ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 524 พวกเขาไปแล้ว
“ผมอาจไม่ได้กลับไปจีนสักระยะหนึ่ง” เฉียวเหลียงเสียงแหบแห้ง “คุณอยู่ที่จีนคนเดียวได้ไหม”
ถังซีเม้มริมฝีปาก เธอรู้ดีว่าเฉียวเหลียงไม่เต็มใจจะอยู่ห่างเธอ แต่ก็รู้ด้วยว่าเมื่อเทียบกับเธอแล้ว หลงเซี่ยวกรุปต้องการเขามากกว่า ลู่หลีก็เช่นกัน เธอพยักหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ เพราะถึงยังไงฉันก็กำลังจะถ่ายหนังกับผู้กำกับหนิงอยู่แล้ว เขาจะดูแลปกป้องฉัน ไม่ต้องห่วงนะคะ”
หลังจากถังซีวางสาย เฉียวเหลียงนวดหัวคิ้วตนเองอย่างเหนื่อยล้า ในขณะเดียวกันอาห้าก็รีบเร่งเข้ามาหาเขา เฉียวเหลียงซึ่งกำลังนั่งเอนหลังเหลือบตามอง อาห้ารายงานว่า “นายน้อยครับ คุณเหวินมาครับ เธอยืนยันว่าจะเข้าไปเยี่ยมคุณเจ็ดให้ได้ หั่วอวิ๋นกับหลิงเย่ว์กำลังทะเลาะกับเธอ อลิซห้ามไว้ไม่ไหวแล้วครับ เราควรทำอย่างไรดี”
เฉียวเหลียงลุกขึ้นยืนมองผู้หญิงสามคนที่กำลังทะเลาะกันอย่างดุเดือดผ่านหน้าต่าง และกล่าวอย่างเย็นชา “บอกพวกเธอว่าฉันไม่ต้องการเห็นการนองเลือด!”
อาห้ามองหน้าเฉียวเหลียงอย่างงุนงงสับสน แต่ในไม่ช้าก็เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร นายน้อยเหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะห้ามพวกเธอ เขาต้องการสื่อความหมายว่า ถ้าพวกคุณอยากทะเลาะกันก็ไปทะเลาะที่อื่น อย่ามาตบตีกันที่นี่ มันน่ารังเกียจ!
อาห้าอดอุทานในใจไม่ได้ นายน้อยนี่ช่างเย็นชากับผู้หญิงจริงๆ ยกเว้นคุณถัง!
ทันทีที่อาห้าจากไปประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก ชายหนุ่มหล่อเหลาเดินออกมาจากห้องผ่าตัด เขาสวมแว่นตาขอบทอง ท่าทางภูมิฐานมาก เมื่อเห็นชายหนุ่มเฉียวเหลียงก็เดินเข้าไปหา ถามด้วยความวิตกกังวลว่า “เป็นยังไงบ้าง”
ชายหนุ่มดันแว่นขึ้นเล็กน้อย มองหน้าเฉียวเหลียง “คุณเตรียมเฮลิคอปเตอร์ที่ผมสั่งไว้แล้วหรือยัง”
เฉียวเหลียงพยักหน้า ชายหนุ่มกล่าวว่า “ผมฆ่าเชื้อบาดแผลให้เขาแล้ว แต่ผ่าตัดให้เขาไม่ได้ตอนนี้ ที่นี่อุปกรณ์ไม่พร้อม ผมต้องพาเขาไปดูไบ ไปผ่าตัดที่ห้องผ่าตัดของผม ไม่อย่างนั้นผมไม่กล้ารับประกันว่าเขาจะลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งหรือเปล่า”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว “จำเป็นมากเลยใช่ไหม”
ชายหนุ่มพยักหน้า “ใช่ จำเป็นมาก เพราะฉะนั้นเราต้องรีบตรงไปดูไบเดี๋ยวนี้”
เฉียวเหลียงพยักหน้าเดินเข้าไปในห้องผ่าตัดพร้อมกับชายหนุ่มคนนั้น แล้วเข็นเตียงที่ลู่หลีนอนอยู่เข้าไปในลิฟต์ ขึ้นไปชั้นดาดฟ้า หลังจากนำลู่หลีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่จอดรออยู่บนดาดฟ้าพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายคนแล้ว เฉียวเหลียงก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปด้วยพร้อมกับชายหนุ่ม ขณะเฮลิคอปเตอร์บินขึ้น เฉียวเหลียงมองไปที่ลู่หลี และกล่าวว่า “ไปสนามบิน”
ผู้หญิงสามคนที่กำลังทะเลาะกันอย่างดุเดือดโดยไม่สนใจการไกล่เกลี่ยของอาห้า หยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้า เหวินนิ่งถามอาห้าอย่างร้อนรน “ใครอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น”
อาห้าส่ายศีรษะ “ไม่รู้ครับ”
“วิลสันอยู่ชั้นบนใช่ไหม” หลิงเย่ว์ถามอย่างฉุนเฉียว
“ใช่ครับ!” อาห้าตอบด้วยท่าทางระอาใจ ตอนนี้คุณเจ็ดอยู่ในห้องผ่าตัดชั้นบน…
แต่ว่า…
ไม่นะ!
นายน้อยจากไปแล้ว โดยไม่มีเขาไปด้วย!
อาห้าวิ่งนำหน้าขึ้นไปชั้นบนทันที เหวินนิ่งตามทุกคนไป ทั้งหมดขึ้นมาชั้นบน และได้เห็นว่าประตูห้องผ่าตัดเปิดอยู่ ไม่มีเฉียวเหลียงหรือลู่หลีอยู่ในนั้น หั่วอวิ๋นคว้ามือเจ้าหน้าที่คนหนึ่งมาถามอย่างเดือดดาล “พวกเขาอยู่ไหน”
“ที่นี่ไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัด นายน้อยจึงพาคุณเจ็ดไปที่อื่น” เจ้าหน้าที่คนนั้นสะบัดมือหั่วอวิ๋นออกจากมือเขา แล้วหันหลังเดินออกไป
หลิงเย่ว์คว้าคอเสื้อเขา “พวกเขาไปไหน”
เจ้าหน้าที่นิ่งขึง “…” ทำไมต้องเป็นผม ทำไมพวกคุณถึงถามแต่ผมอยู่ได้!
เหวินนิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปในห้องผ่าตัด มีแพทย์สองคนอยู่ในนั้น เหวินนิ่งจึงถามพวกเขา “พวกคุณรู้ไหม ว่าพวกเขาไปไหนกัน”
“นายน้อยบอกว่า ห้ามไม่ให้พวกเราบอกใครครับ” นายแพทย์คนหนึ่งกล่าวขณะเก็บอุปกรณ์และเดินออกไป “เขาบอกว่าผู้ป่วยต้องการสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ผู้ที่ชอบการทะเลาะวิวาทห้ามตามพวกเขาไป”
…
ที่เมืองหลวง
ผู้ช่วยหวังนำหลักฐานการสมรู้ร่วมคิดของถังเจี๋ยเหรินกับฉินกรุป ในการทำลายโครงการใหม่ของเอ็มไพร์กรุปที่เก็บรวบรวมได้ส่งให้ถังซีเมื่อมารับเธอที่สนามบิน ถังซีนั่งดูหลักฐานเหล่านั้นอยู่ในรถแล้วหัวเราะเยาะ จากนั้นเธอก็มองหน้าผู้ช่วยหวัง ถามเสียงเย็นชาว่า “เพราะอย่างนี้พวกเขาก็เลยจะจัดแถลงข่าว และจัดการประชุมผู้ถือหุ้นในวันพรุ่งนี้ เพื่อบีบฉันออกจากโครงการ อย่างนั้นใช่ไหม”
“ท่านประธานได้เข้ามาจัดการกับปัญหานี้ค่ะ แต่คนในตระกูลถังสร้างเรื่องและพูดจาสามหาวใส่ร้ายคุณป้าของคุณ ท่านประธานโกรธมากจนท่าน… เป็นลมหมดสติ ตอนนี้ท่านอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ”
ถังซีบีบมือตัวเองแน่น สีหน้าเย็นเยียบในทันที เธอมองหน้าผู้ช่วยหวัง ถามว่า “แล้วทำไมคุณไม่บอกฉันเรื่องนี้ก่อนหน้านี้!” คนพวกนั้นกล้าคุกคามคุณปู่ถึงขนาดนี้ได้อย่างไร ดี… เธอจะสั่งสอนบทเรียนที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม!
“ฉันติดต่อคุณได้ไม่เลยค่ะ เพราะคุณอยู่บนเครื่องบิน แล้วหลังจากนั้นสายของคุณก็ไม่ว่าง ฉันก็เลย…”
ถังซีหายใจเข้าลึกๆ ตอนนั้นเธอกำลังคุยโทรศัพท์กับเฉียวเหลียง ผู้ช่วยหวังจึงติดต่อเธอไม่ได้…
“ขอโทษนะ” ถังซีกล่าวกับผู้ช่วยหวัง “ฉันเข้าใจการกระทำของคุณผิดไป ตอนนี้เราไปหาคุณปู่กันก่อนเถอะ”
“พวกเขาบอกว่าท่านประธานป่วย หมดสติไปแล้ว ไม่สามารถพูดในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อีกต่อไป พวกเราก็เลย…” ผู้ช่วยหวังดูวิตกกังวล “คุณถังคะ ฉันกลัวว่า…”
“ไม่เป็นไร!” ถังซีมองหน้าผู้ช่วยหวัง “ไม่ต้องกังวล แล้วอีกอย่างเราก็ถือหุ้นเกินครึ่งหนึ่ง เราจะกลัวผู้ถือหุ้นรายย่อยทำไม ถ้าพวกเขาไม่ต้องการหุ้นเอ็มไพร์กรุป ฉันยินดีมากที่จะซื้อหุ้นจากพวกเขา เราไม่มีวันจำนนต่อพวกเขาหรอก!”
ผู้ช่วยหวังมองถังซีอย่างชื่นชม และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าคุณหนูผู้เฉียบขาดกลับมาแล้ว!
เมื่อถังซีไปถึงโรงพยาบาล ถังหย่ากับเซียวหงอี้ก็อยู่ที่โรงพยาบาลด้วย เมื่อเห็นเธอทั้งสองลุกขึ้นด้วยท่าทางเคอะเขิน ถังซีอยากทักทายคนทั้งสอง แต่แล้วก็รู้สึกว่าน่าจะดีกว่าถ้าเธอจะเป็น ‘ถังซี’ ให้มากกว่านี้ เธอจึงเพียงแค่ยิ้มให้พวกเขา แล้วเข้าไปหาคุณปู่
ถังเจิ้นหวารวบรวมพละกำลังเมื่อเห็นถังซี ถังซีมองหน้าท่าน รู้สึกทั้งโกรธและทำอะไรไม่ถูก เธอนั่งลงข้างๆ ถังเจิ้นหวา แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ “คุณปู่คะ หนูบอกคุณปู่แล้วว่าไม่ต้องไปสนใจพวกเจตนาไม่ดีพวกนั้น หนูมีวิธีจัดการกับพวกเขาค่ะ ดูสิคะ ตอนนี้คุณปู่ต้องมานอนอยู่ที่นี่ ทำอะไรไม่ได้เลย! นี่แหละค่ะ คือสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริง!”
ถังเจิ้นหวาตบหลังมือเธอเบาๆ กล่าวอย่างอ่อนโยน “ปู่แค่อยากช่วย”
ถังซีถอนหายใจ กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือสุขภาพของคุณปู่ หนูไม่ต้องการอะไรค่ะ เพียงแค่ขอให้คุณปู่มีสุขภาพดีเท่านั้น!”