ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 19 การตอบโต้
-มุมมองของครูทาคายานางิ-
อาโอโนะตัดสินใจแน่วแน่ เขาเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟัง
“คุณครูครับ คุณรู้ใช่ไหมครับว่าผมเคยคบกับมิยูกิ…อามาดะ มิยูกิ”
“อืม”
ก็คงจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์สินะ เพราะปัญหาส่วนใหญ่ของวัยรุ่นมักเริ่มจากเรื่องแบบนี้
“วันนั้นผมนัดมิยูกิไปเที่ยวกันในวันเกิดของผม วันที่ 27 สิงหาคม แต่เธอก็ส่งข้อความมาบอกว่ามาไม่ได้ แล้วตอนที่ผมเดินในเมือง ผมก็เห็นเธอกับอีกคนหนึ่งเดินจับมือกันอยู่ในย่านการค้า…”(TLN: เอ๊ะ ตอนแรกบอก 28 สิงหาไม่ไช่หรอ?)
พอได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกหดหู่จริงๆ
แปลว่ามิยูกินอกใจเขางั้นหรือ? คนคนนั้นคือคอนโดะ เอซของชมรมฟุตบอล เป็นเด็กที่สาวๆ ชื่นชอบมาก และได้ข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยชื่อดังด้านฟุตบอลด้วย ผลการเรียนก็ไม่ได้แย่นัก
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ใช่เด็กตัวอย่างที่ดี
พูดตรงๆแล้ว ในหมู่ครู เขามีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนัก ภายนอกเขาทำตัวเหมือนหนุ่มสดใสแห่งชมรมฟุตบอล แต่ความจริงแล้วมีปัญหาด้านความสัมพันธ์อยู่บ่อยครั้ง
และปัญหาที่น่ากังวลคือ เขามักใช้วิธีการแยบยลหลีกเลี่ยงความผิด
การนอกใจเป็นเรื่องผิดที่ไม่ควรทำ แต่ถ้าเป็นเพียงความสัมพันธ์ในวัยรุ่นที่ยังไม่ใช่คู่สมรส มันก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย
หากเป็นการนอกใจในชีวิตคู่ ก็ยังสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ แต่ถ้าเป็นแค่ความสัมพันธ์ของวัยรุ่น ก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย
แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำในฐานะมนุษย์ แต่นอกจากการนอกใจแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องความรุนแรง ยาเสพติด หรือขโมยที่ผิดกฎหมาย โรงเรียนเองก็ยากที่จะดำเนินการ
ปีที่แล้ว ตอนที่อาจารย์ที่ปรึกษาคนก่อนเคยเตือนเรื่องความสัมพันธ์ของเขา เขากลับโต้กลับมาว่า “ครูมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับเรื่องรักของนักเรียน?” เรื่องนี้ทำให้มีนักเรียนหลายคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์แย่เพราะเขา
หรือว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นแล้ว?
“ผมเลยเดินเข้าไปถามพวกเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วผมก็คว้าแขนมิยูกิไว้ ผมไม่ได้ตั้งใจบีบแรงขนาดนั้น แต่เธอกลับบอกว่ามันเจ็บ แล้วรุ่นพี่คนนั้นที่อยู่ข้างๆ เธอก็…”
อาโอโนลังเลใจ คล้ายกับว่าคำพูดนั้นติดคอ
การให้เด็กหนุ่มวัยรุ่นมาเล่าเรื่องอกหักให้ครูฟัง มันเป็นอะไรที่โหดร้ายอยู่ ฉันเกือบจะบอกเขาว่าไม่ต้องฝืนเล่าต่อ แต่แล้วเขาก็มองตรงมาที่ฉันแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ”
“เขาชกหน้าผม…แล้วเรียกผมว่าโรคจิต ตามตื๊อไม่เลิก…”
“ว่าไงนะ…”
ฉันถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขากำลังพูดอะไรอยู่กันแน่?
นี่มันไม่ใช่แค่การนอกใจแล้ว แต่กลายเป็นการใช้ความรุนแรงไปแล้ว
“หลังจากนั้น รุ่นพี่ก็ถามมิยูกิว่าจะเลือกใคร ระหว่างผมกับเขา แล้วเธอก็…”
อาโอโนะก้มหน้าสั่นไหวด้วยความเจ็บปวด
“เธอเลือกคอนโดะใช่ไหม?”
ทันทีที่ฉันพูดออกไป ฉันก็รู้สึกเสียใจทันที มันไม่ใช่สิ่งที่ควรถามกับคนที่กำลังทุกข์ใจแบบนี้
“ครับ…”
เห็นสภาพของอาโอโนะที่แทบจะร้องไห้ ฉันเองก็น้ำตาคลอ
“มันเจ็บปวดมากใช่ไหม ขอบคุณนะที่เล่าให้ฟัง”
จากสภาพของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลหลังจากที่ถูกชก และอาจจะพยายามปกปิดเรื่องนี้จากพ่อแม่ ถ้ามีหลักฐานจากหมอก็คงสามารถดำเนินการกับคอนโดะได้ทันที
แต่ถ้าไม่มีหลักฐาน คนอย่างคอนโดะที่มีความฉลาดแกมโกง ก็คงหาทางหลบเลี่ยงความผิดได้ง่ายๆ และอาจบิดเบือนว่า “ผมแค่ปกป้องแฟนจากการโดนรังควาน” หรือว่า “แค่แยกเขาออกมา แต่เขามโนเองว่าโดนชก” ฉันแทบจะเห็นภาพเขาพูดเลี่ยงความผิดด้วยรอยยิ้มได้เลย
ถ้าเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เราทำได้คงมีแต่รวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดและหาจุดอ่อนในคำพูดของเขาเพื่อลบล้างข้อแก้ตัวของเขา
“หลังจากนี้คงเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่แล้วล่ะ”
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการดูแลให้อาโอโนะสามารถใช้ชีวิตในโรงเรียนได้โดยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สภาพที่เขาต้องเผชิญกับความเกลียดชังจากเพื่อนในห้อง ถ้ายังต้องทนเรียนต่อไปอาจทำให้เขาเจ็บปวดในใจไปตลอดชีวิต การจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นคงไม่สมควรเลย
อาจารย์ใหญ่บอกว่า “การที่เหยื่อของการกลั่นแกล้งต้องลาออกหรือต้องหยุดเรียนไม่ใช่ทางแก้ไข และไม่ควรให้เขาเสียโอกาสในชั้นเรียน” เขาได้ขอให้ครูวิชาต่างๆ ช่วยปรับการเรียนและการบ้านให้ เพื่อไม่ให้การขาดเรียนกระทบผลการเรียนของอาโอโนะ แต่ยิ่งปล่อยปัญหานี้ไว้นานเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการผลักดันให้อาโอโนะต้องเจ็บปวด
“คุณครู ขอโทษครับที่ผมทำให้คุณต้องลำบากเพราะเรื่องของผม”
ทั้งๆ ที่เขาเองก็เจ็บปวดที่สุด แต่ก็ยังเป็นห่วงคนอื่น…
“ไม่หรอก อาโอโนะ นายคิดว่านี่เป็นปัญหาส่วนตัวของนายคนเดียวเหรอ? ไม่ใช่เลย นี่คือปัญหาของฉันในฐานะครู และยังเป็นปัญหาของโรงเรียนด้วย เพราะงั้น การที่ฉันและครูคนอื่นพยายามแก้ปัญหาให้นาย ไม่ใช่เรื่องลำบากใจ นอกจากนี้ นายเองก็ใจดีเกินไป”
“…”
เขามองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“มันเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่เพราะนายเป็นคนที่ใจดี คนรอบข้างก็เลยอยากให้นายพึ่งพาพวกเขาบ้างไง”
“จะดีเหรอครับ?”
“แน่นอน การที่เรารักใครสักคน มันเป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์ที่สุดอย่างหนึ่งเลยล่ะ แต่การถูกทำร้ายจากความรู้สึกนี้ มันทำให้ทั้งผู้ใหญ่เองก็รู้สึกพังทลายได้ นับประสาอะไรกับเด็กวัยรุ่นอย่างนาย เพราะงั้น เวลาที่รู้สึกทุกข์ใจ ก็พึ่งพาคนอื่นบ้างเถอะ จะเป็นฉันก็ได้ ครูมิซุย เพื่อนอย่างอิมาอิ ครอบครัว หรือพี่น้องก็ได้ เวลาที่เจ็บปวด ขอให้คิดถึงตัวเองเป็นสำคัญนะ ได้ไหม?”
แม้จะรู้สึกเขินอายที่พูดคำพูดที่ดูเป็นเด็กไปหน่อย แต่ฉันก็รู้สึกแน่วแน่ที่จะทุ่มเทให้กับการแก้ปัญหานี้