ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 312 ไม่เลียนแบบวิถีของผู้อื่น แต่ทำตามเส้นทางของตัวเอง
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 312 ไม่เลียนแบบวิถีของผู้อื่น แต่ทำตามเส้นทางของตัวเอง
ตอนที่ 312 :ไม่เลียนแบบวิถีของผู้อื่น แต่ทำตามเส้นทางของตัวเอง
สำหรับมื้อกลางวัน เจียงเสี่ยวไป๋กินข้าวที่โรงอาหารพนักงาน และเริ่มพูดคุยกับจางชุ่ยฮวาเกี่ยวกับการเปิดโรงงานผักดอง
จางชุ่ยฮวามองเขาด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “ฉันคิดว่าคุณแค่ล้อเล่น คุณวางแผนที่จะเปิดโรงงานผักดองจริง ๆ หรือ ? ”
แน่นอนว่าเจียงเสี่ยวไป๋จริงจังกับเรื่องนี้มาก
เพราะการเปิดโรงงานยังช่วยเปิดโอกาสให้เขาขอที่ดินจากรองนายกเทศมนตรีจางได้ !
หลักในการทำธุรกิจของเขาคือ เน้นขอที่ดินเป็นเรื่องแรก สร้างโรงงานเป็นเรื่องรอง เพราะตราบใดที่มีโครงการที่เหมาะสม เขาก็พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการจัดตั้งโงงานที่ได้มาซึ่งที่ดินทันที
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การซื้อที่ดินจะต้องใช้เงินจำนวนมาก
“คุณคิดว่าผมล้อเล่นหรือ ? ” เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
จางชุ่ยฮวาตอบว่า “แต่ฉันทำงานที่สหกรณ์จำหน่ายเครื่องบริโภคอุปโภค ฉันไม่มีเวลาเปิดโรงงานผักดองหรอก”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามว่า “ตอนนี้คุณได้เงินเดือนเท่าไหร่จากสหกรณ์จำหน่ายเครื่องบริโภคอุปโภค ? ”
เขาพูดต่อโดยไม่รอคำตอบจากเธอ “ผมคาดเดาว่าคงได้ประมาณปีละ 300 หยวน งั้นคุณก็ลองทำเรื่องขอพักงานโดยไม่รับค่าจ้างดูสิ แล้วมาลองทำโรงงานผักดองกับ ผมจะจ่ายเงินเดือนให้คุณเดือนละ 500 หยวนและหุ้นส่วนของโรงงาน 20% เป็นค่าทักษะของคุณ และผมจะลงทุนเองทั้งหมด คุณคิดว่าไง ? ”
เงินเดือนละ 500 หยวน ?
ดวงตาของจางชุ่ยฮวาเบิกกว้าง นั่นมากกว่ารายได้รวม 2 ปีของเธอเลยนะ
หลังจากตกตะลึงไปสักพัก เธอก็มองเขาอย่างแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง “โรงงานผักดองสามารถทำเงินได้มากขนาดนั้นจริงหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “จะกำไรหรือไม่ จะรู้ก็ต่อเมื่อลงมือทำ หากไม่เชื่อคุณก็ลองทำเรื่องพักงานแบบไม่รับค่าจ้างสัก 2 ปี และผมจะให้เงินเดือนคุณล่วงหน้า 2 ปีเป็นเงินก้อนทีเดียวด้วย ต่อให้โรงงานผักดองจะไปไม่รอด แต่คุณก็จะไม่เสียหาย คุณยังสามารถกลับไปทำงานที่สหกรณ์จำหน่ายเครื่องบริโภคอุปโภคได้”
เงินเดือนเดือนละ 500 หยวน ทั้งยังยินดีจ่ายเงินเดือน 2 ปีล่วงหน้า นั่นมันเท่ากับเงิน 12,000 หยวนเลยนะ !
แค่ทำเรื่องพักงานแบบไม่รับค่าจ้างก็สามารถทำให้เธอกลายเป็นเศรษฐีรายได้หมื่นหยวนแล้ว มันเป็นเรื่องดีที่เหมือนถูกหวยเลยนะ
จางชุ่ยฮวาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอเกิดความสนใจจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า “ฉันขอคิดดูก่อน ถ้าฉันตัดสินใจทำ ฉันจะไม่ทำเรื่องพักงานแบบไม่รับค่าจ้าง แต่ฉันจะลาออกเลย”
“นอกจากนี้ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเดือนให้ฉันล่วงหน้า 2 ปีหรอก”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วและมองไปที่จางชุ่ยฮวาอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้กล้าหาญมากกว่าที่เขาคิด
“เอาล่ะ ผมจะให้เวลาคุณคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“แต่อย่าใช้เวลานานเกินไป ผมจะไปเจียงเฉิงวันมะรืนนี้ ผมหวังว่าจะได้ยินคำตอบของคุณ เมื่อผมกลับมา”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าว
พ่อครัวหลิวได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสอง เขาจึงพูดสมทบว่า “ชุ่ยฮวา ยังจะมัวคิดอะไรอีก ? มาทำงานร่วมกับเถ้าแก่เจียงเถอะ ! รับรองว่าไม่โดนเอาเปรียบแน่นอน ! ”
จางชุ่ยฮวากล่าวว่า “ลุงสาม ลุงไม่ต้องโน้มน้าวฉันหรอก ฉันขอคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบก่อน”
พ่อครัวหลิวถอนหายใจ ด้วยโอกาสที่ดีเช่นนี้ ทำไมต้องคิดทบทวนด้วย ถ้าเป็นเขา เขาจะตอบตกลงทันที
อืม เถ้าแก่เจียงบอกว่าเปิดร้านอาหารให้ฉัน ฉันควรจะหาเวลาคุยเรื่องนี้กับเขาบ้างแล้ว
หลังจากกินข้าวกลางวันแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็พักผ่อนสักพัก จนเวลา 14.00 น. เขาก็ออกไปรับรถจากกรมควบคุมการค้า
ขณะที่เขาก้าวออกไป เขาเห็นจู้ตงเฟิงและพนักงานขับรถคนอื่นรวม 19 คนยืนเรียงกันเป็นสองแถวอย่างเป็นระเบียบที่ทางเข้า
ด้านหน้าขบวนคือโหยวโยว่หยูที่ยืนตัวตรงเช่นกัน
เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ออกมา โหยวโยว่หยูก็วิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาและพูดว่า “เถ้าแก่เจียง ผมเห็นว่าจู้ตงเฟิงและคนอื่นส่วนใหญ่เคยรับราชการทหาร ดังนั้นผมจึงจัดชั้นเรียนฝึกซ้อมให้พวกเขา พวกเขาจะฝึกรูปแบบเหมือนการฝึกทหารทุกวัน เช่น การจัดระเบียบแถวและการวิ่งออกกำลังกาย เถ้าแก่เจียงคิดว่าแบบนี้พอได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกยินดีและพูดว่า “เป็นความคิดที่ดี”
โหยวโย่หยูยิ้มและพูดว่า “พนักงานขับรถบรรทุกทางไกลต้องมีสุขภาพดี”
คำพูดนี้ถูกใจเจียงเสี่ยวไป๋มาก
เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “ฉันจะไปที่กรมควบคุมการค้าเพื่อดำเนินการเรื่องเอกสารก่อน ให้พวกเขาวิ่งไปที่นั่นเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของบริษัทโฮเนสท์ โลจิสติกส์ของเรา”
“ครับ ! ”
โหยวโยว่หยูตอบตกลง และหันหลังไปเพื่อออกคำสั่ง
“วิ่งเลี้ยวไปทางขวาพร้อมกัน ! ”
“หนึ่งสองหนึ่ง หนึ่งสองหนึ่ง…”
นอกจากนี้เขายังติดตามทีม ตะโกนสั่งไปตลอดทาง และวิ่งเหยาะ ๆ ไปยังกรมควบคุมการค้า
เจียงเสี่ยวไป๋มองการจัดการอย่างดีและฟังเสียงฝีเท้าเป็นจังหวะ อดไม่ได้ที่จะคิดถึงแนวปฏิบัติการจัดการแบบทหารที่นำมาใช้โดยองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่งเมื่อชาติก่อนของเขา เขาคิดว่ามันอาจจะคุ้มค่าที่จะลองระบบนี้ในโรงงานบางแห่งของเขา
นอกจากนี้ ตอนนี้เขามีโรงงานเพิ่มขึ้น แต่โรงงานทั้งหมดก็ดำเนินงานแยกกันเหมือนเม็ดทรายที่กระจัดกระจาย เขาควรพิจารณารวมโครงการทั้งหมดและปรับโครงสร้างองค์กรใหม่
“หลังจากที่ฉันกลับจากเจียงเฉิง ฉันจะเริ่มทำงานนี้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตัดสินใจและพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาก็สตาร์ทรถและมุ่งหน้าไปยังกรมควบคุมการค้า
เมื่อเขามาถึง ติงจวิ้นเจี๋ยก็อยู่ที่นั่นแล้ว
หลังจากพูดคุยทักทายกันเล็กน้อย ติงจวิ้นเจี๋ยก็พูดว่า “ผมจัดการเอกสารทั้งหมดแล้ว คุณแค่เซ็นชื่อ”
เจียงเสี่ยวไป๋ขอบคุณเขาและลงนามในเอกสาร จากนั้น ทั้งสองก็เดินไปที่ลานจอดรถด้วยกัน
รถบรรทุกรุ่น140 คันใหม่ล่าสุดจำนวน 60 คันจอดเป็นแนวอย่างเป็นระเบียบและดูสวยงามมาก
ติงจวิ้นเจี๋ยกล่าวว่า “รถเยอะขนาดนี้ คุณมีพนักงานขับรถเพียงพอไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว ตอนนี้เขามีรถบรรทุกเยอะมาก ได้รับอนุมัติจากชิงโจว 60 คัน ได้รับการอนุมัติจากเจี้ยนหยาง 5 คัน และพ่อตาของเขายังจัดหาให้เขาได้อีก 50 คันใน เจียงเฉิง รวมแล้วตอนนี้เขาจะมีรถบรรทุกในครอบครอง 115 คัน
แต่เขาเพิ่งมีพนักงานขับรถเพียง 19 คนเท่านั้น
ต่อให้ทหารปลดประจำการชุดถัดไปมาถึง แต่เขาก็จะยังคงมีพนักงานขับรถบรรทุกเพียง 40 กว่าคนเท่านั้น
ตอนนี้เขากำลังประสบกับวิกฤติขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุก !
ติงจวิ้นเจี๋ยสังเกตเห็นสีหน้าของเจียงเสี่ยวไป๋ เขาจึงพูดว่า “หากคุณไม่มีพนักงานขับรถ คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากอธิบดีเหรินได้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ในบรรดาพนักงานขับรถที่เราจ้างเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยกเว้นโหยวเจิ้ง หลี่ซิ่งเซี่ยและเฝิงเจียเหอ คนอื่นต่างก็ได้รับการแนะนำมาจากอธิบดีเหรินทั้งนั้น”
ติงจวิ้นเจี๋ยยิ้ม “พี่เจียง สอนคนตกปลา ดีกว่าให้ปลาพวกเขานะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ชะงักไปเล็กน้อย เขามองไปที่ติงจวิ้นเจี๋ยด้วยความไม่เข้าใจ
แต่ติงจวิ้นเจี๋ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่มองไปที่รถบรรทุกขนาดใหญ่ 140 คันที่เรียงกันเป็นแถว
ทันใดนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตระหนักรู้ได้ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“เลขาติง ครั้งนี้คุณช่วยผมได้มาก ขอบคุณนะ ! ”
ติงจวิ้นเจี๋ยโบกมือแล้วพูดว่า “ต่อให้ผมไม่พูด คุณก็คงจะเข้าใจไม่ช้าก็เร็ว เช่นเดียวกับที่คุณเคยบอก เราต้องไม่เลียนแบบวิถีของผู้อื่น แต่ทำตามเส้นทางของตัวเอง”
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูติงจวิ้นเจี๋ยด้วยความชื่นชมและถอนหายใจ “เลขาติง คุณเข้าใจแนวคิดนั้นดียิ่งกว่าผมเสียอีก ดูเหมือนว่าคุณได้พบเส้นทางของตัวเองแล้ว”
ติงจวิ้นเจี๋ยกล่าวว่า “ขอบคุณคำแนะนำของคุณครั้งที่แล้ว ทำให้ผมตระหนักรู้ได้ในระยะนี้”
ทั้งสองคุยกันสักพัก โหยวโย่วหยู จู้ตงเฟิง และคนอื่นก็วิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปในลานจอดรถ
เจียงเสี่ยวไป๋มอบกุญแจรถทั้งหมดให้กับโหยวโย่หยูและขอให้เขาแจกจ่ายให้กับพนักงานทุกคน
รถ 60 คันและพนักงานขับรถ 20 คน วิ่งรถคนละ 3 เที่ยว เพื่อย้ายรถทั้งหมดกลับไปที่ลานจอดรถด้านนอกโรงงานผลิตเครื่องปรุงรส
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดี ตอนที่เขาได้ที่ดินสำหรับโรงงานผลิตเครื่องปรุงรสมา เขาตัดสินใจสร้างโรงงานลึกเข้าไปอีก 150 เมตร และสร้างที่จอดรถทั้งสองฝั่งของถนนเชื่อมต่อกัน ไม่อย่างนั้นรถบรรทุกที่เยอะขนาดนี้ คงมีที่จอดรถไม่เพียงพอ
เมื่อโหยวโหย่วหยูมาคืนกุญแจ เขาพูดว่า “เถ้าแก่เจียง เรามีรถบรรทุกมากมาย เราควรกำหนดหมายเลขให้รถไหม มันจะทำให้หากุญแจได้ง่ายขึ้น”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าเห็นด้วย และมอบหมายงานจัดเรียงป้ายทะเบียน กำหนดหมายเลข และติดโลโก้ ‘บริษัทโฮเนสท์ โลจิสติกส์’ ให้กับโหยวโยว่หยู
จากนั้น เขาก็กลับไปที่สำนักงานแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเหรินฉางเซี่ย