ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - ตอนที่ 1782 กลับบ้าน
ฝนตกไม่หนัก แต่ว่ากินเวลาค่อนข้างนาน ที่ดินในฟาร์มเริ่มอ่อนนุ่ม ต้นไม่เริ่มเกิดการผลัดใบ ร่วงลงเป็นพื้นดินอีกชั้น แบบนี้ทำให้คนที่เดินไปมารู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนชายหาด แต่ว่าไม่สะอาดเท่า
ที่แคนาดามีงูอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเด็กทั้งสองเดินถือตะกร้าเข้าไปข้างใน ฉินสือโอวก็มองรอบๆ เพื่อระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
นอกจากไม้ที่ผุพังแล้ว สถานที่ที่มีต้นไม้ใบหญ้าสุมกองรวมกันก็เหมาะที่จะเป็นที่เจริญเติบโตของเห็ดฟาง เมื่อไม่ต้องเจอเข้ากับแสงแดด หัวของเห็ดฟางพวกนี้จะขาวราวหิมะพวกมันเติบโตขึ้นจากพื้นที่ละต้นๆ ตั๋วตั่วและเถียนกวาร้องออกมาอย่างดีใจแล้ว แล้วกระโดดนั่งยองๆ เพื่อเริ่มเก็บเห็ดฟาง
ในระหว่างนั้นพวกเขาไม่เจองูพิษเลย เจอเพียงกระต่ายสองตัวเท่านั้น กระต่ายที่ฟาร์มปกติแล้วจะเป็นกระต่ายสีเทา พวกมันกระโดดไปมาในป่า หลังจากนั้นอีกตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นขี่อีกแล้ว จากนั้นพวกมันก็เริ่มกิจกรรมกันราวกับไม่รู้ว่ามีคนอยู่แถวนี้
เถียนกวาและตั๋วตั่วมองไปยังกระต่ายที่มีขนาดยาวสิบกว่าเมตร กระต่ายทั้งสองก็ไม่ได้กลัวพวกเธอ แต่ว่าฉินสือโอวคาดว่าพวกมันกำลังบรรเลงบทเพลงแห่งรักกันอยู่จึงไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบๆ อย่าว่าแต่คนสามคนอยู่ที่นี่เลย มีเสื้อสามตัวพวกมันก็ไม่กลัว
“กระต่าย” เถียนกวาชี้ไปยังกระต่ายทั้งสองตัวและร้องออกมาอย่างดีใจ
ฉินสือโอวหยิบก้อนหินขึ้นมาจากพื้น เขาโยนมันไปข้างหน้าเบาๆ พระเจ้า กิจกรรมของพวกมันทั้งสองตัวจะให้เด็กหญิงทั้งสองคนนี้เห็นไม่ได้ มีมันค่อนข้างประเจิดประเจ้อเกินไป
ก้อนหินก้อนนั้นเกือบจะโดนตัวของกระต่ายทั้งสอง ตอนนั้นเองพวกมันจึงรู้สึกกลัวขึ้นมา พวกมันกระโดดออกจากกัน คุณชายฉินยืนอมอยู่ที่ด้านหลัง เจ้ากระต่ายพวกนี้คงไม่ได้ถูกเขาทำให้ตกใจกลัวขนาดนี้หรอกมั้ง?
เขาหยิบตะกร้าทั้งสองอันที่เต็มไปด้วยเห็ดฟางขึ้นมา ฉินสือโอวบอกเด็กทั้งสองว่าพอแล้ว จากนั้นก็พาเด็กๆ ออกมา ตั๋วตั่วมองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “คุณพ่อ ยังมีเห็ดอยู่อีกเยอะเลย พวกเราไปเก็บต่อดีไหมคะ?”
ฉินสือโอวลูบหัวเล็กๆ ของตั๋วตั่วพลางพูดว่า “ไม่แล้วล่ะ ต้องเหลือพวกมันไว้บ้าง ถ้าหากว่าพวกเราเก็บไปจนหมด ต่อไปก็จะไม่มีอะไรให้เก็บนะ”
ตั๋วตั่วพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ เธอพูดว่า “อ้อ งั้นพวกเรากลับกันเถอะค่ะ ทิ้งพวกมันไว้ วันหลังตั๋วตั่วจะพาน้องชายมาเก็บเห็ด”
เถียนกวาไม่ยอม เธอจับมือเล็กๆ ของตั๋งตั่วเพื่อบอกว่าไม่ใช่เธอไป ตั๋วตั่วหัวเราะออกมาพลางพูดว่า “พวกเรากลับกันเถอะ เดี๋ยวพี่จะพาเธอไปดูลูกแกะดีไหม? ไปดูแกะและลูกหมาที่บ้านของลุงที่อยู่ใกล้ๆ พวกมันน่ารักมากเลยนะ เธอยังไม่เคยเจอแน่นอน”
เมื่อได้ยินว่ามีของเล่นใหม่ เถียนกวาก็รีบวางเห็ดฟางลงทันที จากนั้นก็วิ่งกระโดดโลดเต้นออกจากป่าไป
หลังจากที่ฉินสือโอวนำเห็ดฟางมา เหมาเหว่ยหลงก็ถามว่าต้องทำอย่างไร ฉินสือโอวสาธิตให้ดู โดยการล้างเห็ดให้สะอาดและผ่าครึ่ง จากนั้นก็รอให้น้ำมันเดือด แล้วผัดด้วยต้นหอม ขิง และกระเทียมก่อนจนหอม แล้วจึงใส่เห็ดฟางลงไป
“ง่ายขนาดนี้ อร่อยแน่เหรอ?” เหมาเหว่ยหลงถามออกมาด้วยความสงสัย
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “ทานแล้วไม่ตายก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ? แกอ้วนขนาดนี้ยังอยากจะทานของอร่อยๆ เยอะกว่านี้อีกเหรอ”
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะหึหึขึ้นมา เมื่อครู่เขากลับมาดูแล้ว หลังจากเทียบกับรูปของเห็ดในอินเทอร์เน็ตเขาก็สามารถยืนยันชนิดของเห็ดนี้ได้ และเข้าใจคุณค่าทางโภชนาการของเห็ดฟาง ตามตำราของทางตะวันตกเห็ดฟางมีกรดอะมิโนค่อนข้างมาก และสำหรับตำราตะวันออกพวกมันสามารถบำรุงม้ามและฉี บำรุงธาตุหยินหยาง ปกป้องตับและกระเพาะอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารและเป็นตัวยาด้วย
เห็ดฟางนั้นแตกต่างจากเห็ดธรรมดา เมื่อพวกมันโดนความร้อนพวกมันจะนิ่ม เพราะว่าพวกมันมีรสชาติอร่อยที่โดดเด่น จึงไม่จำเป็นต้องปรุงอะไรเพิ่ม แค่โรยเหลือลงไปก็ใช้ได้แล้ว
เหมาเหว่ยหลงปัดเห็ดฟางไปมา เห็ดฟางเริ่มเปลี่ยนมามันมากขึ้น ยิ่งน้ำมันในกระทะมีมากขึ้นเท่าไร เห็ดฟางก็มีขนาดหดเล็กลงเท่านั้น จากลักษณะของมันดูแล้วยับยู่ยี่เป็นอย่างมาก แค่เมื่อเหมาเหว่ยหลงชิมไปหนึ่งคำ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย เขายกนิ้วให้แล้วพูดออกมาด้วยความดีใจว่า “อร่อย รสชาติใช้ได้เลย!”
ฉินสือโอวลองชิมด้วยหนึ่งคำ รสชาติของมันแตกต่างไปจากตอนเด็กๆ แต่ว่ากลิ่นหอมของมันยังคงเข้มข้น เมื่อโรยเกลือลงไปกินก็รับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย
เห็ดฟางทอดนั้นเข้าได้ดีกับบะหมี่ เหมาเหว่ยหลงมีมักกะโรนีอยู่ในตู้เย็น อาหารเย็นวันนี้เขาจะทำมักกะโรนีชามใหญ่ ทานกับเห็ดฟางทอด แต่ละคนทานอาหารกันอย่างมีความสุข แม้แต่แบล็คไนฟ์และบีบีซวงทั้งสองคนที่ไม่ชอบทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ยังเอ่ยปากชมว่าอร่อย
เวลาผ่านไปอีกสองวัน เข้าสู่กลางเดือนกันยายน ฉินสือโอวและวินนี่ก็พาเถียนกวากลับบ้าน เถียนกวาและตั๋วตั่วเล่นกันอย่างสนุกสนาน เธอไม่ยอมกลับบ้าน ตอนแรกเธอไม่รู้ว่าจะถูกพากลับบ้าน จึงขึ้นไปนั่งรอบนเฮลิคอปเตอร์ แต่เมื่อเห็นว่าตั๋วตั่วไม่ขึ้นมา เธอก็เริ่มร้อนรน เธอเดินมานั่งยองๆ ที่ริมประตูและโบกมือให้ตั๋วตั่วพลางพูดว่า “พี่ ไปกัน พี่ ไปกัน!”
ตั๋วตั่วยิ้มและโบกมือให้เธอ และตะโกนตอบกลับว่า “เถียนกวาไปก่อนเลย เดี๋ยวพี่จะไปหาเถียนกวาทีหลัง”
แม้ว่าจะยิ้มอยู่ แต่สีหน้าของตั๋วตั่วก็ดูไม่ดีเลย อย่างไรก็ตามเวลาอยู่ที่ฟาร์มเธอค่อนข้างเหงา ไม่ง่ายเลยที่จะหาคนมาเล่นด้วย เธอไม่ชอบการจากลาแบบนี้เลย แต่ว่าเธอนั้นเป็นเด็กดี ในขณะที่เสียใจอยู่นั้นเธอก็ยิ้มออกมาได้ รอยยิ้มนั้นทำให้ฉินสือโอวไม่สามารถฝืนยิ้มออกมาได้
เด็กน้อยไม่ยอม เถียนกวาตะโกนร้องเรียกบอกว่าจะอยู่กับตั๋วตั่ว ลูกชายคนเล็กของเหมาเหว่ยหลงจ้องทองภาพนั้นด้วยความสงสัย คาดว่าเขายังไม่เข้าใจว่าพี่สาวของตัวเองนั้นมีอะไรดี ทำไมพี่สาวคนเล็กที่เอาแต่ใจคนนี้ถึงได้ชอบเล่นกับเธอ
คำปลอบโยนของวินนี่นั้นไม่ได้ผล วิธีสุดท้ายก็คือ ให้เถียนกวาเข้าสู่อ้อมกอดของตั๋วตั่ว แล้วพวกเขาจะกลับไปบ้านกันเอง แบบนี้เด็กน้อยก็ยิ่งร้อนรนเข้าไปใหญ่ เธอร้องไห้อยากจะอยู่กับวินนี่ ท้ายที่สุดแล้วมือข้างหนึ่งก็จับวินนี่ อีกข้างหนึ่งก็จับตั๋วตั่ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยมือ
ไม่มีทางอื่น ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงพูดคุยกับตั๋วตั่ว บอกว่าให้ไปอยู่ที่ฟาร์มปลาสักพัก ตั๋วตั่วโตแล้ว ไม่ต้องคอยมีผู้ปกครองดูแลมากขนาดนั้นก็ได้ เมื่อเห็นว่าหลิวซูเหยียนและเหมาเหว่ยหลงเห็นด้วย เธอจึงเข้าไปเก็บตุ๊กตาบาร์บี้ และลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่เหมาเหว่ยหลงซื้อให้ออกมา และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับเถียนกวา
เถียนกวาและตั๋วตั่วนั่งอยู่ด้วยกันที่เบาะหลัง ดวงตากลมโตของเถียนกวยังมีน้ำตาเอ่อล้นอยู่ หลังจากที่ฉินสือโอวมองไปด้านหลังเขาก็พูดกับวินนี่ว่า “คุณดูสิ ที่รัก เด็กสองคนนี้เหมือนกับหู่จือและเป้าจือตอนที่เจอเราครั้งแรกเลยเนอะ?”
วินนี่หยิบกล้องถ่ายรูปออกมา เธอถ่ายรูปพร้อมยิ้มออกมา “เหมือนจริงๆ ด้วยค่ะ”
หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์บินข้ามเมืองเล็กๆ และลงระดับลงแล้ว ฉินสือโอวก็มองออกไปข้างนอก เมื่อเห็นว่าบ้านเมืองอยู่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ถนนมีการตบแต่งด้วยต้นไม้อย่างแน่นหนา มีรถยนต์และรถม้าเคลื่อนที่ไปมาบนท้องถนน เขาก็รู้สึกสงบขึ้นมา
เมื่อใกล้ถึงฟาร์มปลา เขาก็เห็นกระเป๋าเป้ลอยไปมาแต่ไกล มันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก นับว่าพวกของเชอร์ลี่ย์ก็ยิ่งกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์สร้างแรงลมได้มหาศาล ถ้าหากว่ากระเป๋าเป้อยู่ใกล้กว่านี้ มันคงปลิวจนทำให้เฮลิคอปเตอร์เสียสมดุลไปอย่างแน่นอน!
อีกฝ่ายรู้ดีว่า เฮลิคอปเตอร์นี้จะบินไปข้างหลังอีกหน่อยจากนั้นก็จะลงจอด ฉินสือโอวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เพื่อดูว่าใครกันที่กล้าทำขนาดนี้ อันที่จริงแล้วเขาเดามาต้องเป็นกอร์ดอน นอกจากกอร์ดอนแล้วจะเป็นใครได้อีก?
ฉินสือโอวมองไปยังกอร์ดอนด้วยสายตาดุร้าย ปรากฏว่ามิเชลที่วิ่งออกมาหา แล้วโบกมือให้เขาอย่างดีใจพลางพูดว่า “ฉิน พี่วินนี่ ผมกลับมาแล้ว”
……………………………….
Related