ปลายจวักครองใจ - ตอนที่ 357 ทวงหนี้
ตอนที่ 357 ทวงหนี้
กระดาษสีขาว ตัวอักษรสีดำ หลักฐานการยืมเงินซึ่งมีการลงนามของลูกหนี้กองหนึ่งฟาดลงตรงหน้าสวี่ซี
หลักฐานการยืมเงินซึ่งมีการลงนามของลูกหนี้เหล่านี้ก็แค่เงินไม่กี่ตำลึง มากสุดก็ไม่เกินยี่สิบตำลึง แต่กลับสะสมจนได้จำนวนมหาศาลเช่นห้าพันตำลึง
สวี่ซีไม่อาจเชื่อสายตาตนเองได้เลยด้วยซ้ำ
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมากขนาดนี้!”
“ให้เขาเบิกตาดูให้ชัดเจน” ตาสามเหลี่ยมยิ้มเยาะ
คนหนึ่งกดเด็กหนุ่มที่ถอยหลังไม่หยุดเอาไว้ไม่ให้เขาขยับ อีกคนก็ยื่นหลักฐานการยืมเงินซึ่งมีการลงนามของลูกหนี้ไปตรงหน้าเขา
หลักฐานการยืมเงินซึ่งมีการลงนามของลูกหนี้แต่ละแผ่นที่พลิกไป คล้ายกับยันต์ทวงวิญญาณที่ฟาดลงมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน ทำให้สวี่ซีเหมือนตกอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
“เห็นชัดเจนแล้วสินะ” ตาสามเหลี่ยมยิ้มตาหยี
สวี่ซีสูดลมหายใจอย่างแรง กัดฟันเอ่ยว่า “ข้า…ข้าจะชนะเอาเงินคืนมา!”
“ชนะหรือ” หลายคนสบตากันแล้วหัวเราะ
ตาสามเหลี่ยมตบไหล่สวี่ซีอย่างแรง “คุณชายใหญ่สวี่ คิดจะชนะเอาเงินคืนมานั้นก็ได้ แต่คืนห้าพันตำลึงนี้มาก่อนค่อยว่ากัน ไม่เช่นนั้น ท่านคิดจะแสวงหาประโยชน์โดยที่ตนเองไม่ต้องลงทุนหรือ”
“ข้าไม่มีเงิน!” สวี่ซีดุร้ายขึ้นมา นัยน์ตาแดงก่ำ “มีความสามารถ พวกเจ้าก็ฆ่าข้าให้ตายเลยสิ!”
วันนั้นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งถูกคนตัดนิ้วเพราะคืนหนี้ไม่ได้ เขาก็เห็นแล้ว
เขาเคยกลัว แต่ว่าควบคุมเท้าที่วิ่งมาบ่อนทองพันชั่งไม่ได้
ตาสามเหลี่ยมยิ้ม “คุณชายใหญ่สวี่เป็นคุณชายตระกูลโหว ชีวิตมีค่ากว่าทองนะขอรับ พวกข้าน้อยไหนเลยจะกล้าทำให้ท่านได้รับบาดเจ็บแม้แต่ขนเส้นหนึ่ง”
“เช่นนั้นพวกเจ้าจะเอาอย่างไร”
“ติดหนี้ก็คืนเงิน นี่เป็นหลักการที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าต้องเรียกเก็บกับบิดามารดาของคุณชายใหญ่สวี่”
เมื่อได้ยินว่าจะไปทวงหนี้ที่จวนโหว สวี่ซีก็ตื่นตกใจ
เขาก่อเรื่องมาหลายครั้ง บางครั้งก็แบกรับเอาไว้เงียบๆ บางครั้งก็ทะเลาะกันไปถึงหน้าผู้ใหญ่
เห็นความผิดหวังในสายตาท่านพ่อมากแล้ว นานวันเข้าก็ไม่สำคัญอะไรอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าทำอย่างไร เขาก็ไม่มีทางทำให้ท่านพ่อพอใจได้
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน หากท่านพ่อรู้ว่า เขาแพ้ห้าพันตำลึงเพราะเล่นพนัน จะต้องตีเขาตายแน่นอน
“พวกเจ้าให้ข้ายืมอีกครั้ง ครั้งสุดท้าย…”
ตาสามเหลี่ยมส่ายหน้า “ครั้งที่แล้วคุณชายใหญ่สวี่ก็พูดเช่นนี้”
นัยน์ตาสวี่ซีมีประกายสับสนพาดผ่าน
เมื่อก่อนเขาพูดแบบนี้ไปแล้วหรือ
ไม่รอให้มีปฏิกิริยาใดๆ ก็ถูกผลักจนเดินเซไป
“ข้าไม่ไป!” สวี่ซีดิ้นรนสุดชีวิต
ตาสามเหลี่ยมออกแรงกดไหล่เขาเอาไว้ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ “คุณชายใหญ่สวี่ ท่านเป็นคุณชายใหญ่ของจวนฉางชุนโหว บุตรชายสุดที่รักของฉางชุนโหว ยังต้องกลัวว่าจวนพวกท่านจะนำเงินเล็กๆ น้อยๆ ห้าพันตำลึงนี้ออกมาไม่ได้หรือ”
การดิ้นรนอย่างรุนแรงของสวี่ซีหยุดโดยไม่รู้ตัว
วาจาของตาสามเหลี่ยมทิ่มแทงเด็กหนุ่มจนเจ็บปวดอย่างไม่ต้องสงสัย
ครั้งนั้น คุณหนูลั่วหลอกเอาเงินท่านพ่อไปจำนวนหนึ่ง ก็ห้าพันตำลึงเหมือนกันพอดี
ท่านพ่อมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบเป็นเวลานาน เหมือนกับมองของสิ่งหนึ่ง
ห้าพันตำลึง…ท่านพ่อจะนำออกมาอีกหรือไม่
สวี่ซีที่ความคิดยุ่งเหยิงไปแวบหนึ่งก็ถูกผลักไปบนถนนแล้ว
ทุกแห่งบนถนนล้วนถูกปกคลุมด้วยสีขาวอ่อนๆ คนเดินถนนฝีเท้าเร่งรีบ
สวี่ซีตัวสั่น รู้สึกหนาวยิ่ง
ด้านหลังมีมือผลักให้เขาเดินไปข้างหน้า
เด็กหนุ่มเดินโซซัดโซเซ สภาพย่ำแย่ยิ่ง
ในไม่ช้าก็มีคนเดินทอดทอดสายตามองมาด้วยความประหลาดใจ และส่ายหน้า ถอนสายตากลับไป
ไม่รู้ว่าเป็นลูกล้างผลาญตระกูลใดที่สร้างหายนะให้บิดามารดาอีก บ่อนทองพันชั่งเป็นสถานที่ซึ่งทำร้ายผู้คนแห่งหนึ่ง
คนที่เดินผ่านบ่อนทองพันชั่งคุ้นเคยจนเห็นเป็นเรื่องปกติ กระทั่งความกระตือรือร้นที่จะตามไปดูเรื่องสนุกก็ไม่มี ทว่ารอถึงตอนที่หลายคนนี้พาสวี่ซีไปถึงหน้าประตูใหญ่จวนฉางชุนโหว ความคึกคักก็พลันพุ่งขึ้นสูง
เด็กดวงซวยคนนี้ก็คือคุณชายจวนฉางชุนโหวหรือ
ในไม่ช้าตาสามเหลี่ยมและคนอื่นๆ ก็ร้องเรียกให้เปิดประตูใหญ่จวนฉางชุนโหว
มีตัวอย่างเช่นคุณหนูลั่วมาก่อเรื่องก่อนหน้านี้ คนเฝ้าประตูจึงรีบส่งข่าวไปโดยไม่กล้าล่าช้า
ฉางชุนโหวกำลังคุยเรื่องสัพเพเหระในครอบครัวกับหยางซื่อ ฮูหยินฉางชุนโหวอยู่
ใกล้จะฉลองปีใหม่แล้ว ในบ้านและนอกบ้านมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ
ข้ารับใช้คนหนึ่งรีบร้อนเดินเข้ามา “ท่านโหว ฮูหยิน ข้างนอกเกิดเรื่องแล้วขอรับ”
ฉางชุนโหวสบตากับหยางซื่อแวบหนึ่ง
“เรื่องอะไร” ฉางชุนโหวถามเสียงเข้ม
“มีคนหลายคนมาทวงหนี้ขอรับ บอกว่าคุณชายใหญ่เล่นพนัน ติดค้างเงินพวกเขา…”
ฉางชุนโหวสีหน้าเปลี่ยน “เจ้าเดรัจฉานนี่! เขาล่ะ?”
ข้ารับใช้ก้มหน้าลง “คุณชายใหญ่อยู่ในมือพวกเขาขอรับ”
ฉางชุนโหวมองหยางซื่อแวบหนึ่งแล้วก้าวเท้ายาวเดินไปข้างนอก
หยางซื่อซ่อนรอยยิ้มในก้นบึ้งนัยน์ตาเรียบร้อยแล้วก็เร่งเท้าตามไป
นอกประตูจวนฉางชุนโหวมีคนมุงดูไม่น้อยแล้ว
ฉางชุนโหวเดินออกมา เห็นทิวทัศน์อันคุ้นตาก็พลันปวดศีรษะขึ้นมา
“ท่านก็คือท่านโหวสินะ” ตาสามเหลี่ยมยิ้มแล้วโค้งคำนับ
ฉางชุนโหวฉีกยิ้มบาง “หลายท่านมีธุระ เข้ามาหารือข้างในก่อน”
ตาสามเหลี่ยมรีบโบกมือ เสียงดังลั่น “พวกเราชาวบ้านธรรมดาไม่มีคุณสมบัติที่จะหารืออะไรกับท่านโหวหรอกขอรับ พูดกันให้ชัดเจนที่นี่ดีกว่า”
ฉางชุนโหวสีหน้าบึ้งตึง เอ่ยวาจาเจือตักเตือน “หลายท่านจะไม่เห็นแก่หน้าจวนโหวให้ได้เลยสินะ”
ตาสามเหลี่ยมหัวเราะฮาฮา “ข้าน้อยไม่กล้าหักหน้าท่านโหวหรอกขอรับ ทว่าข้าน้อยให้ความสำคัญกับชีวิตที่ยากลำบากนี้มากกว่า หากพวกเราเข้าไป ประตูใหญ่จวนโหวปิดลง ใครจะรู้บ้างว่า ยังสามารถเดินออกมาได้หรือไม่ เหล่าสหายว่าใช่หรือไม่”
“ใช่!” คนอื่นๆ อีกหลายคนก็หัวเราะระรื่น
ตาสามเหลี่ยมผลักสวี่ซีไปข้างหน้า “คิดว่าท่านโหวก็ไม่อยากพูดจาไร้สาระกับพวกเราซึ่งเป็นชาวบ้านผู้ต่ำต้อยเหล่านี้ เช่นนั้นก็พูดตรงๆ เลยแล้วกัน คุณชายใหญ่สวี่ติดเงินพวกเราจำนวนหนึ่ง ท่านโหวคืนเงินแทนบุตรชายของท่านแล้ว พวกข้าน้อยก็จะจากไปทันทีขอรับ”
ฉางชุนโหวตวัดสายตามองสวี่ซีอย่างดุร้ายแวบหนึ่ง
สวี่ซีก้มหน้าลงเล็กน้อย สีหน้าเฉยชา
ผ่านการวิวาทกับคุณหนูลั่วในครั้งนั้นก็คล้ายจะมีวิธีในการรับมือกับความขายหน้าหลายส่วน
“เท่าไหร่”
ตาสามเหลี่ยมยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง
“ห้าร้อยตำลึงหรือ” ฉางชุนโหวข่มเพลิงโทสะ สั่งผู้ดูแล “ให้เขา!”
ตาสามเหลี่ยมมองฉางชุนโหวอย่างประหลาดใจ “ท่านโหวล้อเล่นแล้ว เงินเล็กน้อยเฉกเช่นห้าร้อยตำลึงจะทำให้พวกข้าน้อยมาที่จวนเป็นเพื่อนคุณชายใหญ่สวี่ได้อย่างไรขอรับ”
ลางสังหรณ์ไม่เป็นมงคลผุดขึ้นในใจ ฉางชุนโหวมองตาสามเหลี่ยมด้วยแววตาเย็นชา
ตาสามเหลี่ยมประสานมือ “ท่านโหวคืนหนี้พนันห้าพันตำลึงที่บุตรชายท่านติดค้างพวกเราแล้ว พวกข้าน้อยก็จะจากไปทันทีขอรับ”
“ห้าพันตำลึงหรือ” ฉางชุนโหวหลุดปากเอ่ยออกมา สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ห้าพันตำลึงอีกแล้ว เจ้าเดรัจฉานนี่ต้องการเอาชีวิตของเขาหรือ
หากเป็นแบบนี้ต่อไป ครอบครัวนี้คงถูกเจ้าเดรัจฉานนี้ทำให้หมดตัวไม่ช้าก็เร็วแน่นอน!
“นี่พวกเจ้ากำลังรีดไถคน!”
“พวกข้าน้อยมิกล้ารีดไถจวนโหวหรอกขอรับ” ตาสามเหลี่ยมยื่นหลักฐานการยืมเงินซึ่งมีการลงนามของลูกหนี้กองหนึ่งไปตรงหน้าฉางชุนโหว “ท่านโหวอ่านให้ละเอียด สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่บุตรชายของท่านเขียนด้วยมือตนเองใช่หรือไม่”
ฉางชุนโหวจ้องตัวอักษรที่คุ้นตาเหล่านั้นก็โมโหจนตัวสั่น
“สำหรับจวนโหว ห้าพันตำลึงก็แค่เล็กน้อย ท่านโหวคงไม่มีทางตัดใจไม่ลงหรอกนะขอรับ”
ฉางชุนโหวเกือบจะกระอักเลือดออกมา
ห้าพันตำลึงนั้นเล็กน้อยหรือ คนเหล่านี้นึกว่าเงินของจวนโหวเปลี่ยนมาจากเกล็ดหิมะหรือไร
ครั้งที่แล้วถูกคุณหนูลั่วหลอกเอาไปห้าพันตำลึง เจ็บปวดยังไม่หาย คราวนี้อีกห้าพันตำลึง กระทั่งฉลองปีใหม่ จวนโหวก็ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจนข้นแค้นแล้ว
เจ้าเดรัจฉานนี่!
เมื่อเห็นดวงหน้าไม่นำพาของบุตรชายคนโต ฉางชุนโหวก็โมโหขึ้นมา เอ่ยเสียงเย็นว่า “เงินไม่มี พวกเจ้าอยากทำอะไรก็เชิญ”
สวี่ซีพลันเงยหน้ามองไปทางฉางชุนโหว
นัยน์ตาฉางชุนโหวเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เจ้าลูกทรพีคนนี้ สมควรจะได้รับบทเรียนบ้างแล้ว
“ทำอะไรก็ได้หรือขอรับ” ตาสามเหลี่ยมโค้งมุมปาก “หากท่านโหวให้พวกเราจัดการตามใจชอบแล้วล่ะก็ ตรงข้ามบ่อนทองพันชั่งคือหอคณิกาชายแห่งหนึ่งพอดี เช่นนั้นพวกข้าน้อยก็จะทำตามใจชอบแล้วนะขอรับ…”