ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 526 เราไม่ได้ต้องการหุ้น
ถังหย่าเห็นด้วยกับเซียวหงอี้ เธอยอมรับถังเจิ้นหวาเป็นบิดาเพราะท่านคือบิดาของเธอจริงๆ ไม่ใช่เพราะท่านมีเงินมากมายให้เธอ นอกจากนี้เธอก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ถึงแม้เซียวกรุปจะเทียบไม่ได้กับเอ็มไพร์กรุป แต่เธอก็พอใจในสิ่งที่มีอยู่
ถังซีไม่คาดคิดว่าจะถูกพวกเขาปฏิเสธอย่างหนักแน่นเช่นนี้ เธอมองหน้าคนทั้งสองแล้วถอนหายใจ “แต่คุณลุงคุณป้าจะไม่ถามความคิดเห็นของโหรวโหรวก่อนเหรอคะ บางทีเธออาจเต็มใจรับหุ้นเหล่านี้ก็ได้นะคะ”
“ไม่จ้ะ เรารู้ดีว่าโหรวโหรวเป็นคนแบบไหน เธอจะไม่มีวันยอมรับหุ้นเหล่านี้” ถังหย่ากล่าวอย่างจริงจัง “และป้าก็หวังว่าหนูจะไม่…”
“คุณป้าคะ คุณป้าทราบไหมว่าหนูเกือบต้องตายจากเหตุการณ์เครื่องบินตก” ถังซีขัดจังหวะถังหย่าขึ้นทันที “เครื่องบินตกครั้งนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการฆาตกรรม ถ้าหนูอยู่บนเครื่องบินลำนั้น หนูก็คงเสียชีวิตไปแล้ว”
“หนูหมายความว่ายังไง” ถังหย่ามองหน้าถังซีด้วยความตกใจ นี่หญิงสาวกำลังพยายามข่มขู่เธอหรือเปล่า มีคนต้องการฆ่าถังซีอย่างนั้นหรือ!
ถังซีกล่าวหน้าเครียด “คุณป้าทราบไหมคะ มีคนหลายคนต้องการตำแหน่งของหนู พวกเขาพยายามทุกวิถีทางที่จะกำจัดหนู พวกเขาต้องการขับไล่หนูออกจากเอ็มไพร์กรุป หรือแม้กระทั่งฆ่าหนู เพื่อให้เอ็มไพร์กรุปตกเป็นของพวกเขา”
ถังหย่ากับเซียวหงอี้สบตากัน ถังหย่ากล่าวว่า “เพราะอย่างนั้นหนูก็เลยจะทิ้งเอ็มไพร์กรุปงั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ หนูแค่ต้องการรับรองความมั่งคงให้คุณป้าและคุณปู่ ตราบใดที่คุณป้าเห็นด้วย หนูสามารถโอนหุ้นของหนูให้โหรวโหรวได้ทันที แล้วคราวนี้ถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับหนู ทรัพย์สินของหนูก็จะตกเป็นของคุณป้า และชีวิตในบั้นปลายของคุณปู่ก็จะมั่นคงยังไงล่ะคะ” ถังซีมองออกไปนอกหน้าต่าง ภายนอกเป็นสีดำสนิท และใบหน้าเธอสะท้อนอยู่ในกระจก…
“หนูแค่อยากเตรียมพร้อมค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนพวกนั้นจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้”
ถังหย่ามองหน้าถังซีด้วยความประหลาดใจ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าหลานสาวพูดราวกับว่าเคยผ่านการเสียชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่ง น้ำเสียงเธอฟังดูเหนื่อยล้าและเศร้าเหลือเกิน…
“หนูยังอายุน้อยมาก…” ถังหย่ามองหน้าถังซี
ถังซีชะงัก มองตอบถังหย่าและยิ้ม “ใช่ค่ะ หนูยังอายุน้อย แต่คุณป้าทราบไหมคะ เด็กที่มาจากครอบครัวอย่างหนูต้องทำพินัยกรรมไว้ทันทีที่เกิดมาดูโลก แตกต่างจากเด็กๆ ในครอบครัวทั่วไป เรามีทรัพย์สินมากมายเหลือเกิน เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่เตรียมตัวล่วงหน้า… จะสายเกินไปเมื่อเกิดอุบัติเหตุ”
ถังหย่ายังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ถังซียังคงพูดต่อไป “เหมือนอย่างเมื่อวานนี้ ขณะที่คุณป้ากับคุณปู่ยังคุยกันอยู่ ฉินกรุปก็แอบแทงข้างหลังเซียวกรุป แล้วเมื่อเราแก้ปัญญาให้กับเซียวกรุปได้ในที่สุด เราก็พบว่ามีคนทรยศในเอ็มไพร์กรุป และจู่ๆ โครงการของเราก็เกิดปัญหา”
“แต่ว่า…” ถังหย่ายังคงลังเล
ถังซีรู้สึกโล่งอกที่เห็นว่าเธอใกล้จะโน้มน้าวถังหย่าได้สำเร็จ เธอกล่าวว่า “คุณป้าไม่ต้องกังวลอะไรเลยค่ะ สิ่งที่หนูอยากจะบอกก็คือ เซียวโหรวจะเป็นผู้สืบทอดทรัพย์สมบัติทั้งหมดของหนูถ้าหนูตายไป หนูไม่ได้บอกว่าหนูจะละทิ้งหน้าที่รับผิดชอบของหนูในตอนนี้”
“แต่ป้าก็ยังคิดว่าไม่เหมาะอยู่ดี เป็นลางไม่ดีสำหรับหนู เราเพิ่งได้พบกัน หนูก็ตัดสินใจยกหุ้นทั้งหมดให้แก่ลูกสาวป้า ป้าคิดว่าไม่ว่าป้าหรือโหรวโหรว ก็คงยอมรับสิ่งที่หนูจะมอบให้ไม่ได้”
ถังซีแทบระเบิดเสียงร้องไห้ออกมา ทำไมล่ะ เพียงแค่เธอจะยกทรัพย์สินของเธอให้ตัวเองก็ไม่ได้หรือ!
พระเจ้า!
เธอยอมรับ! เธอยอมรับทุกอย่างในนามของตัวเธอเอง!
ดูเหมือนวิธีนี้จะไม่ได้ผลเสียแล้ว เธอต้องหาทางอื่น
การนอนไม่หลับเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืนทำให้ถังซีรู้สึกเหนื่อยล้า หลังจากพาเซียวหงอี้กับถังหย่าไปที่ห้องของพวกเขาแล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องของเธอ อาบน้ำ แล้วโทรหาเฉียวเหลียง แต่ติดต่อเขาไม่ได้เลย เธอขมวดคิ้ว โทรหาอาห้า อาห้าเอาแต่บ่นเสียใจกับเธอว่าเฉียวเหลียงทอดทิ้งเขา ถังซีเม้มริมฝีปาก วางโทรศัพท์ทิ้งไว้โดยไม่สนใจอาห้า ซึ่งยังคงบ่นเฉียวเหลียงไม่หยุด โดยกดปุ่มบันทึกเสียงไว้
จากนั้นเธอก็ผล็อยหลับไปบนเตียง
ทางอีกด้านหนึ่ง ถังหย่ากับเซียวหงอี้นอนไม่หลับ ทั้งสองยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองออกไปยังทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันสวยงามของอุทยานเอ็มไพร์ เซียวหงอี้ขมวดคิ้วหันมามองถังหย่า “คุณคิดว่าถังซีหมายความว่ายังไง เธอกำลังทดสอบเรา หรือเธอหมายความอย่างนั้นจริงๆ”
ถังหย่าส่ายศีรษะ “ไม่ว่าเธอจะทดสอบเราหรือตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ ฉันก็ไม่รับข้อเสนอของเธอ ฉันอยากให้โหรวโหรวได้ใช้ชีวิตโดยไม่มีอะไรต้องคอยกังวล ฉันไม่อยากให้ลูกมีความวิตกกังวลมากมาย เด็กสาวควรได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ซีซีดูเหนื่อยมาก ฉันคิดว่าเธอคงไม่ได้นอนมาหลายวัน ร่างกายโหรวโหรวไม่แข็งแรง ฉันไม่ต้องการให้เธอทำงานหนักเหมือนซีซี”
เซียวหงอี้พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ คุณพูดถูก โหรวโหรวมีเดอะควีนอยู่แล้ว ถ้าเธอต้องเข้ามาควบคุมดูแลเอ็มไพร์กรุปด้วยเธอจะรับไม่ไหว เราไม่ยอมรับข้อเสนอของซีซีดีกว่า”
ถังหย่าถอนหายใจ กล่าวอย่างสำนึกผิด “ต้องโทษฉัน”
เซียวหงอี้มองหน้าถังหย่าด้วยความประหลาดใจ ถังหย่าสบตาเขาแล้วถอนหายใจ “ถ้าฉันฟื้นฟูความทรงจำได้เร็วกว่านี้ ฉันก็คงได้อยู่เคียงข้างคุณพ่อ และซีซีคงไม่ต้องเจอกับประสบการณ์เลวร้ายมากมายอย่างนี้ ซีซีซึ่งยังเด็กมากต้องตัดสินใจทำพินัยกรรม แสดงให้เห็นว่าชีวิตเธอต้องเสี่ยงอันตรายมากแค่ไหน…
…ฉันคิดว่าทั้งหมดนี้ต้องโทษฉัน ฉันไม่สามารถปกป้องคุณพ่อคุณแม่ หรือลูกของฉันได้เลย ฉันนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ”
เซียวหงอี้กอดถังหย่าเบาๆ กระซิบกับเธอ “คุณจะโทษตัวเองได้ยังไง ตอนนั้นคุณอายุแค่สามหรือสี่ขวบ ถึงคุณจะไม่สูญเสียความทรงจำ คุณก็คงจำอะไรได้ไม่มากนัก ผมคิดว่าต้องโทษผม ถ้าผมไม่ประสบอุบัติเหตุที่เมือง W คุณก็คงไม่ต้องคลอดโหรวโหรวที่นั่น และคนพวกนั้นคงไม่มีโอกาสทำอย่างนั้นกับเรา ถ้าผมไปที่โรงพยาบาลเร็วกว่านั้นและได้ดูแลปกป้องลูก โหรวโหรวก็จะไม่ถูกสลับตัวกับเซียวจิ้นหนิง ทั้งหมดเป็นความผิดของผม”
“เราเอาไว้บอกซีซีว่าเราคิดยังไงพรุ่งนี้เช้านะคะ” ถังหย่ามองหน้าเซียวหงอี้ “ฉันจะบอกเธอว่าเราปกป้องเธอได้ แต่เราขอไม่รับหุ้นของเธอ หุ้นเหล่านั้นเป็นของเธอ ฉันรู้ว่าเธอทำประโยชน์ให้เอ็มไพร์กรุปมามากมายแค่ไหนจากที่ได้ดูข่าว”
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นเราเข้านอนกันเถอะ”
ในเวลานั้น ถังซีซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงเริ่มเหงื่อออกท่วมตัว ทันใดนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น ก้มมองหน้าอกตัวเองด้วยความตกใจ