ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 159 คว้าอนาคตด้วยพลังแห่งสายสัมพันธ์!
- Home
- All Mangas
- ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย
- ตอนที่ 159 คว้าอนาคตด้วยพลังแห่งสายสัมพันธ์!
คว้าอนาคตด้วยพลังแห่งสายสัมพันธ์!
“『『คมบิน ขวานหมุน』!!』”
“แอ๊ก!?”
“แว๊ก!?”
ขวานมือเดียวที่บินไปดั่งบูมเมอแรงได้พุ่งเข้ากระแทกเหล่าผู้ใช้ดาบมารหลายคนจนกระเด็น
เด็กชายผมสีเงินซึ่งคว้ากำอาวุธที่กลับมาสู่มือของตนเองแน่น ได้มุ่งหน้ามาหายูโกขณะเดินอย่างสง่าผ่าเผยด้วยเส้นทางที่ถูกตัดเปิดตามตัวอักษร แล้วพูดกับเขา
“ดูท่าในที่สุดก็ได้ใช้หนี้คืนนายแล้วนะ ยูโก ฉันเองก็ขอร่วมด้วยคนเซ่!”
“เฮกซ์! นายเองก็มาด้วยเหรอ!?”
“พอรู้สึกได้ว่ามีหน่วยรักษาความปลอดภัยมาที่สถาบัน แล้วได้ยินว่าเห็นพวกนายกระโจนออกไปด้วยท่าทีร้อนรนน่ะ และพอลองมาที่จุดสังเกตโดยมีค้างคาวยักษ์บินอยู่บนฟ้า ก็นะเลยกลายเป็นลงเอยแบบนี้ไป อาการบาดเจ็บก็หายแล้วด้วยสิ พักผ่อนเต็มที่แล้วด้วย! เท่านี้ก็ขอทำงานตอบแทนหนี้ที่ค้างไว้หน่อยแล้วกัน คาดหวังได้เลย”
ยูโกเอ่ยคำขอบคุณและตบไหล่เฮกซ์ที่ช่วยตามมาสบทบต่อจากมาร์กอส
กำลังเสริมที่สร้างความมั่นใจไม่ได้มีเพียงแค่นั้น มีเสียงผู้หญิงที่คุ้นหูดังขึ้นมาจากอีกทางเช่นกัน
“ทุกคน อย่าตื่นตระหนกค่ะ! เหล่านักเรียนของสถาบันลูมินัสกำลังช่วยต่อสู้อยู่ค่ะ หน่วยรักษาความปลอดภัยเองอีกเดี๋ยวก็มาถึงแล้วค่ะ! เวลาแบบนี้แหละมาร่วมแรงร่วมใจกันแล้วช่วยเหลือกันและกันเถอะค่ะ!”
เสียงเรียกนั้นที่อยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟได้ทำให้ผู้คนที่กำลังอยู่ในสภาพตื่นตระหนกเริ่มสงบลงเล็กน้อย
เหล่าชายร่างกายกำยำซึ่งอยู่ข้างเธอได้ยืนปกป้องผู้คนและขวางหน้าเหล่าผู้ใช้ดาบมาร สภาพนั้นช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนที่พบเห็น
“ยูโก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ! การคุ้มกันและการอพยพคนเหล่านี้ปล่อยให้พวกฉันจัดการเอง!”
“เยน! แล้วก็ซังกะแม้กระทั่งคุณมาสเตอร์เจ้าของร้านด้วย!”
หลังจากปลอบขวัญผู้คน เยนที่หันมาก็พูดกับยูโกพร้อมชูสองนิ้วรูปตัวVส่งสัญญาณ
แม้จะเป็นคนธรรมดาแต่เธอก็เข้ามาช่วยเหลือในสิ่งที่ตนเองทำได้ แม้จะกล้าๆกลัวๆแต่ซังกะก็คอยยับยั้งเหล่าผู้ใช้ดาบมาร ส่วนมาสเตอร์นั้นจะว่าอย่างไรดีกำลังใช้กระทะเป็นอาวุธต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ(!?) ยูโกยิ้มออกมาเมื่อเห็นสภาพนั้น จากนั้นมีสาวน้อยอีกคนได้พุ่งมายังด้านข้างของเขา
“ไม่เป็นไรนะคะ? เพราะจะรักษาบาดแผลให้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ……!”
ใช่แล้ว สาวน้อยผมบลอนด์ได้พูดขณะลูบหัวเด็กที่ยูโกช่วยเอาไว้……แคลร์ได้รักษาเด็กคนนั้นด้วยเวทฟื้นฟูนั่นเอง
เธอที่ส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนได้ลุกขึ้นแล้วหันมาทางยูโก หลังจากก้มหัวเล็กน้อยก็พูดขึ้น
“ขออภัยที่มาช้าค่ะ ท่านยูโก ถึงอยากพาท่านเซน่อนมาด้วย แต่น่าเสียดายที่ยังขังตัวเองอยู่ในห้อง……”
“ไม่หรอก ช่วยได้มากเลยละแคลร์ ขอบคุณที่มาช่วยนะ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ พวกเราทุกคนเป็นเหล่าคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากท่านยูโกค่ะ การที่โอกาสในการตอบแทนบุญคุณท่านมาเยือนเป็นเรื่องน่ายินดีค่ะ”
เฮกซ์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของแคลร์ที่มีรอยยิ้มบางๆ
มาร์กอสที่ได้เห็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันจนถึงตอนนี้ แค่นเสียงหัวเราะขึ้นจมูกพลางพูดกับยูโก
“ดูเหมือนระหว่างที่ฉันไปจากเมืองยังคงไปจุ้นจานเรื่องชาวบ้านเหมือนเดิมเลยนะ สมกับเป็นนายจริงๆ สหายของเราเอ๋ย”
“อะเร๊ะ? เดี๋ยวนะมาร์กอสนี่นา? ไหงนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
“จนป่านนี้เพิ่งจะรู้ตัวเรอะ!? ฟังนะ ฟังให้ดี! ฉันรีบมายังวิกฤตินี้เพื่อช่วยยูโก เคลย์ผู้เป็นสหายและคู่แข่งที่คู่ควรไงล่ะ! เร็วยิ่งกว่าพวกแกและใครทั้งนั้นอีกละ!!”
“หุหุหุ……! เช่นนั้นท่านมาร์กอสเองก็เหมือนกับพวกเราสินะคะ ที่มาช่วยท่านยูโกในฐานะเพื่อน”
มาร์กอสซึ่งอยู่ในท่าทีชะงักเพราะคำพูดของแคลร์ที่หัวเราะคิกคัก ได้ครวญครางเล็กน้อยก่อนจะเงียบไป
ในระหว่างนั้นพวกเมลต์เองก็วิ่งเข้ามาอยู่รอบข้างยูโก ทั้งคณะพยักหน้าให้กันและกันพร้อมเข้าเผชิญหน้ากับเหล่าคนที่อาละวาดและไอแซคที่บินอยู่บนฟ้า
“ยูโก ตรงนี้ปล่อยให้พวกเราจัดการเอง นายรีบตามเนดไปเถอะ! กำลังเสริมมาขนาดนี้แล้วด้วย ไม่เป็นไรแล้วละ!”
“ถ้ารีบไปน่าจะยังทันนะ! เพื่อไม่ให้คนๆนั้นที่รู้วิธีสร้างดาบมารหลบหนีไปได้ เร็วเข้า!”
“เมลต์ ฟี่……!”
บุคลากรที่จำเป็นสำหรับการปราบปรามเหล่าคนอาละวาดและชี้นำการอพยพจัดหามาเรียบร้อยแล้ว
หากเป็นสภาพนี้แม้ยูโกจะแยกออกไปเพื่อไล่ตามเนดก็ไม่มีปัญหาอะไร ต่อเนื่องจากคำพูดของทั้งสองคนมาร์กอสได้พูดขึ้น
“ไปสิ ยูโก อีกฝ่ายที่เป็นสัตว์เกราะมารนั่นฉันรับมือเอง ไม่ต้องกังวล สหายเอ๋ย ด้วยเกียรติแห่งตระกูลบัลก์อันทรงเกียรติ ฉันคนนี้จะขอปกป้องผู้คนเอง!”
“ทำไมจะสนุกอยู่คนเดียวล่ะ! การต่อสู้น่ะไม่ได้มีแค่นายสักหน่อย มีพวกเราทุกคนด้วยใช่ไหมล่ะ!”
“เอาน่าๆ โปรดใจเย็นๆก่อนค่ะ เพราะความรู้สึกที่ว่าต่อสู้เพื่อผู้คนทุกคนก็มีเหมือนกันค่ะ”
พลิกกลับจากสถานการณ์คับขันและวิกฤติ สมาชิกได้เต็มไปด้วยบรรยากาศมั่นใจและผ่อนคลาย และพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเช่นนั้น
ยูโกพยักหน้าให้กับเหล่าพวกพ้องที่เชื่อถือได้ สุดท้ายแองเจิลได้พูดขึ้น
“ยูโก……ขอร้องล่ะ ช่วยหยุดเนดที หมอนั่นน่ะกำลังใช้พลังในฐานะวิศวกรในทางที่ผิด ถ้าไม่หยุดการหลบหนีของหมอนั่น ผู้คนมากมายจะต้องเจ็บปวดและในเวลาเดียวกันความภาคภูมิใจของเหล่าวิศวกรเองก็จะถูกทำลาย มีแค่เรื่องนั้นต้องหยุดให้ได้――!!”
“อา เข้าใจแล้ว จะหยุดให้เองละ แอง ด้วยบลาสเตอร์ที่รวมความรู้สึกของฉัน ของเธอและของทุกคน จะหยุดเจ้าเนดให้ดู”
ยูโกที่ปลดเปลื้องการแปลงร่างได้พูดขึ้นขณะมองแองเจิลด้วยสายตาแน่วแน่
ในขณะที่แองเจิลพยักหน้าต่อสายตาของเขาที่แสดงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่และความน่าเชื่อถืออันมั่นคง เสียงกึกก้องของพื้นดินก็ดังขึ้นจากระยะไกล
“อะ อะไรน่ะ เสียงนี้!? สัตว์เกราะมารตัวใหม่เหรอ!?”
ทุกคนรับรู้ได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้จากระยะไกลจึงระวังตัวยิ่งขึ้น เมื่อหันไปมองทิศทางนั้น ก็เห็นอะไรบางอย่างสีดำทะมึนกำลังพุ่งเข้ามาทางนี้ด้วยความเร็วสูง
มาร์กอสที่เห็นสิ่งนั้นเข้า ได้ร้องบอกยูโกด้วยท่าทีตื่นตระหนก
“ยูโก ถอยไปซะ! ไม่ว่าคู่ต่อสู้แบบไหนจะมา กิก้าซิสเซอส์ของฉันคนนี้จะสะท้อนมันกลับไปเอง!”
“ไม่หรอก ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงหรอก”
ถึงมาร์กอสจะเตรียมพร้อมแบบเต็มMAXต่อผู้บุกรุกกะทันหัน แต่ยูโกหยุดและยิ้มเล็กน้อยกับเขาที่ทำเช่นนั้นพร้อมยกมือตอบสนองต่อบางอย่างที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
อะไรบางอย่างสีดำนั้นได้ถีบพื้นและแสดงการกระโดดอันทรงพลัง แล้วลงมาอยู่ด้านข้างเขาพร้อมเสียงพื้นที่ดังสะเทือน
“……นายเองก็มาด้วยสินะ สกัล ไม่ว่าใครต่อใครก็มีแต่เพื่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับฉันเลย”
“พรืด!!”
โครงกระดูกที่มีจิตสำนึกแม้จะเป็นสัตว์เกราะมาร……หรือสกัลม้าดำได้พ่นลมหายใจตอบรับยูโก
สกัลได้รีบมาหาเพื่อช่วยยูโกผู้เป็นสหายที่ตกอยู่ในวิกฤติและเพื่อตอบแทนบุญคุณเขาที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยปราบศัตรูของตนเอง มันส่ายหัวแล้วบอกเป็นนัยๆว่าให้ขึ้นขี่หลัง
ยูโกได้ขึ้นขี่สกัลตามการชี้นำนั้น และมองใบหน้าของเหล่าพวกพ้องพลางเอ่ยขึ้น
“ทุกคน ฝากตรงนี้ด้วยนะ! แล้วก็ อย่าทำอะไรเสี่ยงๆล่ะ!”
“คำพูดนั้นขอคืนให้ยูโกไปทั้งแบบนั้นแหละ! เพราะยูโกต่างหากที่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ……!”
“ระวังตัวด้วยนะ พี่ พวกผมเองถ้าหน่วยรักษาความปลอดภัยมาถึงแล้วจะตามไปสนับสนุน!”
“โอ้ ไว้ใจได้เลย! ……อา จริงสิ มาร์กอส! เรื่องที่จะพูดมันสำคัญมากเพราะงั้นช่วยจำเรื่องนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจทีนะ!”
“หือ? หืม? อะ อะไรล่ะ? เรื่องสำคัญมากที่จะบอกน่ะ?”
มาร์กอสที่ถูกเรียกชื่ออย่างกะทันหันแม้ว่าจะอยู่ในสภาพตามสถานการณ์ไม่ทันแต่ก็ตอบยูโก
เขาคิดว่าคงจะให้คำแนะนำตนเองที่กำลังจะสู้กับศัตรูทรงพลังแน่ๆทว่า……สิ่งที่ยูโกพูดออกมาเป็นคำแนะนำที่มีความหมายไม่ชัดเจนโดยสิ้นเชิง
“(ระวังการโจมตีที่หัวเข็มขัดด้วย)! มันอันตรายถึงชีวิตจริงๆนะ!!”
“หะ หา? เฮ้ย นั่นมันหมายความว่าไงยัง!? ไม่เห็นจะเข้าใจเลยนะเฟ้ย!?”
“ความหมายก็ตามนั้นแหละ! เพราะ(ปูกับค้างคาว)สู้กันมีแค่ตรงนั้นที่ต้องระวังให้ดีนะ! เข้าใจนะ!?”
“อะ เฮ้ย! มันไม่เข้าใจความหมายเลยจริงๆนะ!? มาอธิบายให้ฉันเข้าใจสิเฟ้ย! ยูโก! กลับมา~ก่อน!!”
หากเป็นโอตาคุโทกูซัตสึละก็มันเป็นคำแนะนำที่เข้าใจได้ในทันที ทว่ามาร์กอสผู้ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับของแบบนั้นไม่น่าจะสามารถทำความเข้าใจความหมายของถ้อยคำนั้นได้
เขาร้องเรียกไปยังแผ่นหลังของยูโกซึ่งจากไปโดยหลงเหลือคำแนะนำที่ความหมายไม่ชัดเจนโดยสิ้นเชิงเอาไว้ ด้วยท่าทางตลกสุดๆเพราะเหตุนั้นพวกเมลต์จึงดูเหมือนจะคลายความตึงเครียดที่หลงเหลืออยู่ได้
“อะไรน่ะ หมอนั่น!? แค่ทำให้ฉันสับสนแล้วจากไปเนี่ยนะ!?”
“คาดเดาไม่ได้จริงๆสินะ ยูโกเนี่ย แต่เพราะน่าสนใจแบบนั้นแหละก็เลยชอบละ”
“อาจจะอยากบอกว่าอย่าประมาทเกินไปก็ได้นะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เข้าใจความหมายอยู่ดีละ”
หลังจากยูโกไล่ตามเนดและจากไป เหล่าพวกพ้องก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและคำพูดแล้วหันไปหาศัตรูของพวกตนเองอีกครั้ง
เตรียมอุปกรณ์เวทของแต่ละคน ก่อนจะเข้าท้าทายการต่อสู้……แองเจิลจ้องมองแผ่นหลังของยูโกพริบตาหนึ่งแล้วแสดงรอยยิ้มพร้อมพึมพำออกมา
“เจตจำนงของพวกเรา ได้รับฝากไปแล้วอย่างแน่นอนละ……ไปช่วยโลกซะ ฮีโร่!”