ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 277 ผมมีความคิดอื่น
ตอนที่ 277 :ผมมีความคิดอื่น
“ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้นหรือ ? ”
ฟู่เต๋อเจิงชะงักแล้วหันไปถามเจียงเสี่ยวไป๋ “แล้วคุณไปเอารถมาจากไหน ? ”
“ผมจะไปเอารถบรรทุกมาจากไหนได้อีก ? ถ้าไม่ได้อาศัยรองนายกจาง”
พูดจบ เขาก็แกล้งทำเป็นเพิ่งจำเรื่องนี้ได้และถอนหายใจ “เมื่อกี้มัวแต่สนใจเรื่องการกินจนเกือบลืมเรื่องสำคัญไปเลย”
“จริงสิ รองนายกจาง ที่คุณไปเจียงเฉิงครั้งนี้ คุณอนุมัติรถให้ผมได้กี่คันครับ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางเบะปาก
เสแสร้ง !
คุณมันเสแสร้ง !
เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ฉันขอโควต้าอนุมัติรถบรรทุกทั้งหมดในปีนี้มาให้คุณแล้ว รวมถึงรวบรวมโควตามาจากที่อื่นอีก 2-3 แห่ง ได้มาทั้งหมด 60 คัน ! ”
ตอนแรกเขานึกว่าจะได้แค่ 40 คัน แต่คิดไม่ถึงเลยว่ารองนายกจางจะรวบรวมได้มากถึง 60 คัน !
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปยังรองนายกด้วยความดีใจ “ขอบคุณท่านผู้นำมากครับ ผมขอใช้ชาแทนเหล้าดื่มเคารพท่านผู้นำหนึ่งแก้ว ! ทำให้คุณต้องเหนื่อยแล้ว ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางพูดประชดในใจ: นับว่าคุณยังมีใจขอบคุณกันอยู่บ้าง !
เขายกแก้วขึ้นแล้วพูดว่า “แล้วคุณรับสมัครพนักงานขับรถมากมายขนาดนั้นทำไม ? เพราะในปีนี้ฉันคงไม่สามารถอนุมัติรถบรรทุกให้คุณได้ถึง 100 คันหรอกนะ ! ”
พูดจบ เขาก็ยกเหล้าดื่มรวดเดียวหมด
เจียงเสี่ยวไป๋ดื่มชาหมดในรวดเดียวเช่นกัน “ไม่เป็นไร ๆ รถบรรทุก 60 คันนี้พอใช้ชั่วคราวแล้ว”
พอใช้ชั่วคราว ?
รองนายกเทศมนตรีจางเกือบสำลักเหล้าออกมา: ฉันต้องใช้ความสัมพันธ์ของเครือข่ายคนรู้จักและหนี้น้ำใจในเจียงเฉิงไปตั้งเท่าไหร่รู้ไหม มันไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะสามารถรวบรวมโควต้ารถบรรทุกขนาดใหญ่ 60 คันนี้ได้ แต่นายพูดมาแค่พอใช้ชั่วคราวอย่างนั้นหรือ ?
มันน่าสะเทือนใจมาก !
ฟู่เต๋อเจิงที่ได้ยินกลับตกใจมาก เขาพูดว่า “เจียงเสี่ยวไป๋ ขนาดรถบรรทุกคันใหญ่ตั้ง 60 คันยังพอใช้แค่ชั่วคราว งั้นโรงงานฟิล์มพลาสติกของคุณสามารถขายถุงสะดวกซื้อได้กี่ใบ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางรีบพูดขึ้นว่า “เจียงเสี่ยวไป๋ ไม่ว่าโรงงานฟิล์มพลาสติกของคุณจะต้องส่งสินค้ามากน้อยแค่ไหน แต่รถบรรทุก 60 คันนี้ไม่ได้จัดสรรให้แค่โรงงานฟิล์มพลาสติกเท่านั้น โควต้าของโรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองก็อยู่ในจำนวนนี้เช่นกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋ดีใจมาก
เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “รองนายกจาง ที่จริงเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าจะใช้รถอย่างไรนั้น ผมมีอีกความคิดหนึ่ง”
รองนายกเทศมนตรีจางโบกมือปัด “ฉันไม่สนว่าคุณจะใช้รถอย่างไร แต่ปีนี้ไม่อนุญาตให้มาขอรถจากฉันอีกแล้ว”
“ครับผม ! ” เจียงเสี่ยวไป๋รับปากอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋รับปาก รองนายกเทศมนตรีจางผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวเหลือเกินว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะมาเซ้าซี้ขอให้เขาอนุมัติรถบรรทุกคันใหญ่อีกล็อต ถึงอย่างไรตอนนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็เคยพูดเอาไว้ว่าเมื่อสร้างโรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเสร็จแล้ว เขาจำเป็นต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ด้วยจำนวนที่มากกว่าของโรงงานฟิล์มพลาสติก
ฟู่เต๋อเจิงมองดูสถานการณ์ด้วยแววตาเย็นชา เขามองเห็นร่องรอยความเจ้าเล่ห์ในแววตาของเจียงเสี่ยวไป๋
เจ้าเด็กคนนี้หมกเม็ดความชั่วร้ายอะไรไว้อีก ?
ในเวลานี้ ข้าวต้มปลาเสฉวนก็สุกได้ที่พอดี เจียงเสี่ยวไป๋ตักให้รองนายกเทศมนตรีจางหนึ่งถ้วย “ท่านผู้นำลองชิมดูสิครับ ! ”
ต้มปลาเสฉวนรสชาติเข้มข้นทำให้เมล็ดข้าวมีสีน้ำตาลทองและมีกลิ่นหอมชวนหิว
รองนายกเทศมนตรีจางลองตักขึ้นมาชิมแล้วเอ่ยชมไม่ขาดปาก
เจียงเสี่ยวไป๋อารมณ์ดีมาก เขาตักข้าวต้มปลาเสฉวนให้ฟู่เต๋อเจิงและติงจวิ้นเจี๋ยอีกคนละถ้วย
แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะตักให้ภรรยาและลูกสาวของเขาแน่นอน
หลังจากรองนายกเทศมนตรีจางกินไปสองชามติดกันแล้ว เขาก็ชะลอความเร็วลงและพูดระหว่างกินว่า “จริงสิ เห็นคุณบอกว่าคุณมีอีกความคิดหนึ่ง มันคืออะไรหรือ ? ไหนลองพูดให้ฉันฟังที”
ฟู่เต๋อเจิงหูผึ่งเช่นกัน
เจียงเสี่ยวไป๋พูดว่า “รถบรรทุกขนาดใหญ่ 60 คันที่คุณอนุมัติให้ผมยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในการจัดส่งสินค้าของโรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองได้
นอกจากนี้โรงงานผลิตเครื่องปรุงรสของผมก็ต้องการรถบรรทุกด้วย ดังนั้น ผมจึงคิดว่า……”
รองนายกเทศมนตรีจางกลัวว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะร้องขออะไรที่มากเกินไปอีก เขาจึงรีบวางชามลงแล้วพูดตัดบทเจียงเสี่ยวไป๋ “โรงงานผลิตเครื่องปรุงรสของคุณไม่ได้ผลิตแค่เครื่องปรุงรสสำเร็จรูปสูตรลับที่ใช้ทำกุ้งอบน้ำมันอย่างเดียวหรือ ? นอกพื้นที่ไม่มีกุ้งอบน้ำมันเสียหน่อย แล้วคุณจะเอาไปส่งสินค้าอะไร ? ”
เขาโบกมือ แล้วพูดต่อ “อย่าพูดเรื่องไร้สาระกับฉันเลย ต่อให้คุณชักแม่น้ำทั้งห้า แต่ปีนี้ฉันก็ไม่อนุญาตให้คุณมาขอโควต้ารถจากฉันอีกแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกตลกอยู่ในใจ นี่เขาทิ้งเงาทางใจไว้ให้รองนายกเทศมนตรีจางขนาดนั้นเลยหรือ ?
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็พูดขึ้นว่า “ท่านผู้นำไม่ต้องกังวล ผมไม่ได้จะขอรถจากคุณ”
รองนายกเทศมนตรีจางเลิกคิ้วถาม “งั้นคุณหมายถึงอะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ที่ผมต้องการจะบอกก็คือรถบรรทุกทั้ง 60 คันนั้นจะไม่ถูกมอบให้ทั้งโรงงานฟิล์มพลาสติกและโรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง”
“แต่ผมจะจัดตั้งทีมรถขนส่งของผมเอง ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางตกตะลึง เขาพูดด้วยความทึ่งว่า “นี่คุณอยากจะก่อตั้งบริษัทขนส่งด้วยงั้นหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือปัด “ไม่ ไม่ ไม่ ผมไม่ได้จะเปิดบริษัทขนส่ง แต่ผมจะเปิดบริษัทโลจิสติกส์ ! ”
“บริษัทโลจิสติกส์ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางและฟู่เต๋อเจิงมองหน้ากัน เพราะพวกเขาทั้งสองคนต่างไม่มีใครเคยได้ยินคำนี้มาก่อน
มีอะไรใหม่อีก ?
ติงจวิ้นเจี๋ยสังเกตเห็นสีหน้าของผู้นำทั้งสอง เขาก็ตระหนักรู้ได้ทันทีว่าถึงเวลาที่ตนเองต้องเอ่ยปากบ้างแล้ว “เถ้าแก่เจียง บริษัทโลจิสติกส์ที่คุณพูดถึงคืออะไร ? อย่าถือสากันเลยนะที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน”
เขากำลังถามแทนผู้นำทั้งสอง
ไม่อย่างนั้นถ้าให้ท่านรองนายกเทศมนตรีเป็นคนเอ่ยถามเอง แบบนั้นมันก็จะดูเหมือนว่าท่านผู้นำไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “บริษัทโลจิสติกส์จะช่วยลูกค้าในการขนส่งสินค้าไปยังสถานที่ที่กำหนด”
ติงจวิ้นเจี๋ยขมวดคิ้ว “มันไม่เหมือนกับบริษัทขนส่งหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบ “มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บริษัทขนส่งมักจะรับงานขนส่งของหน่วยงานเดียว หรืออย่างมากที่สุดก็แค่ 2-3 หน่วยงานในการแชร์พื้นที่วางสินค้าบนรถบรรทุกหนึ่งคัน แต่บริษัทโลจิสติกส์นั้นต่างออกไป ธุรกิจของบริษัทโลจิสติกส์คือการผสมผสานการรวบรวม การคัดแยกพัสดุ สินค้าคงคลัง และการขนส่งเข้าด้วยกัน”
“สถานีกระจายสินค้าและสถานีส่งต่อพัสดุจะถูกสร้างขึ้นในเมืองต่าง ๆ ภายในขอบเขตธุรกิจ ต่อให้ลูกค้าส่งสินค้าเพียงชิ้นเดียวก็สามารถทำได้เหมือนกัน”
“ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าไดัเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งอีกด้วย”
รองนายกเทศมนตรีจางมองเจียงเสี่ยวไป๋โดยดวงตาที่เป็นประกาย: เป็นแบบนี้เองหรือ ?
ฟู่เต๋อเจิงหรี่ตามองเช่นกัน: แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกเหมือนว่ามันคือแผนร้ายอย่างหนึ่งเลยล่ะ !
ติงจวิ้นเจี๋ยเห็นว่าท่านผู้นำทั้งสองเพียงแค่มองแต่ไม่พูดอะไร เขาจึงต้องเป็นฝ่ายพูดเอง “เถ้าแก่เจียง โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าความคิดที่คุณพูดถึงค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ตามที่คุณพูดมา บริษัทขนส่งประจำเมืองก็สามารถทำสิ่งนี้ได้เหมือนกัน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหน้า “พวกเขาทำไม่ได้หรอก”
รองนายกเทศมนตรีจางอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “มีแค่คุณเท่านั้นหรือที่ทำได้ ทำไมบริษัทขนส่งประจำเมืองถึงจะทำไม่ได้บ้างล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยว่า “โรงงานฟิล์มพลาสติกก็คือกระจกสะท้อน ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางพูดไม่ออกทันที
เพราะก่อนที่เจียงเสี่ยวไป๋จะเข้ามาเซ็นสัญญาเหมาโรงงานฟิล์มพลาสติก ที่โรงงานยังไม่สามารถจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ไม่กี่เดือนหลังจากเซ็นสัญญา ที่โรงงานก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตามการประมาณการของเจียงเสี่ยวไป๋ ในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ โรงงานฟิล์มพลาสติกจะมียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 3 ล้าน
ด้วยมูลค่าของยอดขายนี้ก็เพียงพอทำให้โรงงานนี้ติด 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรมชั้นนำในชิงโจวแล้ว
รองนายกเทศมนตรีจางมองเจียงเสี่ยวไป๋ ต้องบอกเลยว่ามีบางเรื่องที่คนอื่นไม่สามารถทำได้จริง ๆ แต่กับเจียงเสี่ยวไป๋นั้นไม่แน่
ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมีความคาดหวังต่อบริษัทโลจิสติกส์ของเจียงเสี่ยวไป๋
“คุณมั่นใจนะว่าจะไม่แบ่งรถบรรทุกทั้ง 60 คันนี้ให้แก่โรงงานฟิล์มพลาสติกและโรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง แต่จะไปก่อตั้งบริษัทโลจิสติกส์แทน ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าอย่างมั่นใจ
รองนายกเทศมนตรีจางเห็นว่าเขาตัดสินใจแล้วจึงพูดว่า “งั้นตกลง ถึงอย่างไรคุณก็เป็นคนออกเงินซื้อเอง ขอเพียงแค่คุณไม่มาขอโควต้ารถจากฉันแล้ว คุณอยากจะเอารถไปทำอะไรก็แล้วแต่คุณเถอะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ดีใจมาก เดิมทีเขาต้องการยื่นขออนุมัติรถบรรทุกในนามของโรงงานฟิล์มพลาสติก ถ้าหากรองนายกเทศมนตรีจางไม่ยอม สุดท้ายเขาก็ต้องให้โรงงานฟิล์มพลาสติกดำเนินการตามขั้นตอนก่อนถึงจะสามารถรับรถได้
ตอนนี้รองนายกเทศมนตรีจางตอบตกลงแล้ว หากรับรถในนามบริษัทโลจิสติกส์ก็จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
อย่าคิดว่าแบบนี้ไม่มีความแตกต่างเชียว !
เพราะที่จริงมันมีความแตกต่างกันมาก !
โรงงานฟิล์มพลาสติกเป็นโรงงานที่เขาเซ็นสัญญาจ้างเหมา หากรถถูกจดทะเบียนในนามโรงงานฟิล์มพลาสติก รถก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของทางการ
และสุดท้ายเมื่อถึงตอนที่เขายกเลิกสัญญา ทางโรงงานก็จะคืนเงินค่าซื้อรถให้เขาเท่านั้น แต่เขาจะไม่สามารถนำทรัพย์สินของทางการไปได้
แต่หากเขารับรถในนามบริษัทโลจิสติกส์ รถก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของเขาทันที
เจียงเสี่ยวไป๋จะไม่ดีใจได้อย่างไร !
“ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของท่านผู้นำ ! ”
“ผมจะไม่พูดถึงเรื่องซื้อรถแล้ว แต่ผมพอจะพูดถึงความต้องการเล็ก ๆ น้อย ๆ สักอย่างได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กระซิบถาม