ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 221 ไปเหมือนกัน
ตอนที่ 221 :ไปเหมือนกัน
ที่ประตูศาลากลาง
นอกจากหลินต้าเหว่ยและหลิวอี้ถิงแล้ว อีกสามคนคือรองนายกเทศมนตรีจาง ติงจวิ้นเจี๋ย และหลินเจียเล่อ
“นั่นเสี่ยวเล่อ ? ”
เมื่อมองผ่านกระจกหน้ารถออกไป หลินเจียอินก็เห็นเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างแม่ของเธอ เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
ครั้งล่าสุดที่เธอกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ เธอไม่เจอหลินเจียเล่อ
แต่หลิวอี้ถิงเอารูปถ่ายของหลินเจียเล่อให้เธอดูอยู่ เธอจึงรู้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นน้องชายที่เธอไม่ได้เจอมานานกว่า 5 ปี
“หม่าม๊าคะ ใครคือเสี่ยวเล่อหรือคะ ? ”
เมื่อเห็นผู้เป็นแม่พูดชื่อออกมาด้วยความตื่นเต้น เจียงชานก็ทำหน้าบูดบึ้งและถามออกมา
หลินเจียอินรีบชี้ไปที่หลินเจียเล่อซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป แล้วพูดว่า “คนที่อยู่ข้าง ๆ คุณยายคือน้องชายของแม่ เป็นอาของหนู เขาชื่อเสี่ยวเล่อ”
เจียงชานมองไปแล้วพูดว่า “คุณอาสูงกว่าอาเสี่ยวเหลยเสียอีก ควรจะเรียกเขาว่าต้าเล่อ ! ”
ประโยคนี้ทำให้ทั้งเจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียอินหัวเราะออกมา
หลังจากหัวเราะแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกเสียใจที่ขอให้พ่อตาของเขาไปพบกันที่ประตูศาลากลาง เขาไม่คาดคิดว่ารองนายกเทศมนตรีจางจะอยู่ที่นั่นด้วย
ซึ่งคาดว่าพวกเขาจะมาพบกันที่นี่ !
รถหยุดอย่างรวดเร็วใกล้กับคนทั้งห้าคน จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็รีบลงจากรถ
“สวัสดี รองนายกเทศมนตรีจาง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ทักทายจางอี้เต๋อก่อน จากนั้นจึงหันกลับมาทักทายหลินต้าเหว่ยและหลิวอี้ถิง “พ่อ แม่ สวัสดีครับ ! ”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็พยักหน้าให้ติงจวิ้นเจี๋ย
เมื่อมาพบกันในที่สาธารณะ ก็ต้องมีการทักทายกันบ้างแม้ว่าจะเจอกันแทบทุกวันก็ตาม
ดังนั้น แม้ว่าติงจวิ้นเจี๋ยจะเป็นเพียงเลขานุการ แต่เจียงเสี่ยวไป๋ก็ต้องสุภาพ
สำหรับหลินเจียเล่อนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ย่อมรู้จักอยู่แล้ว
แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จัก เพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้น
ในเวลานี้ หลินเจียอินก็จูงมือเจียงชานตามมา
“สวัสดีรองนายกเทศมนตรีจาง สวัสดีเลขาติง ! ”
เธอทักทายรองนายกเทศมนตรีจางและติงจวิ้นเจี๋ยก่อน ซึ่งแตกต่างจากเจียงเสี่ยวไป๋ จากนั้นจึงหันไปทักทายพ่อแม่ของเธอ
เธอเป็นลูกสาวของหลินต้าเหว่ยและหลิวอี้ถิง ดังนั้นเมื่อทักทายรองนายกเทศมนตรีจาง ก็ต้องทักทายติงจวิ้นเจี๋ยต่อ
แต่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ทำแบบนั้น เขาเป็นเพียงลูกเขย ดังนั้นเมื่อทักทายรองนายยกจางแล้ว เขาต้องให้ความสำคัญกับพ่อตาและแม่ยายของเขาก่อน
ส่วนติงจวิ้นเจี๋ยนั้นเป็นเพื่อน แค่มองตาและพยักหน้าให้กันก็รู้กันแล้ว ไม่จำเป็นต้องทักทายอะไรมากมาย
หลังจากที่หลินเจียอินทักทายพ่อแม่ของเธอ เธอก็มองไปที่หลินเจียเล่ออย่างตกตะลึงและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “นายคือเสี่ยวเล่อใช่ไหม ! ”
หลินเจียเล่อยิ้มและตะโกนว่า “พี่สาว ! ”
เมื่อสองพี่น้องพบกันครั้งแรกหลังจากที่ไม่เจอกันมานาน พวกเขาก็รู้สึกคิดถึงกันเป็นธรรมดา ในขณะที่ เจียงเสี่ยวไป๋พูดคุยกับรองนายกเทศมนตรีจางและหลินต้าเหว่ย
“พ่อครับ ทำไมพ่อถึงมาอยู่กับรองนายกเทศมนตรีจางที่นี่ล่ะครับ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางหัวเราะออกมา “เหล่าฟู่บอกว่าครอบครัวของคุณกำลังจัดงานเลี้ยงฉลอง ฉันก็เลยโทรไปถามพ่อตาของคุณว่าเขาจะมาไหม เขาบอกว่ามา เราสองคนเลยตกลงนัดเจอกันที่นี่”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดจริง ๆ ว่ารองนายกเทศมนตรีจางจะรู้เรื่องที่บ้านของเขาจัดงานเลี้ยงฉลอง
และดูเหมือนว่ารองนายกเทศมนตรีจางก็ตั้งใจที่จะไปที่นั่นด้วย
“ผมไม่กล้ารบกวนท่านรองหรอกครับ มันเป็นเพียงงานเลี้ยงฉลองให้น้องสาว จึงไม่ได้บอกแต่แรก” เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายอย่างรวดเร็ว
รองนายกเทศมนตรีจางโบกมือ “ในเมื่อเหล่าหลินก็จะไป ฉันจึงคิดว่าจะไปกับเขา จะได้ไปเปิดหูเปิดตาที่นอกเมืองบ้าง ถือโอกาสไปดื่มกับคนอื่น ๆ ด้วย”
เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็หันไปมองเจียงเสี่ยวไป๋
หลังจากที่พูดคุยกันไปสักพัก หลิวอี้ถิงและหลินเจียเล่อก็ได้ขึ้นรถของเจียงเสี่ยวไป๋ หลินต้าเหว่ยขึ้นรถของรองนายกเทศมนตรีจาง จากนั้นรถจี๊ปทั้งสองคันก็ได้ขับตรงไปยังเจียงวาน
ส่วนคนขับรถของหลินต้าเหว่ยนั้น หลินต้าเหว่ยได้ให้ไปหาโรงแรมพักก่อนระหว่างนี้
เมื่อพวกเขามาถึงเจียงวาน รถก็ขับเข้าถนนที่เจียงเสี่ยวไป๋ทำไว้ เมื่อเห็นแบบนั้น ทั้งรองนายกเทศมนตรีจางและหลินต้าเหว่ยต่างก็ประหลาดใจ
“เหล่าหลิน ลูกเขยของคุณรวยมาก เขาลงทุนทำถนนเอง ซึ่งสวยกว่าถนนในเมืองเสียอีก”
มีทางเท้าทั้งสองด้านของถนน ถนนยังกว้างถึง 12 เมตร มีต้นหอมหมื่นลี้ปลูกอยู่ทั้งสองข้างทางห่างกันทุก 5 เมตร ลำต้นสูงกว่า 6 เมตร นอกจากนี้ยังมีเสาไฟตรงถนนทุก ๆ 50 เมตร
แค่ดูด้วยตาก็รู้ว่าดีกว่าถนนหลายสายในเมือง
หลินต้าเหว่ยยิ้มอย่างเขินอายและพูดว่า “ฉันอยากจะบอกอะไรรองจาง เมื่อก่อนฉันกับลูกเขยไม่ถูกกัน เราจึงไม่ได้ติดต่อกันเลย ซึ่งครั้งแรกที่เขามาหาเราก็ตอนที่คุณเห็นเขาในเจี้ยนหยางนั่นแหละ และครั้งนั้นมันก็ทำให้เราได้ปรับความเข้าใจกันครั้งแรก”
คำพูดเหล่านี้ดูจริงใจมาก
เขาพูดออกมาตามตรง เขาไม่รู้มาก่อนว่าลูกเขยของเขารวยขนาดนี้ และเขาก็ไม่เคยคิดจะเอาอะไรจากลูกเลยด้วย
รองนายกเทศมนตรีจางยิ้มแล้วพูดว่า “เหล่าหลิน คุณไม่รู้หรือ เด็กคนนี้เปิดร้านขายกุ้งอบน้ำมันที่มีแฟรนไชส์ทั่วประเทศมากถึง 50 สาขา คิดดูว่าเขาจะมีรายได้เท่าไหร่ต่อวัน…..”
ขณะที่พวกเขากำลังพูด รถก็ขับมาถึงหน้าบ้านแล้ว เมื่อรองนายกเทศมนตรีจางเห็นรถหลายคันจอดอยู่ข้างใน คำพูดของเขาก็หยุดลงทันที
เขารู้สึกคุ้นเคยกับรถยนต์ทุกคันที่จอดที่นี่
ซึ่งเป็นรถของผู้นำจากหน่วยงานต่าง ๆ ในเมือง
หลินต้าเหว่ยที่เห็นรถเหล่านั้นก็ตกใจไม่ต่างกัน
แต่เขาไม่เหมือนกับรองนายกเทศมนตรีจาง เพราะเขาไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของรถเหล่านี้ เขาแค่รู้สึกตกใจกับเจียงเสี่ยวไป๋ที่คบค้ากับคนมีเงิน
เมื่อรถขับตามรถของเจียงเสี่ยวไป๋มาเรื่อย ๆ ทันใดนั้นทั้งคู่ก็ถูกดึงดูดด้วยทิวทัศน์ของแม่น้ำ
เหนือคลื่นสีน้ำเงินที่ไหลช้า ๆ แท่นระเบียงริมแม่น้ำดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
คนมีเมตตาชอบภูเขา คนมีปัญญาชอบสายน้ำ
ผู้นำทั้งสองต่างก็เป็นคนที่ชอบดูทิวทัศน์ จู่ ๆ พวกเขาคิดว่าถ้ายืนพิงราวบันไดหันหน้าไปทางแม่น้ำ คงรู้สึกเพลิดเพลินกับทัศนียภาพได้ไม่น้อยใช่ไหม ?
ขณะที่คิด รถจี๊ปก็ขับเข้าไปจอดในโรงจอดรถชั้นใต้ดิน
ที่จอดรถในชั้นใต้ดินของบ้านเจียงเสี่ยวไป๋มีขนาดค่อนข้างกว้าง จึงสามารถจอดรถได้หลายสิบคัน
“ขวับ ขวับ ขวับ……”
เมื่อรถของเจียงเสี่ยวไป๋จอด ผู้ช่วยงานและแขกในงานต่างก็หันมามองกันหมด
เขาออกไปคันเดียว แต่กลับมาสองคัน
เจียงเสี่ยวไป๋ไปรับแขกมางั้นหรือ !
หลายคนจึงสงสัยว่าใครกันที่เส้นใหญ่ขนาดนี้ ? เจียงเสี่ยวไป๋ถึงต้องไปรับด้วยตัวเอง
ในเวลานี้ ในฐานะเจ้าภาพ เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋จึงนำถาดประทัด 1,000 ลูกให้กับเจียงเสี่ยวหลงไปจุดและพูดว่า “เสี่ยวหลง รอให้พวกเขาลงจากรถมาก่อน แล้วค่อยจุดนะ”
เจียงเสี่ยวหลงพยักหน้าด้วยความเร่งรีบ
จากนั้น เขาก็ถามด้วยความสงสัย “ลุงไห่หยาง เสี่ยวไป่รับใครมา ? ”
เจียงไห่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พ่อตาแม่ยายของเสี่ยวไป๋น่ะ พวกเขาเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก”
โอ้……
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจียงเสี่ยวไป๋ถึงขั้นลงทุนออกไปรับด้วยตนเองแบบนี้ เพราะแขกที่มาคือพ่อตาแม่ยายของเขานั่นเอง
เจียงเสี่ยวหลงและคนอื่นเข้าใจทันที
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อตาแม่ยายของเจียงเสี่ยวไป๋ยังมาที่นี่ด้วยรถยนต์ด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องมีสถานะที่สูงส่ง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจียงไห่หยางจะจริงจังกับเรื่องนี้มาก ถึงกับให้จุดประทัด 1,000 ลูกเพื่อเป็นการต้อนรับกันเลยทีเดียว
เพราะแขกคนอื่น เขาจุดเพียง 50 ลูกเท่านั้น
ทุกคนยืนอยู่ที่สี่แยกระหว่างโรงรถไปยังลาน รอคอยด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพื่อดูว่าพ่อตาแม่ยายของเจียงเสี่ยวไป๋คือใคร
ในโรงรถใต้ดิน
“รองนายกเทศมนตรีจาง เชิญครับ ! ”
หลังจากลงจากรถ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้มาเชิญรองนายกเทศมนตรีจาง พ่อตาแม่ยายของเขาและติงจวิ้นเจี๋ย จากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากโรงรถใต้ดินไปพร้อมกัน และเดินขึ้นบันไดทางเดินไปยังหน้าบ้าน
“ปัง ๆ ๆ ๆ……”
ทันทีที่กลุ่มคนปรากฏตัว เจียงเสี่ยวหลงก็เริ่มจุดประทัด 1,000 ลูก
“แขกมาแล้ว เตรียมบุหรี่และชาหน่อยต้อนรับ…..”
เจียงไห่เทียนตะโกนเสียงดัง
“ครับ……”
“ได้……”
เจียงเสี่ยวหลง เจียงเสี่ยวซิน เจียงเสี่ยวหลี่ และคนที่มาช่วยงานคนอื่น รวมถึงแขกที่มาต่างตอบรับพร้อมกัน