ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 404 สุนัขจิ้งจอกแสร้งทำเป็นเสือ
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 404 สุนัขจิ้งจอกแสร้งทำเป็นเสือ
ตอนที่ 404 :สุนัขจิ้งจอกแสร้งทำเป็นเสือ
เรื่องเล็กน้อยอีกแล้วหรือ ? ? ?
รองนายกเทศมนตรีจางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คำพูดเหล่านี้ฟังดูคุ้นเคยมาก !
ครั้งล่าสุดที่เจียงเสี่ยวไป๋ขอความช่วยเหลือจากเขาก็บอกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่…
ที่ไหนได้มันยากมาก !
รองนายกเทศมนตรีจางหวังว่าเขาจะไม่พูดคำเหล่านี้ออกมาก่อน แต่คำพูดนั้นได้ถูกพูดไปแล้ว และเขาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ดังนั้นเขาจึงพูดถามว่า “บอกฉันมาว่าจะให้ช่วยอะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ ผมจะขอเชิญท่านรองนายกไปทานมื้อเย็นด้วยกันสักหน่อย”
ฮะ ?
รองนายกเทศมนตรีจางตกตะลึงอยู่นาน
เขาพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาให้กับเจียงเสี่ยวไป๋ เพียงแต่เขาไม่คิดว่าตนเองไม่เพียงแต่ไม่ต้องทำอะไรเท่านั้น แต่ยังได้รับเชิญให้ไปทานอาหารเย็นอีกด้วย
นี่ไม่ใช่นิสัยของเจียงเสี่ยวไป๋เลย !
รองนายกเทศมนตรีจางอดไม่ได้ที่จะเริ่มสงสัยว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะมาไม้ไหนอีก เขามองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋อย่างระมัดระวัง และถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “คุณแน่ใจหรือว่าแค่ไปกินอาหาร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหน้า
รองนายกเทศมนตรีจางถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อรู้แบบนี้ สุดท้ายเจ้าเด็กคนนี้ก็มีเรื่องให้เขาช่วยเหลืออยู่ดี
นี่สิถึงจะเป็นเจียงเสี่ยวไป๋ที่เขารู้จัก
“ถ้ามีอะไรให้ทำก็รีบบอกฉันมาเถอะ” รองนายกเทศมนตรีจางกล่าว
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและชี้ไปที่โทรศัพท์บนโต๊ะของเขา “ผมจะยืมโทรศัพท์ของคุณโทรออกหน่อยได้ไหมครับ ? ”
“แค่นี้เหรอ ? ” รองนายกเทศมนตรีจางตกตะลึงอีกครั้ง
“ครับ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและพูดว่า “ผมแค่จะโทรบอกให้คนอื่นมาดื่มกับคุณแทนผม ผมต้องขับรถกลับบ้านตอนกลางคืน ภรรยาและลูกกลับบ้านพร้อมผม ขับรถหลังดื่มไม่ปลอดภัย”
รองนายกเทศมนตรีจางยกยิ้มมุมปาก เขาไม่เคยเห็นคนอย่างเจียงเสี่ยวไป๋มาก่อน ที่ไม่ว่าจะดื่มจนเมา หรือไม่เมาก็จะไม่ขับรถหลังจากดื่ม ดูเหมือนว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะกลัวความตายมากกว่าใคร
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เขาจึงไม่คิดที่จะโต้เถียงกับเจียงเสี่ยวไป๋
“คุณโทรเถอะ ! ”
เขาอยากดูว่าใครคือคนที่เจียงเสี่ยวไป๋ขอให้มาดื่มกับเขา ?
เจียงเสี่ยวไป๋ก้าวไปข้างหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออก ไม่นาน สายก็ถูกเชื่อมต่อ
รองนายกเทศมนตรีจางแสร้งทำเป็นไม่แยแส แต่ที่จริงแล้วเขากำลังแอบฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“เมียจ๋า รองนายกเทศมนตรีจางและผมเพิ่งคุยกันเสร็จ ผมว่าจะเลี้ยงอาหารค่ำเขาด้วย เราจะยังไม่กลับบ้าน เดี๋ยวผมจะไปรับคุณและชานชานไปทานอาหารเย็นด้วยกัน”
“……”
“ไม่เป็นไร ! ”
“……”
“เราจะไปกินอาหารที่ร้านแฟรนไชส์สาขาหมายเลข 13 บนถนนกวนโปทางใต้ของเมือง ไม่ไกลจากที่คุณอยู่ นอกจากนี้กินข้าวเสร็จก็กลับเจียงวานได้สะดวกด้วย”
“……”
รองนายกเทศมนตรีจางเกือบเซเมื่อได้ยินคำนี้ เขาคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังโทรหาคนที่จะมาดื่มกับเขาเสียอีก ?
ใครจะไปคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋กลับโทรหาภรรยาของเขาก่อน
ลืมไปเถอะ สิ่งสำคัญคือที่ที่เจียงเสี่ยวไป๋เลือกนั้นอยู่บนถนนกวนโปทางตอนใต้ของเมือง
มันใกล้กับที่ทำงานของภรรยาของเขา และมันใกล้ทางกลับบ้าน
แต่มันอยู่ไกลจากศาลากลางมาก !
นับว่าเขามองเจียงเสี่ยวไป๋ออก ผู้ชายคนนี้ให้ความสำคัญกับภรรยาของเขามาเป็นอันดับแรก ในใจเขามักจะคิดถึงภรรยาของเขามาก่อนสิ่งใด
เขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดีหรือไม่ แต่อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็เป็นสามีที่ดีมาก
ในตอนที่เขากำลังคิดไปเรื่อยอยู่นั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็โทรออกหาอีกสาย
รองนายกเทศมนตรีจางแอบฟังด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง
เอาล่ะ ในที่สุดเจ้าเด็กคนนี้ก็จะชวนใครสักคนมาดื่มเป็นเพื่อนฉันสักที !
“พี่เขย รบกวนพี่ช่วยไปรับผู้อำนวยการหลู่ต้าเหว่ยจากโรงเรียนประถมศึกษากลางหมายเลข อันดับ 1 แล้วไปที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงบนถนนกวนโป”
“……”
“ครับ ผมจะเลี้ยงข้าวเย็นเขา ! ”
“……”
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋โทรออก รองนายกเทศมนตรีจางก็มองเขาแปลก ๆ แล้วถามว่า “คุณบอกว่ากำลังมองหาใครสักคนมาดื่มกับฉันใช่ไหม ? แล้วทำไมถึงโทรหาหลู่ต้าเหว่ยล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมกำลังอยากได้ความช่วยเหลือจากเขาพอดี คุณแค่นั่งรอดู ส่วนผมจะเป็นจิ้งจอกแต่งเป็นเสือ รับรองว่าเขาจะต้องยอมช่วยเหลืออย่างไม่ลังเลแน่นอน ! ”
จู่ ๆ รองนายกเทศมนตรีจางก็หมดคำจะพูด เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงอาหารเขา เห็นได้ชัดว่ากำลังหลอกใช้เขาอยู่
เขาอดไม่ได้ที่จะจมดิ่งลงสู่ไปในความคิดของตนเองอีกครั้ง: เจียงเสี่ยวไป๋จะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน แต่เรื่องอะไรกันที่ทำให้เขาต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการโรงเรียนประถม ?
แถมยังอยากขออาศัยอำนาจของเขาอีกด้วย ?
รองนายกเทศมนตรีจางยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ
“ไปกันเถอะครับท่านรอง คุณกำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถามด้วยความสงสัย
รองนายกเทศมนตรีจางรู้สึกตัวและเดินตามเจียงเสี่ยวไป๋ออกจากสำนักงานไป
ด้านนอกทางเดิน เจียงเสี่ยวไป๋เห็นว่าประตูถัดไปปิดอยู่ เขาจึงถามด้วยท่าทีสบาย ๆ ว่า “วันนี้เลขาติงไม่มาทำงานเหรอครับ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางกล่าวว่า “อ้อ ฉันลืมบอกคุณไปเลยว่าติงจวิ้นเจี๋ยได้ย้ายไปแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก็ว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นติงจวิ้นเจี๋ยในวันนี้ เขาพยักหน้าแล้วถามว่า “เขาถูกย้ายไปหน่วยงานไหนครับ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางกล่าวว่า “ทางมณฑลได้เลือกกลุ่มผู้ปฏิบัติงานวัยหนุ่มสาวให้ไปทำงานที่เจียงเฉิง ซึ่งเขาก็ได้รับเลือก เมื่อวานนี้เขาเดินทางไปเจียงเฉิง ส่วนจะอยู่ในหน่วยงานไหนนั้น ฉันก็ยังไม่รู้”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่คิดว่าติงจวิ้นเจี๋ยจะถูกย้ายไปที่เจียงเฉิง ซึ่งความก้าวหน้านี้ของติงจวิ้นเจี๋ยถือว่าเป็นก้าวเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก ซึ่งเขาก็ดีใจแทนติงจวิ้นเจี๋ย จึงกล่าวว่า “ผมเพิ่งกลับมาจากเจียงเฉิงเมื่อวานนี้ จังหวะคงพอดีกับที่เขาไป ไม่ได้บอกลากันเลย”
รองนายกเทศมนตรีจางยิ้มและพูดว่า “คุณเองก็ไปเจียงเฉิงบ่อยเหมือนกัน ยังมีโอกาสมากมายที่จะได้เจอกัน”
ขณะที่ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะ พวกเขาก็ออกมาจากอาคารสำนักงานแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋เชิญรองนายกเทศมนตรีจางขึ้นรถของเขา รองนายกเทศมนตรีจางโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร คุณยังต้องไปรับภรรยาและลูก ฉันให้คนขับรถขับไปเองดีกว่า มันสะดวก”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะและไม่เกรงใจแล้วเช่นกัน หลังจากที่รองนายกเทศมนตรีจางขึ้นรถ เขาก็ได้ขับรถออกไปก่อน
เอาล่ะ ไปรับภรรยาและลูกสาวก่อน
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็พาหลินเจียอินและเจียงชานไปที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงสาขา 13 บนถนนกวนโป
หลังลงจากรถ เขาก็มองไปรอบ ๆ แต่ก็ยังไม่เห็นรถของรองนายกเทศมนตรีจาง เขาจึงให้หลินเจียอินเข้าไปสั่งอาหารก่อน ขณะที่เขายืนรออยู่ข้างนอก
เจียงชานเองก็ยังไม่อยากเข้าไปข้างใน เธอจึงยืนรอเป็นเพื่อนเขา
“ป่าป๊าคะ ทำไมวันนี้เราไม่รีบกลับบ้านคะ ทำไมเราต้องกินข้าวในเมือง แทนที่จะกลับบ้านไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ทำไมล่ะ ? หนูอยากกลับไปกินอาหารเย็นที่บ้านงั้นเหรอ ! ”
เจียงชานส่ายหัว “ไม่สำคัญว่าจะกินที่ไหน หนูแค่คิดถึงเจียงชือ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะออกมาเสียงดังและปลอบโยนไปว่า “วันนี้พ่อเชิญคุณลุงจางและผู้อำนวยการหลู่มาทานอาหารเย็นด้วยกัน เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดคุยกับพวกเขา กินเสร็จแล้วเราค่อยกลับนะ”
“ค่ะ ! ”
ร่างเล็กตอบอย่างเชื่อฟังและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นป่าป๊าก็อย่าดื่ม เราจะได้กินเสร็จเร็ว ๆ เพื่อที่จะได้กลับไปเร็ว เจียงชือคงจะคิดถึงหนูเหมือนกัน ! ”
“อืม พ่อไม่ดื่มหรอก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
สองพ่อลูกคุยกันสักพัก และในไม่ช้า รถของรองนายกเทศมนตรีจางก็ขับเข้ามาที่ลานจอดรถ
หลังจากที่รถหยุดแล้ว คนสองคนก็เดินออกมา คนหนึ่งคือรองนายกเทศมนตรีจางและอีกคนคือฟู่เต๋อเจิง
“สวัสดีค่ะลุงจาง ! ”
“สวัสดีค่ะลุงฟู่ ! ”
เจียงชานทักทายทั้งสองอย่างสุภาพ
“สวัสดีชานชาน ! ”
ฟู่เต๋อเจิงตอบด้วยรอยยิ้มและลูบหัวของเด็กน้อย
หลังจากที่รองนายกเทศมนตรีจางตอบเจียงชาน เขาก็พูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “ฉันพกคนนั่งดื่มมาเองแล้ว ไม่รบกวนคุณหรอก”
“สวัสดีครับประธานฟู่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวสวัสดี
ฟู่เต๋อเจิงยิ้มและพูดว่า “ฉันได้ยินจากเสี่ยวเย่ว่าคุณไปสำนักงานหนังสือพิมพ์ตอนเที่ยง คุณยุ่งมากเหรอวันนี้ ? ถึงไม่แวะไปที่ห้องทำงานของฉันน่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นบุหรี่ให้ทั้งสองคนแล้วเดินเข้าไปข้างในร้านพร้อมกัน ก่อนจะพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ ว่า “เราไม่ได้เจอกันตอนเที่ยงก็แสดงว่าโชคชะตายังมาไม่ถึง คุณเห็นไหมว่าโชคชะตามาถึงตอนเย็น สุดท้ายเราก็ได้พบกัน ! ”
ฟู่เต๋อเจิงรู้สึกขบขันกับสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋พูด และตอบว่า “เอาล่ะ หยุดล้อเล่นได้แล้ว กิจกรรมสะสมการ์ดของคุณค่อนข้างน่าสนใจ คุณพร้อมที่จะขายล่าเถียวแล้วหรือยัง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ก็ต้องทดลองขายไปก่อน เพื่อดูตลาด”
ในขณะที่พูดคุยกัน พวกเขาก็เดินมาถึงห้องส่วนตัวที่หลินเจียอินจองไว้ให้