ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 416 ดอกไม้บานอยู่หน้าหลุมศพ
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 416 ดอกไม้บานอยู่หน้าหลุมศพ
ตอนที่ 416 :ดอกไม้บานอยู่หน้าหลุมศพ
เจียงเสี่ยวไป๋วางกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาลง หยิบของในนั้นออกมาแล้วพูดว่า “ครูใหญ่จาง ผมจะทำอาหารให้กินเองครับ ผมซื้อวัตถุดิบมาหมดแล้ว ให้ผมทำเองเถอะ”
เมื่อครูใหญ่จางเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋นำเนื้อสัตว์และผักมาด้วย เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น “เสี่ยวเจียง แม้ว่าหมู่บ้านของเราจะห่างไกลและยากจน แต่เราก็มีของกินไม่ขาด ทำไมคุณถึงนำของมามากขนาดนี้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พรุ่งนี้ผมจะทำหม้อไฟให้เด็ก ๆ กิน งั้นคืนนี้เราก็กินอะไรง่าย ๆ กันแล้วกันนะครับ”
ครูใหญ่จางไม่รู้เนื้อหาในไดอารี่ของหลี่ม่านม่าน และเขาก็ไม่รู้ว่าหม้อไฟคืออะไร เขาแค่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋น่าจะเป็นพ่อครัวในร้านอาหาร ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้และจะกินอาหารฝีมือพ่อครัวอย่างคุณให้เยอะ ๆ ”
เจียงชานที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมาว่า “คุณปู่จางคะ อาหารที่ป่าป๊าทำอร่อยมากเลยค่ะ ! ”
ครูใหญ่หัวเราะแล้วพูดว่า “สาวน้อย เธอก็เยี่ยมมากเหมือนกัน เธอติดตามพ่อของเธอมาตลอดระยะทางโดยไม่บ่นสักคำ”
เจียงชานกล่าวว่า “ป่าป๊าบอกว่าต้องอดทนต่อความยากลำบาก จึงจะเป็นยอดคนได้ เขาบอกว่าเราเป็นเด็กไม่สามารถบ่นได้”
ครูใหญ่จางรู้แต่แรกแล้วว่าสภาพครอบครัวของเจียงเสี่ยวไป๋จะต้องดีมาก ด้วยสภาพครอบครัวที่ดีเช่นนี้ การให้ลูก ๆ ต้องมาทนกับความยากลำบากถือเป็นเรื่องที่น่านับถือมาก ๆ “พ่อของหนูพูดถูก ในฐานะมนุษย์ เราต้องไม่กลัวความยากลำบาก ยามที่เจอความยากลำบาก ทุกคนมีสิทธิ์บ่นได้ แต่ต้องมองโลกในแง่ดีและกล้าได้กล้าเสียด้วย”
“ค่ะ หนูจะจำสิ่งที่ปู่จางสอน ! ” เจียงชานตอบกลับอย่างเชื่อฟัง
ครูใหญ่พยักหน้าอย่างพอใจ ยิ่งมองดูเด็กคนนี้ เขาก็ยิ่งชอบหนูน้อยมากขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ครูใหญ่จาง ผมอยากไปเยี่ยมหลุมศพของหลี่ม่านม่านก่อนจะได้ไหมครับ”
ครูใหญ่พยักหน้า “ได้สิ ฉันจะพาคุณไปที่นั่น ! ”
“ต้องรบกวนด้วยนะครับครูใหญ่จาง ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างสุภาพ เขาหยิบธูปและเทียนบูชาที่เขาซื้อขึ้นมา แล้วเดินตามครูใหญ่ไปที่เนินเขาด้านหลัง
ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่า หลี่ม่านม่านชอบไปเนินเขาทิศตะวันออก ดังนั้นพวกเขาจึงฝังเธอไว้ที่เนินเขาทางทิศตะวันออก
ขณะที่พวกเขาทั้งสี่เดินออกไป พวกเขาก็ได้พบกับชาวบ้านหลายคนที่เข้ามาทักทายหยางเจี๋ยอย่างอบอุ่น เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะไปที่หลุมศพของครูหลี่ ชาวบ้านหลายคนก็ได้ตามไปเช่นกัน
“เสี่ยวเจียง ไปที่หลุมศพของครูหลี่เสร็จแล้วมาทานอาหารเย็นที่บ้านฉันนะ ! ”
“เสี่ยวเจียง ครูหลี่เป็นคนดี เฮ้อ…..น่าเสียดายที่พระเจ้าไม่มีสายตา ถึงปล่อยให้ครูหลี่จากไปตั้งแต่อายุยังน้อย”
“พวกเราในหมู่บ้านคิดถึงครูหลี่มาก ! ”
“ครูหลี่จากไป ช่วงนี้นักเรียนก็ไม่มีกระจิตกระใจเรียนเลย ! ”
“เสี่ยวเจียง เสี่ยวหยาง ถ้ามีเวลาก็มาหาครูหลี่บ่อย ๆ นะ เธออยู่ที่นี่คนเดียว”
“……”
ระหว่างทาง ชาวบ้านที่ตามพวกเขามาก็ได้พูดคุยแต่เรื่องของหลี่ม่านม่าน โดยชวนเจียงเสี่ยวไป๋คุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ของเธอ
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบกลับทีละคน เขาสัมผัสได้ถึงความเรียบง่าย ความกตัญญู และความกระตือรือร้นของผู้คนในหมู่บ้านบนภูเขา
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงเนินเขาทิศตะวันออก
เจียงเสี่ยวไป๋เงยหน้าขึ้นและเห็นสุสานใหม่เอี่ยมตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ ดินเหลืองบนสุสานกองสูง ด้านล่างเป็นสุสานหิน มีต้นสนสองต้นปลูกไว้หน้าสุสาน ซึ่งสูงไม่ถึงหนึ่งเมตร
เมื่อมาถึงที่นี่ ทุกคนก็เงียบและโศกเศร้าเพื่อเป็นการไว้อาลัย
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงไปเล็กน้อย สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่แค่หลุมศพใหม่เท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเนินเขา ดอกไม้ป่าที่เบ่งบานอยู่บนภูเขา ภาพเหล่านี้เกือบจะเหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นในความฝันในคืนนั้นทุกประการ
อย่างไรก็ตาม หญิงสาวที่หัวเราะท่ามกลางดอกไม้บนภูเขาในความฝัน กลับกลายเป็นกองดินในวันนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าคืนนั้นไม่ใช่ความฝัน แต่เขาอาจมาอยู่ที่นี่จริง ๆ
เขาใช้เวลาสักพักก่อนที่เขาจะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
เมื่อเห็นทุกคนมองมาที่เขา เจียงเสี่ยวไป๋ก็กล่าวขอโทษออกมา “ขอโทษครับ ผมเพิ่งเห็นหลุมศพของครูหลี่เป็นครั้งแรกจึงสับสนเล็กน้อย”
ครูใหญ่จางโบกมือ และพูดว่า “เพื่อนของคุณเป็นคนดีจริง ๆ อดที่จะรู้สึกเศร้าและใจหายไม่ได้หรอก เราทุกคนเข้าใจ”
เจียงเสี่ยวไป๋มีสีหน้าขมขื่น คำพูดของครูใหญ่ทำให้เขาละอายใจมากยิ่งขึ้น เขาจึงรีบหันไปพูดกับเจียงชานว่า “ชานชาน ไปเก็บดอกไม้มาเถอะลูก ! ”
“ได้ค่ะ ! ”
เจียงชานพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง เพราะก่อนที่จะมาที่นี่ หม่าม๊าบอกหนูน้อยว่าเธอเป็นเหมือนตัวแทนของหม่าม๊าที่จะมามอบดอกไม้ให้ป้าหลี่ที่จะต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป
ร่างเล็กกำลังง่วนอยู่กับการเด็ดดอกไม้อยู่บนเนินเขา เธอกำลังเก็บดอกไม้ที่คิดว่าสวยที่สุดอย่างขะมักเขม้น
เจียงเสี่ยวไป๋มาถึงหลุมศพของหลี่ม่านม่าน เขานั่งยองลงอย่างช้า ๆ หยิบเทียนหอมและกระดาษเงินออกมาจุดไฟ จากนั้นก็วางแอปเปิ้ล กล้วยและลูกหลีที่เขานำมาใส่จาน พลางจ้องมองที่หลุมศพนั้นเป็นเวลานาน
“ม่านม่าน ฉันมาหาเธอแล้วนะ ! ”
“ฉันขอโทษ ! ” เสียงของเจียงเสี่ยวไป๋คล้ายกับจะสะอื้นไปเล็กน้อย “ที่ฉัน……ฉันมาช้าไป ! ”
ขณะที่เขาพูด น้ำตาหยดใหญ่ก็ไหลลงมา
เมื่อครูใหญ่และผู้คนรอบตัวเห็นเขาร้องไห้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเบือนหน้าไปทางอื่นและแอบเช็ดน้ำตาของตัวเองเบา ๆ
หยางเจี๋ยอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพแล้วพูดว่า “ม่านม่าน เธอเห็นไหม ? เสี่ยวไป๋มาหาเธอแล้วนะ ! ”
ควันธูปที่จุดใหม่ค่อย ๆ ล่องลอยขึ้นไปริบหรี่ ขี้เถ้าสีดำของกระดาษเงินที่ถูกเผาก็ลอยหายไป ราวกับบ่งบอกว่าคนบนฟ้ารับรู้
“ป่าป๊าคะ หนูเก็บดอกไม้มาเยอะเลย ! ”
ในขณะนี้ เจียงชานก็เดินมาที่หลุมศพพร้อมกับดอกไม้ป่าจำนวนหนึ่งในมือของเธอ
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนขึ้นและหยิบมันขึ้นมา เขาจัดดอกไม้ป่าอย่างระมัดระวัง ดึงใบหญ้าที่อยู่ข้าง ๆออกมาสองสามใบ แล้วมัดดอกไม้ให้เป็นช่อ
เขายื่นมันให้เจียงชานแล้วพูดว่า “ไปวางไว้หน้าหลุมศพคุณป้าแล้วเคารพสามครั้ง”
เจียงชานพยักหน้า เธอเดินเข้าไปใกล้หลุมศพ วางช่อดอกไม้ในมือของเธออย่างระมัดระวัง ก่อนจะทำการคาราวะสามครั้งแล้วถึงยืนขึ้น
“ป้าหลี่ หนูเป็นตัวแทนของหม่าม๊ามามอบดอกไม้ให้คุณ”
“หนูไม่รู้จักคุณมาก่อนและไม่เคยเห็นหน้าคุณสักครั้ง หนูไม่รู้ว่าคุณหน้าตาเป็นแบบไหน แต่คุณต้องสวยเหมือนหม่าม๊าของหนูแน่เลย”
“ระหว่างทางมาที่นี่ ป้าหยางเล่าเรื่องของคุณให้หนูฟังมากมาย ทำให้หนูรู้จักคุณดีขึ้นและรู้ว่าคุณเป็นคนจิตใจดี”
“เมื่อเรามาถึงที่นี่ ครูใหญ่บอกว่าคุณเป็นครูที่ดีมาก นักเรียนทุกคนต่างก็ชอบและรักคุณ หนูยังไม่ได้เข้าโรงเรียนเลย แต่หนูขอเรียกคุณว่าครูหลี่ได้ไหมคะ ? ”
เด็กน้อยพูดกับหลุมศพ จนทำให้ทุกคนรอบข้างอดไม่ได้ที่จะร้องไห้เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ครูใหญ่จึงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ชานชาน เรียกเธอว่าครูหลี่ได้เลยนะ เธอชอบให้เรียกเธอว่าครูมากที่สุดแล้ว ! ”
เจียงชานพยักหน้าและพูดอีกครั้ง “ครูหลี่และพ่อของพี่จื่ออันเสียชีวิตไล่เลี่ยกัน ป่าป๊าบอกว่าสวรรค์นั้นต้องการคนดี ครูหลี่และพ่อของพี่จื่ออันต่างก็เป็นคนดี สงสัยจะมีเด็กบนสวรรค์ที่ไม่ยอมไปโรงเรียน พวกเขาถึงต้องการครูที่ดีให้ไปดูแลเด็กบนนั้น ดังนั้นครูหลี่ถึงต้องไปสวรรค์……”
เจียงเสี่ยวไป๋ หยางเจี๋ย ครูใหญ่ เและชาวบ้านต่างอดไม่ได้ที่จะร้องไห้เมื่อได้ยินประโยคนี้
เจ้าตัวเล็กพูดออกมาและร้องไห้ไปด้วย
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เธอก็เช็ดน้ำตา ก่อนจะยิ้มและพูดต่อ “ครูหลี่ หม่าม๊าฝากหนูมอบดอกไม้ให้คุณ ดังนั้นหนูจึงอยากจะร้องเพลงให้คุณฟังด้วย ! ”
หลังจากพูดจบ เธอก็ร้องเพลงออกมา:
“เธอบอกว่าเธอชอบดอกไลแลคมากที่สุด,
เพราะชื่อของเธอเหมือนกับดอกไม้นี้
ช่างเป็นดอกไม้ที่เศร้าโศกจริง ๆ ……”
ทันทีที่เธอเริ่มร้องเพลง เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตกตะลึง นี่เป็นเพลงที่เขาเพิ่งสอนลูกสาวให้ร้องเพลงเมื่อไม่นานมานี้
เขาไม่คาดคิดว่าลูกสาวของเขาจะร้องเพลงนี้ที่นี่
“……
มีดอกไม้บานอยู่หน้าหลุมศพ
มันคือความงามที่เธอปรารถนา !
มองดูภูเขาและที่ราบกว้างไกล
เธอยังรู้สึกเหงาอยู่ไหม ? ……”
เสียงใสซื่อไร้เดียงสาของเด็กน้อยลอยอยู่บนเนินเขา ทุกคนมองไปที่เจียงชานอย่างว่างเปล่า พร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
เจียงชานยังคงร้องเพลงต่อไป
“…ชีวิตที่ล่องลอยและไหวหวั่น
ทอฝันได้สวยงามขนาดไหน !
เธอจากไปอย่างรวดเร็ว,
ทิ้งฉันไว้ด้วยความห่วงใยตลอดชีวิต……”