวี่ยเอ่ย “เอาสิ”

หืม ฮูหยินหวางปรายตามองนาง แล้วเอ่ยอย่างจำใจ “ตกลง”

จากนั้นให้สาวใช้เรียกทหารรักษาพระองค์มาหนึ่งนายทันที

หวางเฮ่ากับสวี่หลิงอินออกมาจากห้องและมาที่ลาน

สวี่หลิงเยวี่ย หวางซือมู่ สองสะใภ้ และฮูหยินหวางสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ยืนชมอยู่ใต้ชายคา

ทหารรักษาพระองค์วัยกลางคนกดกระบี่ด้วยมือเดียว มองสำรวจเด็กน้อยทั้งสองก่อนจะเอ่ย “ก่อนจะประลอง ข้าจะขอดูพละกำลังของพวกเจ้าเสียก่อน”

พูดพลางชี้ไปที่ม้าหินด้านข้าง “ขยับม้านั่ง”

เด็กน้อยเล่นขายของสำหรับเขาไม่มีเหตุการณ์กระบี่ไร้ตา[2]แต่อย่างใด ทว่าเพื่อคำนึงถึงความปลอดภัย ทดสอบพละกำลังเสียก่อนดีกว่า

หากความต่างเหลื่อมล้ำมากเกินไปก็ไม่จำเป็นต้องประลอง

หวางเฮ่าเริ่มเดินไปที่โต๊ะหินก่อน โน้มตัวกอดม้าหินข้างโต๊ะ ก่อนจะตะโกนลั่น อุ้มม้านั่งขึ้น

ใบหน้าเล็กของเขาแดงก่ำ เส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผาก อ่อนแรงหลังเดินไปสิบก้าว ฮูหยินหวางร้องเรียกอยู่ด้านข้างตลอดกระบวนการ

“ช้าหน่อย เดินช้าหน่อย…”

สะใภ้รองเอ่ยชม “เฮ่าเอ๋อร์ช่างมีความสามารถ”

สะใภ้ใหญ่รอยยิ้มเต็มหน้า แล้วอุทานเอ่ย “อันที่จริงเรียนหนังสือดีกว่า เฮ้อ เดิมทีก็ไม่อยากให้เขาเรียนวิทยายุทธ์ เฮ่าเอ๋อร์หน่วยก้านดีเกินไปจริงๆ ”

สะใภ้ใหญ่เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของฝานเอ่อร์ไซ่โดยไม่พึ่งครู

ทหารรักษาพระองค์วัยกลางคนเอ่ยชม “นายน้อยอนาคตไกลในภายภาคหน้าแน่ขอรับ”

เขามองตามหลังสวี่หลิงอิน “ไม่ต้องฝืน”

ในที่สุดสวี่หลิงอินก็กินผลไม้เชื่อมในมือหมด เลียฝ่ามือ และเดินไปที่โต๊ะหินท่ามกลางสายตาของทุกคน

นางเอื้อมมือจับขอบโต๊ะหินเอาไว้

ทหารรักษาพระองค์วัยกลางคนกำลังจะพูดว่า ‘ไม่ใช่อันนี้’ ทันใดนั้นนัยน์ตาก็เบิกกว้าง เห็นว่าโต๊ะหินถูกเด็กหญิงตัวน้อยจับขึ้นมาด้วยมือเดียวคล้ายขนนกที่ไร้น้ำหนัก ยกขึ้นเหนือศีรษะ

ยกขึ้นเหนือศีรษะ…

ด้วยมือเดียว…

สถานการณ์เงียบกริบในบัดดล

สะใภ้ใหญ่เบิกตากว้าง อ้าปากน้อยๆ ทั้งร่างแข็งทื่อราวกับถูกโจมตีมิอาจต้านรับ

ฮูหยินหวางสีหน้าประทับใจ

นายน้อยบ้านสกุลหวางอึ้ง

‘โครม!’

สวี่หลิงอินโยนโต๊ะหินกลับที่เดิม แล้วมองพี่สาวอย่างเซ่อซ่า “สู้กันได้หรือยัง”

สู้เสร็จยังต้องกลับไปกินต่ออีก

“ไม่! ”

“ไม่ประลองแล้ว! ”

ฮูหยินหวางกับสะใภ้ใหญ่แผดเสียงร้องพร้อมกัน

บัดนี้สวี่หลิงเยวี่ยยังคงมีท่าทางไร้พิษภัยของสาวงามสามัญชน แล้วเอ่ยอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

“หลิงอินทำอะไรก็ไม่เป็น จะมีก็แต่พละกำลัง พี่ใหญ่ก็คิดว่านางสติปัญญาไม่ได้เรื่อง”

สะใภ้ใหญ่มองนางอย่างตะลึง ริมฝีปากพะงาบ ไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด

นี่…ฮูหยินหวางกับสะใภ้รองก็ไม่เหลือเสียงแล้ว

…

สวี่ซินเหนียนทานมื้อกลางวันที่จวน หลังจากอำลากับสมุหราชเลขาธิการหวาง เมื่อไปที่ลานหลังก็เห็นน้องสาวทั้งสองรออยู่ที่ทางเข้าโถงใน คนใช้ที่ตามมาจากจวนประคองกล่องของขวัญกองใหญ่ นี่เป็นของขวัญที่ได้มาจากบ้านสกุลหวาง

เขาไม่ได้เข้าไปในโถงใน ยืนพยักหน้าเล็กน้อยอยู่ไกลๆ รอเหล่าน้องสาวเดินเข้ามาพร้อมกับคนใช้ แล้วสามพี่น้องก็ออกจากจวนสกุลหวางไป

เมื่อเข้าไปในรถม้า ล้อรถก็สั่นเคลื่อน สวี่ซินเหนียนเหลือบมองน้องสาวพร้อมเอ่ย

“รู้สึกอย่างไร”

สวี่หลิงเยวี่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ก็ดีเจ้าค่ะ พี่ซือมู่บอกกฎระเบียบ”

บอกกฎระเบียบหรือ สวี่ซินเหนียนจ้องนางอย่างฉงน

สวี่หลิงเยวี่ยส่งยิ้มอย่างน่าเอ็นดู

นางยังคงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หากหวางซือมู่ออกโรงประชันคงน่าสนใจกว่านี้อีกหน่อย

…

เมื่อสวี่ซินเหนียนจากไป สมุหราชเลขาธิการหวางก็ดื่มชาอยู่ตามลำพัง แล้วไปที่โถงใน

บรรยากาศที่นี่อึมครึมเล็กน้อย ภรรยาเอกฮูหยินหวาง ลูกสะใภ้ทั้งสอง และลูกสาวหวางซือมู่กำลังนั่งอยู่อย่างเงียบๆ

ลูกสาวยังพอว่า แต่ภรรยาเอกฮูหยินหวางสีหน้าอึมครึม ลูกสะใภ้ทั้งสองก็มิอาจซ่อนความซึมเซาและความผิดหวังได้

สมุหราชเลขาธิการหวางเอ่ยอย่างแผ่วเบา “งานกร่อยแล้วหรือ”

ลูกสะใภ้ทั้งสองไม่เอ่ยอะไร

ฮูหยินหวางลังเลสักพักก่อนจะเอ่ย “นายท่าน ข้าเพียงคิดว่าบ้านสกุลสวี่กับพวกเราดองกันไว้ก็ไม่นับว่าต่างชั้นอะไร”

สะใภ้ใหญ่พยักหน้าไม่หยุด “ใช่เจ้าค่ะๆ ”

นางอยากส่งเฮ่าเอ๋อร์ไปเรียนวิทยายุทธ์ที่จวนสกุลสวี่

สะใภ้รองเอ่ยอย่างปลงตก “ซือมู่แต่งกับเอ้อร์หลางเหมาะสมเป็นกิ่งทองใบหยกเจ้าค่ะ”

จากนี้ไปต้องให้ความสนใจบ้านสกุลสวี่กว่าเดิมเสียหน่อย นางเก็บความรู้สึกเหนือกว่าของตนเองลงไปอย่างเงียบๆ

หวางซือมู่พลันเอ่ย “ท่านพ่อ พี่สะใภ้ใหญ่ตกลงรับคุณหนูบ้านสกุลสวี่มาเรียนที่จวนเจ้าค่ะ”

สมุหราชเลขาธิการหวางถามกลับ “มีปัญหาอะไรหรือ”

เรื่องเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องหารือกับเขา

หวางซือมู่เอ่ยอย่างแผ่วเบา “หากกลับคำเรื่องที่รับปากก็ให้พี่ใหญ่ไปเจรจาที่จวนสกุลสวี่เอง ข้าจะไม่เป็นคนจัดการ”

สมุหราชเลขาธิการหวางโบกมือปัด “เรื่องเล็กน้อย”

สมุหราชเลขาธิการหวางในตอนนี้ยังไม่รับรู้ถึงความร้ายแรงของสถานการณ์…เขาแปลกใจกว่าเดิม เหตุใดจู่ๆ สมาชิกหญิงในบ้านถึงยอมแพ้และมีท่าทีซึมเซาไร้แรงฮึดสู้

…

เมื่อกลับไปถึงจวนสกุลสวี่ สวี่หลิงอินสองมือจับหลังเอว ยืดอก โน้มตัวพุ่งเข้าไปหาท่านอาจารย์ลี่น่า แล้วแบ่งอาหารเลิศรสที่ตนได้รับมาจากจวนสกุลหวางกับนาง

สวี่หลิงเยวี่ยไปที่เรือนตะวันออกเพื่อรายงานกับมารดา

อาสะใภ้เห็นลูกสาวกลับมาก็ถามเข้ามาเต็มเหนี่ยว “ถูกรังแกหรือไม่ จวนสกุลหวางดูถูกไหม รู้สึกกล้ำกลืนหรือเปล่า”

สวี่หลิงเยวี่ยส่ายหน้า “ไม่มีอะไร ฮูหยินหวางกับพี่สะใภ้ทั้งสองสุภาพมากเจ้าค่ะ”

อาสะใภ้ไม่เชื่อ แล้วจิ้มหน้าผากของลูกสาว “เด็กสาวเช่นเจ้า แม้จะถูกรังแกก็อดทน”

พูดพลางเรียกลูกสาวไปนั่งที่โต๊ะ แล้วชี้แนะอย่างจริงใจ

“บอกเรื่องที่เจอในบ้านสกุลหวางมา แม่จะช่วยเจ้าวิเคราะห์ว่าสิ่งใดไม่ได้ทำและสิ่งใดควรรับมืออย่างไร เจ้าน่ะ จำเอาไว้ให้ดี หลังจากแต่งเข้าบ้านก็ใช้สิ่งที่แม่สอนรับมือกับแม่สามี”

สวี่หลิงเยวี่ยพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู “งั้นในตอนนั้นท่านแม่ก็ทำเช่นนี้กับท่านย่าด้วยอย่างนั้นหรือ”

อาสะใภ้เบ้ปาก “เจ้าลืมไปแล้วหรือ ท่านย่าของเจ้าเสียก่อนที่ข้าจะแต่งงานกับพ่อเจ้าแล้ว”

สวี่หลิงเยวี่ยถอนใจเอ่ย “ท่านแม่ช่างโชคดีเสียจริง”

…

เซียงโจว จวนสกุลไฉ

เทพอารักษ์ตู้หนานร่างสูงแปดฉื่อ (1 ฉื่อประมาณ 23.1 เซนติเมตร) ห่มกาสาวพัสตร์สีแดงสลับเหลือง เดินมาที่นอกประตูกลาง

“รบกวนประสกรายงานว่า อาตมาคือตู้หนาน”

ภิกษุร่างใหญ่พนมมือ

เทพอารักษ์ตู้หนานในตอนนี้ลมปราณทั้งหมดเหือดหาย นอกจากร่างดุจเจดีย์เหล็กก็ไม่มีอะไรต่างจากคนทั่วไป ลูกไฟด้านหลังศีรษะก็จางหายเช่นกัน

คนเฝ้าประตูเหลือบมองร่างยักษ์อย่างหวาดกลัว แล้วเอ่ยเสียงสั่น “ตะ ไต้ซือรอสักครู่ขอรับ…”

………………………………………

[1] ศาสตร์ทั้งสี่ หมายถึง กู่ฉิน หมากล้อม การเขียนพู่กัน และการวาดภาพ

[2] กระบี่ไร้ตา หมายถึง ทำให้คนได้รับบาดเจ็บ

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 557 กิ่งทองใบหยก"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF