ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 217 เมล็ดแตงโม 5 รส
ตอนที่ 217 :เมล็ดแตงโม 5 รส
“พ่อตาแม่ยายของลูกจะมาหรือ ? ”
หวังซิ่วจวี๋ชะงักไปครู่หนึ่ง เธอทั้งประหลาดใจและดีใจมาก
ก่อนที่เจียงเสี่ยวไป๋จะออกไป เขาตกลงที่จะกลับมาก่อนหกโมงเย็นเพื่อช่วยคั่วเมล็ดแตงโม แต่เขาดันกลับมาถึงบ้านตอนหกโมงครึ่ง
เดิมทีหวังซิ่วจวี๋ตำหนิเจียงเสี่ยวไป๋ที่กลับมาช้า แต่เมื่อเธอได้ยินว่าพ่อตาแม่ยายของเขาจะมาพรุ่งนี้ เธอก็ไม่ได้ตำหนิลูกชายของเธออีกต่อไปและถามอย่างเป็นกังวลไปว่า “พรุ่งนี้ ที่บ้านเรามีงานเลี้ยงฉลอง จะมีแขกมาเยอะมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ของเจียอินมาเที่ยวหา แม่เกรงว่าเราจะต้อนรับพวกเขาได้ไม่ดีพอ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือ “แม่ ไม่เป็นไรหรอกครับ พ่อตาและแม่ยายของผมเป็นคนง่าย ๆ ”
หวังซิ่วจวี๋กลอกตา: หากพ่อตาแม่ยายของลูกเป็นคนง่าย ๆ อย่างที่ว่า ภรรยาของลูกจะหนีมาอยู่ที่นี่ตั้ง 5 ปีโดยที่ไม่กลับไปเยี่ยมเลยหรือไง ? ถ้าง่ายอย่างนั้นหลินเจียอินจะไม่กลับบ้านเกิดของเธอเป็นเวลา 5 ปีแบบนี้ไหม ?
เอ่อ แต่เพิ่งกลับไปครั้งหนึ่งเมื่อต้นเดือนนี้เอง
อาจเป็นครั้งนั้นที่ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น !
แม้ว่าลูกชายและลูกสะใภ้ของเธอจะไม่เคยพูดถึงฝั่งนู้นเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่มันก็เป็นคำถามในใจของเธอตลอดมา
แต่ไม่คาดคิดว่าครั้งนี้ครอบครัวของหลินเจียอินจะมาจริง ๆ
เธอกังวลว่าจะมีแขกเยอะในช่วงงานเลี้ยง แล้วจะละเลยพ่อตาแม่ยายของเจียงเสี่ยวไป๋
ในใจเธอ เธอรู้สึกว่าการต้อนรับพ่อแม่ของลูกสะใภ้นั้นสำคัญกว่างานเลี้ยงฉลองของเจียงเสี่ยวชิงด้วยซ้ำ
“แม่จะไปคุยกับพ่อของแกก่อน”
หวังซิ่วจวี๋จากไปอย่างรีบร้อน โดยลืมแม้กระทั่งสิ่งที่เธอกำลังจะบอกเจียงเสี่ยวไป๋ เรื่องการคั่วเมล็ดแตงโมและถั่วลิสง
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว พ่อตาแม่ยายของเขากำลังจะมา จึงทำให้แม่ของเขาเป็นกังวล
มันไม่ใช่การมาพูดคุยสู่ขอ !
พวกเขาเแต่งงานกันแล้วและก็เคยกลับบ้านไปแล้ว ทำไมต้องกังวลด้วย !
“ชานชาน วันนี้พ่อไม่สอนหนังสือ ลูกไปเล่นเถอะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดกับลูกสาวของเขาแล้วเดินไปที่ห้องครัว
แม้ว่าหวังซิ่วจวี๋จะลืมอธิบายเพราะความตื่นเต้น แต่เจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่าที่แม่ของเขาบอกว่าเขามาสายเพราะเธอยังไม่ได้คั่วเมล็ดแตงโมและถั่วลิสง
ในปี 1983 ผู้คนมักจะคั่วเมล็ดแตงโมไว้เป็นของว่างในงานเลี้ยง โดยมีเพียงสองรสชาติเท่านั้น
หนึ่งคือคั่วด้วยทรายละเอียด ซึ่งเป็นวิธีการคั่วเมล็ดแตงโมแบบดั้งเดิม และอีกอย่างคือคั่วด้วยเกลือ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เมล็ดแตงโมมีรสเค็ม
แต่เจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่าในยุคสมัยต่อมา เมล็ดแตงโมคั่วนั้นเริ่มมีหลากหลายรสชาติมากยิ่งขึ้น เช่น รสคาราเมล รสครีม รสชาเขียว และรสเครื่องเทศ 5 รส รวมถึงรสชาติอื่น ๆ
“ใคร ๆ ก็ชินกับรสเค็ม งั้นคั่วมันสักหน่อยแล้วกัน”
“ส่วนที่เหลือ ลองทำเมล็ดแตงโม 5 รสดีกว่า ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พึมพำและตัดสินใจด้วยตัวเอง
เมล็ดแตงโมคั่วเกลือนั้นทำง่ายมาก เพียงใส่เกลือลงในกระทะเหล็ก พอร้อนก็เทเมล็ดแตงโมลงไปคั่วในเกลือ
เพียงแต่ต้องใส่ใจกับความร้อนและอุณหภูมิของเตาไฟ
สำหรับเมล็ดแตงโม 5 รสมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย ขั้นแรกต้องล้างเมล็ดแตงโมให้สะอาด จากนั้นเตรียมเครื่องเทศ เช่น ขิง เมล็ดยี่หร่า โป๊ยกั้ก พริกไทยเสฉวนและอบเชย ตามสัดส่วนของน้ำหนักเมล็ดแตงโม จากนั้นเติมเนื้อวัว น้ำตาลทรายขาว เกลือแกงและน้ำมันพืชลงในหม้อสองชั้นที่มีวาล์วไอน้ำ ต้มส่วนผสมอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นเพื่อให้เมล็ดแตงโมดูดซับรสชาติ
สุดท้ายก็นำไปตากแดดจนแห้ง พร้อมรับประทาน
อย่างไรก็ตาม แขกจะมาพรุ่งนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่มีเวลาทำให้เมล็ดแตงโมแห้งทันหลังจากที่เมล็ดแตงโมสุกแล้ว ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงเลือกที่จะคั่วด้วยเกลือโดยใช้ไฟอ่อน
ซึ่งมันก็ง่ายกว่า
หลังจากคั่วเมล็ดแตงโมแล้ว ก็ทอดถั่วลิสงต่อ
กว่าจะทำเสร็จก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว คนที่มาช่วยงานทั้งหมดก็กลับไปจนหมด เจียงชาน เจียงถิง เจียงเสี่ยวเฟิง และหลัวเจาตี้ต่างหลับไปแล้วเช่นกัน มีเพียงเจียงไห่หยาง หวังซิ่วจวี๋ และหลินเจียอินเท่านั้นที่ยังไม่นอน
“นี่ ลองชิมเมล็ดแตงโม 5 รสที่ผมคั่วดูสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋นำเมล็ดแตงโม 5 รสและถั่วลิสง 5 รสใส่จานออกมาให้พวกเขาชิม
หวังซิ่วจวี๋มองเพียงครั้งเดียว ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น
เธอจำได้ชัดเจนว่าเมล็ดแตงโมที่เธอซื้อมีเปลือกสีดำ แต่ตอนนี้เมล็ดทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนและสีขาว
ทว่ากลับมีกลิ่นที่หอมลอยมาแต่ไกล
“ทำไมเมล็ดแตงโมที่เป็นสีดำถึงกลายเป็นสีขาวแบบนี้ได้ล่ะ ? ”
หวังซิ่วจวี๋อดไม่ได้ที่จะถาม เธอเอื้อมมือไปคว้าเมล็ดแตงโม 5 รสมากำมือหนึ่ง บีบเปลือกเมล็ดแตงโมออกแล้วเอาเข้าปาก
วินาทีถัดมา สีหน้าตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“มันอร่อยมาก ! ”
เธอไม่เคยคิดว่าเมล็ดแตงโมคั่วจะอร่อยได้ขนาดนี้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
เมล็ดแตงโมที่เธอคั่วก่อนหน้านี้ไม่มีรสชาติอื่น นอกจากความเค็มเล็กน้อย
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายว่า “เมล็ดแตงโม 5 รสจะต้องเอาไปนึ่งก่อน ทำให้เกลือที่เคลือบเมล็ดกลายเป็นสีขาวหลังผ่านความร้อน”
หวังซิ่วจวี๋อุทานว่า “ไอ้หยา” แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี สิ่งที่เธอรู้ก็คือเมล็ดแตงโมรส 5 รสนั้นอร่อยจริง ๆ
“เมียจ๋า ลองชิมสิ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นจานให้ หลินเจียอินจึงหยิบไปหนึ่งกำมือ แล้วแกะกินไปหนึ่งเมล็ด
ว้าว !
อร่อยจริง ๆ !
ผิวของเมล็ดแตงโมมีความกรอบ เนื้อของเมล็ดแตงโมก็มีรสชาติเค็ม พร้อมด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มันอร่อยมาก ๆ
เธอไม่เคยกินเมล็ดแตงโมที่อร่อยเท่านี้มาก่อน
“เมล็ดแตงโมนี้อร่อยมาก คุณคิดว่าเราจะทำเงินได้มากไหมถ้าเราลงทุนทำขาย ? ”
หลินเจียอินกล่าวขณะที่กินเมล็ดแตงโมไปด้วย
จู่ ๆ เส้นสีดำก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงเสี่ยวไป๋ ภรรยาของเขาเริ่มจะหลงเงินมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเขาจะทำเมนูไหนก็ตามที่อร่อย ความคิดแรกของเธอคือ ‘ขายมัน’
รู้หรือไม่ว่าการคั่วเมล็ดแตงโม 5 รสนั้นยากมาก ?
ที่นั่น เจียงไห่หยางก็กินเมล็ดแตงโม 5 รสด้วย หลังจากฟังคำพูดของลูกสะใภ้แล้ว เขาก็พยักหน้าซ้ำ ๆ “เจียอินพูดถูก เมล็ดแตงโมอร่อยมาก จะต้องขายดีแน่นอน ! ”
หวังซิ่วจวี๋ยังกล่าวอีกว่า “ตอนนี้เป็นเดือนกรกฎาคมพอดี เมล็ดแตงโมน่าจะสุกเร็ว ๆ นี้ เราสามารถไปซื้อเมล็ดแตงโมใหม่พวกนั้นมาทำเมล็ดแตงโม 5 รสขาย”
เจียงเสี่ยวไป๋: ……
ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร พ่อแม่และภรรยาของเขาก็ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้เรียบร้อย
เจียงเสี่ยวไป๋เสียใจเล็กน้อย เขาแค่ไม่อยากให้แม่ต้องลำบากมายืนคั่วเมล็ดแตงโม เขาจึงรับปากว่าจะคั่วให้ แต่ใครจะรู้ว่าเมล็ดแตงโมคั่วจะอร่อยมาก……
เฮ้อ…
ถ้ารู้ก่อนหน้านี้คงไม่อวดตัว และคงไม่คั่วเมล็ดแตงโม 5 รสให้พวกเขาลองชิมหรอก
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ยังไม่จบ
ในตอนนั้น เจียงไห่หยางก็พูดออกมาอย่างรวดเร็ว “ถั่วลิสงก็อร่อยมากเหมือนกัน ! ”
“จริง ถั่วลิสงคั่วอร่อยมาก ! ” หวังซิ่วจวี๋กล่าว
“ถ้าอย่างนั้น เราก็คั่วถั่วลิสง 5 รสขายด้วยสิ ! ” หลินเจียอินพูดด้วยความตื่นเต้น
หวังซิ่วจวี๋กล่าวว่า “งั้นเราลองทำเมล็ดแตงโม 5 รสขายในเดือนกรกฎาคม และเมื่อเก็บเกี่ยวถั่วลิสงในเดือนกันยายน เราก็ทำถั่วลิสง 5 รสขายต่อ……”
ระหว่างกินเมล็ดแตงโมคั่วอยู่นั้น ทั้งสามคนก็พูดคุยกันถึงธุรกิจเมล็ดแตงโม 5 รสและถั่วลิสง 5 รสที่จะมีในอนาคต ยิ่งคุยกันเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้น
เมล็ดแตงโม 5 รสและถั่วลิสง 5 รสอย่างละจานถูกทั้งสามคนกินอย่างรวดเร็ว
“ไปเอามาอีกสองจานสิ ! ”
หลินเจียอินยื่นจานเปล่าสองใบให้เจียงเสี่ยวไป๋ จากนั้นเธอก็หันไปพูดคุยกับพ่อปู่และแม่ย่าของเธอต่อ
เจียงเสี่ยวไป๋: ……
พรุ่งนี้มีแขกมาและต้องยุ่งทั้งวัน ตอนนี้มันเที่ยงคืนแล้ว ทำไมยังไม่ไปนอนกันอีก ?
ทำไมยังคุยกันอยู่ ?
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกขัดใจมาก
แต่อย่างไรก็ตาม สามคนนี้คือพ่อแม่และภรรยาของเขา เขาไม่สามารถทำให้ใครขุ่นเคืองได้เลย
เขาจึงทำได้แต่เชื่อฟัง และเดินไปหยิบเมล็ดแตงโมมาให้พวกเขาอีกสองจานใหญ่
เจียงไห่หยางและอีกสองคนยังคงกินเมล็ดแตงโมและพูดคุยกันต่อไป ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ที่รู้สึกเบื่อจึงเอื้อมมือไปหยิบเมล็ดแตงโมมากำหนึ่ง
เมล็ดแตงโมหรือที่รู้จักกันในชื่อผีมือ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้อยากกินมัน แต่ตราบใดที่มีเมล็ดแตงโมวางอยู่ตรงหน้า ก็มักจะอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิบมันมากิน
สินค้าชนิดนี้ถือว่าตีตลาดได้ดีมาก
เอาล่ะ !
เจียงเสี่ยวไป๋ยอมรับว่าเขาเองก็ถูกล่อลวงจากรสชาติของมันไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม โรงงานหลายแห่งได้เปิดแล้ว ตอนแรกเขาไม่ได้คิดที่จะเปิดโรงงานอะไรเพิ่มอีกในเร็ว ๆ นี้
แต่ตอนนี้ พอหลังจากช่วงเวลาที่วุ่นวายนี้จบลง เขาว่าจะเปิดโรงงานเมล็ดแตงโม 5 รส
เพียงแต่ว่ายังไม่มีใครจะมาเป็นผู้จัดการให้กับโรงงานนี้ได้
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
ในปี 1983 ต่างจากในยุคหลังที่มหาวิทยาลัยได้มีการเปิดสอนสาขาวิชาเอกการจัดการและสาขาวิชาการตลาด นอกจากนี้ยังมีบริษัทและวิสาหกิจขนาดใหญ่ในสังคมที่พอจะมีคนที่มีความสามารถด้านการจัดการมากมาย
แต่ตอนนี้เกือบทุกคนยังไม่เคยสัมผัสกับการตลาด ทุกคนมีรากฐานเป็นศูนย์ และต้องมีการปลูกฝังตั้งแต่เริ่มต้นเท่านั้น