ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 252 มีคนยืนกรานจะพบคุณให้ได้
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 252 มีคนยืนกรานจะพบคุณให้ได้
ตอนที่ 252 :มีคนยืนกรานจะพบคุณให้ได้
“สี่หรือห้าคนได้ ! ”
เหรินฉางเซี่ยยื่นมือออกมาและแสดงท่าทาง
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างขมขื่นและขอบคุณเขา
ในยุคสมัยนี้ คนขับรถเป็นคือคนที่มีความสามารถ และโดยทั่วไปแล้วผู้ที่ขับรถได้จะมีงานทำหมดแล้ว การที่เหรินฉางเซี่ยจะหาได้สี่หรือห้าคนนับว่าเป็นเรื่องยากมากแล้ว
และหากต้องการรับสมัครพนักงานขับรถเพิ่ม ดูเหมือนว่าเขายังคงต้องลงโฆษณารับสมัครงานในหนังสือพิมพ์
แต่เรื่องนี้ไม่รีบ
“พี่เหริน เมื่อไหร่กลุ่มทหารผ่านศึกที่ได้รับการแนะนำโดยผู้บัญชาการกองร้อยคนเก่าจะมาถึง ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถาม
เหรินฉางเซี่ยกล่าวว่า “ทหารผ่านศึกที่จะกลับมาบ้านเกิดที่ชิงโจวจะมาถึงในสามหรือสี่วัน และทหารที่เหลือที่กลับไปบ้านเกิดของพวกเขาอาจจะมาถึงในครึ่งเดือน”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่พักหนึ่ง รองนายกเทศมนตรีจางจะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงวันมะรืนนี้ แม้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีและรถบรรทุกทั้ง 40 คันได้รับการอนุมัติ แต่ก็อาจต้องใช้เวลามากกว่าสิบวันในการรับรถ
ในแง่ของเวลาไม่มีปัญหาเลย
“ไม่มีปัญหา ผมจะจัดที่พักให้พวกเขาล่วงหน้า”
เหรินฉางเซี่ยพยักหน้า เขาโล่งใจที่เจียงเสี่ยวไป๋จัดเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันสักพัก เหรินฉางเซี่ยก็ขอตัวกลับ
“พี่ พี่ต้องการจ้างพนักงานขับรถหรือ ? ”
หลังจากที่เหรินฉางเซี่ยกลับไป เฝิงเยี่ยนหงก็ถามอย่างตื่นเต้นทันที
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างไม่เป็นทางการ “ใช่ เธอพอมีคนที่รู้จักบ้างไหม ? ”
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “ฉันไม่รู้จักพวกเขา แต่พี่ชายของฉันน่าจะมีคนรู้จัก ฉันจะถามเขาให้”
ดวงตาของเจียงเสี่ยวไป๋เป็นประกาย เฝิงเจียเหอ พี่ชายคนโตของเฝิงเยี่ยนหงเป็นรองหัวหน้าสถานีรถแทรคเตอร์ เขาอาจรู้จักคนที่มีใบขับขี่และสามารถขับรถใหญ่ได้
“เยี่ยมมาก บอกพี่เจียเหอ แล้วก็ให้เขาช่วยฉันหาคนสักหลาย ๆ คนหน่อย”
“เงินเดือนพนักงานขับรถพื้นฐานอยู่ที่ 100 หยวนต่อเดือน รวมค่าอาหารและที่พัก มีเงินเบี้ยเลี้ยงตอนวิ่งรถและเบี้ยขยัน”
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายเงินเดือน
เฝิงเยี่ยนหงรู้สึกประหลาดใจ เธอไม่คาดคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะมอบสวัสดิการที่ดีเช่นนี้ให้กับพนักงานขับรถ เธออดไม่ได้ที่อยากชักชวนเฝิงเจียเหอให้พักงานแบบไม่รับเงินเดือน แล้วมาทำงานกับเจียงเสี่ยวไป๋
เหมือนในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 11 มิถุนายน จะมีประกาศจากกระทรวงแรงงานและคณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งชาติ เรื่อง ข้อกำหนดของพนักงานองค์กรเกี่ยวกับประเด็น “พักงานแบบไม่รับค่าจ้าง” ซึ่งอนุญาตให้พนักงานองค์กรสามารถขอพักงานโดยไม่รับค่าจ้างได้ ซึ่งพนักงานเหล่านี้จะยังคงสถานภาพเป็นพนักงานขององค์กรนั้น ๆ อยู่
เฝิงเยี่ยนหงบังเอิญเห็นประกาศนี้
เธอคิดว่านี่เป็นโอกาสสำหรับเฝิงเจียเหอ พี่ชายคนโตของเธอ
แน่นอนว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่รู้ว่าเฝิงเยี่ยนหงกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงบอกหลินเจียอินและ เฝิงเยี่ยนหงสองสามประโยคเกี่ยวกับการเตรียมจัดตั้งทีมรถบรรทุก
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาที่สวยงามของเฝิงเยี่ยนหงก็เปล่งประกาย และเธอก็มีความตั้งใจมากขึ้นที่จะชักชวนให้เฝิงเจียเหอพักงานโดยไม่รับค่าจ้างจากสถานีเก่า
ประสบการณ์ของเธอบอกเธอว่า การเลือกที่ทำงานที่ดีมีผลต่ออนาคตข้างหน้าเป็นอย่างมาก
สามเดือนที่แล้วเธอเลือกที่จะทำงานกับเจียงเสี่ยวไป๋ และครอบครัวของเธอก็ได้กลายเป็นครอบครัวที่มีรายได้หมื่นหยวนในหนึ่งเดือน ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่มีรายได้หลายแสนหยวนต่อเดือนแล้ว
เธอรู้สึกว่าสถานีรถแทรคเตอร์ของพี่ชายของเธอไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับบริษัทขนส่งที่จัดตั้งโดยเจียงเสี่ยวไป๋ ในอนาคต อุตสาหกรรมการขนส่งจะถูกครอบงำโดยรถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถแทรกเตอร์จะถูกโล๊ะทิ้งในไม่ช้าอย่างแน่นอน
เธอไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเพราะเหตุใด
สิ่งที่เธอรู้ตอนนี้คือ การทำงานกับเจียงเสี่ยวไป๋
หลินเจียอินคิดมากขึ้น และพูดว่า “ถ้าคุณซื้อรถบรรทุกหลายคันพร้อมกัน รายจ่ายจะเท่าไหร่ ? ”
“มากกว่าสองล้านแหละ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋กล่าว
ในอดีต หลินเจียอินคงโกรธมากเมื่อได้ยินว่าเขาจะใช้เงินจำนวนมากขนาดนี้ในคราวเดียว
แต่ตอนนี้ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ฉันมีเงินทุนอยู่ในมือไม่ถึง 1 ล้านหยวน ! ”
มีการใช้จ่ายเงินมากกว่า 2 ล้านหยวนในการก่อสร้างโรงงานและการซื้ออุปกรณ์ของโรงงานผลิตเครื่องปรุงรส โรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และโรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอ รวมถึงค่าธรรมเนียมสัญญาและการลงทุนเริ่มแรกของโรงงานฟิล์มพลาสติก
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เมียจ๋า ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทุน โควต้าสำหรับเงินกู้ของธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีนครึ่งปีหลังออกมาแล้ว เขาให้เรายื่นกู้ได้ 4 ล้าน ! ผู้จัดการของธนาคารเพิ่งโทรมาบอกผม”
หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด หลินเจียอินก็พยักหน้า “คุณไปจัดการแล้วกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “เมียจ๋าไม่ต้องกังวล ผมจะจัดการทุกอย่างให้ดี ! ”
หลินเจียอินกลอกตามาที่เขา “เป็นการดีที่คุณสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้โดยที่ฉันไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวน ! ”
เหตุผลหลักคือทุกสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋ทำไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ มันมักจะเกี่ยวข้องกับเงินทุนหลายสิบหรือหลายล้านหยวน หลาย ๆ สิ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของเธอและยังอยู่นอกเหนือความเข้าใจของเธอด้วยซ้ำ
เธอจะรู้สึกโล่งใจได้อย่างไร ?
อย่างไรก็ตาม เรื่องจริงก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ทำผิดพลาดเลย
เธอจึงไม่คัดค้าน เพราะเธอเชื่อในตัวเขา
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นสายตาภรรยาที่จ้องมองเขา ยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “เมียจ๋า พักผ่อนสักหน่อยเถอะ ผมจะไปทำเรื่องเงินกู้ จากนั้นผมจะพาคุณกลับบ้าน”
หลังจากนั้น เขาก็ออกไปที่ธนาคารเกษตร
เมื่อจูกั๋วฟู่เห็นเจียงเสี่ยวไป๋ ใบหน้าของเขาก็แย้มยิ้มอย่างมีความหวัง
ครั้งล่าสุดมีการตกลงที่จะให้เจียงเสี่ยวไป๋ยืมเงิน 4 ล้าน แต่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เคยมาทำตามขั้นตอนให้เสร็จสิ้น เขาจึงรู้สึกเซ็งเป็นอย่างมาก
เขายื่นบุหรี่จงฮั๋วให้ แล้วพูดว่า “น้องเจียง ฉันรอคุณอยู่ ในที่สุดวันนี้คุณก็มา มันไม่ง่ายเลย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาแล้วพูดว่า “ผมก็มาแล้วไม่ใช่หรือ ? ”
ทั้งสองพูดติดตลกอยู่พักหนึ่ง และจูกั๋วฟู่ก็หยิบแบบฟอร์มออกมาให้เจียงเสี่ยวไป๋กรอกลายเซ็นและลายนิ้วมือของเขา จากนั้นจึงจัดให้พนักงานโอนเงิน 4 ล้านไปยังบัญชีของเจียงเสี่ยวไป๋
ธุรกิจสินเชื่อ 4 ล้านสำเร็จแล้ว
มันง่ายมาก !
เร็วมาก !
“หากเงิน 4 ล้านยังไม่ได้โอนให้เจียงเสี่ยวไป๋ ฉันก็ไม่เคยรู้สึกสบายใจได้เลย”
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอน จูกั๋วฟู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า “คุณรับเงินไปแล้ว ในที่สุดฉันก็สามารถนอนหลับได้อย่างสงบสุขในคืนนี้”
มันไม่ง่ายเลย ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครมาขอสินเชื่อธนาคาร
เป็นเรื่องยากมากที่จะได้พบกับคนอย่างเจียงเสี่ยวไป๋ที่มีความสามารถและเต็มใจที่จะยื่นกู้เงินจากธนาคาร
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคร่ำครวญว่าการกู้ยืมในยุคนี้เจ๋งมาก
ไม่ใช่ว่าเขาไปขอยืมธนาคาร แต่เป็นธนาคารต่างหากกลัวว่าเขาจะไม่มายืมเงิน
น่าเสียดายที่ช่วงเวลาดี ๆ ดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ ในอีกสองปีข้างหน้า ด้วยการดำเนินการตามนโยบายทางการเงินที่เป็นมาตรฐาน การกู้เพิ่มจะไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว
“ประธานจู ขอบคุณมากครับ”
หลังจากได้รับเงินแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยืนขึ้นและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะ ! ”
จูกั๋วฟู่รีบหยุดเขา “ไม่ ไม่ ไม่ ฉันยังมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากคุณอีก”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจ “ประธานจู มีอะไรหรือครับ ? ”
จูกั๋วฟู่จ้องมองเจียงเสี่ยวไป๋ สีหน้าของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติและพูดขึ้นว่า “ญาติของฉัน ต้องการพบน้องเจียง เธอกำชับให้ฉันแนะนำให้น้องเจียงมาพบกับเธอให้ได้ น้องเจียงว่า……”
เจียงเสี่ยวไป๋มองจูกั๋วฟู่ด้วยสายตาแปลก ๆ และคิดกับตัวเองว่า: เขาเป็นประธานธนาคารรายใหญ่ เขาจะปฏิเสธญาติของเขาไม่ได้ได้อย่างไร ?
เจียงเสี่ยวไป๋มองมาที่จูกั๋วฟู่ ทำให้จูกั๋วฟู่ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ “ช่วยฉันหน่อยนะ ! ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็มองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ
“ถ้าครั้งนี้น้องเจียงไม่ช่วยฉัน ไม่งั้นชีวิตของฉันคงจะน่าเศร้ามาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจและถามว่า “ใครยืนกรานที่จะพบผมหรือ ? ”
จูกั๋วฟู่พูดอย่างช่วยไม่ได้ “น้องสาวภรรยาของฉัน ! ”
ห๊ะ ?
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่ามีคนต้องการพบเขา แต่เขาไม่คาดคิดว่าเป็นน้องสาวภรรยาของจูกั๋วฟู่
เมื่อนึกถึงคนที่เขารู้จักหรือติดต่อด้วยแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักน้องสาวภรรยาของจูกั๋วฟู่
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมน้องสาวภรรยาของจูกั๋วฟู่ถึงยืนกรานที่จะพบเขาให้ได้ ?