ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 222 แขกผู้มีเกียรติมา
ตอนที่ 222 :แขกผู้มีเกียรติมา
“ปัง ปัง ปัง……”
ท่ามกลางเสียงประทัด เจียงเสี่ยวซินได้ยื่นบุหรี่ให้รองนายกเทศมนตรีจางที่เดินอยู่ข้างหน้า และพูดว่า “ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ! ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ! ”
เจียงเสี่ยวหลี่ยื่นถ้วยชาแบบใช้แล้วทิ้งด้วยความเคารพ “แขกผู้มีเกียรติ ดื่มชาสักแก้วก่อนครับ ! ”
พวกเขาทั้งสองแอบประหลาดใจ พ่อตาของเจียงเสี่ยวไป๋จะต้องเป็นคนสำคัญมากแน่ ๆ เขาดูมีสง่าราศี อกผายไหล่ผึ่ง ไม่มีใครในชนบทสามารถเทียบราศีของเขาได้เลย
แต่พวกเขาทั้งสองยังไม่รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด
นี่คือรองนายกเทศมนตรีจาง ส่วนหลินต้าเหว่ย พ่อตาของเจียงเสี่ยวไป๋คือคนที่เดินตามมาข้างหลัง
เจียงเสี่ยวซินยังคงยื่นบุหรี่ให้หลินต้าเหว่ยที่เดินตามมา เมื่อเขาเห็นหลินต้าเหว่ยเขาก็ตกใจอีกครั้ง เพราะชายคนนี้ก็สง่าผ่าเผยไม่ต่างไปจากคนเมื่อครู่
“แขกผู้มีเกียรติ ! นี่คือบุหรี่ ! ”
เจียงเสี่ยวหลี่ก็เรียกเขาว่า “แขกผู้มีเกียรติ” แล้วยื่นชาร้อนให้เขา
เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ตกตะลึงเล็กน้อย พวกเขาบอกว่าจะรับแค่สองคน แต่ทำไมจู่ ๆ ถึงมีถึงห้าคนล่ะ ?
หญิงวัยกลางคนที่หน้าตาสวยงามและมีรอยยิ้มที่อบอุ่นคนนี้ต้องเป็นแม่ยาย ในบรรดาชายสูง 2 คนที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งดูสง่าผ่าเผยนั้น ใครกับที่เป็นพ่อตา ? เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ไม่สามารถบอกได้
โชคดีที่ในเวลานี้เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พูดขึ้นมา
เขาชี้ไปที่เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ แล้วแนะนำออกมาว่า “รองนายกเทศมนตรีจาง นี่คือพ่อของผมเจียงไห่หยาง และนี่คือแม่ของผมหวังซิ่วจวี๋”
รอง……นายกเทศมนตรีจาง !
เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋รู้สึกวิงเวียน มีคนใหญ่คนโตที่มีตำแหน่งพอ ๆ กับนายกเทศมนตรีมาที่บ้านพวกเขาจริง ๆ หรือ ?
“สวัสดี รองนายกเทศมนตรีจาง ! ”
“สวัสดี รองนายกเทศมนตรีจาง ! การที่คุณมาถือเป็นเกียรติของพวกเราอย่างยิ่ง ! ”
หวังซิ่วจวี๋และเจียงไห่หยางกล่าวด้วยความตกใจ
รองนายกเทศมนตรีจางกล่าวอย่างสุภาพไปว่า “สวัสดี ต้องขอแสดงความยินดีกับลูกสาวของพวกคุณด้วยที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศได้ ผมมาที่นี่ในนามของรัฐบาลประจำท้องถิ่น เพื่อแสดงความยินดี”
แม้ว่ามหาวิทยาลัยแห่งชาติเจียงเฉิงจะตั้งอยู่ในเมืองหลักของมณฑลตอนกลางของจีน แต่ก็เป็นหนึ่งในสิบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ
รองนายกเทศมนตรีจางแสดงความยินดีกับเจียงเสี่ยวชิงที่สามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่โด่งดังแบบนี้ได้
แต่เธอไม่ใช่ผู้ทำคะแนนสอบได้สูงสุดของประเทศ ของภาคหรือแม้แต่ของเมืองจิงโจว ดังนั้น การที่รองนายกเทศมนตรีจางกล่าวออกมาว่าแสดงความยินดีกับเธอในนามของรัฐบาลท้องถิ่น ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการไว้หน้าเจียงเสี่ยวไป๋
“ขอบคุณท่านรองนายกเทศมนตรีจาง ! ”
“ขอบคุณท่านรองนายกเทศมนตรีจาง ! ”
ทั้งเจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ต่างก็รู้สึกยินดีและพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
แขกที่มาช่วยเหลือและชมความตื่นเต้นก็ตระหนักได้ว่าผู้ที่มาเยื่อนคือรองนายกเทศมนตรี ทุกคนก็เบิกตากว้างราวกับเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
พวกเขาไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน !
“เป็นเกียรติของตระกูลเจียงจริง ๆ ! ”
“ใช่แล้ว แม้แต่รองนายกเทศมนตรีก็มาแสดงความยินดีเป็นการส่วนตัว”
“ขอบอกเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจียงเสี่ยวไป๋”
“ฉันเชื่อว่าพรุ่งนี้ ข่าวนี้ต้องดังออกไปอย่างแน่นอน”
“งานเลี้ยงฉลองที่เจียงเสี่ยวชิงสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ มีรองนายกเทศมนตรีมาร่วมแสดงความยินดีด้วย เรื่องนี้เจียงไห่หยางคงจะเอาไปคุยอวดได้ตลอดชีวิตของเขาล่ะมั้ง”
“เสี่ยวชิงก็เช่นกัน คุณไม่ได้ยินสิ่งที่นายกเทศมนตรีพูดหรือ เธอได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศเชียวนะ”
“สิ่งนี้ถือเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ตระกูลเจียงอย่างมาก ! ”
“……”
แขกจำนวนมากที่มาช่วยงานต่างพูดคุยกันอย่างแผ่วเบา
“ปัง ปัง ปัง……”
ท่ามกลางเสียงประทัดที่ยังดังอย่างต่อเนื่อง เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้แนะนำพ่อตาแม่ยายให้พ่อกับแม่ของเขารู้จักต่อ
“สวัสดีพ่อเสี่ยวไป๋ ! ”
“สวัสดีพ่อเจียอิน ! วันนี้พวกคุณถือเป็นแขกผู้มีเกียรติของเรา ! ”
“สวัสดีแม่เสี่ยวไป๋ ! ”
“สวัสดีแม่เจียอิน ! เดินทางมาเหนื่อย ๆ ขอให้พวกเขาได้ต้อนรับอย่างเต็มที่นะ เป็นเกียรติของเรามาก ! ”
พวกเขาทั้งสี่ไม่เคยพบกันมาก่อน ซึ่งมันก็ล่าช้ามาตั้ง 5-6 ปี ทำให้พวกเขาทั้งสี่อดตื่นเต้นไม่ได้ที่เจอกันครั้งแรก
แขกที่มาช่วยเหลือต่างมองดูครอบครัวของหลินต้าเหว่ยด้วยความสงสัย
พวกเขาประหลาดใจที่พบว่าท่าทางของหลินต้าเหว่ยนั้นคล้ายกับรองนายกเทศมนตรีจาง เพียงแต่เขาดูมีท่าทีที่อ่อนโยนและเข้าถึงได้ง่ายกว่า
เป็นไปได้ไหมว่าเขาก็เป็นข้าราชการระดับสูงเหมือนกัน ?
หลายคนคิดเช่นนั้น
เมื่อมองดูหลิวอี้ถิง แม้ว่าเธอจะอยู่ในวัย 50 กว่าปีแล้ว แต่เธอก็ยังดูไม่ต่างจากคนอายุสี่สิบ เธอดูสวยและยังดูสาว ดูแลรูปร่างตัวเองเป็นอย่างดี ดูเป็นคนที่มีความรู้ แค่มองแวบแรกก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา
“ดูสิ พ่อตาของเจียงเสี่ยวไป๋ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับท่านรองนายกเทศมนตรีจางมาก”
“อืม อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานกันก็ได้”
“อย่าบอกนะว่าพ่อตาของเขาก็เป็นข้าราชการด้วย ? ”
“ฉันเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น และตำแหน่งของเขาก็คงไม่ใช่น้อย ๆ อย่างแน่นอน”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ธุรกิจของเสี่ยวไป๋จะไปได้ดี กลายเป็นว่าว่าเขามีพ่อตาที่เป็นข้าราชการระดับสูง”
“เฮ้ อย่าพูดไร้สาระ ความสำเร็จทางธุรกิจของเสี่ยวไป๋นั้นมาจากความสามารถของเขาเองล้วน ๆ ”
“ใช่แล้ว ผัดมันฝรั่งที่เขาทำก็อร่อย ส่วนกุ้งอบน้ำมันที่เขาขายก็ไม่มีที่ไหนทำมาก่อน”
“เมล็ดแตง 5 รสในมือคุณอร่อยไหมล่ะ ? ลุงไห่หยางบอกว่าเสี่ยวไป๋เป็นคนคั่วมันเองกับมือ”
“เสี่ยวไป๋มีความสามารถรอบด้าน ถ้าเป็นสามีก็คือสามีที่ดี”
“……”
แขกจำนวนมากและคนรอบข้างต่างพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ
“ปัง ปัง ปัง….…”
เสียงประทัด 1,000 ลูกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลิ่นควันดินปืนก็ลอยตลบอบอวลไปในอากาศ
เสียงประทัดดังเป็นเวลานาน ทำให้แขกหลายคนที่อยู่ในลานเริ่มฮือฮา พวกเขาต่างก็สงสัยว่าแขกผู้มีเกียรติคนไหนมาถึงได้จุดประทัดยาวนานเช่นนั้น
ไม่นาน พวกเขาก็วิ่งออกไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฟู่เต๋อเจิงและคนอื่นกำลังกินเมล็ดแตงโมและคุยกันอยู่ในห้องโถงรับแขก ในตอนนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงประทัดเช่นกัน
ฟู่เต๋อเจิ้งกล่าวว่า “ประทัดดังมานานแล้ว ฉันว่าเจียงเสี่ยวไป๋น่าจะไปรับพ่อตาของเขากลับมาถึงแล้ว”
“น่าจะใช่ ! ” หวังเต๋อคุนพยักหน้า
“ไปดูกันเถอะ ! ”
“ไปสิ ! ”
“อืม ! ”
เฉียนฟางอี้ ชิวเสี่ยวหยุน โจวฉางซง ชูเหวินปิน จูกั๋วฟู่ และคนอื่นต่างลุกขึ้นและตามฟู่เต๋อเจิงออกไปนอกบ้าน
ทันทีที่พวกเขาเดินออกจากประตูมา ทุกคนก็ต้องเบิกตากว้าง
เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็คือรองนายกเทศมนตรีจาง ผู้นำของพวกเขา
ฟู่เต๋อเจิงและคนอื่นรู้สึกแปลกใจ เขาไม่ได้บอกว่าจะไปรับพ่อตาหรือ ? ทำไมรองนายกเทศมนตรีจางถึงมาที่นี่ ?
แต่ทุกคนไม่กล้าคิดมากแล้ว พวกเขาจึงรีบไปทักทายรองนายก
“รองนายกเทศมนตรีจาง ! ”
“สวัสดี ท่านรองจาง ! ”
“รองจาง…”
“……”
รองนายกเทศมนตรีจางเหลือบมองทุกคนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกคุณมาถึงก่อนฉันอีกนะ คุณมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
ฟู่เต๋อเจิงกล่าวว่า “แขกผู้มีเกียรติอย่างท่านรองก็ต้องมาปิดท้ายสิ”
ในบรรดาผู้คนทั้งหมด เขาสนิทกับรองนายกเทศมนตรีจางที่สุด จึงเป็นคนเดียวที่กล้าล้อเล่นกับรองนายกเทศมนตรีจาง ในขณะที่คนอื่นไม่กล้า
รองนายกเทศมนตรีจางยิ้มแล้วพูดว่า “วันนี้ฉันไม่ใช่ตัวเอก”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ก้าวออกไปเผยให้เห็นหลินต้าเหว่ยที่เดินมาข้างหลังเขา
“นายอำเภอหลิน… ! ”
ฟู่เต๋อเจิงอุทานออกมา ก่อนจะตระหนักว่าภรรยาของเจียงเสี่ยวไป๋ชื่อหลินเจียอิน นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่า เขาจะไปรับพ่อตาของเขา หลินต้าเหว่ย, หลินเจียอิน…..
ปรากฏว่าพ่อตาของเจียงเสี่ยวไป๋คือหลินต้าเหว่ยงั้นหรือ !
หลินต้าเหว่ยก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นฟู่เต๋อเจิงที่บ้านลูกเขยของเขา
“ประธานฟู่ ! ”
หลินต้าเหว่ยเอื้อมมือไปจับมือกับฟู่เต๋อเจิง
ฟู่เต๋อเจิงยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่คาดคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะเป็นลูกเขยของคุณ นายอำเภอหลิน”
หลินต้าเหว่ยยิ้มและพูดว่า “ฉันก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะรู้จักคุณหมือนกัน ผู้ที่มีความสามารถยอดเยี่ยมในมณฑลจีนตอนกลาง”
ทั้งสองคนหัวเราะออกมา
หวังเต๋อคุนและเฉียนฟางอี้ที่อยู่ด้านหลังก็จำหลินต้าเหว่ยได้ ทั้งคู่จึงเดินไปข้างหน้าเพื่อจับมือและทักทายกัน
“สวัสดีนายอำเภอหลิน ! ”
“สวัสดีนายอำเภอหลิน ! ”
หลินต้าเหว่ยยังตอบด้วยรอยยิ้ม เขาคร่ำครวญอยู่ในใจว่าลูกเขยของเขาได้ผูกมิตรกับบุคคลผู้มีอำนาจในเมืองชิงโจวได้มากมายขนาดนี้ได้อย่างไร
แม้ว่าจูกั๋วฟู่ ชูเหวินปิน ชิวเสี่ยวหยุน และคนอื่นจะไม่ได้รู้จักกับหลินต้าเหว่ยเป็นการส่วนตัว แต่พวกเขาต่างก็เป็นคนในระบบราชการ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าหลินต้าเหว่ยเป็นนายอำเภอของเจี้ยนหยาง
“สวัสดีนายอำเภอหลิน ผม…..จูกั๋วฟู่ เป็นผู้อำนวยการของธนาคารการเกษตรและก็เป็นเพื่อนกับเสี่ยวไป๋” จูกั๋วฟู่ทักทาย
“สวัสดีประธานจู ! ” หลินต้าเหว่ยจับมือกับเขาอย่างสุภาพ
ต่อมาชูเหวินปิน ชิวเสี่ยวหยุน และคนอื่นก็ได้เข้าไปทักทายและแนะนำตัวเองกับหลินต้าเหว่ยทีละคนด้วยท่าทางสุภาพ
ทันใดนั้น กลุ่มคนที่อยู่รอบ ๆ สิบถึงยี่สิบคนก็เข้ามามุงดูพวกเขา
รองนายกเทศมนตรีจางจึงโบกมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรามาที่นี่เพื่อร่วมฉลอง ไม่ใช่มาขวางประตู รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”
ขณะที่เขาพูด ดวงตาของเขาก็จับไปที่ประติมากรรมแกะสลักอันวิจิตรงดงามบนประตูบานใหญ่ ก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าไป
หลินต้าเหว่ยและคนอื่นก็เดินตามเขามาติด ๆ