cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1121 เจ็ดวันผ่านไป

  1. Home
  2. All Mangas
  3. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
  4. บทที่ 1121 เจ็ดวันผ่านไป
Prev
Next

บทที่ 1121 เจ็ดวันผ่านไป

บทที่ 1121 เจ็ดวันผ่านไป

ตราดาราม่วง ตราประจำสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

เฉินซีรู้ดีว่าไม่มีผู้ใดสามารถลอกเลียนแบบตรานี้ได้ และมีเพียงศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเท่านั้นที่จะได้ครอบครองตรานี้ มันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงตัวตนของพวกเขา ทั้งยังเป็นเกียรติภูมิยิ่งใหญ่ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

สิ่งที่สำคัญที่จุด คือตราดาราม่วงมีคุณสมบัติอันน่าอัศจรรย์ใจมากมาย ซึ่งจะได้รู้ทั้งหมดก็ต่อเมื่อได้เป็นศิษย์ที่แท้จริงของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเท่านั้น

ขณะที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่มีคุณสมบัติในการสอบคัดเลือกเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเข้าร่วมการทดสอบ ทุกคนจะต้องห้อยตรานี้ไว้ด้วยเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาไม่ผ่านการทดสอบ ก็จะต้องคืนตราดังกล่าวกลับมา

ไม่ใช่แค่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเท่านั้น แต่สำนักศึกษาที่ยิ่งใหญ่ทั้งหกแห่งในภพเซียนล้วนแล้วแต่มีตราเฉพาะเป็นของตนเองเพื่อให้ศิษย์ของตนได้ห้อยไว้

“แต้มดาราคือสิ่งใดกัน?” เฉินซีอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย หลังจากที่สังเกตเห็นข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นบนตราดาราม่วงของตน

“คล้ายคะแนนสะสมในสำนัก หลังจากที่เจ้าเข้ามาในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ทุกสิ่งตั้งแต่การเข้าชั้นเรียน การบ่มเพาะ การได้รับเคล็ดวิชาหรือโอสถวิญญาณต่าง ๆ หรือแม้แต่การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นล้วนต้องใช้แต้มดาราทั้งสิ้น เจ้าจะเข้าใจถึงความสำคัญของมันมากขึ้น หลังจากที่เข้าไปศึกษาในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าแล้ว” เถี่ยชิวอวี้ตอบแบบรวบรัด

เฉินซีเข้าใจได้ในทันที ดูเหมือนจะเอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ และใช้ทรัพยากรของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าอย่างเพลิดเพลินไม่ได้สินะ เมื่อเข้าไปแล้ว ข้าต้องตั้งใจทำงานอย่างหนัก แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน การดิ้นรนเท่านั้นที่ทำให้คนพัฒนา หากอยู่ในที่ที่ได้อะไรมาอย่างง่ายดายเกินไป มีหวังข้าคงหมดใจในการต่อสู้ไปพอดี… เฉินซีพูดในใจ

ขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่นั้น เสียงฝีเท้ากึกกักดังออกมาจากด้านนอก

“ตาเฒ่าเถี่ย ทายซิว่าข้าไปเจออะไรมา! อินเหมียวเมี่ยวกับเจียงจูหลิวออกมาจากโถงวิญญาณยุทธ์ของทวีปเนตรสวรรค์จริง ๆ!” เป็นเสียงของบุรุษหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสีขาว เขาสาวเท้าเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็วด้วยตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าหัวข้อสนทนาของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นเฉินซีอยู่ข้าง ๆ เถี่ยชิวอี้ “เฉินซี เจ้ามาแล้ว!” ชายหนุ่มยิ้มด้วยความประหลาดใจ

เฉินซีหยัดตัวขึ้นพลางประสานมือคำนับ “คารวะพี่ใหญ่กู่”

ชายหนุ่มสูงเพรียวในชุดสีขาวตรงหน้าคือกู่เยวหมิง พี่ชายของกู่อวี่ถัง ตอนนี้เขาเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับสองของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปแห่งทวีปทักษิณา

กู่เยวหมิงประคองมือของอีกฝ่ายไว้พลางยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องมากพิธี เจ้าเป็นสหายของอวี่ถังหาใช่คนอื่นคนไกล นั่งลงเถิด”

เฉินซีพยักหน้าและนั่งลงอย่างว่าง่าย

สีหน้าของเถี่ยชิวอวี้คล้ายหม่นหมองลงเล็กน้อย ชายชราขมวดคิ้วมองกู่เยวหมิงก่อนจะพูดขึ้น “ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ?”

กู่เยวหมิงตอบอย่างไม่ลังเล “จะไม่จริงได้อย่างไร ข้าเห็นมาด้วยสองตาเลยนะ”

เถี่ยชิวอี้ขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม “สองคนนั้นไปร่วมมือกับตระกูลจั่วชิวได้อย่างไร? ตระกูลเก่าแก่เช่นนั้นไม่น่าจะมีความสัมพันธ์อะไรกับพวกเขาแท้ ๆ”

กู่เยวหมิงเหยียดยิ้มก่อนจะทอดถอนใจ “นี่เป็นชะตาฟ้าลิขิต บางทีตระกูลจั่วชิวอาจจะนึกโปรดปรานพวกเขาขึ้นมา”

ท่าทีของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความอิจฉาที่สองคนนั้นสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับตระกูลจั่วชิวได้

กระนั้น ไม่นานชายหนุ่มก็จับสังเกตเห็นท่าทางที่เปลี่ยนแปลงไปของเถี่ยชิวอวี้ ชายหนุ่มขบคิดกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงมองไปยังเฉินซีด้วยปะติดปะต่อความเข้าใจบางอย่างได้เล็กน้อย

เนื่องจากทั้งอินเหมียวเมี่ยวและเจียวจูหลิวมีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลจั่วชิว ดังนั้นพวกเขาจะต้องต่อสู้กับเฉินซีในระหว่างการทดสอบรอบที่สองเป็นแน่

ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าตน กู่เยวหมิง และเหลียงเริ่นจะอยู่ฝั่งเดียวกับเฉินซี แต่ก็เป็นการยากที่จะหลุดพ้นไปจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ได้

สาเหตุที่ตาเฒ่าเถี่ยมีสีหน้าหม่นหมองไม่ใช่ด้วยสิ่งใดอื่น หากเป็นเพราะชายชราคาดการณ์ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้จะยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้แก่ความขัดแย้งในหมู่ของผู้คนบนทวีปทักษิณา แน่นอน ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นอาจเลวร้ายเกินกว่าที่ใครจะกล้าคาดเดา

เฉินซีรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ทั้งสองกำลังคิดอยู่ภายในใจอย่างชัดเจน “ท่านพูดถูก แต่พวกเขาไม่ได้พบพานกันด้วยลิขิตฟ้า หากเป็นฝ่ายตระกูลจั่วชิวต่างหากที่ลากเส้นชะตา” ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม

เถี่ยชิวอวี้และกู่เยวหมิงรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “เพราะเหตุใด?”

ใช่แล้ว เพราะเหตุใดผู้มีอิทธิพลในภพเซียนอย่างตระกูลจั่วชิวถึงได้คิดร่วมมือกับอินเหมียวเมี่ยวและเจียงจูหลิว หากพูดเรื่องนี้เป็นคนอื่นฟัง พวกเขาคงจะนึกขบขันและไม่คิดถามถึงเหตุผล เห็นได้ชัดว่าข้อกล่าวอ้างนี้ดูเป็นการยกยออินเหมียวเมี่ยวและเจียงจูหลิวให้ดูสำคัญเกินควรไปเสียหน่อย

สีหน้าของเฉินซีสงบนิ่ง “เพราะตระกูลจั่วชิวกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดข้า เมื่อเห็นว่าข้ากับอินเหมียวเมี่ยวเป็นศัตรูกัน ก็ไม่แปลกที่จะเลือกใช้นางเป็นเครื่องมือ”

เถี่ยชิวอวี้ตกตะลึง “เป็นความจริงหรือ?”

กู่เยวหมิงเองก็จับจ้องไปยังเฉินซีด้วยสายตาที่คล้ายกับตรวจหาสิ่งผิดปกติ ชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเฉินซีไปเหยียบหางผู้ยิ่งใหญ่แห่งภพเซียนอย่างตระกูลจั่วชิวได้อย่างไร

บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

เฉินซีหัวเราะขื่นพลางไหวไหล่เบา ๆ “นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ไม่มีเหตุผลอะไรให้ข้าต้องพูดเล่น”

เถี่ยชิวอวี้และกู่เยวหมิงมองหน้ากันไปมา และไม่อาจลบล้างร่องรอยตกใจบนใบหน้าของตนได้

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เถี่ยชิวอวี้ก็ส่ายหน้าพลางถอนใจ “แบบนี้ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ ในเมื่อตระกูลจั่วชิวหมายหัวเจ้าไว้เช่นนี้ พวกเขาจะต้องหาเรื่องเล่นงานเจ้า ไม่ก็เล่นตุกติกบางอย่างในระหว่างการทดสอบรอบที่สองเป็นแน่”

กู่เยวหมิงตะโกนเสียงเหี้ยมเกรียม “พวกเขาจะต้องต่อสู้กับเฉินซีซึ่ง ๆ หน้าอย่างแน่นอน เดิมทีข้าคิดว่าอินเหมียวเมี่ยวและเจียงจูหลิวโชคดียิ่งที่ได้ผูกมิตรกับตระกูลจั่วชิว ใครจะคิดว่าพวกเขาจะกลายเป็นเบี้ยหมากให้แก่คนพวกนั้นแทน ช่างไร้ยางอายเสียจริง”

เสียงคำรามเมื่อครู่ดังก้องกังวานอยู่ในอากาศ ครั้นเมื่อเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นมาจากนอกห้องโถง ร่างของอินเหมียวเมี่ยวและเจียงจูหลิวที่เป็นเจ้าของเสียงนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกัน

“ข้าจะไปพักผ่อนเสียหน่อย” กู่เยวหมิงแผดเสียงลั่นเมื่อเห็นอีกฝ่าย ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้นและเดินจากไปคล้ายไม่อยากเสวนากับคนเหล่านี้

อินเหมียวเมี่ยวไม่ได้แยแสต่อปฏิกิริยาดังกล่าว

เจียงจูหลิวต่างหากที่เป็นฝ่ายขมวดคิ้วมุ่น “เขาก็เก่งแต่นินทาคนอื่นลับหลังเท่านั้น ข้าสงสัยนักว่าใครกันแน่ที่เป็นคนไร้ยางอายตัวจริง”

เสียงดังไม่เบานัก ทว่ากู่เยวหมิงที่อยู่ไกลออกไปกลับได้ยินอย่างชัดเจน ชายหนุ่มหันกลับมาและจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “ข้าก็แค่ไม่อยากจะให้ค่าเจ้าเท่านั้น คิดหรือว่าข้าไม่กล้าสู้กับเจ้า? การเกิดมามีชาติตระกูลต่ำต้อยไม่ใช่เรื่องผิด แต่การที่เจ้าเปี่ยมไปด้วยความยโสโอหังหลังจากเข้าตระกูลอินต่างหากที่เป็นปัญหา นี่เจ้า… โถ่… เจ้าน่ะคิดว่าตัวเองดีเลิศสักเพียงใดกันเชียว?”

สีหน้าของเจียงจูหลิวเขียวคล้ำไปด้วยความโกรธ เรื่องเดียวที่ตนไม่มีทางยอมคือการเอาเรื่องชาติกำเนิดของตนมาพูด ก่อนหน้านี้ จั่วชิวเคอทำเฉยเมยราวกับเขาเป็นเพียงธาตุอากาศ ทำให้ความโกรธสะสมตัวขึ้นภายในใจแล้วคราหนึ่ง มาบัดนี้ กู่เยวหมิงกลับพูดจาถากถางซ้ำรอยแผล มีหรือที่เขาจะกดข่มความรู้สึกต่อไปได้ “บนโลกนี้แน่นอนว่ามีวิธีตัดสินที่ยุติธรรมว่าข้าเป็นคนเช่นไร แต่ว่านะเจ้า กู่เยวหมิง ทั้งที่อยู่อันดับต่ำกว่าข้าแท้ ๆ กลับกล้าพูดพล่ามไร้สาระอยู่ได้ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร หือ?” น้ำเสียงเยือกเย็นพรั่งพรูออกมาอย่างสิ้นการไตร่ตรอง

บรรยากาศในห้องโถงพลันตึงเครียดขึ้น

กู่เยวหมิงใบหน้าผลัดสีไม่ต่างกัน ขณะกำลังจะโต้เถียง เสียงของเถี่ยชิวอวี้ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ “พอได้แล้ว! หากไม่ใช่เพราะข้าต้องมาเป็นผู้ดูแลพวกเจ้า ข้าก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องไร้สาระเหล่านี้หรอก! เอาล่ะ ถ้าไม่อยากถูกถอดชื่อออกกลางคัน ก็จงรีบหุบปากได้แล้ว!”

เสียงของชายชรากัมปนาทประหนึ่งสายฟ้าฟาด ไม่ซ่อนเร้นโทสะในใจเลยแม้แต่น้อย

ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างวิตกกังวล จนไม่กล้าพูดอะไรอีก

กู่เยวหมิงเค้นเสียงผ่านไรฟันคล้ายกำลังคำรามขู่ ชายชรามองเจียงจูหลิวแวบหนึ่งก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป

เจียงจูหลิวยังคงเต็มไปด้วยความคับข้องใจและต้องการหาที่ระบาย ครั้นเหลือบเห็นเฉินซีที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันนัก ชายหนุ่มก็พยายามสงบอารมณ์และนั่งลงที่โต๊ะตรงข้ามเฉินซี “ถ้าจำไม่ผิด เจ้าขึ้นมาจากภพมนุษย์ใช่หรือไม่?”

เฉินซีไม่ได้ละสายตาจากอีกฝ่ายขณะลุกขึ้นยืน “ผู้อาวุโส หากไม่มีธุระแล้ว ข้าคงต้องขอตัว” เขาหันไปพูดกับเถี่ยชิวอวี้

สิ้นคำ เฉินซีก็หันหลังและเดินจากไปทันที

ดวงหน้าของเจียงจูหลิวมืดมนลงเมื่อเห็นว่าเฉินซีกล้าเมินเฉยตน “ก่อนหน้านี้กู่เยวหมิงบอกว่าข้าเกิดมาต่ำต้อย และไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับข้า ทั้ง ๆ ที่ข้าก็เกิดในภพเซียนแท้ ๆ ว่าไปแล้ว มันก็น่าขันนักที่เขากลับเป็นสหายกับผู้ข้ามผ่านที่มาจากภพมนุษย์เช่นเจ้า”

ฝีเท้าของเฉินซีก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ไม่ชะงักหยุดแม้แต่น้อย

เจียงจูหลิวไม่อาจข่มอารมณ์ได้เมื่อเห็นสิ่งนี้ ชายหนุ่มแผดเสียงเย้ยหยันอย่างสุดขีด “จำไว้ ไม่ว่าชาติกำเนิดของข้าจะต่ำต้อยเพียงใด มันก็ยังสูงส่งกว่าเจ้ามาก เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่าถ้าไม่มีร่มเงาของตระกูลเหลียงคอยคุ้มกะลาหัว เจ้าจะมีชีวิตรอดอยู่ได้จนถึงตอนนี้หรือไม่?”

“ใช่ ใช่แล้ว ข้าเองก็อยู่ใต้ร่มเงาของตระกูลอิน แต่ถึงอย่างนั้นคุณหนูเหมียวเมี่ยวก็ยอมรับข้าเป็นสหายเต๋า ตอนนี้แม้แต่ตระกูลจั่วชิวก็ปฏิบัติต่อข้าดีเป็นพิเศษ แล้วเจ้าน่ะมีอะไรเทียบข้าได้บ้าง?”

ยิ่งพูดก็ยิ่งกระวนกระวายใจ ชายหนุ่มเพียงต้องการจะระบายความคับแค้นในใจให้หมดสิ้น ผิดก็แต่เขาเอามันมาโยนใส่เฉินซีที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเสียอย่างนั้น

“อีกอย่าง หลังจากที่ข้าผ่านการทดสอบของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าในครั้งนี้ ข้า เจียงจูหลิว จะเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า! ด้วยเกียรติยศนี้ ข้าจะกลายเป็นคนที่ไม่มีใครกล้าดูแคลนอีกต่อไป!”

กระทั่งแผ่นหลังของเฉินซีหายไปจากสายตา ก็หาได้มีคำพูดใด ๆ ตอบโต้กลับมาจากปากของเฉินซีแม้แต่คำเดียว การที่เขาเพิกเฉยเช่นนี้ยิ่งทำให้เจียงจูหลิวเดือดดาล ดวงหน้าแดงก่ำขณะขบกรามพูด “เจ้าจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้! พวกเจ้าทุกคนจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้!”

เสียงตะโกนแผดลั่นไปทั่วห้องโถงในประโยคสุดท้าย

ตอนนั้นเอง อินเหมียวเมี่ยวที่ยืนเงียบ ๆ มาตลอดอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่าเจียงจูหลิวสูญเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิง กระนั้น นางก็หาได้พูดอะไรออกไป

…

เจ็ดวันต่อมา

ในยามรุ่งสาง ท้องฟ้าสีครามสว่างประกายสดใส

ทั่วทั้งเมืองเซียนสัประยุทธ์พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ดวงอาทิตย์ยังไม่ทันฉายแสงอย่างเต็มกำลัง ถนนก็อัดแน่นไปด้วยผู้คนและรถเกวียนที่สัญจรไปมาราวกระแสน้ำหลาก พวกเขาทั้งหมดล้วนมุ่งหน้าเข้าไปยังชั้นในของเมืองเซียนสัประยุทธ์

สัตว์อสูรจำนวนมากมายทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงคำรามของพวกมันล่องลอยผ่าชั้นเมฆสีกุหลาบนวล พลังปราณอันเป็นมงคลเปล่งแสงเจิดจ้าสว่างไสว แต่งแต้มให้ผืนฟ้างดงามพร่างพราวและยิ่งใหญ่ขึ้นถนัดตา

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าได้เริ่มการทดสอบเข้าศึกษาในวันนี้!

นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ไปทั้งสามภพ มันสามารถดึงดูดผู้เยี่ยมยุทธ์นับไม่ถ้วนจากทั่วสารทิศ คนเหล่านั้นไม่ได้มาจากแค่ในภพเซียนเท่านั้น แต่ยังมาจากภพพุทธองค์ ภพมังกร ภพวิหคอมตะ รวมไปถึงดินแดนลึกลับทั้งหลายที่อยู่ไกลออกไป หากเรียกว่าเป็นการรวมตัวของคลื่นลูกยักษ์ก็คงไม่ผิดนัก!

งานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ถูกจัดขึ้นทุก ๆ ร้อยปี ทุกครั้งที่งานนี้ถูกจัดขึ้น จะมียอดฝีมือระดับสูงอายุน้อยถือกำเนิด พวกเขาเหล่านั้นก็จะเติบโตและสร้างชื่อเสียงให้ขจรขจายออกไป!

ตัวอย่างเช่นพิรุณเผาผลาญ หลิงชิงอู๋ อเวจีเหล็ก เยี่ยถัง และวิหคอมตะหยก ว่านเจี้ยนเซิง ซึ่งเป็นหนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้าที่ได้บรรลุขอบเขตเซียนทองคำ พวกเขากลายเป็นศูนย์กลางแห่งความสนใจของมิติที่สามขณะที่ยังศึกษาอยู่ในสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

นอกจากนี้ หากย้อนกลับไปยังอดีต ผู้เยี่ยมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่มากมายล้วนได้ร่ำเรียนในที่แห่งนี้ หนึ่งในนั้นคือราชันเซียนดาราวีรบุรุษคนปัจจุบัน ผู้ยิ่งใหญ่และทรงพลังไม่ต่างสายธารดวงดาว!

ทั้งหมดนี้ทำให้พิธีการสอบคัดเลือกของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่างานไหน ๆ เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์บนหน้าประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดในสามภพเลยก็ว่าได้

เช้าตรู่ของวันนี้ เฉินซีเดินตามหลังเถี่ยชิวอวี้ไปตามเส้นทางสำหรับเข้าร่วมการทดสอบ

จิตใจของเขาสงบนิ่ง ทว่าความตื่นเต้นก็ยังวิ่งพล่านอยู่ภายในนั้นจนยากจะปกปิด

อย่างไรเสีย การทดสอบในครั้งนี้ก็เป็นเครื่องชี้ชะตาว่าตนจะสามารถลงหลักปักฐานในภพเซียนได้อย่างแท้จริงหรือไม่!

———————————-

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 1121 เจ็ดวันผ่านไป"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF