ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary - ตอนที่ 326 ผมไม่ได้ดูเหมือนจะหนีให้ห่างจากปัญหาได้
- Home
- All Mangas
- ผมตื่นขึ้นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด ผมเลยเป็นทหารรับจ้างอวกาศ — I Woke Up Piloting the Strongest Starship, so I Became a Space Mercenary
- ตอนที่ 326 ผมไม่ได้ดูเหมือนจะหนีให้ห่างจากปัญหาได้
“ยินดีต้อนรับ…… มีอะไรท่าน?”
ผมตั้งการเตรียมป้องกันและให้แน่ใจว่าผมอยู่ท่าที่ชักปืนเลเซอร์และดาบได้ทันทีถ้าจำเป็นเมื่อเราเข้าร้าน และผู้จัดการร้านวัยกลางคนรู้ทันที
“ท่านลอร์ด มันไม่ได้ดูเหมือนมาจากตึกนี้”
คูกิดมอากาศและบอกที่เธอรู้ด้วยการกระซิบ
“เข้าใจแล้ว เอ่อ มันมีสถานการณ์ เพื่อนผมที่นี่พูดว่าเธอได้กลิ่นเลือด ผมระวังตัวเพราะผมคิดว่ามีปัญหาข้างในร้านนี้”
“กลิ่นเลือดเหรอครับ? ช่างฟังดูอันตราย ข้างในนี้ควรปลอดภัย แต่…… ให้ผมได้เรียกยามกันไว้ก่อน แม้ว่ามันไม่ได้เป็นเลือดจริงๆ กลิ่นแปลกๆยังเป็นที่ต้องกังวล”
“ใช่ครับ นั่นจะดีที่สุด”
ไม่จำเป็นต้องพูดว่าภายในโคโลนีมันปิดตายและอยู่ในบรรยากาศล็อกสูญญากาศ แก๊ซพิษและโรคติดต่ออะไรแบบนั้นนำไปสู่การที่โคโลนีถูกทำลายได้ ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปได้ว่าศพที่มีโรคอยู่และมันไม่ต้องคิดเลย แน่นอน ว่าการระบายอากาศในโคโลนีมันค่อนข้างทั่วถึง และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นยามและทีมกำจัดมลภาวะจะรีบมาจุดที่มีปัญหาทันที กลิ่นเลือดที่คูกิตรวจจับได้เป็นปัญหาใหญ่ของโคโลนีแบบนี้ในด้านความสะอาดของสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ
“ครับ แน่นอน ลูกค้าได้กลิ่นบางอย่างที่ต้องสงสัยว่าเป็นเลือด ครับ ขอบคุณ”
มันดูเหมือนคนดูร้านติดต่อยามผ่านเครื่องปลายทางข้อมูลทันที และยามกับทีมกำจัดมลภาวะจะถูกส่งมาบริเวณนี้ในไม่นาน ผมไม่คิดว่าการตอบสนองจะเร็วขนาดนี้ถ้าหลักฐานยังเป็นแค่การรายงาน ดังนั้นน่าจะมีบางอย่างกับข้อมูลตรวจคุณภาพอากาศ หรืออพวกเขาจับบางอย่างได้บนกล้องวงจรปิด
“ไม่มีอะไรที่เราทำได้บนฝั่งเรา เรามาคุยธุระดีมั้ยครับ?”
“เป็นพ่อค้าจริงๆนะครับคุณ”
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติกับคำชม เราเตรียมตัวของไว้แแล้ว ดังนั้นเองได้โปรดตามผมมาครับ”
หลังจากพูดอย่างนั้น คนดูร้านเชิญเราไปที่หลังร้าน
เมื่อผมหันกลับไปหาคูกิกันไว้ก่อน เธอยังขมวดคิ้วและหูส่ายใจไม่นิ่ง
“เป็นอะไรมั้ย?”
“ไม่เป็นค่ะ มันดูเหมือนตัวตนชั่วร้ายไปแล้วสำหรับตอนนี้”
“ตัวตนชั่วราย……”
ผมไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวตนชั่วร้ายนี้มันเป็นอะไรกัน ซึ่งทำให้ผมไม่สบายใจ อืม ผมว่านี่ไม่ใช่เวลาถามรายละเอียดเธอ เพราะผมไม่คิดว่าเธอชอบให้คนดูร้านได้ยินเกี่ยวกับอะไรที่เธอพูด
“ฉันยังไม่รู้เลยว่าตัวตนชั่วร้ายนั้นมันอะไรกัน แต่มาพร้อมการป้องกันเผื่อไว้ก่อน ฉันอยากให้เธออธิบายรายละเอียดเรื่องมันทีหลัง”
“ค่ะ ได้โปรดไว้ใจหนูได้เลยค่ะ หนูจะเตือนท่านทันทีถ้ามีอันตราย”
คูกิพยักหน้าระหว่างมีสีหน้าจริงจัง แต่มันจะดีกว่าถ้าเราเลี่ยงไม่เข้าไปเกี่ยวได้…… อืม ผมว่านั่นเป็นไปไม่ได้อยู่ดี ใช่ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ตัดสินจากอะไรทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอดีต มันหลีกลี้ไม่ได้ แม้ว่าเราพยายามหลีกแล้วลี้แล้วมันยังเลี้ยวหลบล็อกหลบเข้ามาปะหน้าเราอยู่ดี
“ทางนี้ครับ ได้โปรด เราเชื่อว่าเราสามารถทำมันได้ตรงๆกับที่ท่านออกแบบไว้เลย ท่านคิดอย่างไรครับท่าน?”
“ใช่ มันดูยอดเยี่ยม มันสร้างเหมือนแบบได้สมบูรณ์มาก”
ห้องที่เราตามเขามาเป็นห้องที่พวกเขาเอาข้อมูลการเคลื่อนไหวของพ.อ.เซเรน่าและผม และอะไรที่ทักเราข้างในคือเกราะพลังจักรกลที่ดูเหมือนที่ผมออกแบบตรงๆ มันเป็นการออกแบบสีดำสนิทเหมือนนินจา
ตอนนี้เมื่อผมดูดีๆ เกราะเล็กกว่าริคิชิสองเท่า ผมคิดว่ามันดูมีสไตล์
แว่นยังสีดำอยู่เพราะมันยังไม่เปิด แต่เมื่อเกราะพลังจักรกลเปิดมันส่งแสงสีแดง แน่นอนมันก็ปิดได้เมื่อเข้าโหมดซ่อน สำหรับสีของตัวเกราะเองมันติดตั้งด้วยระบบคาเมเลี่ยน มันเลยเปลี่ยนเป็นสีอะไรก็ได้
เกราะผอมกว่าริคิชิ แต่มันยังมีการป้องกันมากกว่าเกราะพลังจักรกลทั่วไปและมีการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่สุยอด พลังการยิงระยะไกลมันต่ำ เพราะมันไม่ได้ติดตั้งด้วยอาวุธติดถาวร แต่มันสามารถถืออาวุธหนักสำหรับเกราะพลังจักรกล และอาวุธทหารราบทั่วไปได้ และเหนือทั้งหมดนั้น มันใช้ดาบได้ มันเลยไม่แพ้ริคิชิในแง่ความสามารถโจมตีแม้ว่ามันขาดอาวุธระยะไกลแบบติดตั้ง มันก็มีระบบเสริมพลังที่เพิ่มความสามารถต่อสู้โดยรวม
“คูกิ ถือปืนเลเซอร์กับดาบให้ที”
“ค่ะ ให้หนูถือมันไว้ให้ท่าน”
ผมปลดเข็มขัดอเนกประสงค์ที่เป็นทั้งเข็มขัดดาบและเข็มขัดซองปืนจากเอวผมและส่งให้คูกิจากนั้นผมเดินเข้าไปหลังเกราะพลังจักรกลและจะเข้ามันทั้งๆที่ยังใส่เสื้อ มันรู้จักข้อมูลชีวภาพผมทันทีและเปิดให้ผมเข้าอัตโนมัติ
“มันใส่สบายและรู้สึกค่อนข้างเบา มันเหมือนฉันไม่ได้ใส่เกราะอะไรแม้แต่นิดเดียวเลย”
“นั่นเพราะเกราะทำมาให้รัดรูปเข้ากับตัวแน่นๆครับท่านลูกค้า ระบบตอบสนองที่ใช้ประโยชน์ข้อมูลการเคลื่อนไหวก็ทำงานอยู่ด้วยเช่นกัน มันเลยควรรู้สึกเหมือนใส่สบายมาก”
“เข้าใจแล้ว…… นี่น่าทึ่งไปเลย คูกิ ขอดาบกับปืนที”
“ค่ะ ท่านลอร์ด”
ผมรับดาบจากคูกิและลองติดดาบที่เอว, ไหล่, และจุดเก็บอาวุธที่หลัง ผมทำท่าชักดาบออกจากจุดเก็บอาวุธซ้ำๆเพื่อดูความรู้สึก
ฟุมุ รู้สึกยอดเยี่ยม
ไม่ว่าเมื่อไหล่ที่ผมชักดาบออกมา จุดเก็บอาวุธวางตำแหน่งตัวมันให้ทำท่าได้อย่างราบรื่นและง่ายดายเท่าที่เป็นไปได้ ปืนเลเซอร์ผมสามารถติดไว้ที่เอวบนเกราะได้ หรือต้นขาก็ได้
“ฟุมุ เมื่อพิจารณาว่ามันใช้การพรางตา มันดูเหมือนใช้จุดเก็บอาวุธที่ไหล่ดีกว่า”
“แน่นอนครับ ผมก็คิดว่ามันดีที่สุดที่จะใช้จุดเก็บอาวุธเพื่อเก็บดาบยกเว้นว่าจำเป็นต้องติดตั้งอาวุธหนักเพิ่มเติ่ม
จุดเก็บอาวุธถูกติดตั้งประมาณตำแหน่งกระดูกไหล่ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะดึงดาบออกจุดเก็บอาวุธแขนกลเคลื่อนที่เพื่อพาด้ามดาบมาให้ถึงตำแหน่งที่หยิบง่าย พวกมันค่อนข้างสะดวก
ขณะผมตรวจดูเกราะพลังงานจักรกลใหม่ หูคูคิตั้งตรง
“ท่านลอร์ด ตัวตนชั่วร้ายนั้นกำลังเข้าหาที่นี่ค่ะ”
“โอ้ใช่สิ…… แล้วฉันก็หวังว่าเราลี้ปัญหาได้แล้วครั้งนี้ แง่หนึ่งก็ว่าเวลาดีเหมือนกัน”
ผมใช้ ‘ตัวตน’ นั้นเป็นการตรวจการปฏิบัติการพื้นฐานและทำการปรับเพิ่มเติมหลังจากนั้นได้ คนดูร้านเอียงหัวเมื่อเขาได้ยินเราคุยกัน
“–ทั้งสองท่านกำลังพูดอะไรครับ? ผมมีความรู้สึกไม่ดีว่าจะมีบางอย่างไม่ถูกต้องสุดๆเกิดขึ้นแล้วสิ”
“ผมจะบอกคุณไว้ล่วงหน้า คุณครับ ผมไม่ผิดเลยนะ”
ณ เวลาเดียวกันที่ผมตอบโต้แสงสีเขียวกระพริบในมุมห้อง และวัสดุโครงสร้างหายไปทันที ผมไม่รู้สึกเพราะผมใส่เกราะพลังจักรกล แต่ตัดสินจากคูกิและคนดูร้านมันดูเหมือนลมร้อนกำลังเป่าแรงจากทางรูใหม่ที่เพิ่งเปิดในกำแพง
“อ-อะไร……!?”
“ถ้ามันไม่ใช่ระเบิดมือพลาสมาก็เครื่องยิงพลาสมา ……มันอันตราย รีบวิ่งไปกลางร้านเถอะสองคน
ทันทีที่ผมพูด บางอย่างกระโดดเข้ามาผ่านรูในกำแพง
“นั่นอะไรกันเนี่ย……?”
มันเป็นลูกกลมๆตัดสินจากความเงา มันควรเป็นบางอย่างที่เป็นเหล็ก ผมบอกขนาดจริงไม่ได้…… ค่อนข้างใหญ่ มันเป็นวัตถุกลมๆที่ตั้งสูง 1.5 เมตร จากการอ่านเซ็นเซอร์ของเกราะพลังจักรกล อุณหภูมิมันค่อนข้างร้อน
“ท่านลอร์ด นั่นเป็นตัวตนชั่วร้าย”
“ดูเหมือนเป็นอย่างนั้น แต่มันเป็นตัวอะไรกัน?”
ลูกกลมๆสีดำตั้งนิ่งๆ ไม่สิ จริงๆแล้วมันขยับ ตัวลูกกลมๆกลายรูป และขายาวเรียวๆมากมายคล้ายขาแมงมุมยื่นออกมาจากมัน ไม่ พวกมันไม่ได้คล้าย เจ้าสิ่งนี้จริงๆแล้วมันเปลี่ยนรูปเป็นแมงมุม แมงมุมเหล็กขนาดใหญ่ยักษ์สีดำ
“มันเป็นหุ่นยนต์ต่อสู้จากผู้ผลิตบ้าๆเหรอ?”
โคโลนีวินดาสเตอร์ติอุสเป็นโคโลนีอู่ต่อยานที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ บริษัทผลิตอาวุธหลายขนาดกับตั้งร้านอยู่ในนี้ด้วยอย่างเป็นธรรมชาติ และบางร้านก็เป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ต่อสู้
“ไม่ค่ะ นั่น…… หนูเชื่อว่าจริงๆแล้วนั่นเป็นสิ่งมีชีวิต”
“นั่นอ่ะนะสิ่งมีชีวิต? ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย!”
“หนูตรวจจับความถี่จิตออกมาจากมันได้ค่ะ หนูเลยเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง”
ถ้านั่นจริง ถ้าอย่างนั้นมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่โดนระเบิดพลาสมาหรือเครื่องยิงพลาสมาตรงๆยังสบาย
“ท่านลอร์ด มันจะบุกแล้วค่ะ!”
“อ้า บัดซบ พวกเธอถอย!”
ขณะสิ่งมีชีวิตแมงมุมเหล็กพุ่งเข้าใส่ผมระหว่างทำเสียงน่ากลัว ผมชักดาบมาถือ แต่มันดูเหมือนท่าจะยาก
ดาบผมจะมีประสิทธิภาพไหม? ผมไม่แน่ใจ แต่มีแค่คนโง่เท่านั้นที่พุ่งใส่บางอย่างแบบนั้นจากข้างหน้าตรงๆ
แมงมุมเหล็กยกขาหน้าแหลมๆและข่วนมันลงใส่ผม
“เซ่!”
ผมเล็งแล้วฟันใส่ข้อต่อที่ขาหน้าที่กำลังเหวี่ยงใส่ผม มันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่โจมตีจุดแบบนั้นแทนที่เหลือของร่างสิ่งมีชีวิตที่ดูเกราะหนา
“……!?”
“ได้ซี่!”
แม้ว่ามันเข้ายาก ผมฟันเข้าตัดขาหน้าสิ่งมีชีวิตตรงข้อต่อสำเร็จ เมื่อคิดถึงความคมของดาบ มันดูเหมือนร่างสิ่งมีชีวิตไม่ทนก็ทนกว่าเกราะมาตรฐานของยานอวกาศ และมันดูค่อนข้างอยากที่จะฟันตัวที่ผิวเป็นผิวกลม
“……!”
บางทีในที่สุดก็คิดว่าผมเป็นภัยร้าย แมงมุมเหล็กยกตัวและเหวี่งขาใส่ห้าขา เร็วมาก! อย่างไรก็ตามไม่ใช่บางอย่างที่ผมรับมือไม่ได้
“–ฮัพ!”
ผมกลั้นหายใจ และโลกช้าลงถึงคลาน ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ผมจะสับเจ้านี่เป็นชิ้นๆในพริบตา
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu