ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 520 งานเสี่ยงอันตราย
ทันทีที่ถังซีเดินออกมาจากเรือนจำ อาหกก็รีบเข้ามาหาเธอ เมื่อสังเกตเห็นท่าทางเป็นกังวลของเขาถังซีก็รู้สึกสังหรณ์ใจ เธอเม้มริมฝีปากและนิ่งเงียบ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็อดถามไม่ได้ “มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า”
อาหกพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “เราไปไม่ทันคุณเจ็ดครับ เขาหายตัวไป นายน้อยพยายามตามหา แต่ไม่พบ”
ถังซีตกใจมาก ลู่หลีหายตัวไปหรือ เกิดอะไรขึ้น
“ติดต่อเฉียวเหลียงได้ไหม” ถังซีถามขณะเดินออกมาพร้อมกับอาหก
อาหกส่ายศีรษะ “นายน้อยปิดโทรศัพท์ครับ หลังจากบอกให้ผมดูแลคุณให้ดี ผมคิดว่าเขาต้องออกไปตามหาคุณเจ็ดแน่ๆ”
ถังซีบีบมือตัวเองแน่น เธอควรจะอยู่กับเฉียวเหลียงในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ตอนนี้เธอเปิดใช้งานทักษะอเนกประสงค์ไม่ได้เลย และด้วยร่างกายที่อ่อนแอ เธอจะเป็นภาระของเฉียวเหลียง แม้จะไปอยู่เคียงข้างเขาได้ก็ตาม
ตอนนี้ถังซีแค่อยากแข็งแรงขึ้น อย่างน้อยเธอจะได้ไม่เป็นภาระของเฉียวเหลียง
ถังซีขึ้นรถ มองหน้าอาหกและบอกเขาว่า “บอกให้ฉันรู้ทันทีที่คุณได้รับข้อมูลจากเฉียวเหลียง เข้าใจไหม”
อาหกมองหน้าถังซี เขาคิดว่าคุณถังจะบังคับให้เขาพาเธอไปหานายน้อยเสียอีก เขารู้สึกโล่งอกที่เห็นเธอมีเหตุผลขึ้นมาก
ถังซีหลับตาลง ติดต่อกับระบบ
[ระบบพร้อม แจ้งเตือน : คุณได้เปิดใช้งาน 008 ระบบส่วนตัวของคุณ]
‘ช่วยฉันหาตำแหน่งพิกัดของลู่หลีหน่อยได้ไหม’
[008 : ฉันบอกคุณได้แค่ว่าเขาอยู่ที่ประเทศไหน]
ก็ยังดีกว่าไม่รู้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน!
ถังซีพยักหน้า “ตกลง บอกมา!”
[008 : รอสักครู่]
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง…
[008 : เม็กซิโก]
ถังซีขมวดคิ้ว ‘คุณแน่ใจใช่ไหม?’
[008 : ใช่]
ถังซีพยักหน้ากล่าว ‘ขอบคุณ’ และปิดระบบ จากนั้นเธอก็ลืมตามองอาหก ขมวดคิ้วถามว่า “ลู่หลีหายไปที่เม็กซิโกใช่ไหม”
อาหกมองถังซีจากทางกระจกมองหลัง และมีสมาธิอยู่กับการขับรถ “ใช่ครับ เขาหายไปจากบริเวณรอบๆ ฐานกองกำลังหมายสิบเลขสามของเราในเม็กซิโก พวกเราพบเพียงโทรศัพท์มือถือของเขา”
เมื่อเห็นถังซีคร่ำเคร่งอยู่กับความคิด อาหกก็กล่าวต่อไป “นายน้อยเดาว่าคุณเจ็ดถูกเอฟบีไอจับตัวไปที่สหรัฐฯ แล้วครับ”
ถังซีส่ายศีรษะทันที “ไม่ใช่ พวกเขายังไม่ออกจากเม็กซิโก พวกคุณควรค้นหาในเม็กซิโก!”
อาหกเหลือบมองเธอด้วยความประหลาดใจ “คุณถัง ทราบได้ยังไงครับ”
ถังซีหายใจเข้าลึกๆ “คุณติดต่อเฉียวเหลียงไม่ได้เลยเหรอ”
อาหกลังเล ทันใดนั้นถังซีก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงมองหน้าอาหก และกล่าวเสียงเย็นเยียบว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาลังเล ลู่หลีอาจเสียชีวิตได้ทุกนาที! อาหก คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป เพราะฉะนั้นกรุณาติดต่อเฉียวเหลียงให้ฉันโดยเร็วที่สุด!”
อาหกตั้งใจไว้ว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับความลับของถังซี แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็สงสัยว่าคุณถังเป็นแม่มดจริงๆ ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นเธอจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างคนอื่นได้อย่างไร เธอต้องสื่อถึงคุณเจ็ดได้ตอนที่เธอหลับตาเมื่อกี้แน่ๆ!
อาหกช่างเป็นนักจินตนาการอย่างแท้จริง
อาหกเม้มริมฝีปาก “ครับ ผมติดต่อนายน้อยทางคอมพิวเตอร์ได้”
ถังซีขยับยิ้มมุมปาก เธอบอกให้อาหกนำรถเข้าจอดข้างทาง เปลี่ยนให้เธอเป็นคนขับ อาหกไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ และเริ่มติดต่อเฉียวเหลียงผ่านทางคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็บอกถังซีว่า “คุณถังครับ ผมติดต่อนายน้อยได้แล้วครับ”
ถังซีมองเขาอย่างชื่นชม “ดีมาก”
ถังซีใส่หูฟัง และน้ำเสียงอ่อนล้าของเฉียวเหลียงก็ดังขึ้น ทำให้ถังซีรู้สึกเจ็บปวดที่รู้ว่าเขาเหนื่อยมาก แต่เมื่อมีอาหกอยู่ด้วยเธอก็ไม่สะดวกที่จะพูดหวานๆ กับเฉียวเหลียง เธอจึงถามว่า “คุณกำลังค้นหาอยู่ที่ไหนคะ”
เฉียวเหลียงกล่าวว่า “เรากำลังค้นหาในป่าที่ชายแดนสหรัฐฯ ต่อกับเม็กซิกัน ผมคิดว่าลู่หลี อาจถูกนำตัวเข้าไปในสหรัฐฯ แล้ว”
ถังซีขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ค่ะ อาเหลียง ลู่หลียังอยู่ในเม็กซิโก ต้องมีที่ไหนสักแห่งที่คุณลืมคิด ลองนึกดูสิ มีที่ไหนบ้างที่คุณลืม”
เฉียวเหลียงถามกลับทันที “คุณแน่ใจได้ยังไงว่าเขายังอยู่ในเม็กซิโก”
ถังซีเม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “คุณก็รู้ว่าทำไมฉันถึงกลายเป็นคนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และทำไมจู่ๆ ฉันถึงโผล่ไปช่วยคุณที่ฝรั่งเศสได้เมื่อคราวก่อน ด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นแหละค่ะ ฉันรู้ว่าลู่หลียังอยู่ในเม็กซิโก”
เฉียวเหลียงตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจ สั่งคนของเขาว่า “ค้นหาที่นี่ต่อไป อย่าให้พลาดแม้แต่ตารางนิ้วเดียว! ค้นหาลู่หลีให้พบ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม!”
ถังซียิ้มเมื่อได้ยินคำสั่งของเฉียวเหลียง จากนั้นเสียงเฉียวเหลียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “คุณดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าให้เหนื่อยเกินไป”
ถังซีกล่าวว่า “ฉันสบายดีค่ะ ไม่ต้องห่วง ฉันมีอาหกคอยดูแลอยู่”
…
ที่โรงพยาบาล ทันใดนั้นเซียวเหยาก็ได้รับโทรศัพท์ ทางปลายสายกล่าวว่า “มีคนทรยศในองค์กรเรา พวกเขาจับตัวคนคนหนึ่งที่ไม่ควรจับไป ตอนนี้คุณมีภารกิจต้องทำ”
เซียวเหยาลุกขึ้น หยางจิ้งเสียนมองหน้าเขา “เกิดอะไรขึ้นจ๊ะ”
เซียวเหยาเม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณแม่ครับ ผมมีภารกิจต้องไปทำ ผมต้องไปเม็กซิโกเดี๋ยวนี้”
หยางจิ้งเสียนขมวดคิ้ว ท่าทางประหลาดใจ “ทำไมจู่ๆ ลูกถึงต้องมีภารกิจ ลูกยังอยู่ในช่วงพักร้อนไม่ใช่เหรอ”
“เราอาจมีงานด่วนได้ตลอดเวลาครับ” เซียวเหยากอดหยางจิ้งเสียน “ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะครับ ว่าผมต้องไปก่อน ผมต้องรีบไปสนามบินเดี๋ยวนี้”
“เดี๋ยวนี้เลยเหรอ” หยางจิ้งเสียนกล่าว “ทำไมลูกไม่ไปหลังจากทานอาหารค่ำแล้วล่ะ”
เซียวเหยาปล่อยหยางจิ้งเสียนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้หรอกครับ เพื่อนร่วมงานกำลังรอผมอยู่”
หยางจิ้งเสียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้าดูเขาจากไป เซียวเหยากล่าวลาเซียวเจี้ยนสยงแล้วเดินออกไป
หยางจิ้งเสียนมองตามหลังเขาพร้อมกับถอนหายใจ “ฉันคงห้ามเขา ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ว่างานของเขาคืออะไร”
งานของเขาเสี่ยงอันตรายเกินไป