ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 327 ถังเสี่ยวโจวรับแขก
ตอนที่ 327 :ถังเสี่ยวโจวรับแขก
เวลา 17.30 น. ถังเสี่ยวโจวมารับเจียงเสี่ยวไป๋ตรงเวลา
ขณะที่รถ Volga ขับไปอย่างช้า ๆ ถังเสี่ยวโจวพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเพิ่งมาที่เจียงเฉิงเป็นครั้งแรกใช่ไหม รู้สึกอย่างไรบ้าง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มเล็กน้อย
หากไม่นับชาติที่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกของเขาในการมาที่เจียงเฉิงจริง ๆ
แต่ถ้านับชาติที่แล้วด้วย เขาอาศัยอยู่ในเจียงเฉิงเป็นเวลา 5-6 ปีแล้ว
คราวนี้ถือว่าได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าที่คุ้นเคยมากกว่า
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดสิ่งเหล่านี้กับผู้อื่นได้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับและพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่ได้มาเมืองใหญ่เช่นนี้ เมืองนี้ใหญ่กว่าชิงโจวของเรามาก และอากาศร้อนกว่ามาก สำหรับความประทับใจของผม ผมรู้สึกว่าเจียงเฉิงเป็นเหมือนสถานที่ก่อสร้างขนาดมหึมา ! ”
“สถานที่ก่อสร้างขนาดมหึมาหรือ ? ”
ถังเสี่ยวโจวรู้สึกขบขัน “คำอธิบายของคุณค่อนข้างน่าสนใจ ดูเหมือนว่าคุณจะเที่ยวชมเจียงเฉิงมาบ้างแล้วใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองเจียงเฉิง ดังนั้นผมจึงไปเที่ยวชมที่นั่นและซื้อของไปบ้างแล้ว”
ขณะที่เขาพูด จู่ ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่าทิศทางของรถกำลังมุ่งหน้าไปยังเจียงโข่ว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เราจะไปเจียงโข่วใช่ไหมครับ ? ”
ถังเสี่ยวโจวยิ้มและพูดว่า “คุณดูค่อนข้างคุ้นเคยกับถนนในเจียงเฉิงนะ แค่ผมเปลี่ยนเส้นทางก็รู้แล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มเจื่อน “ผมบังเอิญไปที่นั่นตอนเที่ยง เลยดูคุ้นเคยน่ะ”
ถังเสี่ยวโจวกล่าวว่า “คุณพูดถูก สถานที่ที่เรากำลังมุ่งหน้าไปตอนนี้ใกล้กับที่ที่คุณไปตอนเที่ยงมาก ถ้าผมรู้ว่าคุณจะไปที่นั่น ผมคงให้คุณไปที่นั่นก่อน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับสองรอบแบบนี้”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าถังเสี่ยวโจวจะไปเลี้ยงอาหารเขาไกลขนาดนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะตั้งตารอว่าถังเสี่ยวโจวจะพาไปทานอาหารที่ไหน ?
รถ Volga ขับช้า ๆ ไปบนสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเข้าสู่เจียงโข่วและมาถึงถนนเจียงฮั่น พวกเขาเดินผ่านห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเจียงเฉิง และเดินทางต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะหยุดที่ถนนเจียงฮั่นในที่สุด
อาคารที่มีเส้นขอบฟ้ารูปตัวแอล ประตูและหน้าต่างห้าชั้นติดกับผนัง และหอคอยที่ตกแต่งด้วยเสาสไตล์บาโรกที่ปรากฏขึ้นเหนือตัวหลังคาอย่างโดดเด่น
ภัตตาคารซวนกง !
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ บนใบหน้าของเขา แต่เขารู้สึกประหลาดใจและชื่นชมความมีน้ำใจของถังเสี่ยวโจวอย่างเงียบ ๆ
ภัตตาคารซวนกงค่อนข้างมีชื่อเสียงมาก ก่อตั้งขึ้นในปี 1928 และแล้วเสร็จในปี 1931 เป็นตัวอาคารประกอบด้วย 5 ชั้นเหนือพื้นดินและ 1 ชั้นใต้ดิน ด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรมได้รับแรงบันดาลใจจากเค้าโครงของอาคารหยงอันที่เก่าของบริษัทเซี่ยงไฮ้-ไห่อัน ซึ่งผสมผสานองค์ประกอบของการตกแต่งแบบคงความคลาสสิกและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
ทว่านี่ไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นสำคัญคือภัตตาคารซวนกงมีภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งมาก
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.1938 การประชุมผู้แทนชั่วคราวครั้งที่สองของคณะกรรมการปฏิบัติการปลดปล่อยแห่งชาติจีนจัดขึ้นที่ภัตตาคารซวนกง
หลังจากชัยชนะในสงครามต่อต้านญี่ปุ่นในปี 1945 ‘สำนักงานไกล่เกลี่ยทางทหาร’ ก็ได้เปิดสำนักงานในภัตตาคารซวนกง
ในปี 1954 บิดาผู้สถาปนาประเทศจีนได้ต้อนรับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม อิลซุง ที่ภัตตาคารซวนกง และในช่วงปี 1960 เขายังได้ต้อนรับจอมพลเบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี่ผู้โด่งดังที่นี่ด้วย หยางชุนชิง หัวหน้าพ่อครัวของร้านอาหารได้ทำเมนู “ปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊ว” ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับบิดาผู้สถาปนาประเทศจีนเป็นอย่างมาก และนำไปสู่คำพูดอันโด่งดังที่ว่า “ดื่มน้ำจากฉางซา กินปลาอู่ชาง”
“เลขาถัง คุณจะเลี้ยงเมนูปลาใช่ไหม ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูป้ายสีทองที่มีคำว่า “ภัตตาคารซวนกง” แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
ถังเสี่ยวโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ผมไม่คิดว่าคุณเจียงจะรู้จักร้านนี้ด้วย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “ผมชอบอ่านหนังสือพิมพ์ วันนี้ต้องขอบคุณเลขาถังที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ลิ้มรสปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊วจากต้นตำรับแท้ ๆ ! ”
ถังเสี่ยวโจวหัวเราะเบา ๆ แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยกัน กำแพงอิฐแดงเปลือยและโคมไฟติดผนังคลาสสิกแนววินเทจตามทางเดิน ทำให้มีกลิ่นอายย้อนยุคเหมือนสิ่งปลูกสร้างอันเงียบสงบและอาคารต่าง ๆ ที่เคยพบเห็นในประวัติศาสตร์ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการเดินทางผ่านกาลเวลา มันถ่ายทอดความรู้สึกอย่างลึกซึ้งของการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์และบรรยากาศทางวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์
การกินอาหารในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ถือเป็นความเพลิดเพลินรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว
เมื่อเข้าไปในห้องรับประทานอาหารส่วนตัว เจียงเสี่ยวไป๋สังเกตเห็นว่าคนขับไม่ได้ตามพวกเขาเข้ามาด้วย จึงถามว่า “มีแค่เราสองคนหรือครับ ? คนขับไม่มาร่วมโต๊ะกับเราด้วยหรือ ? ”
ถังเสี่ยวโจวยิ้มและพูดว่า “เขามีแผนอื่น มื้อเย็นมีแค่คุณกับผม จะได้คุยกันไปด้วยครับ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตระหนักว่าคำเชิญไปรับประทานอาหารค่ำของถังเสี่ยวโจวไม่ใช่แค่เชิญไปกินข้าวอย่างเดียวเท่านั้น
ขณะที่ทั้งสองนั่งลง และหลังจากที่บริกรรับออเดอร์แล้วออกไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็หยิบกล่องนาฬิกาโอเมก้าออกมาจากกระเป๋าของเขาและวางลงบนโต๊ะตรงหน้าถังเสี่ยวโจว พร้อมกับพูดว่า “คุณเลี้ยงอาหารค่ำผม งั้นผมก็ขอมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคุณ ! ”
ถังเสี่ยวโจวจ้องไปที่กล่องกำมะหยี่สีดำใบเล็ก โลโก้ ‘Omega’ บนนั้นดึงดูดสายตาเขาอยู่ครู่หนึ่ง
เขาเป็นคนฉลาดเลือกจริง ๆ
“นาฬิกาโอเมก้า ! นี่มันแพงเกินไป ผมรับไว้ไม่ได้ ! ”
ถังเสี่ยวโจวกล่าวพร้อมผลักกล่องกำมะหยี่สีดำไปข้างหน้าเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม เขาผลักมันกลับแล้วพูดว่า “ราคาธรรมดาน่ะ นี่เป็นการแสดงความขอบคุณของผม”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋ ถังเสี่ยวโจวก็เปิดกล่องและมองเข้าไปข้างใน ริมฝีปากของเขาอดไม่ได้ที่จะกระตุก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นนาฬิการะดับกลาง ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันหยวน ราคาธรรมดาตรงไหน ?
ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือบังเอิญ เขาก็บังเอิญสังเกตเห็นนาฬิกาโอเมก้ารุ่นกลุ่มดาว [1] ที่มีสายหนังและกรอบเพชรบนข้อมือของเจียงเสี่ยวไป๋ในขณะนั้น
อืม……เมื่อเทียบกับนาฬิกาโอเมก้ารุ่นที่เขาสวมซึ่งมีราคามากกว่าหนึ่งหมื่นหยวนแล้ว นาฬิกาที่มูลค่าพันกว่าหยวนถือเป็นเรื่องปกติไปเลย !
เขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณนะครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้พูดอะไรและเปลี่ยนบทสนทนาไปที่ปลาอู่ชางอย่างเชี่ยวชาญ โดยถามว่า “ผมได้ยินมาว่าปลาอู่ชางแท้ ๆ นั้นค่อนข้างหายาก จริงไหมครับ ? ”
ถังเสี่ยวโจวอธิบาย “คำว่า ‘อู่ชาง’ จากในชื่อปลามาจากชื่อเมือง ‘อู่ชาง’ ในสมัยโบราณ ซึ่งปัจจุบันก็คือเมืองเอ้อเฉิง แม้ว่าปลาอู่ชางจะมีการกระจายตัวตามธรรมชาติเป็นวงกว้าง แต่ผลผลิตกลับต่ำมาก จำนวนของมันจริงของพวกมันค่อนข้างต่ำ สายพันธุ์ที่มาจากทะเลสาบเหลียงจื่อเป็นสายพันธุ์แท้ที่สุดแล้ว”
แน่นอนว่าเจียงเสี่ยวไป๋รู้เรื่องนี้ แต่ยังคงแสดงท่าทีสนใจ โดยพูดว่า “นั่นหมายความว่าร้านอื่นอาจใช้ปลาอู่ชางปลอมใช่ไหม ? ”
ถังเสี่ยวโจวยิ้ม “การแยกปลาอู่ชางของแท้กับของปลอมนั้นค่อนข้างง่าย เดี๋ยวพอคุณได้ชิมจะรู้เอง ปลาอู่ชางมีก้างน้อย มันมีก้างแค่ 13 ก้างครึ่งเท่านั้น”
“มีก้างเพียง 13 ก้างครึ่ง ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ดูประหลาดใจ เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “มันน่าทึ่งมาก ต่อไปนี้เวลาผมไปกินปลาอู่ชาง ผมก็ไม่ต้องกลัวว่าจะได้กินของปลอมอีกแล้ว”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน พนักงานเสิร์ฟก็เริ่มเสิร์ฟอาหารแล้ว
ปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊ว หมูตุ๋น ถั่วเขียวผัดและซุปไข่สาหร่าย
อาหารสามจานและซุปหนึ่งถ้วย เพียงพอสำหรับสองคนพอดีเลย
ถังเสี่ยวโจวชี้ไปที่จานปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊วแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณกำลังจะได้ทานของอร่อยแล้ว วันนี้พ่อครัวหยางเป็นคนทำปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊วเอง ย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่เขาเคยทำปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊วให้กับบิดาผู้สถาปนาประเทศ ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นพ่อครัวระดับปรมาจารย์เลยก็ว่าได้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋เคยได้ยินเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนี้มาก่อน บิดาผู้สถาปนาประเทศซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความเข้าถึงง่าย ได้เขียนบทกวีที่มีชื่อว่า ‘ทำนองเพลงสายน้ำ·ว่ายน้ำ’ หลังจากเพลิดเพลินกับปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊วของพ่อครัวหยาง และยังได้มอบบทกวีฉบับร่างแรกเป็นของขวัญให้กับพ่อครัวหยางด้วย
เมื่อมองดูปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊วบนจาน เจียงเสี่ยวไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ชาติก่อน เขาร่ำรวยและได้กินอาหารที่ภัตตาคารซวนกงด้วย แต่ตอนนั้นพ่อครัวหยางไม่ได้ทำอาหารเองแล้ว ไม่คิดเลยว่าพอได้กลับมาเกิดใหม่ เขาจะมีโอกาสได้เพลิดเพลินกับปลาอู่ชางนึ่งซีอิ๊วที่พ่อครัวหยางทำเองกับมือด้วย
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลอง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างมีความสุขและตื่นเต้น
อาหารอร่อย ๆ แบบนี้ต้องคู่กับแอลกอฮอล์ ถังเสี่ยวโจวจึงถามว่า “เหล้าหรือเบียร์ดีครับ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมยังไงก็ได้ แล้วแต่คุณเลย ! ”
ถังเสี่ยวโจวสั่งเหมาไถหนึ่งขวด และทั้งสองก็พูดคุยกันขณะกินอาหาร
แน่นอนว่าหลัก ๆ แล้ว ถังเสี่ยวโจวถามเกี่ยวกับธุรกิจของเจียงเสี่ยวไป๋ในชิงโจว เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ปิดบังอะไร เขาตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา
เพราะเขาคิดว่าอาจไม่ใช่ถังเสี่ยวโจวที่อยากรู้เรื่องนี้ แต่เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเขาที่อยากรู้
ถังเสี่ยวโจวหลังจากได้ยินเกี่ยวกับกิจการทางธุรกิจมากมายของเจียงเสี่ยวไป๋ก็อดประหลาดใจไม่ได้ หลังจากใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถามว่า “คุณเจียง คุณเคยคิดที่จะขยายธุรกิจมาที่เจียงเฉิงบ้างไหม ? ”
[1] นาฬิกา Omega คอลเลกชัน Constellation