ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 325 กระหน่ำซื้อของแบรนด์
ตอนที่ 325 :กระหน่ำซื้อของแบรนด์
เงิน 60,000 หยวนใส่ในถุงสะดวกซื้อเต็มไปเพียงสองถุงครึ่งเท่านั้น
แต่เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นถุงสะดวกซื้อให้พนักงานสาวไปตั้ง 5-6 ใบ เมื่อเห็นแบบนั้น เธอจึงพูดอย่างเขินอายว่า “คุณผู้ชาย ฉันขอซื้อถุงสะดวกซื้อที่ไม่ได้ใช้จากคุณได้ไหมคะ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะและพูดว่า “ที่เหลือผมให้คุณก็แล้วกัน ! ”
“ขอบคุณค่ะ ! ”
พนักงานสาวดีใจมาก จึงพูดว่า “คุณคะ รู้ไหมว่าถุงสะดวกซื้อพวกนี้หาซื้อได้ที่ไหน บางครั้งมีลูกค้าของเรามาถอนเงินสดในจำนวนที่เยอะมาก และถือเงินกลับไปไม่สะดวกนัก ดังนั้นฉันอยากจะเสนอถุงแบบนี้ให้ผู้จัดการสาขาจัดซื้อมาสักล็อตหนึ่ง จะได้ไว้ใส่เงินให้ลูกค้าที่ต้องการ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินแบบนั้นยิ่งมีความสุขยิ่งขึ้น เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าการถอนเงินง่าย ๆ จะกลายเป็นการสนทนาทางธุรกิจไปได้
ต้องบอกว่าพนักงานสายงานบริการในเมืองใหญ่อย่างเจียงเฉิงนั้นให้บริการดีมาก พวกเธอรู้วิธีการบริการที่ยอดเยี่ยมและคำนึงถึงลูกค้าเสมอ
“ผมเป็นผู้ผลิตถุงสะดวกซื้อพวกนี้ ถ้าธนาคารของคุณต้องการซื้อ คุณสามารถโทรติดต่อไปที่หมายเลขโทรศัพท์ที่พิมพ์อยู่บนถุงได้เลยครับ”
“นอกจากนี้ ผมยังสามารถผลิตถุงตามแบบที่พวกคุณต้องการได้ เช่น การพิมพ์ชื่อธนาคารและหมายเลขโทรศัพท์ธนาคารลงบนถุงให้ได้อีกด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าว
“คุณเป็นคนผลิตถุงพวกนี้เองหรือคะ ! ” พนักงานสาวทั้งดีใจทั้งตกใจ “งั้นไม่จำเป็นต้องโทรหรอกค่ะ รอสักครู่นะคะ ฉันจะไปคุยกับผู้จัดการสาขา แล้วคุณสามารถพูดคุยกับเขาได้เลยค่ะ”
โดยไม่รอคำตอบจากเจียงเสี่ยวไป๋ เธอก็ออกจากเคาน์เตอร์พร้อมถุงสะดวกซื้อและไปหาผู้จัดการสาขาทันที
เนื่องจากเงินยังไม่ถูกส่งออกจากเคาน์เตอร์ ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรอ
ไม่นานหลังจากนั้น พนักงานสาวก็กลับมาพร้อมกับผู้หญิงวัยสี่สิบเศษ เธอชี้ไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “ผู้จัดการไฉ นี่คือคุณเจียงเสี่ยวไป๋ เขาเป็นผู้ผลิตถุงสะดวกซื้อพวกนี้ค่ะ”
ผู้จัดการไฉยื่นมือออกไปหาเจียงเสี่ยวไป๋ “สวัสดีคุณเจียง ฉันชื่อไฉมู่ชิง ฉันสนใจถุงสะดวกซื้อของคุณ รบกวนคุณช่วยมาที่ออฟฟิศของฉันเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋จับมือเธอเบา ๆ และพยักหน้าเห็นด้วย
ไฉมู่ชิงหันไปหาพนักงานสาวแล้วพูดว่า “รั่วหลัน เดี๋ยวช่วยนำเงินสดที่คุณเจียงถอนไปส่งที่ห้องทำงานของฉันด้วย”
“ค่ะ ผู้จัดการไฉ ! ”
ติงรั่วหลันรีบขานรับ
“ขอบคุณครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หันมาขอบคุณติงรั่วหลาน และเดินตามไฉมู่ชิงไปที่ห้องทำงานของเธอ
หลังจากพูดคุยกันสักพักก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
ไฉมู่ชิงไม่ได้สั่งทำถุงสะดวกซื้อมากมายนัก เธอสั่งทำหนึ่งแสนใบ ราคาใบละ 3.5 หลี รวมทั้งหมดเป็นเงิน 350 หยวน
อย่างไรก็ตาม ไฉมู่ชิงกล่าวว่าเมื่อถุงสะดวกซื้อที่เธอสั่งมาถึง เธอจะนำไปใช้ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารในเจียงเฉิง หากสำนักงานใหญ่ต้องการสั่งซื้ออีก ปริมาณการสั่งซื้อครั้งต่อไปก็จะมากขึ้น
นอกจากนี้ ไฉมู่ชิงยังกล่าวอีกว่าพ่อของติงรั่วหลานเป็นผู้จัดการร้านหนังสือซินฮัวในเจียงโข่ว เธอจึงขอให้เจียงเสี่ยวไป๋ทิ้งข้อมูลติดต่อของเขาในเจียงเฉิงไว้
เจียงเสี่ยวไป๋จึงให้หมายเลขโทรศัพท์ของแผนกต้อนรับที่เกสต์เฮาส์หงซาน และแจ้งให้เธอทราบว่าเขาจะกลับไปที่ชิงโจวในวันพรุ่งนี้
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ไฉมู่ชิงก็ประหลาดใจและพูดว่า “คุณเจียง คุณพักอยู่ที่เขตเจียงชาง แต่คุณเดินทางมาที่เจียงโข่วเพื่อถอนเงินได้อย่างไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผมจะไปซื้อของที่ห้างเซ็นทรัลเจียงเฉิง เลยมาถอนเงินมาที่นี่”
ไฉมู่ชิงตกใจมาก เขามาถอนเงิน 60,000 หยวนเพื่อไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ?
โอ้พระเจ้า เขากำลังจะไปซื้ออะไรกัน ?
แน่นอนว่าเธอจะไม่ถามออกไป
แม้เธอจะทั้งตกใจและอยากรู้อยากเห็นก็ตาม
เจียงเสี่ยวไป๋ออกจากธนาคารด้วยอารมณ์ดี และขับรถกลับไปที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเจียงเฉิง
หลังจากจอดรถแล้ว เขาไม่ได้พกเงินทั้งหมดเข้าห้าง แต่เอาเงินใส่ในกระเป๋ากางเกง 2 ปึก ก่อนจะยัดถุงเงินไว้ใต้เบาะและเดินเข้าห้างไป
เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเคยเดินสำรวจไปทั่วห้างแล้ว คราวนี้เขาจึงตรงไปที่ชั้นสามเพื่อไปซื้อกระเป๋า
เพราะที่นี่มีร้านกระเป๋าหรูอยู่เพียงแค่ร้านเดียว
เป็นแบรนด์ปีแอร์ การ์แดง แบรนด์ชื่อดังจากฝรั่งเศส
เมื่อเทียบกับแบรนด์หรูอื่น ๆ ที่เข้ามาในประเทศจีนในช่วงทศวรรษ 1990 เป็นต้นไป ปีแอร์ การ์แดงถือเป็นแบรนด์ที่เข้ามาค่อนข้างเร็ว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของปี 1979 ปีแอร์ การ์แดง นักออกแบบแฟชั่นชื่อดังชาวฝรั่งเศสได้เริ่มเข้าสู่ประเทศจีนหลังจากได้รับเชิญให้จัดงานแฟชั่นโชว์ที่พระราชวังวัฒนธรรมแห่งชาติเทียนจิง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการปรากฏตัวของแบรนด์ปีแอร์ การ์แดงในประเทศจีน
ส่งผลให้ปีแอร์ การ์แดงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราในดวงใจของชาวจีนเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งศตวรรษที่ 21 เมื่อแบรนด์หรูอื่น ๆ เข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้น แบรนด์ปีแอร์ การ์แดงจึงโดดเด่นน้อยลง
เจียงเสี่ยวไป๋ชอบกระเป๋าของปีแอร์ การ์แดง
เขาซื้อกระเป๋าถือและกระเป๋าสตางค์ให้ตัวเอง ส่วนของหลินเจียอินเขาซื้อกระเป๋าถือ กระเป๋าโท้ต และกระเป๋าสะพายข้างให้ ซึ่งราคาอยู่ระหว่าง 230 หยวนถึง 418 หยวน รวมแล้วเขาจ่ายค่ากระเป๋าไปทั้งหมด 1,660 หยวน
หลังจากซื้อกระเป๋าแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็กลับไปที่รถของเขา
เขาวางกระเป๋าอื่น ๆ ไว้ในรถอย่างเรียบร้อย จากนั้นเปิดกระเป๋าที่เขาซื้อไว้ใช้เอง หยิบเงินออกจากถุงสะดวกซื้อและใส่มันลงไปอย่างระมัดระวังทีละปึก รวมแล้วเขาใส่เงินลงในกระเป๋าได้ 32 ปึก
หลังจากรูดซิปเสร็จ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าไปในห้างสรรพสินค้าอีกครั้ง พร้อมกับเงินเต็มกระเป๋า
คราวนี้เขาตรงไปที่เคาน์เตอร์นาฬิกาที่ชั้นหนึ่ง
ในทำนองเดียวกัน ที่นี่ก็มีเคาน์เตอร์แบรนด์โอเมก้า ซึ่งเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูเพียงแบรนด์เดียวที่เข้ามาในประเทศจีน
ในความเป็นจริง แบรนด์โอเมก้าได้เข้าสู่ประเทศจีนตั้งแต่ปี 1976 ซึ่งเร็วกว่าแบรนด์ปีแอร์ การ์แดงเสียอีก ส่วนแบรนด์บอลลี่เข้าสู่ตลาดจีนในปี 1986 ซึ่งช้ากว่าโอเมก้าถึงหนึ่งทศวรรษ
สำหรับแบรนด์หรูอื่น ๆ ที่วัยรุ่นยุคหลังชื่นชอบ เช่น คาร์เทียร์เข้ามาในประเทศจีนเมื่อปี 1990 แอร์เมเนกิลโด เซนญาเข้ามาในปี 1991 ส่วนแอร์เมสและกุชชี่เข้ามาในปี 1997
ในเวลานี้ นาฬิกาจักรกลแบรนด์โอเมก้าที่ขายในประเทศจีนมีราคาตั้งแต่ 350 หยวนสำหรับรุ่นที่ถูกสุดไปจนถึงมากกว่า 10,000 หยวนสำหรับรุ่นที่แพงที่สุด
ราคาต่างกันคนละโลก
นาฬิกาโอเมก้าที่แพงที่สุดมีราคามากกว่า 10,000 หยวนต่อเรือน เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อไว้สองเรือน เขาเลือกนาฬิกาสำหรับผู้ชายให้ตัวเอง ส่วนอีกเรือนเป็นนาฬิกาผู้หญิง ซึ่งเขาตั้งใจจะให้ภรรยาของเขา
สำหรับนาฬิกาผู้ชายอยู่ในเรทปานกลาง ราคาเรือนละ 1,300 หยวน เจียงเสี่ยวไป๋ได้ซื้อไป 9 เรือน
เขาตั้งใจจะซื้อไปให้เจียงไห่หยาง เจียงเสี่ยวเฟิง เจียงเสี่ยวเหลย หวังผิง เฉินหยวนเฉา หลินต้าเหว่ย หลินเจียเหวย หลินเจียเล่อ รวมแปดคนได้คนละเรือนพอดี
อีกเรือน เขาตั้งใจจะให้ถังเสี่ยวโจวเป็นการตอบแทนที่ช่วยเป็นธุระให้เขา
นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของพวกเขา ถังเสี่ยวโจวยังชวนไปทานอาหารเย็น ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงไม่อยากไปมือเปล่า
เดิมที เขาคิดถึงสถานะของพ่อตาและคิดจะซื้อนาฬิการาคามากกว่า 10,000 หยวนให้เขา
แต่เมื่อคิดไตร่ตรองดูแล้ว สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจซื้อนาฬิกาเรือนละ 1,300 หยวนให้พ่อตา
เขาไม่ต้องการให้พ่อตากลายเป็นที่จับตามองต่อสาธารณะมากเกินไป
เพราะในฐานะผู้นำ ไม่ควรโอ้อวดเรื่องทรัพย์สินส่วนตัวมากเกินไป !
ไม่ต้องพูดถึงว่ารายได้ของคุณเพียงพอที่จะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น คุณก็ควรรักษาสถานะให้ดูถ่อมตนเข้าไว้
ส่วนนาฬิกาผู้หญิงราคา 1,100 หยวน เขาซื้อมา 9 เรือนเช่นกัน
เขาตั้งใจว่าจะซื้อไปให้หวังซิ่วจวี๋ เจียงเสี่ยวเยว่ เจียงเสี่ยวชิง เจียงเสี่ยวหยู หลัวเจาตี้ เฝิงเยี่ยนหง หลิวอี้ถิง หานหยุนหยิง และหลินเจียลี่คนละหนึ่งเรือนเช่นกัน
นับตั้งแต่มาเกิดใหม่ เขายังไม่มีโอกาสได้เจอหลินเจียลี่ น้องสาวของภรรยาเขาเลย
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าหลินเจียลี่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงเช่นกัน
พรุ่งนี้ เมื่อเขานำนาฬิกาไปให้เจียงเสี่ยวชิง เขาจะใช้โอกาสนี้ไปพบน้องสาวของภรรยาด้วย
เมื่อคิดว่าจะต้องพบกับหลินเจียลี่ เจียงเสี่ยวไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
ชาติที่แล้ว เมื่อน้องสะใภ้ได้ยินว่าพี่สาวและหลานสาวของเธอจมน้ำตายทั้งคู่ เธอก็ขับรถชนเขาทันที
โชคดีที่เขารอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานานถึง 2 เดือน
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหัวและเริ่มคิดว่าพรุ่งนี้ตอนที่เขาพบกับหลินเจียลี่แล้ว เขาจะมีสีหน้าและความรู้สึกอย่างไร ?