ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 410 นัดเจอกัน
ตอนที่ 410 :นัดเจอกัน
“หยางเจี๋ย พวกเธอกลับมาแล้วเหรอ ? ”
“เกิดอะไรขึ้น ? ”
“พวกเธอไปตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งกลับมา ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามออกมาเสียงดังหลังจากได้ยินเสียงของหยางเจี๋ยจากปลายสาย
หยางเจี๋ยพูดจากปลายสายว่า “เราเพิ่งกลับมาถึงวันนี้ตอนเที่ยง พรุ่งนี้นายมีเวลาไหม ฉันอยากเจอนาย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ฉันมีเวลา เธอจะจัดงานศพของหลี่ม่านม่านอย่างไร ? กำหนดวันไว้เมื่อไร ? ”
หยางเจี๋ยกล่าวว่า “หลี่ม่านม่านถูกฝังในหมู่บ้านบนภูเขาแล้ว เราไม่ได้พาร่างเธอกลับมา ! ”
“ไม่ได้… นำร่างกลับมา ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่นาน ก่อนที่จะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
ไม่น่าแปลกใจเลยที่พ่อแม่ของหลี่ม่านม่านไปหลายวัน ที่แท้เป็นเพราะว่าร่างของหลี่ม่านม่านถูกฝังอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขาเล็ก ๆ ที่เธอสอนนี่เอง
ว่ากันว่าใบไม้ที่ร่วงหล่นกลับคืนสู่ราก คนเราเมื่อตายไปล้วนอยากถูกฝังไว้ที่บ้านเกิดของตัวเอง
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ของหลี่ม่านม่านถึงไม่รับเธอกลับมาฝังที่บ้าน แต่มันยากสำหรับเขาที่จะถามหรือพูดอะไรออกมา เขาแค่รู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เดิมทีเขาต้องการมาส่งหลี่ม่านม่านเป็นครั้งสุดท้าย
แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่มีโอกาสนี้ !
เขานึกถึงความฝันที่เขาฝันถึงในสองคืนที่ผ่านมาอีกครั้ง !
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลี่ม่านม่านมาบอกเขาว่า เขาไม่ไปส่งเธอ !
ถ้าเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ หลังจากที่รู้ข่าวในวันนั้น เขาน่าจะไปที่หมู่บ้านถู่เฉิงกับหยางเจี๋ยแล้ว
เพราะอย่างน้อย เขาก็ยังได้ไปส่งเธอเป็นครั้งสุดท้ายได้
“เจียงเสี่ยวไป๋ นายกำลังฟังอยู่หรือเปล่า ? ”
ที่ปลายสายของโทรศัพท์ เสียงของหยางเจี๋ยดังเข้ามาขัดจังหวะความคิดของเจียงเสี่ยวไป๋ เขารีบพูดว่า “ฉันขอโทษ ฉันฟุ้งซ่านนิดหน่อย ฉันไม่รู้ว่าจะไม่นำร่างของม่านม่านกลับมา……ฉัน ตั้งใจที่จะ……”
พูดแล้ว เขาก็ไม่สามารถพูดต่อได้
ในเวลานี้ คำอธิบายใด ๆ ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์
หยางเจี๋ยกล่าวว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ ฉันคงบอกให้นายไปกับฉันในวันนั้นแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่หลี่ม่านม่านมีเพื่อนแบบเธอ อย่างน้อยเธอก็ได้ไปส่งเป็นครั้งสุดท้าย”
เสียงของหยางเจี๋ยดูเศร้าเล็กน้อย “เพื่อนมีไว้เพื่ออะไร ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอป่วย แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะป่วยหนักขนาดนี้ สิ่งที่ฉันรู้สึกเสียใจที่สุดตอนนี้ก็คือฉันไม่ได้พาเธอไปหาหมอ ! ”
ที่ปลายสาย เสียงของหยางเจี๋ยดูเหมือนกำลังสะอึกสะอื้น
เจียงเสี่ยวไป๋รู้ได้ทันทีว่าหยางเจี๋ยร้องไห้หลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จนเสียงของเธอแหบแห้งจากการร้องไห้
แต่โอกาสในชีวิตมีไม่มากนัก น่าเสียดายที่คนดี ๆ แบบเธอต้องจากไป
เจียงเสี่ยวไป๋ต้องการปลอบหยางเจี๋ย แต่ก็ไม่สามารถหาคำพูดที่เหมาะสมได้ ทั้งสองคนคาสายอยู่อย่างนั้น คนหนึ่งสะอื้น อีกคนเงียบ
หลังจากนั้นไม่นาน หยางเจี๋ยก็พูดว่า “ฉันขอโทษ ฉันแค่รู้สึกแย่เมื่อคิดถึงเวลาที่ม่านม่านต้องอยู่คนเดียวในที่ห่างไกลเช่นนี้เป็นเวลานาน ! ”
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ปลอบใจ “อย่าเศร้าไปเลย ตอนไปที่นั่นคงจะลำบากมากเธอพักผ่อนเถอะ ฉันจะไปพบพ่อแม่ของหลี่ม่านม่านตอนที่กลับบ้านเย็นนี้ ! ”
“อย่า ! ” หยางเจี๋ยพูดด้วยความเร่งรีบ “อย่าไป ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงและถามด้วยความสับสนว่า “ทำไมล่ะ ? หลี่ม่านม่านและฉันก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน เธอจากไปแล้ว ฉันจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของเธอจะเป็นไรไป ? ”
“เอ่อ……” เสียงของหยางเจี๋ยดูกังวลเล็กน้อยขณะที่เธอพูด “เชื่อฉันเถอะ อย่าเพิ่งไปที่นั่นเลย พ่อแม่ของม่านม่านอาจจะเกลียดนายมากที่สุดในตอนนี้ ตอนนี้พวกเขาอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นอย่าทำให้พวกเขาหงุดหงิดไปมากกว่านี้เลย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋สับสน ในหัวของเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ฉันไม่เคยพบกับพ่อแม่ของหลี่ม่านม่าน ทำไมพวกเขาถึงเกลียดฉันล่ะ ?
“หยางเจี๋ย มันเกิดอะไรขึ้น ? ”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งราวกับลังเล หลังจากนั้น หยางเจี๋ยก็พูดว่า “เดิมทีฉันอยากพบนายพรุ่งนี้ งั้นเรามาเจอกันวันนี้เลยดีไหม นายไปส่งหลินเจียอินกลับบ้านก่อน แล้วออกมาหาฉันที่บ้าน ฉันอยู่ในชิงซาน บ้านเลขที่ 216 ถนนเหล่าเจีย ซอย 2 นายมีรถ คงขับมาไม่นาน”
“ได้ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบตกลง
หลังจากวางสายแล้ว เขายังคงสับสนและดูงุนงงเล็กน้อย
หลินเจียอินเข้ามาและถามว่า “หยางเจี๋ยและคนอื่นกลับมาแล้วเหรอ ? ทำไมพวกเขาถึงไปหลายวันขนาดนี้ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่หลินเจียอินและพูดช้า ๆ “ร่างของหลี่ม่านม่านถูกฝังในหมู่บ้านที่เธอสอนแล้ว ! ”
“ฮะ ? ”
หลินเจียอินอุทานออกมาเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าเธอก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นแบบนี้
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เมื่อมีคนเสียชีวิต ควรเอาร่างกลับมาฝังที่บ้านเกิด ! ”
หลินเจียอินมีสีหน้าเศร้าหมองและพูดว่า “เพื่อนร่วมชั้นของฉัน แม้ว่าฉันอยากจะส่งเธอเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็คงไม่มีโอกาสนั้น……เฮ้อ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ปลอบใจภรรยา “ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นแบบนี้ ไว้มีเวลาผมจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของเธอ ผมจะดูแลคนที่สามารถดูแลได้ ถือซะว่าเป็นการทำเพื่อเธอครั้งสุดท้าย ! ”
หลินเจียอินพยักหน้าและคิดว่าคงทำได้เพียงเท่านี้
หลังจากนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไปส่งภรรยาและลูกสาวของเขากลับบ้าน เขาลังเลว่าควรบอกหลินเจียอินเรื่องที่เขานัดกับหยางเจี๋ยเพียงลำพังดีไหม ?
หลังจากคิดครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็เลือกที่จะพูดความจริงออกมา “เมียจ๋า ตอนที่หยางเจี๋ยโทรมา เธอขอให้ผมไปหาเธอที่บ้านหลังจากมาส่งคุณเสร็จ ดูเหมือนเธอมีอะไรจะพูดกับผม”
หลินเจียอินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอก็ยังพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปพบเธอสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋แอบมองภรรยาของเขาอย่างลับ ๆ แต่ไม่เห็นอารมณ์ใด ๆ ในตัวเธอ เขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากกลับบ้านและทานอาหารเย็น เขาก็บอกหลินเจียอินและขับรถไปที่ชิงซาน
ในเวลานี้ ท้องฟ้าเพิ่งจะมืดลง และร้านค้าตามท้องถนนก็ได้ปิดไปหลายร้านแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋จอดรถที่หน้าถนนเส้นเก่า และเดินไปตามถนนพร้อมไฟฉาย
เมื่อเปรียบเทียบกับถนนใหม่ ถนนเส้นเก่านี้ดูจะแคบกว่ามาก มีบ้านไม้ตลอด 2 ข้างทาง ซึ่งดูทรุดโทรม ไม่มีไฟบนถนน และไม่มีคนออกมาเดินเพ่นพ่านเลย บางครั้งก็มีสุนัขออกมาเห่าบ้างเป็นครั้งคราว ทำให้ถนนสายเก่านี้ดู……เงียบสงบมาก
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้เดินเร็วนัก ในบางครั้งเขาก็ใช้ไฟฉายส่องเข้าไปดูบ้านแต่ละหลังทั้งสองข้างทาง ราวกับตรวจสอบดูว่าถนนสายเก่านี้แตกต่างไปจากความทรงจำในวัยเยาว์ของเขาหรือไม่
ในลำแสงไฟฉาย ฝุ่นสีเทาสีขาวลอยอยู่และมีจุดสีดำเล็ก ๆ ทะลุผ่านเป็นครั้งคราว เจียงเสี่ยวไป๋เงยหน้าขึ้นมอง ทำให้รู้ว่าฝนเริ่มตกลงมาแล้ว
ฝนค่อย ๆ ตกลงมาอย่างเงียบ ๆ
เขารู้สึกเหมือนกับว่าพายุกำลังมาอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน เจียงเสี่ยวไป๋ก็เดินเข้าไปในซอยที่สอง เขาใช้ไฟฉายส่องดูป้ายเลขที่บ้าน ที่ประตูไม้ทั้งสองข้างทาง และพบกับบ้านเลขที่ 216 อย่างรวดเร็ว
บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ที่มีผนังบ้านเอียงไปข้างหนึ่ง อาจเนื่องมาจากอายุของบ้านที่เก่าแก่ จึงเอียงเล็กน้อย มีแสงสลัวส่องผ่านหน้าต่างที่ปิดด้วยกระดาษไข และมีเสียงใครบางคนกำลังพูดคุยกันอย่างแผ่วเบา
เจียงเสี่ยวไป๋เดินไปที่ประตูบ้านและเคาะมันไปหลายครั้ง
“ใครน่ะ ? ”
เสียงของชายชราดังมาจากข้างในบ้าน
“ผมเป็นเพื่อนของหยางเจี๋ย ผมมาหาเธอ ! ”
“อ้อ ! ”
“พ่อ เขาคือเพื่อนของหนูเอง หนูนัดเขาไว้ พ่อนั่งลงเถอะ เดี๋ยวหนูจะไปเปิดประตูเอง” เสียงของหยางเจี๋ยดังขึ้นทันที
ไม่นานหลังจากนั้น ประตูไม้ก็เปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าเล็กน้อยของหยางเจี๋ย พร้อมด้วยกระเป๋าที่พาดไหล่ของเธอ
“เราไปเดินเล่นกันเถอะ ! ”
หลังจากที่หยางเจี๋ยออกมา เธอก็ปิดประตู ไม่แม้แต่จะเชิญเจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปข้างในบ้าน