ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 223 ลุงของแม่
ตอนที่ 223 :ลุงของแม่
“ไม่คิดว่าพ่อตาของเสี่ยวไป๋เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ! ”
“ใช่ ฉันก็ไม่คิดว่าพ่อตาของเขาจะเป็นถึงนายอำเภอ ! ”
“ฉันไม่คิดเลยว่าเจียอินจะเป็นลูกสาวของนายอำเภอ ! ”
“เสี่ยวไป๋โชคดีมากที่ได้แต่งงานกับลูกสาวของนายอำเภอ ! ”
“……”
แม้ว่ารองนายกเทศมนตรีจางและหลินต้าเหว่ยจะเข้าไปข้างในแล้ว แต่แขกที่มาร่วมงานและผู้ที่มาช่วยงานก็ยังคุยซุบซิบกันอยู่
แม้แต่เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ก็ยังตกตะลึง
ในตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋แนะนำพ่อตาของเขาก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้บอกว่าหลินต้าเหว่ยเป็นนายอำเภอของเมืองเจี้ยนหยาง ซึ่งพวกเขาก็เพิ่งรู้พร้อมกับคนอื่น
“พ่อของเขาเจียอินจริง ๆ เธอเป็นลูกสาวของนายอำเภอ ! ”
หวังซิ่วจวี๋รู้สึกประหลาดใจและมีความสุข ขณะพูดด้วยความงุนงง
เจียงไห่หยางเวียนหัวไม่ต่างกัน เขาได้แต่พึมพำออกมาว่า “ใช่ ฉันไม่คิดว่าลูกสะใภ้ของเราจะเป็นลูกของนายอำเภอ”
ในตอนนั้น ชาวบ้านที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้พูดเยินยอออกมา
“ลุงไห่หยาง ลูกชายของลุงเป็นเขยของนายอำเภอซะด้วย ! ”
“ไห่หยาง ได้ดีแล้วนะ ! ”
“ไห่หยาง รองนายกเทศมนตรีและนายอำเภอถึงกับมาร่วมงานเลี้ยงฉลองของเสี่ยวชิง ถือเป็นงานแรกในหมู่บ้านเลยนะที่มีคนใหญ่คนโตขนาดนี้มาร่วม ! ”
“……”
เมื่อได้ยินคำชมเหล่านี้ ใบหน้าของเจียงไห่หยางก็เบ่งบานด้วยความดีใจ แต่ใจของเขากลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ช่องว่างระหว่างตัวเขากับหลินต้าเหว่ยนั้นมากเกินไป เขาจึงไม่รู้ว่าจะไปมาหาสู่ได้อย่างไรในอนาคต
อนิจจา… เหมือนปลาดื่มน้ำ รู้แค่ว่าอุ่นหรือเย็น
เช่นเดียวกับหวังซิ่วจวี๋ เมื่อเธอได้ยินว่าพ่อแม่ของลูกสะใภ้จะมาเมื่อวานนี้ เธอก็กังวลเรื่องการต้อนรับว่าจะต้อนรับไม่ดีเท่าที่ควร นั่นเป็นเพราะเธอคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดา
แต่วันนี้เมื่อเห็นการมาถึงของพวกเขา ก็รู้ว่าเขาเป็นคนเก่งและเป็นผู้นำระดับสูง
เธอยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก
คู่สามีภรรยาสูงอายุมองหน้ากันและเดินเข้าไปในลานบ้านท่ามกลางเสียงชมเชยของฝูงชน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพ่อแม่ของสะใภ้มาถึงก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่ออกไปต้อนรับ พวกเขาทั้งสองทำได้เพียงกัดฟันแล้วเดินตามไป
ทันทีที่มาถึงในลานแล้วหันไปมองรอบ ๆ พวกเขาก็เห็นหลินเจียอินพาหลิวอี้ถิง หลินเจียเล่อ และเจียงชานเดินออกไป
“เจียอิน จะไปไหน” หวังซิ่วจวี๋ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
หลินเจียอินกล่าวว่า “หนูว่าจะไปตามพ่อกับแม่อยู่พอดี หนูอยากพาพ่อแม่และแม่ของหนูไปเดินเล่นที่ริมแม่น้ำ”
เจียงไห่หยางกล่าวว่า “แล้วพ่อของลูกล่ะ……”
หลินเจียอินกล่าวว่า “อย่ากังวลเรื่องพ่อไปเลยค่ะ เสี่ยวไป๋น่าจะดูแลเขาอยู่”
ทั้งเจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พ่อตานั้นน่าเกรงขามเกินไป ข้าง ๆ เขายังมีผู้นำอย่างรองนายกเทศมนตรีจางอีก ชาวบ้านธรรมดาแบบพวกเขาจึงรู้สึกอึดอัดมากเมื่ออยู่กับคนใหญ่คนโตแบบนั้น
หากเทียบกันแล้ว ให้พวกเขาต้อนรับแม่ของหลินเจียอินคงจะง่ายกว่า
“เอาล่ะ งั้นไปที่แท่นระเบียงริมแม่น้ำกันเถอะ”
เจียงไห่หยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“ดีเลยค่ะ พ่อแม่เสี่ยวไป๋ ฉันก็อยากพูดคุยกับพวกคุณเหมือนกัน” หลิวอี้ถิงพูดอย่างสุภาพ
“ไม่มีปัญหา ! ไม่มีปัญหา ! ” เจียงไห่หยางพูดอย่างรวดเร็ว
ยังไม่สายเกินไปที่จะทำความรู้จัก แล้วจะมีปัญหาอะไรล่ะ ?
ขณะที่คนทั้งกลุ่มเดินออกไป ผู้ที่มาช่วยงานและแขกต่างก็รู้ว่าหลิวอี้ถิงคือแม่ยายของเจียงเสี่ยวไป๋ พวกเขาจึงได้ทักทายเธอ
“ยินดีต้อนรับนะคะ ! ”
“เจียอินลูกสาวของคุณเป็นคนที่มีความสามารถและมีคุณธรรมมาก ! ”
“มาถึงแล้ว กินข้าวกันหรือยัง ? ”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจียอินสวยขนาดนี้ เธอสวยเหมือนคุณนี่เอง ! ”
“……”
ความกระตือรือร้นของทุกคนที่นี่ทำให้หลิวอี้ถิงมีความสุขมาก แต่เธอจะมีความสุขมากกว่าสิ่งใดเมื่อเธอได้ยินคนที่นี่ยกย่องหลินเจียอิน
แสดงว่าลูกสาวของฉันนั้นถูกยกย่องจากคนที่นี่ !
หลิวอี้ถิงยิ้มและทักทายกลับไป โดยบอกว่าเธอรู้สึกขอบคุณพวกเขาที่ดูแลลูกสาวของเธอเป็นอย่างดีตลอดมา
ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของนายอำเภอ น่าจะถือเนื้อถือตัว แต่เมื่อเห็นว่าเธอเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่คิด พวกเขาก็ดีใจและคิดว่าหลิวอี้ถิงเป็นคนดี
“ปัง ปัง ปัง……”
ในเวลานี้เสียงประทัดก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“แขกมาแล้ว ช่วยเตรียมบุหรี่และชาหน่อยสิ…”
“ได้ ๆ ……”
ท่ามกลางเสียงตอบรับของผู้ที่มาช่วยงาน คนกลุ่มใหญ่ก็เดินเข้าไปยังลานบ้าน
คู่สามีภรรยาที่อายุใกล้จะหกสิบเศษเดินนำอีกสองสามคนด้านหลังเข้ามามือเปล่า ในมือของพวกเขาไม่ได้ถืออะไรมาเลย ในขณะที่คนส่วนใหญ่ถือตะกร้า หรือของขวัญมาให้
ในปี ค.ศ. 1983 การเฉลิมฉลองและงานต่าง ๆ ญาติสนิทจะแสดงความจริงใจโดยการนำตะกร้าหรือสิ่งของมาเป็นของขวัญ
เมื่อนับจำนวนของที่นำมาแล้ว มีทั้งหมด 24 ชิ้นพอดี
“ต้องขอตัวก่อนนะแม่เจียอิน พี่ชายของฉันและคนอื่นมาถึงแล้ว ฉันจะไปทักทายพวกเขาสักพัก” หวังซิ่วจวี๋กล่าวขอโทษหลิวอี้ถิง
หลิวอี้ถิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไปต้อนรับแขกของคุณก่อนเถอะ”
หลินเจียอินพูดว่า “แม่คะ ลุงกับป้ามา หนูขอไปทักทายพวกเขาสักพักนะคะ”
หลิวอี้ถิงมองลูกสาวของเธอด้วยความพึงพอใจ “ไปสิ ลูกควรไปต้อนรับพวกเขา จะได้ไม่เสียมารยาท”
จากนั้น สองแม่ลูกและหลินเจียเล่อก็เดินตามหวังซิ่วจวี๋ไป
ที่นั่น ผู้มาช่วยงานฝ่ายต้อนรับก็ได้ออกไปต้อนรับแขกบ้างแล้ว โดยที่เจียงเสี่ยวซินและเจียงเสี่ยวหลี่ก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมบุหรี่และชาให้กับแขก
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ยินดีต้อนรับ เดินทางมาเหนื่อย ๆ ไปนั่งพักก่อน ! ”
เจียงไห่หยางทักทายหวังซิ่วเหวินและซ่งหยูหมินซึ่งกำลังเดินเข้ามาในลานบ้าน
“เพื่อลูกเพื่อหลาน ไกลแค่ไหนก็ต้องมา ขอแสดงความยินดีกับเสี่ยวชิงที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ด้วยนะ ! ” หวังซิ่วเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณพี่ใหญ่สำหรับคำอวยพร เสี่ยวชิงรออยู่ข้างใน ไปดื่มและกินกัน” เจียงไห่หยางพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ในตอนนั้น หลินเจียอินก็เดินมากับเจียงชาน
หลินเจียอินทักทายออกมาว่า “สวัสดีค่ะลุงใหญ่ ป้าสะใภ้” ก่อนจะหันไปพูดกับเจียงชานว่า “สวัสดีปู่กับย่าสิลูก ! ”
เจียงชานรู้จักหวังซิ่วเหวินและภรรยาของเขาดี เธอจึงตะโกนออกมาทันที
“สวัสดีค่ะคุณปู่ ! ”
“สวัสดีค่ะคุณย่า ! ”
หวังซิ่วเหวินและซ่งหยูหมินเห็นเจ้าตัวน้อยก็ยิ้มออกมา พวกเขารักและเอ็นดูเจียงชานมาก
ตระกูลหวังเป็นตระกูลที่ใหญ่ หวังซิ่วเหวินยังมีน้องชายชื่อว่าหวังซิ่วหวู หวังซิ่วเจี้ยน หวังซิ่วไห่ หวังซิ่วซานและหวังซิ่วหยุน ส่วนน้องสาวมีชื่อว่าหวังซิ่วเหม่ย หวังซิ่วหลัน หวังซิ่วจวี๋ และหวังซิ่วยี่ พวกเขามีพี่น้องทั้งหมด 10 คน
ซึ่งในหมู่พี่น้องแต่ละคนก็มีทายาท 3 – 7 คน และเมื่อพวกเขาแต่งงานและมีทายาทต่อไป คนในตระกูลก็มีมากถึงหลายร้อยคน
ในกลุ่มคนจำนวนมากนี้ มีพี่น้อง 6 คนที่มาถึงแล้ว พี่สาวสองคนของหวังซิ่วจวี๋และน้องสาวยังมาไม่ถึง
หลินเจียอินกล่าวทักทายลุงใหญ่ตามมาด้วยลุงรอง ลุงสาม ลุงสี่ ลุงห้า และลุงหก
เจียงชานก็ทำตามแม่ของเธอ เธอกล่าวทักทายปู่ ย่า ลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งมีหลายสิบคน จนทำให้เธอเวียนหัวไปหมด
เธอเริ่มเบื่อแล้วที่ต้องทักทายคนกลุ่มใหญ่แบบนี้
จากนั้น คนกลุ่มใหญ่จากตระกูลหวังก็ได้เดินเข้าไปในบริเวณลานบ้าน
“บ้านของเสี่ยวไป๋สวยงามมาก ! ”
“ในที่สุดเขาก็กลับมาคิดได้และสร้างเนื้อสร้างตัว ! ”
“บ้านหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านของผู้ใหญ่บ้านของเรามาก”
“ฉันได้ยินผิงผิงพูดว่าบ้านใหม่ของเสี่ยวไป๋หลังใหญ่ ตอนแรกก็คิดว่าเขาคุยโม้ ตอนนี้ฉันเห็นกับตาตัวเองแล้ว บ้านหลังนี้ใหญ่กว่าที่เขาพูดเสียอีก”
“หวังผิงเป็นคนที่ตรงไปตรงมา เขาไม่มีทางคุยโม้โอ้อวด”
“ตอนนี้เขากำลังทำธุรกิจกับเสี่ยวไป๋ เขาทำเงินได้มากมาย ถ้ากลับไปฉันจะให้เขาสร้างบ้านแบบเดียวกับเสี่ยวไป๋”
“……”
หวังผิงค่อนข้างคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ของเจียงเสี่ยวไป๋ เขาจึงเดินนำคนตระกูลหวังเข้าไปในลานบ้านและพาเดินชมบ้านหลังใหม่ของเจียงเสี่ยวไป๋ พร้อมทั้งพูดคุยกัน
“ช่วยจัดโต๊ะ เก้าอี้ เตรียมที่นั่งให้พวกเขาด้วย ! ”
“ใครยังไม่ได้กินข้าวเชิญไปนั่งก่อน ! ”
“……”
เจียงไห่เทียนเริ่มเรียกแขกอีกครั้ง และหลังจากตะโกนเสร็จ เขาก็ไปเชิญนายกเทศมนตรีจาง หลินต้าเหว่ย และคนอื่นให้ไปนั่งรับประทานอาหาร