cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1483 มิอาจหยุดยั้ง

  1. Home
  2. All Mangas
  3. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
  4. บทที่ 1483 มิอาจหยุดยั้ง
Prev
Next

บทที่ 1483 มิอาจหยุดยั้ง

……………………………………………………………………..

บทที่ 1483 มิอาจหยุดยั้ง

เพียงกระบวนท่าเดียว ราชันเซียนเจี้ยงฉางอวินก็เผยวี่แววพ่ายแพ้!

เหตุการณ์นี้น่าตกใจเกินไป และทำให้คนอื่น ๆ ไม่กล้าเชื่อ

ย้อนไปก่อนหน้านี้ เฉินซีได้ฆ่าราชันเซียนครึ่งขั้นอย่างง่ายดายราวกับเชือดเป็ดเชือดไก่ ทำให้คนอื่น ๆ ตระหนักได้ว่า คนผู้นี้มีพลังฝีมือไม่ธรรมดา รวมถึงรู้สึกว่าไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่สามารถต่อกรได้

แต่ไม่มีใครคิดว่าพลังฝีมือของเฉินซีจะน่าสะพรึงถึงขั้นที่ราชันเซียนไม่สามารถต่อกร และยังมีวี่แววว่าจะบดขยี้ราชันเซียนได้ราง ๆ!

ตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนปัจจุบัน จะมีราชันเซียนครึ่งขั้นสักกี่คนในโลกนี้ที่มีความสามารถท้าทายสวรรค์ได้เท่ากับเฉินซี?

มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ถือได้ว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่!

ท่าทางของเจี้ยงฉางอวินไม่น่าดูอย่างยิ่ง นอกจากรู้สึกตกใจและโมโหแล้ว ยังรู้สึกหนักใจอย่างอดไม่ได้ เจ้าเด็กนี่น่าสะพรึงกลัวจนไม่สามารถเทียบกับราชันเซียนครึ่งขั้นทั่วไปได้เลย และไม่อาจตัดสินด้วยสามัญสำนึกทั่วไปได้

ฟิ่ว!

เจี้ยงฉางอวินมีสีหน้าเคร่งขรึม และสร้างผนึกลับด้วยฝ่ามืออย่างรวดเร็ว

โอม!

แสงสีทองของมหาเต๋าปรากฏขึ้น และมันปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา

“พลังพิทักษ์ประทีปเต๋าที่ไม่สามารถผ่านไปได้!” มีคนอุทานด้วยความตกใจ และจำได้ว่ามันคือเคล็ดวิชาลับที่สำแดงพลังผ่านผนึกโบราณ มันหลอมรวมเข้ากับเต๋าแก่นแท้แห่งฟ้าดิน ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถแปลงร่างเป็นมหาเต๋าได้

นี่เป็นเคล็ดวิชาลับจากยุคบรรพกาลที่สืบทอดกันภายในตระกูลเจี้ยง ตามคำร่ำลือ มันถูกอนุมานจากเคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพวิเศษ เคล็ดวิชาประทีปเต๋าไร้ขอบเขต และมันลึกซึ้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เห็นได้ชัดว่าเจี้ยงฉางอวินนั้นก็ฝีมือไม่ธรรมดา และยังทัดเทียมกับมู่หรงเทียนอีกด้วย มิฉะนั้นเขาจะมีความสามารถเช่นนี้ได้อย่างไร?

โครม!

เสียงปะทะกันอย่างรุนแรงดังก้องกังวาน เมื่อปราณกระบี่ฟันไปที่แสงสีทองของมหาเต๋า ซึ่งอันที่จริง มันก็ไม่สามารถผ่าแยกออกจากกันได้

ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง คนผู้นี้มีฝีมือไม่ธรรมดาจริง ๆ

ในปัจจุบัน หากไม่ใช่เพื่อสร้างแก่นเต๋าบรรพกาล และแสวงหามหาเต๋าแห่งราชันเซียนที่ไร้ที่ติ เฉินซีก็สามารถบรรลุสู่ขอบเขตราชันเซียนได้ทุกเมื่อ

ถึงกระนั้น ความแข็งแกร่งเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำการต่อสู้ข้ามขอบเขต หรือแม้กระทั่งสยบเหล่าราชันเซียน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะรากฐานอันล้ำลึกในเต๋าเซียน และกระแสพลังที่เขาดูดซับมาจากโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชา

ขณะที่คิดเรื่องเหล่านี้ในใจ การกระทำของเฉินซีไม่ได้ช้าลงเลย ร่างสูงใหญ่พุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง

ฟิ่ว! ฟิ่ว!

ปราณกระบี่และแสงสีทองของมหาเต๋าปะทะกัน และมันก็ดังก้องกังวานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เจี้ยงฉางอวินก็ไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป สีหน้าของเขาซีดลง แสงสีทองปกคลุมร่างกายก็แตกกระจายเป็นชิ้น ๆ และกระอักเลือดซ้ำ ๆ

เขากำลังจะถูกสังหาร…

แผนผังไท่จี๋ที่ก่อตัวขึ้นจากปราณสีดำและสีขาวพลันโผล่ขึ้นมา มันหมุนวนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สร้างความปั่นป่วนให้กับห้วงมิติและเวลา แปรเปลี่ยนเป็นหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้งซึ่งปรารถนาที่จะดึงดูดทุกสิ่งในโลกให้เข้าไปในนั้น

นี่เป็นการโจมตีจากจงหลีกุย ทันทีที่ลงมือก็ใช้กระบวนท่าที่รุนแรงที่สุด นั่นคือพลังหลุมดำหยินหยาง เมื่อการโจมตีนี้เกิดขึ้น มันสามารถกลืนกินดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวได้ ยิ่งไปกว่านั้น มันสามารถตัดการเชื่อมต่อระหว่างโลกกับจักรวาล ส่งผลให้มันน่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง

ในขณะนี้ ไม่ใช่แค่เฉินซีเท่านั้นที่หวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด คนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน เคล็ดวิชาลับดังกล่าวนั่นวิเศษอย่างแท้จริง และถือว่าหาได้ยากแม้แต่ในหมู่ราชันเซียนก็ตาม

“ฮึ่ม!” เฉินซีไม่ได้หลบเลี่ยงและปะทะกับมันซึ่งหน้า เสียงระเบิดดังกึกก้องกังวาน ทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก่อนที่จะสลายไปสู่กระแสพลังงานที่ยุ่งเหยิง

หากบริเวณโดยรอบของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋าไม่ได้รับการปกป้องโดยข้อจำกัดสูงสุด มันจะถูกทำลายจากการปะทะกันครั้งนี้อย่างแน่นอน

ในทางกลับกัน ผู้ยิ่งใหญ่ของกองกำลังอื่น ๆ ได้ล่าถอยไปไกลแล้ว และล้วนแต่เผยสีหน้าตกตะลึง เพราะเมื่อความผันผวนของการปะทะดังกล่าวแผ่ขยายออกไป ผลที่ตามมาก็ไม่อาจจินตนาการได้

ในขณะนี้ เฉินซีต่อสู้ติดพันกับจงหลีกุย และปะทะกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งสองต่อสู้จนถึงสวรรค์ชั้นฟ้า การต่อสู้นั้นดำเนินไปอย่างดุเดือดเมื่อทั้งสองใช้กระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดเท่าที่พวกเขามี

ในไม่ช้า จงหลีกุยกระอักเลือดเต็มปาก และกระเด็นกลับไป หลังจากการปะทะกันกว่าพันครั้ง ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถเทียบเคียงกับเฉินซีได้ อีกทั้งแก่นแท้ยังได้รับความเสียหายจากปราณกระบี่ของเฉินซี ทำให้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในที่สุด

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ทุกคนต่างตื่นตกใจจนหนังศีรษะตื้อชาและแทบหยุดหายใจ คนผู้นี้ไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยหรือ?

หากพวกเขาไม่ได้ยืนยันว่าเฉินซีอยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนครึ่งขั้น ก็คงไม่เชื่อในสายตาตนเอง แม้ว่าจะถูกทุบตีจนตายก็ตาม

เพราะนั่นคือราชันเซียน!

ตัวตนที่มีชะตากรรมอันยิ่งใหญ่และมีพลังอำนาจสูงสุดในสามภพ หลังจากการมาถึงของภัยพิบัติ เหล่าเทพก็หายไป เหลือเพียงราชันเซียนที่ได้รับการยกย่อง ทว่าบัดนี้ ราชันเซียนทั้งสองก็พ่ายแพ้ติดต่อกันด้วยน้ำมือของราชันเซียนครึ่งขั้น!

หากข่าวนี้แพร่ออกไปจะมีใครกล้าเชื่อหรือไม่?

มีเพียงมู่หรงเทียนเท่านั้นที่เคยเห็นพลังฝีมือของเฉินซีมาก่อน ดังนั้นเขาจึงสงบสติอารมณ์ได้ แต่ก็ยังรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะพลาดโอกาสสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับเฉินซีไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

โครม!

การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด แม้จงหลีกุยจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็ไม่ตาย ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่เฉินซีจะไม่แสดงความเมตตาใด ๆ ชายหนุ่มพุ่งตัวเข้าใส่ด้วยความตั้งใจที่จะสังหารจงหลีกุย

ในขณะนี้ กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากเฉินซี ดูเหมือนกับหินหลอมเหลวที่ร้อนระอุ และจักรวาลภายในร่างกายก็ดังก้องกังวาน ร่างสูงใหญ่สอดประสานกับฟ้าดิน รัศมีของเต๋าพันอยู่รอบกาย กลิ่นอายที่น่าประทับใจก็ดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง

“หยุดมือ!” มีคนตั้งใจจะหยุดเฉินซี แต่ก็ถูกกำจัดด้วยการสะบัดแขนเสื้อเบา ๆ จนกลายเป็นเถ้าถ่าน คนคนนั้นถูกปลิดชีพในทันที

พรวด!

จงหลีกุยไม่อาจหนีความตายได้ในที่สุด และศีรษะก็ถูกเฉินซีฟันจนขาดในกระบวนท่าเดียว ทำให้เลือดย้อมท้องฟ้าจนแดงฉาน

จวบจนวาระสุดท้าย จงหลีกุยยังจ้องเขม็งอย่างอาฆาตด้วยดวงตาที่เบิกโพลง ทั้งมีสีหน้าที่โกรธแค้นและไม่เต็มใจ เขาไม่สามารถจินตนการว่าผู้บ่มเพาะตัวจ้อยที่ขอบเขตราชันครึ่งขั้นจะสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้อย่างไร

ฉากนี้ได้สยบทุกคนที่อยู่รอบข้างโดยสิ้นเชิง มันทำให้การแสดงออกของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่จากตระกูลจงหลี ตระกูลเจี้ยง และตระกูลว่านฉีหน้าซีดอย่างน่าสยดสยอง และความหวาดกลัวก็แพร่กระจายไปทั่วหัวใจอย่างห้ามไม่ได้

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา ได้ทำการต่อสู้เพื่อครอบครองหม้อมรดกเต๋าโบราณภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋า ในขณะที่เจี้ยงฉางอวินพ่ายแพ้ จงหลีกุยก็ถูกสังหาร ตอนนี้ไม่เหลือราชันเซียนคนอื่นอีก แล้วพวกเขาจะต่อกรเฉินซีได้อย่างไร?

ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น หัวใจของผู้ยิ่งใหญ่จากกองกำลังอื่น ๆ เช่นตระกูลจี้และภพมังกรก็รู้สึกหนาวเย็น ราวกับตกลงในบ่อน้ำแข็ง

ท่าทางดูหมิ่น เยาะเย้ยและเหยียดหยามก่อนหน้านี้ ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวและความไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์

มีเพียงมู่หรงเทียนและคนอื่น ๆ จากเผ่าวิหคอมตะและภพพุทธองค์ที่เหงื่อโชก ซึ่งต่างก็รู้สึกโชคดีอย่างยิ่งที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ เพราะเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง

“รีบถอยเร็วเข้า!” เจี้ยงฉางอวินคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เขาตระหนักชัดเจนว่าเฉินซีนั้นน่ากลัวเพียงใด และรู้ดีว่าไม่มีใครสามาารถเทียบเคียงคนผู้นี้ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงทำได้แต่หลีกเลี่ยงเฉินซีเท่านั้น

ขณะที่กล่าว เขาฉีกห้วงมิติออกจากกันและเคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติออกไป หนีโดยไม่คิดเหลียวหลังแม้แต่น้อย

เฉินซีได้เฝ้าระวังมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นจึงฟันปราณกระบี่ออกไป ห้วงมิติก็พังทลายลงเมื่อปราณกระบี่พุ่งไปที่ส่วนลึกของรอยแยกมิติในระยะไกล

ห้วงมิติที่ทับซ้อนกันหลายชั้น จู่ ๆ ก็ระเบิดออกจากกัน ฝนเลือดโปรยปรายลงมา แล้วศพที่แหลกเหลวก็ร่วงหล่น น่าตกใจที่ร่างนั้นคือเจี้ยงฉางอวิน!

เขากลับประสบเคราะห์ร้าย เพราะบริเวณโดยรอบของตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋าถูกปกคลุมอย่างหนาแน่นด้วยชั้นของข้อจำกัดและมิติที่ทับซ้อนกันหลายชั้น ทำให้ถูกขัดขวางขณะที่เคลื่อนย้ายผ่านห้วงมิติซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในท้ายที่สุด เขาก็ล้มเหลวและเสียชีวิตภายใต้ปราณกระบี่ของเฉินซี

ในขณะนี้ คนอื่น ๆ ฟื้นตัวจากอาการตกใจแล้ว และพวกเขาก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว

“คิดหนีหรือ? ในเมื่อเจ้ากล้าที่จะก่อปัญหาในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าของข้า แล้วเจ้าจะมาและไปตามต้องการได้อย่างไร!?” เฉินซีเย็นชาและไม่แยแส ปราณกระบี่ถูกซัดออกจากฝ่ามือและมันพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง ในช่วงเวลาสั้น ๆ มันก็กวาดล้างศัตรูทั้งหมด และไม่เหลือผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว

บริเวณโดยรอบนั่นเงียบสงัดราวกับจักจั่นในฤดูหนาว!

การกวาดล้างอุปสรรคทั้งหมดนั่นเป็นอย่างไร? เฉินซีได้ให้คำอธิบายที่ดีที่สุดแล้ว เขามีฝีมือไร้เทียมทานและสามารถต่อสู้ข้ามขอบเขตได้ แล้วจะมีใครที่สามารถต้านทานคนผู้นี้ได้อีก?

พื้นหินปูนอันเก่าแก่ที่มีรอยกระดำกระด่างบนจัตุรัสถูกย้อมด้วยโลหิตและคละคลุ้งด้วยกลิ่นคาวเลือด ควบคู่ไปกับกลิ่นอายแห่งการเข่นฆ่าที่อบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้กลายเป็นเหตุการณ์ที่น่าพรั่นพรึงอย่างยิ่ง

กองกำลังร่วมของตระกูลจงหลี ตระกูลว่านฉี และตระกูลเจี้ยง แท้จริงแล้วกลับไม่สามารถต่อกรเฉินซี และถูกทำลายล้างอย่างสมบูรณ์ ทำให้กองกำลังที่เหลืออยู่ล้วนตกตะลึง ตอนนี้เราจะจัดการกับมันอย่างไรดี?

โดยเฉพาะเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ของภพมังกรและตระกูลจี้ สีหน้าของพวกเขาซีดเซียว ในขณะที่หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้

ราชันเซียนครึ่งขั้นเพียงคนเดียวกลับต่อสู้กับกองกำลังทั้งหมด ซึ่งแท้จริงแล้ว ไม่มีใครสามารถต่อกรได้เลยสักคนเดียว จะมีบุคคลเช่นนี้สักกี่คนในโลก?

ฟิ่ว!

ในขณะนี้ สายตาของเฉินซีกวาดไปราวกับสายฟ้าอันเย็นยะเยือก ทำให้ผู้บ่มเพาะของตระกูลจี้และภพมังกรรู้สึกว่าหนังศีรษะตื้อชา ทั้งเผยสีหน้าที่ดูผิดธรรมชาติและไม่น่าดูอย่างยิ่ง

“เฉินซี ข้าเต็มใจสนับสนุนท่านเข้ารับตำแหน่งเจ้าสำนัก!” อาจารย์ที่เข้าร่วมกับตระกูลจี้กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทา และตั้งใจที่จะแปรพักตร์ไปอยู่ข้างเฉินซีเพื่อแลกกับชีวิตของตน

“ก่อนหน้านี้เจ้าได้ช่วยเหลือคนชั่วในการกระทำผิด และปฏิเสธที่จะตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง ตอนนี้เจ้ากลับเต็มที่จะแปรพักตร์ เจ้าไม่มีความซื่อสัตย์เลยสักนิด การเก็บคนสองหน้าอย่างเจ้าไว้จะมีประโยชน์อะไร?”

ท่ามกลางเสียงที่เยือกเย็นและเฉยเมย เฉินซีเพียงสะบัดนิ้วเบา ๆ ปราณกระบี่ก็พุ่งทะยานออกไปและฟันศีรษะของอาจารย์คนนั้นจนขาดสะบั้น!

“เราตระหนักถึงความผิดของเรา!” อาจารย์บางคนที่เข้าร่วมกับกองกำลังอื่นต่างหวาดกลัวอย่างยิ่ง พวกเขาหวาดกลัวอย่างแท้จริง หัวใจเต็มไปด้วยเสียใจและความเกลียดชังที่ผสมปนเป

สำหรับคนนอกอย่างตระกูลจี้และภพมังกร พวกเขาเลือกที่จะนิ่งเงียบ พวกเขาเป็นตัวแทนของกองกำลังยิ่งใหญ่ ดังนั้นไม่มีทางยอมแพ้เช่นนั้น

“เฉินซี ภัยพิบัติได้มาถึงแล้ว และนิกายอำนาจเทวะกำลังหมายปองภพทั้งสามด้วยความละโมบ มันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ใจของพวกเขาจะไม่มั่นคง หากเจ้าตั้งใจที่จะเข้ารับตำแหน่งเจ้าสำนัก ก็อย่าได้เข่นฆ่าล้างบาง มิฉะนั้นท้ายที่สุดมันจะเป็นผลร้ายต่อสำนักเสียเอง” ทันใดนั้น มู่หรงเทียนกล่าวเตือนเฉินซีผ่านกระแสปราณ

“ภัยพิบัติ? นิกายอำนาจเทวะ? ในสายตาของพวกมันไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับผลประโยชน์ของตนเอง การปล่อยให้คนชั่วเหล่านี้มีชีวิตอยู่จะนำมาซึ่งหายนะในไม่ช้า!” เฉินซีกล่าวอย่างไม่พอใจและขมวดคิ้วพลางมองไปที่มู่หรงเทียนเขม็ง

ชายหนุ่มไม่คิดที่จะหยุดเพียงเท่านี้ นับตั้งแต่ที่แสดงพลังฝีมือ เขาต้องกำจัดทุกสิ่งที่มีเจตนาร้ายออกไป ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่สถานการณ์ภายในสำนักจึงจะสงบอย่างสมบูรณ์ และเมื่อนั้น พวกเขาจะสามารถร่วมกันต่อต้านการโจมตีของภัยพิบัติและนิกายอำนาจเทวะได้

ดั่งที่กล่าวไว้ ต้องขจัดภัยภายใน จึงจะต่อต้านภัยภายนอกได้

ติ้ง!

ในตอนนั้นเอง เสียงอันไพเราะดังก้องออกมาจากหม้อโบราณที่อยู่ภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋า และเผยให้เห็นพลังงานลึกลับที่ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน

ใบหน้าของเฉินซีหมองลงทันที และมองไปยังตำหนักอันห่างไกล

ชายหนุ่มเดาได้อย่างคลุมเครือว่า ม่านการต่อสู้เพื่อแย่งชิงหม้อมรดกเต๋าโบราณอาจจะกำลังถูกรูดปิดลง

โดยไม่ลังเล ร่างสูงใหญ่พุ่งไปที่ตำหนัก เพราะสัมผัสได้ว่าตราประทับหยกนพกระแสที่อยู่ในความครอบครองของตนนั้นมีทีท่าจะหลุดจากการควบคุมราง ๆ

นี่ย่อมเป็นข่าวร้ายอย่างแน่นอน

ทุกคนที่อยู่รอบข้างอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเฝ้าดูเฉินซีจากไปด้วยสีหน้าซับซ้อน ไม่มีใครกล้าหยุด และไม่มีใครกล้าต่อต้าน

ก่อนหน้านี้ เฉินซีได้สยบพวกเขาด้วยการกระทำที่เย็นชาและเด็ดเดี่ยว

ข้าสงสัยว่าคนผู้นี้จะสามารถรับมือได้หรือไม่…

มู่หรงเทียนพึมพำ เท่าที่เขาทราบ เพื่อที่จะควบคุมหม้อมรดกเต๋าโบราณ ราชันเซียนไม่น้อยกว่าสิบคนได้รวมตัวกันภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิเต๋า

ในบรรดาพวกเขาเหล่านั้น ประกอบด้วยราชันเซียนสามคนจากตระกูลว่านฉี ตระกูลจงหลี และตระกูลเจี้ยงตามลำดับ ในขณะที่คนอื่น ๆ มาจากภพมังกร เผ่าวิหคอมตะ ภพพุทธองค์ ตระกูลจี้ และกองกำลังอื่น ๆ

นอกจากราชันเซียนเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกตัวตนหนึ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ นั่นคือ ราชันเซียนดาราวีรบุรุษ!

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 1483 มิอาจหยุดยั้ง"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved