ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 329 ไปเยี่ยมน้องสาวของเจียอิน
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 329 ไปเยี่ยมน้องสาวของเจียอิน
ตอนที่ 329 :ไปเยี่ยมน้องสาวของเจียอิน
ปลายสายเงียบไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าใจเหตุผลทันที เขาหัวเราะแฮะ ๆ แล้วพูดว่า “ผมคิดถึงคุณนะ ! ”
ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ พนักงานต้อนรับสาวสวยถึงกับตกตะลึง: ! ! !
เธอไม่เคยได้ยินลูกค้าสารภาพความรู้สึกทางโทรศัพท์มาก่อน
เธอไม่ได้รู้สึกจั๊กจี้ แต่เธอกลับคิดว่าภรรยาของชายคนนี้จะต้องมีความสุขมากแน่ ๆ !
เมื่อฟังเสียงของคนรักทางโทรศัพท์ หลินเจียอินก็รู้สึกหอมหวานอยู่ในใจของเธอเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีความกล้าหาญแบบเจียงเสี่ยวไป๋ หญิงสาวจึงรีบชวนเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “คุณจะกลับมาตอนไหน ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ภรรยาไม่ยอมบอกว่าเธอคิดถึงเขา เขาตอบอย่างจนใจว่า “คงต้องรอพรุ่งนี้ถึงจะบอกวันได้”
หลินเจียอินพูดรับ “อ้อ” แล้วถามต่ออีกว่า “คุณไม่ได้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายใช่ไหม ? ”
ทันใดนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตระหนักได้ว่าก่อนออกเดินทาง ภรรยาของเขาย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย
ทว่าก่อนหน้านี้เขามุ่งความสนใจไปที่การช้อปปิ้งจนลืมคำเตือนของเธอไปโดยสิ้นเชิง
“ผมไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างแน่นอน ! ”
อืม ของที่ซื้อมาล้วนแต่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันทั้งนั้น จะเรียกว่าใช่จ่ายฟุ่มเฟือยได้อย่างไร ?
เจียงเสี่ยวไป๋ปลอบใจตัวเองและพูดด้วยความรู้สึกผิด
ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ พนักงานต้อนรับสาวกลอกตา โทรทางไกลนาทีละตั้ง 5 เหมา ไม่ถือว่าใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยได้อย่างไร ?
อย่างไรก็ตาม มุมมองที่เธอมองไปยังเจียงเสี่ยวไป๋นั้นแตกต่างออกไป
คุณเจียงคนนี้หล่อ รวย และดูกลัวภรรยาของเขาเหมือนกันนะเนี่ย
ผู้ชายที่กลัวภรรยาคือผู้ชายที่ดี !
เจียงเสี่ยวไป๋คุยกับหลินเจียอินไม่นานก็วางสายไป
“คุณครับ ค่าโทรศัพท์เท่าไหร่ครับ ? ”
พนักงานต้อนรับตรวจสอบแล้วพูดว่า “คุณผู้ชาย ระยะเวลาการโทรทั้งหมดของคุณคือ 52 นาที รวมค่าธรรมเนียม 2 หยวน รวมทั้งหมดอยู่ที่ 28 หยวนค่ะ”
“ครับ ขอบคุณมาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบธนบัตรสิบหยวน 3 ใบออกมาจากกระเป๋าเงินของเขาแล้วยื่นให้เธอ
เมื่อพนักงานต้อนเห็นกระเป๋าเงินของเจียงเสี่ยวไป๋ ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย กระเป๋าเงินใหม่นี้สวยมาก !
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่สนใจสายตาของพนักงานตอนรับมากนัก หลังจากใส่เงินสองหยวนลงในกระเป๋าเงินแล้ว เขาก็กลับไปที่ห้องอย่างสบายใจ
เขาคิดกับตัวเองว่าในที่สุดวันนี้ก็จบลงแล้ว ควรอาบน้ำและเข้านอนได้แล้ว !
หลังจากอาบน้ำ เขารู้สึกสบายตัว ก่อนจะปิดไฟและเตรียมเข้านอน
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! ”
แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะเขาอยู่หลายครั้ง
“ใคร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงนิ่ง และถามออกไปเสียงดัง
“คุณเจียงคะ มีสายเรียกเข้าถึงคุณที่แผนกต้อนรับค่ะ ! ”
เสียงหวานของพนักงานต้อนดังมาจากนอกประตู
“มีคนโทรหาเราหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ประหลาดใจและพูดว่า “ครับ เดี๋ยวผมไป”
เฮ้อ เขายังไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ เขาเปิดไฟ แต่งตัว และลุกจากเตียง
เมื่อเขาไปถึงแผนกต้อนรับ เขาก็ขอบคุณพนักงานและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “สวัสดีครับ ผมเจียงเสี่ยวไป๋ คุณเป็นใครครับ ? ”
ปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย “คุณเจียง ผมชื่อติงเหว่ย จากร้านหนังสือซินหัวที่เจียงโข่ว ผมอยากจะคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องถุงสะดวกซื้อครับ”
“โอ้ คุณติง คุณต้องการถุงสะดวกซื้อจำนวนกี่ใบและมีข้อกำหนดเฉพาะอะไรเพิ่มเติมไหมครับ ? ”
พวกเขาทั้งสองเริ่มพูดคุยรายละเอียดทางโทรศัพท์ และใช้เวลาไม่นานในการบรรลุข้อตกลง
ติงเหว่ยไม่ต้องการถุงสะดวกซื้อมากมายในเวลานี้ เขาสั่งเพียงหนึ่งล้านใบ ในราคาใบละ 3.5 หลี รวมเป็นเงิน 3,500 หยวน
นี่เป็นคำสั่งซื้อเล็ก ๆ การจัดส่งไม่ได้ยุ่งยาก และเจียงเสี่ยวไป๋ยังบอกว่าพวกเขาสามารถเก็บเงินปลายทางได้
หลังจากวางสายแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ถามพนักงานว่า “ค่าโทรศัพท์เท่าไหร่ครับ ? ”
พนักงานต้อนรับพูดว่า “2 หยวนค่ะ”
ในยุคนี้ ไม่เพียงแต่คุณต้องจ่ายค่าโทรออกเท่านั้น แต่ยังต้องเสียเงินอีก 2 หยวนสำหรับการรับสายต่อครั้งอีกด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นเงิน 2 หยวนให้เธอ และขอบคุณเธอ ก่อนจะกลับไปที่ห้องของเขา
ช่วงค่ำคืนที่เหลือผ่านไปอย่างเงียบสงัด
……
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงเสี่ยวไป๋ลุกไปวิ่งตอนเช้าที่จัตุรัสหงซานตามปกติ ก่อนจะกลับไปอาบน้ำและกินอาหารเช้า
ถังเสี่ยวโจวนัดพบเขาในช่วงเที่ยง ดังนั้นเขาจึงถือกระเป๋าและถุงสะดวกซื้อ 2 ใบไปที่มหาวิทยาลัยเจียงเฉิง
ถุงสะดวกซื้อทั้ง 2 ใบนี้ ใบหนึ่งสำหรับน้องสาวของเขาเจียงเสี่ยวชิง และอีกใบสำหรับหลินเจียลี่ น้องสาวของหลินเจียอิน ของด้านในมีเหมือนกัน ได้แก่ ชุดเดรส 2 ชุด กล้อง 1 ตัว ฟิล์ม 2 ม้วน และนาฬิกาโอเมก้า 1 เรือน
น้องสาวของเขาและน้องสาวของหลินเจียอินล้วนเป็นเหมือนน้องสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงให้ของขวัญพวกเธอเหมือนกัน
มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงอยู่ไม่ไกลจากเกสต์เฮาส์หงซาน ใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีเท่านั้น
เขาไม่รู้ว่าหอพักของหลินเจียลี่อยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงไปหาเจียงเสี่ยวชิงก่อน
ในยุคนี้ การจัดการหอพักของมหาวิทยาลัยไม่เข้มงวดมากนัก และไม่มีป้าหอพักมาขวางทางเขา ทำให้เขามาถึงนอกห้องพักของเจียงเสี่ยวชิงได้อย่างง่ายดาย
“พี่รอง ทำไมพี่มาที่นี่เร็วขนาดนี้”
หลังจากที่เจียงเสี่ยวชิงเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ เธอก็ประหลาดใจมากและถามด้วยความงุนงง
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นถุงพลาสติกให้เธอแล้วพูดว่า “พี่สัญญาว่าจะซื้อกล้องให้เธอ เมื่อวานพี่ซื้อมาตอนไปซื้อของ วันนี้เลยเอามาให้เธอน่ะ”
“ขอบคุณนะพี่รอง ! ”
เจียงเสี่ยวชิงรับมันอย่างมีความสุข และสังเกตเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋ถือถุงพลาสติกอีกใบมาด้วย เธออดไม่ได้ที่จะถามว่า “มีอะไรอยู่ในถุงใบนั้น ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “หลินเจียหลี่ น้องสาวของพี่สะใภ้เธอก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงด้วย พี่ซื้อให้เธอแล้ว ก็เลยถือโอกาสซื้อให้เจียลี่ด้วย”
เจียงเซียวพูดอย่างใจเย็น “พี่รอง พี่ดีกับครอบครัวพี่สะใภ้จริง ๆ ขนาดน้องสาวพี่สะใภ้ พี่ก็ยังไม่ลืมเธอ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถลึงตาใส่น้องสาว “เธอกำลังพูดอะไร เจียลี่ก็เป็นน้องสาวของฉันเหมือนกับเธอนั่นแหละ ! ”
เจียงเสี่ยวชิงแลบลิ้นแล้วพูดว่า “ฉันรู้ พี่รอง พี่กำลังพยายามทำให้พี่สะใภ้ของฉันพอใจ อิอิ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างไม่สบอารมณ์: “เอาล่ะ เอาของไปเก็บแล้วมาช่วยพี่ตามหาเจียลี่หน่อย”
เจียงเสี่ยวชิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และนำถุงพลาสติกที่ใส่ของตัวเองกลับเข้าไปเก็บในห้องอย่างมีความสุข
หลินเจียลี่กำลังศึกษาเอกวรรณคดีจีนที่มหาวิทยาลัยเจียงเฉิง และอยู่ชั้นปีที่สูงกว่าเจียงเสี่ยวชิงหนึ่งปี เจียงเสี่ยวชิงรู้อย่างรวดเร็วว่าหอพักหลินเจียลี่อยู่ที่ไหน ซึ่งพวกเธออยู่คนละพื้นที่กัน
“ดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับที่นี่แล้ว ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยรอยยิ้ม
เจียงเสี่ยวชิงพูดอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอน ! ฉันเดินสำรวจบริเวณมหาวิทยาลัยเมื่อวานนี้ ฉันรู้จักสถานที่ส่วนใหญ่ในมหาวิทยาลัยแล้ว”
มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และในขณะที่พี่น้องเดินคุยกัน พวกเขาก็เดินผ่านอาคารภาควิทยาศาสตร์ และถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระ เจียงเสี่ยวชิงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “รุ่นพี่บอกว่าเมื่อดอกซากุระบานในเดือนมีนาคม ที่นี่จะสวยมาก พี่รอง พี่ควรมาดูดอกซากุระในปีหน้านะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่สนใจที่จะเห็นดอกซากุระ แต่เขายังคงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้ามีเวลา พี่จะมาเยี่ยมเธอและชมดอกซากุระด้วย”
เจียงเสี่ยวชิงพูดอย่างมีความสุข “เมื่อดอกซากุระบาน ฉันจะโทรหาพี่”
หลังจากเดินไปอีกประมาณ 10 นาที ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงด้านนอกหอพักของหลินเจียลี่
หลังจากที่เจียงเสี่ยวชิงเคาะประตู เด็กสาวรูปร่างสูงและหน้าตาดีก็เปิดประตูออกมา ใบหน้ารูปไข่ของเธอดูละเอียดอ่อน คิ้วโค้งเหมือนก้านหลิว ดวงตามีเสน่ห์ จมูกเป็นสันตรง และริมฝีปากอวบอิ่ม เธอมีความคล้ายคลึงกับหลินเจียอินเล็กน้อย เธอสวมชุดสีฟ้าอ่อนที่เผยให้เห็นต้นขาเรียวสวย พร้อมด้วยรองเท้าแตะสีขาวเรียบง่ายคู่หนึ่ง ทำให้เธอดูน่ารักและมีสไตล์อย่างบอกไม่ถูก
“พวกคุณคือใคร ? ”
“มีธุระอะไรกับฉัน ? ”
หญิงสาวมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋และเจียงเสี่ยวชิงอย่างสงสัย
เธอเคยเห็นเจียงเสี่ยวไป๋เพียงครั้งเดียว และในเวลานั้นเขาเป็นเพียงชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้น ๆ ที่แต่งตัวสบาย ๆ
ตอนนี้ผ่านไป 6 ปีแล้ว และเจียงเสี่ยวไป๋ก็อายุ 28 ปีแล้ว ด้วยความที่เขากลับมาเกิดใหม่และตอนนี้เขาสวมเสื้อผ้าใหม่ ทำให้ท่าทางและบุคลิกทั้งหมดของเขาเปลี่ยนไป ดังนั้นหลินเจียลี่จึงจำเขาไม่ได้
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่หลินเจียลี่ ซึ่งดูเหมือนหลินเจียอินตอนที่เธอเป็นเด็กสาว เขายิ้มและพูดว่า “เจียลี่ ฉันเจียงเสี่ยวไป๋ เป็นพี่เขยของเธอ ! ”