ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 461 ลาก่อนฉู่หลิง
“เฮ้ ผมไม่ได้ทำอะไรแย่ๆ กับคุณใช่ไหม” ฉู่หลิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขา
เฮ่อหว่านอีเหลือบมองฉู่หลิงและพยายามกักเก็บความโกรธไว้ภายใน จากนั้นเธอก็ส่งเสียงคำรามเบาๆ และเดินต่อไป ฉู่หลิงรีบไล่ตามเธอให้ทัน “คุณเฮ่อ คุณแพ้พนันไม่ใช่เหรอ วันนี้…”
‘เผียะ!’ เฮ่อหว่านอีตบหน้าเขา
ฉู่หลิงหน้าหันไปเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าเขาหายไปทันที เขาหรี่ตาลงมองเฮ่อหว่านอี และเห็นว่าดวงตาเธอแดงเรื่อ มีหยาดน้ำตาไหลลงมาตามใบหน้า ฉู่หลิงขมวดคิ้ว ก้าวมาข้างหน้าด้วยความสงสัยว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเกินไปไหม
ขณะที่ฉู่หลิงก้าวมาข้างหน้า เฮ่อหว่านอีก็ก้าวถอยออกไป เธอเช็ดน้ำตา จ้องหน้าฉู่หลิง และกล่าวอย่างเย็นชา “ฉู่หลิงนี่สำหรับการที่คุณหลอกฉัน และฉันได้ทำตามสัญญาแล้ว ฉันหวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก”
“ทำไมคุณต้องโกรธ” เสียงฉู่หลิงดังขึ้นตามหลังเฮ่อหว่านอี
เฮ่อหว่านอีหยุดฝีเท้า หันกลับไปมองฉู่หลิงและหัวเราะเยาะ “คุณฉู่ คุณทำให้ฉันประหลาดใจอีกครั้งแล้วนะ คุณจะเอามาล้อเล่นอีกหลังจากที่คุณหลอกคนอื่นไปแล้วเหรอ โอ คุณนี่ช่างเป็นคนใจทรามต่ำช้าจริงๆ!”
“ผมจะโกรธ แต่ผมจะไม่ร้องไห้ คุณไม่เคยถูกหลอกมาก่อนหรือไง” ฉู่หลิงยืนขวางทางเธอ “ผมไม่คิดว่าคุณจะเปราะบางขนาดนี้”
“เพราะเธอรู้สึกเศร้าเสียใจ” จู่ๆ เสียงทุ้มเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา เฮ่อหว่านอีตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงนี้
ฉู่หลิงมองไปยังชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหาเขาและขมวดคิ้ว “เศร้าเสียใจ งั้นเหรอ”
น้ำตาเริ่มพรั่งพรูออกมาจากดวงตาเฮ่อหว่านอีอีกครั้ง เธอหันหน้าไปด้านข้างเพื่อไม่ให้มองเห็นชายคนนั้น ชายหนุ่มมองเธอ ขมวดคิ้ว และดึงเธอไปข้างหลังเขา “คุณฉู่ เป็นเรื่องน่ารังเกียจที่ใช้ประโยชน์จากผู้หญิงไร้เดียงสา และเป็นเรื่องไร้ยางอายที่ทำให้ผู้หญิงร้องไห้ คุณเป็นคนที่น่ารังเกียจและไร้ยางอาย”
“ผมรู้จักคุณด้วยเหรอ” ฉู่หลิงหรี่ตาลง รู้สึกว่าชายผู้นี้ดูคุ้นตา จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณคือเซียวเหยาใช่ไหม นายพันคนนั้นน่ะเหรอ”
เซียวเหยามองหน้าเขา ยิ้มมุมปาก “ผมเพิ่งเจอพ่อของคุณ เขากำลังตามหาคุณ ผม…”
ฉู่หลิงยกมือขึ้นขัดจังหวะเขา และกล่าวอย่างจริงจัง “เอาล่ะ ผมยอมรับว่าผมเป็นคนไร้ความคิด ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคุณเฮ่อ เป็นความผิดผมเอง ผมขอโทษนะครับ คุณเฮ่อ ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมคุณเฮ่อถึงโกรธผมมากถึงขนาดร้องไห้”
เฮ่อหว่านอีเงยหน้ามองเซียวเหยาแล้วมองเลยไปที่ฉู่หลิง “พฤติกรรมของคุณทำให้ฉันนึกถึงบางสิ่งที่ฉันพยายามจะลืม ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ”
เธอรู้สึกเจ็บแค้นมากเพราะการกระทำของเขาไปจี้จุดเจ็บของเธอ เธอคิดว่าเป็นความผิดของเธอที่ถูกฉู่หลิงหลอกใช้ เพราะแม้แต่ผู้ชายที่เธอรักก็ยังเพิกเฉยต่อเธอ นับประสาอะไรกับผู้ชายอื่นๆ พวกเขาก็ย่อมไม่จริงจังกับความรู้สึกของเธอ เธอจึงรู้สึกเกลียดชังและโกรธตัวเอง…
เซียวเหยาก้มลงมองเฮ่อหว่านอีที่รีบก้มศีรษะลงหลบสายตาเขา เซียวเหยาเลิกคิ้วหันไปมองฉู่หลิง “คุณไปได้แล้ว คุณฉู่”
ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาว เซียวเหยาคงโยนผู้ชายคนนี้ให้พ่อของเขาไปแล้ว
ฉู่หลิงเม้มริมฝีปากมองเฮ่อหว่านอี แล้วหันหลังจากไป
เซียวเหยาหันกลับมามองเฮ่อหว่านอี เธอยังคงเช็ดน้ำตาเงียบๆ เซียวเหยาก็เพียงแค่จ้องมองเธออยู่เงียบๆ เช่นกัน เขาไม่ได้ยื่นทิชชูหรือเช็ดน้ำตาให้เธอ ในที่สุดเมื่อเธอหยุดร้องไห้เขาก็ถามว่า “คุณหิวไหม”
เฮ่อหว่านอีมองหน้าเซียวเหยาด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นดวงตาแดงเรื่อของเธอ เซียวเหยาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ที่ไม่ได้นำกระดาษทิชชูติดตัวมาด้วย แต่ในไม่ช้าความคิดนี้ก็หายไป
เขามองหน้าเฮ่อหว่านอีและกล่าวว่า “ผมได้ยินบทสนทนาของคุณในร้านอาหารนั้น ผมค่อนข้างเป็นห่วงคุณ เมื่อเห็นคุณวิ่งออกมา”
“คุณมาปารีสเมื่อไหร่คะ” เฮ่อหว่านอีถาม
เซียวเหยาเลิกคิ้ว “ผมมีบางอย่างที่ต้องทำเมื่อเช้านี้” เขาไม่พูดมากเกี่ยวกับงานของเขา
เฮ่อหว่านอียิ้ม “น่าอายที่คุณมาเห็นฉันในสถานการณ์ที่น่าเกลียดแบบนี้”
“คุณไม่ควรถูกตำหนิ” เซียวเหยามองหน้าเธอ “ไปหาร้านอาหารทานกันเถอะ”
เฮ่อหว่านอีพยักหน้า ไม่มีใครพูดอะไรระหว่างทาง เฮ่อหว่านอีไม่อยากเสียโอกาส และพยายามหาหัวข้อสนทนา “แฟชั่นโชว์ของโหรวโหรวประสบความสำเร็จอย่างมาก”
“ใช่ ผมได้ยินข่าวแล้ว” เซียวเหยากล่าว ทันทีที่แฟชั่นโชว์เสร็จสิ้นลง เซียวจิ่งก็ส่งวิดีโอให้เขากับเซียวส่ามากมาย และบอกพวกเขาว่าแฟชั่นโชว์รายการนี้ได้รับความนิยมมาก หลังจากดูวิดีโอแฟชั่นโชว์ของเซียวโหรวจบแล้ว เซียวส่าก็บ่นว่าเขาควรจะมาปารีสกับทุกคน และหลังจากนั้นโหรวโหรวก็โทรใสเล่าเรื่องแฟชั่นโชว์ให้พวกเขาฟัง
เมื่อเขานึกถึงน้ำเสียงที่สนุกสนานของเธอ รอยยิ้มก็แผ่กระจายทั่วไปใบหน้า
เฮ่อหว่านอีตกอยู่ในความเงียบเมื่อเธอเห็นเขายิ้ม แต่แล้วเธอก็แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อคืนโหรวโหรวมีความสุขจริงๆ”
เซียวเหยาส่งเสียงตอบรับในลำคอ แล้วจู่ๆ ก็หยุดก้าวเดิน หันกลับมามองเธอ เฮ่อหว่านอีไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมองเธอแบบนี้ เธอจึงมองเขาอย่างสงสัย เซียวเหยาจ้องมองเธอแล้วถามว่า “แล้วคุณล่ะ โหรวโหรวมีความสุข แล้วคุณล่ะ”
เฮ่อหว่านอีกะพริบตาถี่ๆ เซียวเหยามองหน้าเธอ “อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องพยายามหาเรื่องคุยเวลาที่อยู่กับผม ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะพูดอะไรคุณไม่ต้องคุยก็ได้ ผมไม่ต้องการให้คุณ…” เซียวเหยาชะงัก ส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ข่างเถอะ คุณอยากทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ” จากนั้นเขาก็เดินนำหน้าไปเรื่อยๆ
เฮ่อหว่านอีมองตามแผ่นหลังของเขา เม้มริมฝีปาก และกำมือแน่น เธอถามตัวเองในใจ ‘เฮ่อหว่านอี ทำไมคนที่กล้าหาญ หยิ่งยโสอย่างเธอ ถึงได้กลายเป็นคนอ่อนแอ และทำอะไรไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวเหยา ทำไมเธอถึงเปลี่ยนตัวเองไปเป็นเต่า และถอยเข้ากระดอง’
เมื่อเห็นเฮ่อหว่านอียังคงยืนนิ่งเซียวเหยาก็หยุดเดิน หันมองกลับมาที่เฮ่อหว่านอี แล้วก้มลงดูนาฬิกาข้อมือ “ผมมีเวลาแค่ชั่วโมงเดียว คุณจะรังเกียจไหมที่จะทานอาหารเย็นกับผม”
เฮ่อหว่านอีชะงัก แล้ววิ่งเข้าไปหาเขา พร้อมกับพยักหน้าอย่างแรง “ไม่รังเกียจค่ะ”
เซียวเหยายิ้ม แล้วจู่ๆ เฮ่อหว่านอีก็เอ่ยขึ้นว่า” เรามาหาหัวข้อสนทนาอื่นกันดีกว่า”
เซียวเหยาหยุดนิ่ง มองหน้าเธอ แล้วยิ้ม “ตามใจคุณเลย”
เฮ่อหว่านอียิ้ม “คืนนี้คุณว่างไหมคะ”