ผมถูกแฟนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนอกใจและถูกไส่ร้าย แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เป็นห่วงผมกลับเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 18 ความไว้ใจ
ครูก้มศีรษะขอโทษเป็นเวลานานกว่าหนึ่งนาที
ผมเองก็อดรู้สึกผิดไปด้วยไม่ได้
“ครูครับ เงยหน้าขึ้นเถอะครับ ผมเองก็ไม่ได้บอกครูแต่แรก แถมการที่ครูสังเกตเห็นปัญหาของผมได้เร็วขนาดนี้ ผมว่าสุดยอดจริงๆ ครับ…”
เมื่อผมรีบพูดแบบนั้น ครูค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ดูจริงใจ
“อาโอโนะ…ครูพอจะรู้ว่าเธอต้องเจอเรื่องยากลำบากมา เมื่อวานครูก็ได้ฟังเรื่องบางส่วนจากอิมาอิ เพราะฉะนั้น ครูอยากให้เธอค่อยๆ เล่าตามที่เธอสะดวก ไม่ต้องรีบก็ได้”
โดยทั่วไปแล้ว การเล่าเรื่องที่ลำบากใจอย่างเช่นเรื่องรักที่จบไม่สวยให้ครูฟังมันไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งไปกว่านั้น ผมโดนเพื่อนสมัยเด็กที่ไว้ใจด่าหาว่าเป็น “ผู้ชายโรคจิตที่ทำร้ายคนรัก” จนโดนบอกเลิก ความสัมพันธ์กับเพื่อนในห้องและเพื่อนชมรมก็ถูกตัดขาด แถมยังถูกกลั่นแกล้งอีกด้วย เรื่องแบบนี้ใครจะอยากเล่าให้ใครฟัง
แต่กับครูคนนี้…บางทีผมอาจจะเล่าให้ฟังก็ได้
อีกแค่ก้าวเดียว…แต่ผมก็ยังกลัว
ผมกลัวว่าถ้าผมเล่าให้ครูฟังแล้ว ครูจะต้องทำอะไรสักอย่าง และคนที่แกล้งผมอาจจะโกรธหนักกว่าเดิมหากรู้ว่าผมไป “ฟ้องครู” แล้วจะทำให้การกลั่นแกล้งรุนแรงขึ้นอีก
ครูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าผมกำลังอึดอัด จึงพูดขึ้น
“ขอโทษนะ อาโอโนะ ครูคงเร่งเธอมากไปหน่อย ถ้าไม่อยากเล่าวันนี้ก็ไม่เป็นไร รอให้เธอพร้อมก่อนก็ได้”
“…ขอโทษครับ”
“ไม่ต้องขอโทษเลย หิวน้ำไหม? จริงๆ แล้วโรงเรียนไม่อนุญาตหรอกนะ แต่วันนี้ครูจะพิเศษให้ เลือกเลยเธออยากได้อะไร?”
ครูพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“งั้น…ขอเป็นโคล่าแล้วกันครับ”
“โอเค งั้นรออยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะ”
“แต่ครูครับ ชั่วโมงแรกกำลังจะเริ่มแล้ว ครูไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ”
“ครูเตรียมการไว้แล้วล่ะ ชั่วโมงแรกวันนี้รองครูใหญ่จะเข้ามาสอนแทน ครูใหญ่น่ะเคยเป็นครูสอนประวัติศาสตร์มาก่อน ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดของโรงเรียนคือการดูแลเธอให้ดีที่สุด”
คำพูดของครูทำให้ผมรู้ว่าครูหลายคนได้เตรียมการและให้ความสำคัญกับผมจริงๆ ไม่ใช่แค่ครูอิวาอิเมื่อเช้า
ผมอดรู้สึกขอบคุณไม่ได้ แต่ก็ดูอ่อนแอที่ไม่กล้าพูดสิ่งที่ค้างอยู่ในใจ
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณตอนนี้ยังไม่ได้ โคล่ายังไม่มาเลย รอให้ครูกลับมาค่อยขอบคุณสิ” ครูหัวเราะแบบขี้เล่นก่อนเดินไป
——————————
“นี่ เธออยากได้โคล่าใช่ไหม?” ครูกลับมาพร้อมกระป๋องโคล่าที่เย็นชื่นใจในมือ
“ขอบคุณครับ”
“ช่วงนี้มันร้อนมาก ครูเองก็ขอฝ่าฝืนกฎงดน้ำตาลสักหน่อยแล้วกัน”
ครูพูดติดตลกพลางเปิดกระป๋องของตัวเอง ดื่มเหมือนเป็นพี่ชายใจดีมากกว่าจะเป็นครู
“ครูครับ ทำไมถึงเชื่อใจผมขนาดนี้ ทั้งที่ไม่มีใครเชื่อฟังคำพูดของผมเลยสักคน”
“ก็มีสองเหตุผล”
“สองเหตุผล?”
“ใช่ เหตุผลแรกคือ ช่วงนี้เพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่กำลังถูกข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงครอบงำจนเกิดอาการ ‘ตื่นตระหนก’ เหมือนกันหมด ครูที่เป็นผู้ใหญ่กว่าก็พอมองเห็นความวุ่นวายนี้เหมือนเวลาที่เห็นข่าวการโจมตีในอินเทอร์เน็ต คนเราพอเจอใครโดนว่าร้ายก็จะพุ่งใส่ร้ายและคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกโดยไม่สนใจเรื่องจริงเลย”
“ครับ…”
นั่นแหละสถานการณ์ที่ผมกำลังเผชิญ
“แถมหลายครั้งต้นตอของปัญหาก็ไม่ได้มีอะไรเลย แต่คนก็ยังตามกระแสว่าร้ายกันไปโดยไม่ทันรู้ตัวว่าตัวเองกำลังสร้างความเจ็บปวดให้ใครอยู่ คนที่กลั่นแกล้งเธอก็เป็นแบบนั้นแหละ”
“…แต่ถ้าผมเป็นคนไม่ดีอย่างข่าวลือนั่นขึ้นมาจริงๆ ล่ะครับ?”
“นั่นก็เป็นไปได้ แต่มันเกี่ยวกับเหตุผลข้อที่สอง ครูมองว่าเธอไม่น่าใช่คนที่จะทำเรื่องรุนแรงใส่ใครถึงแม้จะมีปัญหาหนักๆ ก็เถอะ อาโอโนะ เธอไม่ใช่คนที่จะโทษคนอื่นน่ะสิ เวลามีเรื่องไม่ดี เธอมักจะโทษตัวเองมากกว่า ซึ่งคนแบบนั้นไม่น่าจะเหมาะจะเป็นเป้าหมายให้คนอื่นเกลียด ครูอาจจะพูดง่ายๆ ว่า ‘สัญชาตญาณของครู’ น่ะ”
ครูพูดพร้อมยกกระป๋องโคล่าขึ้นดื่ม ราวกับจะเบี่ยงประเด็น แต่ผมรู้ดีว่าครูเป็นคนที่คิดไวและรอบคอบมาก
TLN: เพราะงั้น “อย่าฟังความข้างเดียว” นะครับ