ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 218 แขกมา ช่วยรินชายื่นบุหรี่ต้อนรับ
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 218 แขกมา ช่วยรินชายื่นบุหรี่ต้อนรับ
ตอนที่ 218 :แขกมา ช่วยรินชายื่นบุหรี่ต้อนรับ
เช้าวันใหม่ของเดือนกรกฎาคม ท้องฟ้าเริ่มสว่างตั้งแต่เวลาตีห้ากว่า
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ตื่นนอน คนที่มาช่วยงานก็เริ่มทยอยมาทีละคน
ที่ประตูใหญ่ด้านหน้า
เจียงไห่เทียนได้เรียกคนที่มาช่วยงานทั้งหมดให้มารวมตัวกัน เขามอบบุหรี่ให้ทุกคนคนละหนึ่งซองแล้วกล่าวว่า
“วันนี้เป็นวันดีของครอบครัวเจียง วันนี้และพรุ่งนี้เราทุกคนจะต้องช่วยงานพวกเขา อาจจะหนักหน่อย ฉันได้รับความไว้วางใจให้มาจัดการงานนี้ ฉันจึงอยากให้ทุกคนช่วยงานนี้อย่างเต็มที่ ทุกคนมีหน้าที่ของแต่ละคน รายชื่อติดอยู่ที่หน้าประตู ใครรับผิดชอบงานไหนก็ไปทำงานของตัวเอง”
ช่างไม้ถาน หลิวอี้โชว เจียงเสี่ยวโจว และคนอื่นต่างขานรับออกมาพร้อมกัน
แม้ว่าเจียงไห่หยางจะอธิบายสิ่งที่ทุกคนต้องรับผิดชอบออกมาแล้ว แต่ทุกคนยังคงเข้าไปอ่านที่ป้ายบอกหน้าที่ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
หลังจากที่เจียงไห่เทียนพูดคุยเกี่ยวกับการแบ่งงานต่าง ๆ เสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณแทนเจ้าบ้านอีกครั้งว่า:
“วันนี้ครอบครัวเจียงต้องยุ่งวุ่นวายกับการรับแขก ฉะนั้นเราที่เป็นเพื่อนบ้านก็ต้องมาช่วยงานพวกเขา”
“ล้างผัก เช็ดโต๊ะ เสิร์ฟชาและรินเหล้าต้อนรับแขกผู้มาเยือน”
“การช่วยงานครั้งนี้ อาจจะหนักหน่อยสำหรับทุกคน แต่เจ้าบ้านจะจดจำที่สิ่งพวกคุณทำให้พวกเขาตลอดไป”
เป็นคำพูดที่แสดงความขอบคุณจากเจ้าภาพ
ไม่ว่าจะไปช่วยงานของครอบครัวไหน เจียงไห้เทียนก็มักจะพูดคำพวกนี้ทิ้งท้ายเสมอ แค่เขาเปิดปาก คนที่มาช่วยงานก็รู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาบ้าง
ทว่าการออกเสียงและสำเนียงที่มีลักษณะเฉพาะของท้องถิ่นรวมกับเสียงมีอายุของเจียงไห่เทียน ทำให้ผู้ที่มาช่วยงานในวันนี้ต่างฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลังจากที่เจียงไห่เทียนพูดท่อนนี้จบ เขาก็พูดต่อ:
“เราทุกคนต้องช่วยกันรักษาหน้าของเจ้าบ้าน”
เมื่อแขกมาเยือน ฝ่ายต้อนรับก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
“ไม่ว่าคุณจะดื่มหรือไม่ ทุกคนก็สามารถผูกมิตรได้”
“ไม่ว่าคุณจะสูบบุหรี่หรือไม่ ทุกคนต่างก็พูดคุยกันได้”
“ทุกคนที่มาล้วนเป็นแขก ไม่ว่าจะเป็นใคร เราก็ต้องต้อนรับพวกเขา”
“ที่ฉันพูด ก็เพื่ออยากให้ทุกคนจริงจังกับงาน ขอให้ทุกคนใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น อย่าทำให้ใครขุ่นเคืองใจ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน”
“……”
นี่เป็นคำขอจากเขาถึงผู้ที่มาช่วยงาน ให้พยายามอย่างเต็มที่ในการต้อนรับแขกบ้านต่างเมืองอย่างอบอุ่น
หลังจากพูดประโยคนี้จบ เขาก็ได้พูดประโยคสุดท้ายออกมา:
“แขกเริ่มมากันแล้ว ช่วยเตรียมบุหรี่และชาหน่อยนะ……”
“ได้ ๆ……”
ผู้ช่วยทุกคนตอบรับพร้อมกัน จากนั้นแม่ครัวก็ไปเตรียมอาหาร คนจัดโต๊ะก็รีบไปเช็ดโต๊ะ ส่วนคนจุดประทัดก็ไปยืนเฝ้าที่หน้าประตู……
ทุกคนต่างรีบไปจัดการหน้าที่ของตัวเอง
แน่นอนว่าก่อนที่แขกจะมาในตอนเช้า เจ้าบ้านและคนที่มาช่วยงานต่างก็ยุ่งวุ่นวายกันตลอด
เจียงไห่เทียนนับจำนวนคนคร่าว ๆ แล้วแจ้งให้หลิวอี้โชวเอาอาหารมาเสิร์ฟให้แต่ละโต๊ะ
หลิวอี้โชวถามว่า “เราควรยกอาหารเช้าง่าย ๆ ขึ้นโต๊ะหรือเตรียมอาหารมื้อใหญ่เลย ? ”
หากเป็นอาหารง่าย ๆ แค่ผัดไม่กี่จาน ส่วนอาหารมื้อใหญ่จะต้องเสิร์ฟจานใหญ่ 8 จานและจานเล็ก 8 จาน
หลิวอี้โชวถามสิ่งนี้เพราะยังไม่ค่อยมีแขกมาเยี่ยมในตอนเช้า
“เสิร์ฟมื้อใหญ่เลย ! ” เจียงไห่เทียนกล่าว
“ครับ ! ”
หลิวอี้โชวตอบกลับและเรียกผู้ช่วยในครัวให้มาช่วยกันทำงาน
“ตอนเช้ามีโต๊ะอยู่ห้าโต๊ะ เพื่อให้เจ้าบ้านและคนที่มาช่วยงานทานอาหารกัน คนที่ดูเรื่องเหล้า ชา บุหรี่ ก็เตรียมเสิร์ฟเหล้า คนที่จัดการเรื่องโต๊ะก็เตรียมเสิร์ฟอาหาร…”
หลังจากที่เจียงไห่หยางอธิบายให้หลิวอี้โชวเสร็จแล้ว เขาก็ตะโกนไปที่ลานบ้านอีกครั้ง
“ได้ ๆ ……”
คนที่ช่วยจัดการเรื่องเหล้ากับคนที่จัดการเรื่องโต๊ะก็ได้ขานรับออกมาพร้อมกัน
งานฉลองในชนบท ครอบครัวที่เป็นเจ้าภาพมักจะไม่ค่อยได้จัดการงานอะไรมากนัก เจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียอินจึงไม่มีอะไรทำในตอนเช้า
“ป่าป๊าคะ ไปนั่งที่โต๊ะกันเถอะ”
เจียงซานลากเจียงเสี่ยวไป๋ไปโต๊ะที่ว่างอยู่
ในชนบท หากมีงาน เด็ก ๆ มักจะเกาะกลุ่มกันนั่งเล่นตามโต๊ะที่จัดไว้ต้อนรับแขก โดยพื้นฐานแล้ว เมื่อแขกมา พวกเขาทั้งหมดก็จะไปนั่งที่เก้าอี้
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม และหาโต๊ะเพื่อนั่งลงกับเธอ
ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก ไม่ว่าเจ้าภาพหรือผู้มาช่วยงานก็ตาม ในเวลานี้ทุกคนต่างก็มานั่งพักที่โต๊ะ ซึ่งโต๊ะหนึ่งจะนั่งได้แปดคน และแต่ละโต๊ะก็เต็มทุกโต๊ะ
ช่างไม้ถาน เจียงเสี่ยวโจว, หูฉางจวิน และคนอื่นที่ช่วยงานไม่มีอะไรทำในขณะนี้ พวกเขาจึงมานั่งพูดคุยกันที่โต๊ะ
ระหว่างที่รอแขกมางานเลี้ยง ทุกคนก็จะพูดคุยกันระหว่างรอ
“เสี่ยวไป๋ ฉันได้ยินมาว่าคุณได้ตั้งโรงงานผลิตและแปรรูปถั่วเหลืองงั้นหรือ ? ”
“เสี่ยวไป๋ ลูกสาวของฉันทำงานที่ร้านของคุณ ถ้าเธอไม่เชื่อฟังก็อบรมเธอได้เลยนะ”
“เสี่ยวไป๋…”
“……”
ในเวลานี้ หัวข้อของการสนทนามักจะเกี่ยวกับเจียงเสี่ยวไป๋
เพราะปกติแล้ว พวกเขาไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดคุยกับเจียงเสี่ยวไป๋มากนัก นานทีจึงจะมีโอกาสสักครั้ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป
เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้แต่ตอบพวกเขาทีละคน
ไม่นานหลังจากนั้น อาหารก็เริ่มทยอยถูกยกมาเสิร์ฟ ทุกคนพูดคุยกันขณะรับประทานอาหารไปด้วย และมื้ออาหารเช้าก็จบลงอย่างรวดเร็ว
หลังอาหารเช้า คนที่มาช่วยงานทุกคนต่างก็ยุ่งกับงานของตัวเอง เจียงเสี่ยวซิน เจียงเสี่ยวหลี่ เจียงเสี่ยวจี๋ และคนอื่นออกไปยืนต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู ช่างไม้ถานและเจียงเสี่ยวฉินไปที่ห้องโถงด้านข้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องพิธี
ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ก็หยิบเมล็ดแตงโม 5 รสและถั่วลิสงคั่วอย่างละสองกำมือใส่กระเป๋ากางเกงของเขา และพาเจียงชานเดินดูรอบ ๆ อย่างสบายใจ
“ป่าป๊าคะ เมล็ดแตงโม 5 รสอร่อยไหมคะ”
เจียงชานถามอย่างมีความสุข ขณะกำลังแทะเมล็ดแตงโมไปด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม แล้วพูดว่า “เมล็ดแตงโมคั่วที่พ่อทำก็ต้องอร่อยสิ”
เจียงชานพยักหน้าอย่างจริงจัง “อะไรก็ตามที่ป่าป๊าทำ อร่อยทั้งนั้นเลยค่ะ”
พูดจบก็เงยหน้าขึ้นถามต่อว่า “หม่าม๊าได้บอกให้ป่าป๊าคั่วเมล็ดแตงโมขายไหมคะ ? ”
ทุกครั้งที่ป่าป๊าทำอะไรอร่อย ๆ หม่าม๊าก็มักจะบอกให้เอาขายเสมอ เธอจึงรู้เรื่องนี้ดี
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกขบขันและถามด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วชานชานคิดว่าพ่อควรจะคั่วเมล็ดแตงโมขายไหม ? ”
เจ้าตัวเล็กส่ายหน้าไปมา
เจียงเสี่ยวไป๋ก้มหน้าลงและมองดูลูกสาวของเขา ไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะมีความคิดที่แตกต่างจากแม่ของเธอ เขาจึงถามต่อด้วยรอยยิ้ม “ทำไมหนูถึงไม่อยากให้พ่อคั่วเมล็ดแตงโมขายล่ะ ? ”
เจียงชานกล่าวว่า “สิ่งที่ป่าป๊าทำทุกวันนี้ก็มากพอแล้ว ชานชานไม่อยากให้ป่าป๊าเหนื่อยไปมากกว่านี้ค่ะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เธอสามารถรับรู้ในสิ่งที่เขาทำให้ตั้งแต่อายุยังน้อย ตามที่คาดไว้ ลูกสาวเป็นเหมือนปุยนุ่นติดตัวของพ่อแม่จริง ๆ
ด้วยความดีใจ เขาเอามือไปแตะศีรษะเล็ก ๆ ของลูกสาวแล้วพูดว่า “ชานชานเก่งมาก ! ”
เด็กน้อยยิ้มแล้วพูดว่า “ป่าป๊าเก่งเหมือนกันค่ะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะร่าออกมา
“ปัง ปัง ปัง……”
ในขณะนี้ ก็มีเสียงประทัดดังขึ้นสั้น ๆ ที่สี่แยกตรงถนนนอกบ้าน
“แขกมาแล้ว เตรียมบุหรี่และชาด้วย……”
ท่ามกลางเสียงประทัด คนที่คอยต้องรับอยู่ที่หน้าประตูก็ตะโกนเข้ามาเสียงดัง
“ได้……”
คนในหมูบ้านที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มาช่วยเหลือหรือไม่ก็ตามต่างก็ขานรับพร้อมกัน เจียงเสี่ยวหลี่ผู้ดูแลเรื่องบุหรี่ก็เตรียมบุหรี่ให้กับแขก เจียงเสี่ยวซินที่ดูแลเรื่องชาก็ได้นำแก้วกระดาษแบบใช้แล้วทิ้งมา เทชาลงไปแล้วยื่นให้แขกที่มาเยือน
ในอดีต ครอบครัวอื่นมักใช้ถ้วยชาเคลือบในการต้อนรับแขก ซึ่งต้องไปยืมจากบ้านหลังอื่นมาหลายหลังกว่าจะพอ
แต่ครั้งนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ได้ให้เซี่ยงเฉียนจิ้นทำแก้วชากระดาษแบบใช้แล้วทิ้งมา 4 ลัง แต่ละลังบรรจุ 500 ชิ้น
ด้วยวิธีนี้ แขกแต่ละคนก็จะได้ดื่มชาในแก้วของตัวเอง
นี่ถือเป็นครั้งแรกในชนบทที่ทำแบบนี้
“ป่าป๊า เรามีแขก ไปดูกันเถอะค่ะ”
เจียงชานได้ยินการเคลื่อนไหวข้างนอกจึงดึงเจียงเสี่ยวไป๋เดินไป
“ได้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วยและเดินออกไปที่หน้าประตูพร้อมกับลูกสาวของเขา
หลังจากออกไปที่หน้าประตู เจียงเสี่ยวไป๋ก็ต้องผงะเมื่อเห็นคนที่มา
เขายังคงคิดอยู่ก่อนหน้านี้ว่า วันนี้ใครจะเป็นแขกคนแรก ?
ซึ่งไม่คาดคิดว่าจะเป็นเขา !