cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง - บทที่ 528 เจดีย์พุทธะ

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง
  4. บทที่ 528 เจดีย์พุทธะ
Prev
Next

บทที่ 528 เจดีย์พุทธะ

สาวกตำหนักมังกรตงไห่และภิกษุวัดซานฮัวหันศีรษะมองไปยังประตูบานใหญ่ที่เปิดอยู่ของเจดีย์พุทธะอย่างพร้อมเพรียงกัน

“มีทางเข้าก็ต้องมีทางออก!”

เทพอารักษ์ตู้หนานเอ่ยเสียงราบเรียบ วงแหวนไฟลุกโชนขึ้นที่ด้านหลังศีรษะ ร้อนระอุจนคนรอบข้างรู้สึกราวกับอยู่ในช่วงกลางฤดูร้อน

ที่แห่งนี้คือที่ตั้งของวัดซานฮัวและเจดีย์พุทธะอันเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักพุทธ แม้ว่าจะชิงปราณมังกรไปได้แต่ก็ต้องออกมาอยู่ดี การจะแย่งชิงปราณมังกรทั้งที่อยู่ในเขตแดนศัตรูอย่างสำนักพุทธนับว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก

แม้ก่อนหน้านี้เรื่องที่ปราณมังกรถูกชิงไปจะอยู่นอกเหนือความคิดของเทพอารักษ์ตู้หนาน แต่เมื่อได้เผชิญกับสถานการณ์จริงเช่นนี้ กลับเชื่อสุดใจว่าปราณมังกรไม่มีทางหลุดรอดออกไปจากเจดีย์พุทธะและวัดซานฮัวภายใต้สายตาของเขาแน่นอน

“อมิตตาพุทธ!”

เจ้าอาวาสวัดซานฮัวที่เห็นศิษย์รักพ่วงด้วยตำแหน่งผู้สืบทอดตายลงต่อหน้าต่อตาพลันสลดใจอย่างเสียศูนย์ กล่าวว่า

“เจดีย์พุทธะจะเปิดออกทุกๆ หกสิบปี โดยแต่ละครั้งจะมีเวลาสิบสองชั่วยาม เมื่อครบเวลาแล้วประตูจะปิดลงทันที เทพอารักษ์ตู้หนานปล่อยให้พวกเขาอยู่ในเจดีย์ตลอดกาลเพื่อรับผลกรรมที่ตนก่อเอาไว้เถิด”

ด้วยผ้าคลุมที่ถูกสวมใส่จึงเผยให้เห็นใบหน้าเพียงครึ่งเสี้ยวของอีเอ๋อร์ปู้ที่ยิ้มเอ่ย “เป็นความคิดที่ดี”

จิ้งซินพยักหน้า

แม้ว่าพระโพธิสัตว์ขั้นสามไม่อาจเข้าเจดีย์พุทธะได้แต่ไม่ใช่กับพระโพธิสัตว์ขั้นหนึ่ง ไม่ต้องรอจนถึงวาระหกสิบปี เพียงบรรยากาศของอรัญตาคลายความตึงเครียดลงสักหน่อย พระโพธิสัตว์จะต้องมาเอาปราณมังกรออกไปด้วยตนเองแน่

น่าเสียดายที่เมื่อถึงเวลานั้น ยากที่จะบอกได้ว่าปราณมังกรจะถูกมอบให้กับเขาหรือเปล่า

สำนักพุทธไม่ได้สูญเสียปราณมังกรแต่เขาสูญเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ จิ้งซินก็อดรู้สึกโกรธไม่ได้

“อมิตตาพุทธ!”

เขาเอ่ยนามองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเสียงเบาออกมาเพื่อระบายอารมณ์

ฉานซือจิ้งซินเป็นผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ หาใช่ภิกษุที่ดื่มสุราล่าเนื้อและเข่นฆ่าคนโดยไร้ซึ่งสำนึกชั่วดีไม่

“ท่าไม่ดีแล้ว”

หลี่หลิงซู่ ‘ร้อง’ ออกมาเสียงหลงพลางวิเคราะห์ “มีเทพอารักษ์และปรมาจารย์แห่งปราชญ์วิญญาณเฝ้าอยู่ที่ประตู ‘เจดีย์’ หากคิดจะตอบโต้จากข้างนอกก็ต้องต่อสู้กับพวกเขา”

ถึงแม้จะมีพลังวิเศษของพ่อมด ก็ไม่อาจทำให้เทพอารักษ์ระดับเพชรสะทกสะท้าน แล้วนับประสาอะไรกับปรมาจารย์ทางจิตวิญญาณ

มู่หนานจื่อขมวดคิ้ว เผลอออกแรงรัดจิ้งจอกขาวตัวน้อยโดยไม่รู้ตัว

“ชีพจร…”

ในขณะนั้นซุนเสวียนจีก็เอ่ยคำหนึ่งคำออกมา เขาก้าวเท้าลงเบาๆ ลวดลายที่สลักบนป้อมพลันส่องสว่างขึ้นทีละอัน

ขาย? (เป็นการได้ยินผิดไปจากคำว่าชีพจร เพราะภาษาจีนสองคำนี้อ่านว่า ม่าย เหมือนกัน) เขาจะขายอะไร?

หลี่หลิงซู่ไม่เข้าใจสักนิด แต่ก่อนที่จะได้ขบคิดเรื่องนี้ต่อ เขากลับเหลือบไปเห็นกระสุนปืนใหญ่ในตะกร้าลอยขึ้นเติมชนวน

ไม่นานท่ามกลางเสียง ‘ตูมตาม’ ปืนใหญ่สิบห้ากระบอกก็เรียงรายออกมาพร้อมเพรียงกัน ต่างยิงกระสุนออกจากถังบรรจุทีละนัด

ตามมาด้วยเสียงสายธนูของเตียงหน้าไม้ที่สั่นเสนาะประสานกัน หน้าไม้ที่มีปากและความสูงเทียบเท่าคนกำลังระดมยิงอย่างดุเดือด

เทพอารักษ์ตู้หนานปลีกตัวหลบไปที่ประตูทางออกของเจดีย์อย่างทุลักทุเล สองมือยกขึ้นพลางออกแรงดันขึ้นไปบนท้องฟ้า

เขาสร้างกำแพงอากาศราวคลื่นทะเลที่มองไม่เห็น ก่อนจะซัดเตียงหน้าไม้ขึ้นไปบนอากาศทำลายกระสุนปืนใหญ่ที่ถาโถมเข้ามา

เปลวเพลิงปะทุขึ้นกลางอากาศราวกับดอกไม้ไฟพร่างพราวไอรีนโนเวล
‘ตู้ม ตู้ม ตู้ม!’

การโจมตีระลอกที่สองตามมาติดๆ ทว่าเป้าหมายกลับไม่ใช่เทพอารักษ์ตู้หนานและคนอื่นๆ อีกต่อไป ทันใดนั้นป้อมปืนใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่หลังเจดีย์ ถล่มยิงลงไปยังเจดีย์โดยไม่ทันตั้งตัว

มู่หนานจื่อยืนอยู่ที่ขอบป้อม เฝ้าดูกระสุนที่กระทบเจดีย์ ผนังร้าวลอกออกทีละแผ่นจนเผยให้เห็นเจดีย์สีทองเข้มด้านใน

หลังจากนั้นไม่นาน เจดีย์พุทธะก็กระดำกระด่าง ผนังสีทองเข้มและขาวผสมปนเปกันจนเละเทะไปหมด

ผนังสีขาวและกระเบื้องสีดำเป็นเพียงสิ่งอำพรางเท่านั้น เดิมทีเจดีย์พุทธะคือของวิเศษ ของวิเศษที่พระโพธิสัตว์ขั้นหนึ่งเฝ้าบำรุงรักษามานานหลายชั่วอายุคน

ด้วยเหตุนี้พลังยิงที่โหมกระหน่ำจึงไม่สะเทือนมันเลยแม้แต่ครึ่งเดียว…หลี่หลิงซู่ปลงตกในใจ ช่วงเวลาอันห่อเหี่ยวนี้ป้อมก็ได้เคลื่อนย้ายอีกครั้ง

ท่ามกลางความว่างเปล่าที่เดิมเป็นที่ตั้งของป้อม จู่ๆ ร่างของอีเอ๋อร์ปู้ก็ปรากฏขึ้น ซุนเสวียนจีที่ตระหนักได้ถึงภัยอันตรายล่วงหน้าจึงหลบเลี่ยงการจู่โจมของปรมาจารย์วิญญาณได้ทัน

ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายขับสู้กันกลางอากาศ แต่ซุนเสวียนจีกลับไม่ได้สนใจอีเอ๋อร์ปู้ ยังคงถล่มยิงลงไปอย่างต่อเนื่อง

เขากำลังบังคับให้เทพอารักษ์ตู้หนานลงมือ

สองพี่น้องตงฟางและภิกษุวัดซานฮัวหนีเข้าไปในชั้นแรกของเจดีย์อีกครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับปืนใหญ่ของสวี่ชีอันในเจดีย์แล้ว ปืนใหญ่ของซุนเสวียนจีนั้นทรงพลังกว่าหลายเท่า

แม้แต่จอมยุทธ์ขั้นสี่ก็ยังไม่กล้ายอมต่อกร

เทพอารักษ์ตู้หนานยืนแน่นิ่งอยู่หน้าเจดีย์ ด้วยเทวราชคุ้มกายาระดับเพชร พลังของปืนใหญ่จึงไม่เป็นภัยต่อเขา

“ต่อให้วัดซานฮัวถูกทำลายแล้วทำลายอีก มันก็ถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่ดี ขอดูหน่อยเถอะว่ากระสุนและหน้าไม้ของเจ้าจะมีสักเท่าไรเชียว”

เทพอารักษ์ตู้หนานพลันส่งเสียงดัง ‘กระหึ่ม’

“วิชาสาปสังหาร!”

เพื่อไม่ให้พลาดอีกครั้ง อี้เอ๋อร์ปู้จึงเลือกใช้วิชาลับของพ่อมด

ทว่าวิชาสาปสังหารกลับไร้ผล ภายใต้อากาศว่างเปล่าเช่นนี้ หากไม่มีตัวกลางวิชาสาปสังหารก็จะไม่แข็งแกร่งพอที่จะทะลวงผ่านการป้องกันของค่ายกลหรือส่งผลกระทบต่อซุนเสวียนจี

ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นอีเอ๋อร์ปู้เสียเองที่ถูกโจมตี จนต้องบินร่นถอยไปด้วยความอับอายไอรีนโนเวล

แต่หลี่หลิงซู่กลับไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย วิสัยทัศน์ของเขายังคงดังเดิม หากมองเผินๆ อาจดูเหมือนว่าซุนเสวียนจีเป็นฝ่ายได้เปรียบ ความจริงแล้วสำนักพุทธต่างหากที่เป็นผู้ที่ไม่เสียเปรียบอย่างแท้จริง

…

“ด้านนอกเกิดการต่อสู้ขึ้นแล้ว”

“พ่อมดแห่งสำนักโหราจารย์กำลังช่วยพวกเรา ถึงเวลาต้องรีบออกไปแล้วหรือเปล่า?”

“เจ้ากำลังรนหาที่ตายอยู่หรือไง ไม่เห็นหรือว่าเทพอารักษ์ระดับเพชรเฝ้าที่ปากประตูอยู่น่ะ”

“ตอนนี้พวกเราทำได้แค่ฝากความหวังไว้กับศิษย์รองอย่างท่านโหราจารย์ผู้นั้น”

เหล่าจอมยุทธ์เหลยโจวต่างตระหนักถึงชะตากรรมของตนเองได้ในทันที การที่แย่งชิงสมบัติและขับไล่สำนักพุทธไปได้ ไม่ได้หมายความว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลง

กุญแจสำคัญคือการที่จะสามารถออกไปจากเจดีย์พุทธะได้อย่างปลอดภัยต่างหาก โชคดีที่เรามียอดฝีมือระดับสามเหมือนกับอีกฝ่าย เมื่อรวมกับพ่อมดของสำนักโหราจารย์แล้วนับว่าสู้แบบสองต่อหนึ่งได้อย่างสบายๆ ไร้เทียมทานโดยแท้

ที่หน้าต่างทางทิศใต้หลี่เส่าอวิ๋น หยวนอี้และถังหยวนอู่กำลังรวมตัวกันที่นั่น แม่ทัพเจิ้นฝู่พิงค้ำหอกยาว หันมองไปยังสวีเชียนที่อยู่ในชุดคลุมสีดำห่างออกไปพลางพูดเสียงเบา

“ดูเหมือนจะออกไปไม่ได้สินะ?”

ใบหน้าของถังหยวนอู่พลันเคร่งขรึม คิ้วขมวดแน่น “เจดีย์พุทธะจะเปิดออกเพียงสิบสองชั่วยาม หากไม่ออกไปก่อนหน้านั้น พวกเราจะถูกขังอยู่ที่นี่จนตาย”

หยวนอี้กล่าวเสริม “เป็นไปไม่ได้ที่ซุนเสวียนจีจะเอาชนะขั้นสามได้ถึงสองคน โดยเฉพาะเทพอารักษ์ระดับเพชรอย่างตู้หนาน พวกเราจะฝากความหวังไว้ที่เขาคนเดียวไม่ได้หรอก”

หลี่เส่าอวิ๋นส่งเสียง ‘จุ๊ๆ’ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “ข้าว่าภิกษุชรารูปนั้นก็ดูเป็นคนมีเมตตาเหลือล้น ทำไมเจ้าไม่ไปขอให้เขาพาพวกเราออกไปล่ะ?”

ผู้บัญชาการเหลือบมองไปที่ถ่าหลิงซึ่งนั่งขัดสมาธิทั้งที่หลับตาอยู่ ก่อนส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า

“แม้แต่ภิกษุของสำนักพุทธเขายังไม่ช่วย คิดหรือว่าเขาจะช่วยเรา”

“ลองโดยไม่ใช้เงินดูสิ”

หลี่เส่าอวิ๋นเดินเข้าไปพร้อมกับปืนในมือ ประสานมือเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมพลางพูดว่า “ท่านไต้ซือ ได้โปรดพาพวกเราออกไปด้วย”

ภิกษุชราลดสายตาลงยิ้ม “หนทางอยู่ที่เท้าของโยม ออกไปได้เสมอ”

ดวงตาของหลี่เส่าอวิ๋นเป็นประกาย ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่าลงบนพื้นพลางประสานมือเข้าด้วยกัน ประดังความรู้สึกเศร้าออกมา “ท่านไต้ซือ ในครอบครัวของข้ามีแม่อายุเก้าสิบปีและเด็กเล็กที่ต้องคอยหุงหาอาหารเลี้ยงดู เห็นแก่ข้าที่มีครอบครัวใหญ่ต้องดูแล ได้โปรดท่านพาพวกเราออกไปด้วยเถอะ”

ภิกษุชรารู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “โยมอายุเท่าไร?”

“ยี่สิบห้าปีขอรับ”

“ครอบครัวมีพี่น้องหรือไม่?”

“ไม่มีขอรับ ตระกูลหลี่ของข้านั้นสืบทอดทายาทเพียงคนเดียว”

ภิกษุชรากล่าวต่อ “เช่นนั้นโยมแม่ของโยมก็อายุเพียงหกสิบห้าปีไม่ใช่หรือ?”

ใบหน้าของหลี่เส่าอวิ๋นชาหนึบฉับพลัน เสียงติดอยู่ในลำคอ เขาอ้าปากพยายามครุ่นคิดหาคำอธิบายมากมายที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง แต่กลับพูดไม่ออก

ไอ้ถ่าหลิงนี่มันนับตามทำซากอะไรวะ?

หลี่เส่าอวิ๋นก่นด่าก่อนเดินจากไป

เขากลับไปหาหยวนอี้และถังหยวนอู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ท่าไม่ดี ภิกษุชรารูปนี้ไม่เพียงเคร่งครัดเท่านั้นแต่ยังมีฝีมือการคำนวณที่ยากจะหยั่งถึงด้วย”

เจ้าสำนักดาบคู่และผู้บัญชาการทั้งสองมองเขาแน่นิ่ง

“ดูเหมือนข้าจะเห็นคำว่า ‘จอมยุทธ์ผู้หยาบคาย’ ในดวงตาของท่านนะ” หลี่เส่าอวิ๋นกล่าวอย่างไม่พอใจ

“เปล่า”

“พวกเราไม่ได้คิดว่าท่านจอมยุทธ์หยาบคายเลยแม้แต่น้อย”

“พวกเจ้าก็เยาะเย้ยข้าตลอดนั่นแหละ…ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?” หลี่เส่าอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำนี้ออกมา

เจ้าสำนักดาบคู่ไร้การโต้ตอบ หยวนอี้หันมองไปยังสวีเชียน

“มีแต่ต้องพึ่งเขาแล้วล่ะ”

…

“ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการปลดผนึกเสินซู ปลดปล่อยแขนนี้ซะ เมื่อผสานวิญญาณของเสินซูเข้าด้วยกันก็จะสามารถยืมพลังของแขนที่ขาดเพื่อแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันได้”

สวีเชียนค่อยๆ โน้มตัวไปทางแขนที่ขาดของเสินซู ในระหว่างนี้เขามักจะให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของถ่าหลิง เพื่อทดสอบความอดทนของอีกฝ่าย

น่าแปลกที่ภิกษุชราถ่าหลิงกลับหลับตาลงไม่สนใจทุกคนในเจดีย์รวมถึงสวี่ชีอัน

สวี่ชีอันเดินห่างออกไปสามจั้งแล้วหยุดลง มองไปยังแขนที่ขาดของเสินซู แขนซ้ายสีช้ำเขียวน่ากลัว กล้ามเนื้อเป็นมัดเรียงสวยได้สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ดูไปดูมากลับคล้ายงานศิลปะมากกว่าแขนเสียอีก

มันถูกตรึงไว้ด้วยโซ่สีทองเก้าเส้นที่หนาเท่านิ้วมือ ส่วนปลายอีกด้านของโซ่ฝังอยู่ในดิน ผนังและเสาของเจดีย์แห่งนี้

“ลองปลุกมันดูก่อน…”

สวี่ชีอันหรี่ตามองภิกษุชราถ่าหลิง เมื่อเห็นว่าเขายังคงท่าทีสบายอารมณ์ ในใจพลันรู้สึกพอใจเล็กน้อย เขาเคาะเศษหนังสือปฐพีเบาๆ ก่อนจะหยิบกำไลข้อเท้าทั้งหมดที่พี่สะใภ้ไป๋จีส่งมาให้

‘กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!’

เขาเขย่ากำไลข้อเท้าเบาๆ จนกระดิ่งส่งเสียงแหลมออกมากรุ๊งกริ๊ง

เสียงกระดิ่งยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง ผ่านไปกว่าสิบวินาที สวี่ชีอันก็เห็นนิ้วชี้ด้านซ้ายของแขนที่ขาดขยับ

ภาพนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับกำลังดูหนังสยองขวัญไม่ผิดเพี้ยน

ยิ่งเสียงกระดิ่งดังมากเท่าไร เรียวนิ้วก็ยิ่งขยับเร็วขึ้นเท่านั้น ทันใดนั้นมันก็กลับมามีชีวิตโดยสมบูรณ์ แขนที่ขาดใช้นิ้วเป็นเท้าคลานพลุกพล่านไปมา แต่เพราะถูกล่ามโซ่เอาไว้แน่น จึงทำได้เพียงวิ่งไปทางซ้ายทีและขวาทีจนโซ่รวนตึง

สวีเชียนกอบกุมกำไลข้อเท้า พลางถอยออกไปด้วยใบหน้าตกตะลึง ค่อยๆ ถอยออกไปทีละน้อย

สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก เพราะสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตพยาบาทอันรุนแรงจากแขนที่ขาด ซึ่งไม่น้อยไปกว่าแรงอาฆาตพยาบาทของผู้นำเต๋านิกายปฐพี

เสินซูไม่ใช่คนดี เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความชั่วร้ายที่แสดงออกมาครั้นยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือแนวโน้มที่จะเป็นวิกลจริตฉับพลัน ทั้งหมดบอกกับสวี่ชีอันว่าเสินซูเป็นบุคคลอันตราย

แต่แขนขวาของซังผอมีความคิดดีเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแขนซ้ายที่ถูกผนึกในเหลยโจวนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นของสิ่ง ‘ชั่วร้าย’ ซึ่งแตกต่างจากแขนขวาที่เป็นมิตรโดยสิ้นเชิง

“ตอนนี้ตบะของข้าถูกปิดตายอยู่ เสินซู(ขวา)กำลังหลับใหล ขาดความสามารถในการตอบสนองกับอันตราย…”

หัวใจของสวีเชียนค่อยๆ จมลงสู่ก้นบึ้งอย่างช้าๆ

“ปล่อยให้ตายไปเถอะ แขนนี้ปลดปล่อยไม่ได้หรอก ข้ากล้าพูดเลยว่าหากปลดปล่อยแขนขาดๆ นี้ละก็มันจะแว้งกลับมากัดข้าในทันที ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับโลกภายนอกแล้ว นี่จะเป็นหายนะครั้งใหญ่โดยไม่ต้องสงสัย มันจะคร่าชีวิตอย่างขาดสติและฉกฉวยเลือดเนื้อไป…”

เขาบีบกำไลข้อเท้าแน่น หงุดหงิดปนรำคาญจนทำอะไรไม่ถูก อารมณ์แบบนี้นับว่าหาได้ยากมากสำหรับเขาในตอนนี้

“อมิตตาพุทธ!”

ภิกษุชราถ่าหลิงปรากฏตัวข้างเขาโดยไร้สุ้มเสียง สอดประสานมือพลางยิ้ม

“ความดีและความชั่วมักอยู่ในความคิดเดียวกัน”

สวีเชียนผงะสองก้าวด้วยความตกใจที่ถูกเขาเอ่ยทักกะทันหัน

ตามที่คาดไว้เขาให้ความสนใจข้า หรือจะพูดให้ชัดก็คือเขาให้ความสนใจเสินซู…สวี่ชีอันซ่อนกำไลข้อเท้าไว้เงียบๆ พูดขึ้นหลังจากไตร่ตรองทุกอย่างแล้ว

“แขนที่ขาดนี้เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท ผู้ใดคือเจ้าของมันขอรับ?”

ภิกษุชราถ่าหลิงเอ่ยเสียงขรึม “คนสุดโต่งผู้หนึ่ง ที่มีทั้งความดีและความชั่วรวมอยู่ในคนเดียว”

“น่าหลันเทียนอวี่ปรมาจารย์ระดับสองถูกผนึกไว้ที่ชั้นสอง แต่แขนที่ถูกตัดนี้ถูกผนึกไว้ที่ชั้นสาม ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าเจ้าของมันเป็นคนที่น่ากลัวยิ่ง หากมันหนีไปได้จะเกิดอะไรขึ้น?”

ในขณะที่สวี่ชีอันสอบถามข้อมูลของเสินซูอยู่นั้น ก็ขบคิดอย่างหนักเกี่ยวกับหนทางปลอดภัยที่จะออกไปจากที่นี่

ภิกษุชราถ่าหลิงเลิกยิ้มแล้วทำหน้าจริงจัง “โลกถึงคราจบสิ้นไงล่ะ!”

“…”

เดิมทีตามแผนของเขา วิธีสุดท้ายที่จะพาทุกคนออกไปจากเจดีย์พุทธะได้นั้นคือพึ่งแขนที่ขาดของเสินชู

ด้วยมือขวาที่แข็งแกร่งเช่นนี้ มือซ้ายคงจะต้องไม่แพ้กันแต่นั่นก็ไม่เสมอไป แน่นอนว่าภิกษุเป็นชายโสดและแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของชายโสดที่ใช้บำเพ็ญตบะก็มักจะเป็นมือข้างขวา

แต่ถึงแม้มือซ้ายจะอ่อนแอกว่าหน่อยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันมากนัก จะต้องมีอิทธิฤทธิ์มากพอที่จะต่อกรกับระดับเพชรขั้นสามที่อยู่ด้านนอกแน่

เป็นผลให้มนุษย์มิอาจสู้ฟ้าลิขิต การผนึกแขนที่ขาดไว้ในเจดีย์พุทธะเป็นความตั้งใจอันชั่วร้ายของเสินซู

“การจะทำลายผนึกของมันต้องยุ่งยากมากแน่ใช่หรือไม่ขอรับ” สวี่ชีอันข่มอารมณ์ เอ่ยขึ้นอย่างหยั่งเชิง

ภิกษุชราถ่าหลิงชำเลืองมองเขาแล้วพูดว่า

“เมื่อห้าร้อยปีก่อนท่านโหราจารย์และสำนักพุทธเคยใช้เจดีย์แห่งนี้เป็นสถานที่ในการกางค่ายกลเพื่อผนึกความชั่วร้าย

“เจดีย์พุทธะเป็นอาวุธวิเศษของพระโพธิสัตว์ฝ่าจี้ โดยบนชั้นที่หนึ่งบรรจุศีล ‘ห้ามฆ่าสัตว์’ ภิกษุในขั้นที่ต่ำกว่าขั้นสามลงไป หากรับศีลข้อนี้ไปแล้วจะทำการโดยประมาทไม่ได้”

“บนชั้นที่สองบรรจุรูปปั้นเทพอารักษ์สามสิบหกองค์ที่ถูกขนานนามว่า ‘คุกปราบมาร’ สามารถกำราบและสังหารยอดฝีมือขั้นสองได้ ซึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู เจ้าของอาวุธวิเศษจะสามารถเคลื่อนย้ายพลังแห่งคุกปราบมารออกมากำปรามศัตรูได้”

“บนชั้นที่บรรจุสามร่างทองสององค์คือร่างธรรมแห่งปัญญาและร่างธรรมเชี่ยวชาญโอสถที่บำเพ็ญโดยพระโพธิสัตว์ฝ่าจี้ ซึ่งยังคงกำลังอยู่เจ็ดในสิบของร่างเดิม มีอิทธิฤทธิ์ตรัสรู้และช่วยชีวิตผู้คน แต่ไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูได้”

ตรัสรู้? หลิงอินน้องข้าจะต้องอยากได้สิ่งนี้แน่…จู่ๆ สวี่ชีอันก็พลันนึกถึงสาวน้อยผมมวยสองจุกขึ้นมา

หากหลิงอินสามารถใช้ร่างธรรมแห่งปัญญาเปิดปัญญาในการตรัสรู้ได้ล่ะก็ จากข้อความที่ว่า ‘ธรรมชาติโดยกำเนิดของมนุษย์นั้นสามารถสั่งสอนให้ดีได้’ เจ้าเด็กโง่คงแปรเปลี่ยนเป็นปรมาจารย์ที่ท่องคัมภีร์สามอักขระย้อนหลังได้ในไม่ช้า

ทั้งสามารถกำราบ ควบคุม ช่วยชีวิตผู้คนทั้งยังสามารถทำให้ตรัสรู้ได้อีก เจดีย์พุทธะแห่งนี้จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว สมกับเป็นอาวุธวิเศษของพระโพธิสัตว์ขั้นหนึ่งจริงๆ

ใช่แล้ว การที่สำนักพุทธเลือกใช้มันเพื่อกำราบเสินซู เป็นเพราะบุคคลที่สูงส่งของมันมีอิทธิฤทธิ์ที่แข็งแกร่งเพียงพอนี่เอง

หากข้ามีอาวุธวิเศษที่ทรงพลังขนาดนั้น คงไม่ต้องมาทนลำบากเข่นฆ่าจักรพรรดิหยวนจิ่งตั้งแต่แรกและคงไม่ต้องมาอับอายครั้นตอนประลองกับสวี่ผิงเฟิงด้วย

ขณะที่ขบคิดเรื่องนี้อยู่นั้น ภิกษุชราถ่าหลิงก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “ใต้เท้ามีวิชาปลดผนึกของท่านโหราจารย์ก็จริงอยู่ แต่ท่านไม่สามารถปลดผนึกของข้าได้หรอก”

เขารู้ เขารู้ทุกอย่าง…ใบหน้าของสวี่ชีอันนิ่งค้างอีกครั้ง

ขณะที่สวี่ชีอันกำลังคิดหาทางจัดการกับมัน ภิกษุชราพลางประสานมือเข้าด้วยกันแล้วพูดออกมาอย่างอ่อนโยน

“พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่ารักษาชีวิตไว้ดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น อาตมาจะยอมช่วยโยมแล้วกัน อนุญาตให้ทำลายผนึกและปลดมันออกมาได้”

สวี่ชีอันตกตะลึง

เมื่อเห็นคำถามและสีหน้างุนงงของเขา ภิกษุชราจึงประสานมือเข้าด้วยกันแล้วพูดว่า

“นักพรตไม่พูดเท็จ”

สวี่ชีอันยังคงไม่เชื่อแน่นัก “ท่านเห็นด้วยจริงๆ หรือที่ข้าจะปลดปล่อยมัน?”

ภิกษุถ่าหลิงพยักหน้ายิ้มอ่อน

สวี่ชีอันหันศีรษะมองไปยังแขนซ้ายที่แผ่แรงอาฆาตพยาบาทถูกตีผนึกไว้กับที่

‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาต้องปลดปล่อยเสินซูก่อน เรื่องสังหารวัดซานฮัวค่อยว่ากันทีหลัง ปราณมังกรสำคัญยิ่งกว่าสิ่งไหน ไม่อาจปล่อยให้ตกอยู่ในเงื้อมมือของสำนักพุทธได้…

ไม่ไหว ตอนนี้ข้ายังควบคุมแขนที่ขาดของเสินซูไม่ได้ หากปลดปล่อยมันออกมาจะต้องสูญเสียการควบคุมแน่ จนถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องมีชาวเหลยโจวตายลงกี่คน…’

ความคิดสองทางก็เหมือนกับคนสองคนที่กำลังปะทะและต่อสู้อย่างดุเดือดภายในจิตใจ

กำไลข้อเท้าในมือของสวี่ชีอันถูกกำแน่นและคลายออกเป็นระยะซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทันใดนั้นเขาก็พึมพำออกมา

“ก็ช่างปะไร”

ภิกษุชราถ่าหลิงยกยิ้มอย่างพอใจ “ความดีความชั่วเป็นเพียงห้วงความคิดหนึ่ง โยมได้ผ่านการทดสอบแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไปจะได้กลายเป็นนายของเจดีย์พุทธะ”

ในขณะที่พูดเขาก็ยกมือขึ้นโบกไหวเบาๆ แสงสีทองรำไรพวยพุ่งออกมาจากแขนของสวี่ชีอัน

………………………………………

Prev
Next
Tags:
นิยายศิลปะการต่อสู้, นิยายสยองขวัญ, นิยายสลับเพศ, นิยายสืบสวน, นิยายหุ่นยนต์, นิยายฮาเร็ม, นิยายเกาหลี
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 528 เจดีย์พุทธะ"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF