cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1109 สายฝนแห่งคมกระบี่

  1. Home
  2. All Mangas
  3. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
  4. บทที่ 1109 สายฝนแห่งคมกระบี่
Prev
Next

บทที่ 1109 สายฝนแห่งคมกระบี่

บทที่ 1109 สายฝนแห่งคมกระบี่

ความผันผวนที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้นั้นทรงพลังยิ่ง ไม่ว่ามันจะพัดผ่านไปยังที่ใด ภูเขาก็พังทลาย ต้นไม้หักโค่นไม่เหลือตอ แม้แต่กระแสอากาศที่ปั่นป่วนเหลือคณนาก็บดขยี้ทุกสรรพสิ่งไม่เหลือชิ้นดี

เดิมทีเฉินซีตั้งใจหลีกเลี่ยงการปะทะในครั้งนี้ ทว่าเมื่อญาณมหาเทวะอมตะฉายรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย ดวงตาคมกริบก็ทอแววประหลาดใจ ชายหนุ่มเปลี่ยนการตัดสินใจในทันที

เพียงเสี้ยวพริบตา ร่างสูงใหญ่เดินหน้าเข้าไปโดยไม่คิดหวั่นเกรง

หนึ่งในคนที่กำลังต่อสู้อยู่คือชายหนุ่มในชุดสีเทาที่มีรูปลักษณ์ธรรมดายิ่ง ผิดกับความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขาม คนผู้นี้คือบุรุษคนเดียวกันกับที่เห็นในภัตตาคารเมืองวาฬหยก

ในตอนนั้น ชายหนุ่มในชุดสีเทาอยู่กับหวังทา ผู้ครองอันดับสองแห่งเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปของทวีปเมฆาพำนัก คล้ายว่าจะชื่อเหลี่ยปิงหาน และใช่ อันดับของเขาอยู่สูงกว่าหวังทาเสียอีก คนผู้นี้คือคนที่อยู่ในอันดับสูงสุดของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปแห่งทวีปเมฆาพำนัก!

สิ่งที่ทำให้เฉินซีมั่นใจไม่ใช่เหลี่ยปิงหาน แต่เป็นชายสองคนที่กำลังไล่ล่าและพยายามสังหารเหลี่ยปิงหานอยู่ต่างหาก

หนึ่งในนั้นมีรูปร่างผอมบาง ใบหน้าขาวซีดตัดกับดวงตาสีเขียวแวววาว ส่วนอีกคนมีรูปร่างกำยำ สวมชุดที่ทำจากผ้าป่าน รูปลักษณ์ทั้งสง่างามและดุดัน

เฉินซีสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังคล้ายคลึงกับเจี่ยงหนิงและเยว่เจิ้นจากสองคนนี้ นั่นคือจิตสังหารอันเย็นชา ไร้ปรานี เป็นรัศมีที่ชวนให้นึกถึงเครื่องจักรสังหาร

หากเฉินซีคาดไม่ผิด พวกเขาจะต้องเป็นองครักษ์โมฆะอย่างแน่นอน!

นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เฉินซีเปลี่ยนใจ

…

ภายในป่าลึก

“บัดซบ! เจ้ากล้าทำร้ายสหายของข้าอย่างนั้นหรือ ช่างขวัญกล้าอะไรเช่นนี้!”

“จ้าวติง ทำไมเจ้าถึงทำตัวไร้ประโยชน์เช่นนี้ อย่าลืมสิว่าศิษย์พี่หลูเฉินสั่งไว้ว่าอะไร ฆ่าทุกคนที่พยายามข้ามสะพานจรัสแสงเมฆา!”

“ศิษย์พี่ชิวเยี่ยนท่านพูดถูก”

ท่ามกลางบทสนทนาที่ฟังดูเหี้ยมเกรียม ชายหนุ่มผอมบางนามว่าจ้าวติง และชายหนุ่มในชุดผ้าป่านนามว่าชิวเยี่ยนกำลังไล่ตามเหลี่ยปิงหานอย่างไม่ลดละ ดูเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจจะปลิดชีวิตอีกฝ่าย

เหลี่ยงปิงหานหายใจหอบถี่ ทั้งใบหน้าซีดขาว ไหล่ และซี่โครงอาบไล้ไปด้วยโลหิตแดงฉาน เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการไล่ล่าครั้งนี้

คล้ายว่าเสียงพูดคุยของคนที่ไล่ตามจะไม่ได้กระทบเข้าโสตประสาทของชายหนุ่มแต่อย่างใด เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าพร้อมกับรับมือกับการโจมตีของอีกฝ่าย ใบหน้าที่ปราศจากสีสันยังคงเปี่ยมได้ด้วยความมุมานะอย่างแรงกล้า

ถึงอย่างนั้น จิตใจของเหลี่ยปิงหานก็หาได้สงบนิ่งอย่างที่เห็นภายนอก พวกประหลาดนี่มาจากไหนกันแน่? ทั้งที่ข้าอยู่ในอันดับห้าร้อยแรกของเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้าแท้ ๆ แต่ข้ากลับไม่อาจต้านทานคนเหล่านี้ได้เลย!

น่าเสียดายที่ข้าประเมินหวังทาผิดไป ไม่นึกเลยว่าเจ้านั่นจะยอมทิ้งศักดิ์ศรีและคุกเข่าจำนนต่อศัตรู จริงอยู่ที่การทำเช่นนั้นจะทำให้สามารถข้ามสะพานจรัสแสงเมฆาไปได้ แต่มันก็เป็นการกระทำที่น่าอดสูและไร้ยางอายเกินกว่าที่ข้าจะรับไหว

ข้า เหลี่ยปิงหาน ยอมตายอย่างมีเกียรติ ดีกว่าต้องอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี!

เอาเถิด คิดมากไปก็เท่านั้น หากครั้งนี้ข้ารอดไปได้ ในภายภาคหน้าข้าจะฆ่าไอ้สารเลวพวกนี้ให้หมดอย่างแน่นอน!

ตู้ม!

ทันใดนั้น พลังที่น่าสะพรึงกลัวก็พุ่งเข้ามาไม่ต่างกระแสน้ำ มันกระแทกร่างของเหลี่ยปิงหานให้ลอยไปไกลกว่าหกลี้ ตลอดระยะทางอันยาวไกล ละอองเลือดแดงฉานกระอักออกมาจากริมฝีปากซีดเซียว พลังชีวิตของชายหนุ่มบัดนี้ไม่อาจโคจรได้อย่างปกติดังเคย

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ก่อนที่เหลี่ยปิงหานจะหยัดตัวเพื่อหลบหนีอีกครั้ง จ้าวติงและชิวเยี่ยนก็ได้เปลี่ยนร่างกายเป็นลำแสง พวกเขาปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของเหลี่ยปิงหานทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง

หัวใจของชายหนุ่มมืดหม่นลงเมื่อเห็นสิ่งนี้ และขบกรามแน่นด้วยท่าทางสงบนิ่ง

“เอาสิ! หนีไปสิ! ทำไมไม่หนีเล่า” จ้าวติงเย้ยหยันพลางสืบเท้าเข้าไป ร่างโปร่งมองเป้าหมายราวกับกำลังจับจ้องซากศพเดินได้ แววตาเต็มไปด้วยความถากถางชิงชัง

“เหอะ! ผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับหนึ่งของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปแห่งทวีปเมฆาพำนักผู้แสนเย่อหยิ่งทระนงอย่างนั้นหรือ? ในสายตาของพวกข้า เจ้าไม่ต่างอะไรกับหมาขี้เรื้อนนักหรอก!” ชิวเยี่ยนกางแขนออกในท่าตะครุบ ฉับพลันนั้น พายุสีดำสนิทก็พุ่งออกมาจากกรงเล็บและตรงเข้าไปที่หัวของเหลี่ยปิงหานด้วยความรุนแรง!

การโจมตีครั้งนี้โหดเหี้ยม ไร้ความปรานีอย่างยิ่ง ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าชิวเยี่ยนตั้งใจจบการต่อสู้โดยเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง

นี่เป็นวิถีขององครักษ์โมฆะ พวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า ไม่มีความเมตตา หรือเกิดความรู้สึกลังเลใด ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู!

ครั้นเมื่อเหลี่ยปิงหานสัมผัสได้ว่าพลังของกรงเล็บนี้น่าสะพรึงกลัวเพียงใด ใบหน้าซีดเผือดพลันหม่นหมองยิ่งกว่าเก่า ชายหนุ่มรู้ดีว่าตนไม่อาจหลีกเลี่ยงการโจมตีในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน

หรือว่าวันนี้จะเป็นวันตายของข้านะ?

ช่วงเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ เหลี่ยปิงหานเฝ้าคิดทบทวนหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งเรื่องราวที่ตนเคยพบพานตลอดเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ และความปรารถนาที่จะได้ร่ำเรียนในสำนึกศึกษาจักรพรรดิเต๋า…

สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงคิดนั้นหล่อหลอมเป็นความไม่ยอมจำนน ตอนนั้นเอง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงตาที่สว่างแพรวพราว เขาตัดสินใจแล้วว่าต่อให้ตนต้องตาย ก็ลากหนึ่งในสองคนนั้นลงนรกตามไปด้วย!

ฟิ้ว!

ยังไม่ทันที่เหลี่ยปิงหานจะได้ลงมือ ปราณกระบี่กลุ่มหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยก็ส่งเสียงคำราม มันเหมือนกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก หากบางคราก็คล้ายกับสายฝนพรำส่องประกายระยับอยู่ข้างหู…

นี่มันเสียงอะไรกัน?

ครู่ถัดมา ปราณกระบี่อันไพศาลประหนึ่งมหาสมุทรก็ฟาดฟันลงมา ดูเหมือนมันจะเปลี่ยนท้องฟ้าและแผ่นดินอันกว้างใหญ่ให้กลายเป็นทะเลคลั่ง!

ช่างเป็นปราณกระบี่ธาตุน้ำที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!

ขณะเดียวกันนั้นเอง ดวงตาของจ้าวติงและชิวเยี่ยนจรดลงที่การโจมตีนั้น พวกเขาหน้าถอดสีลงถนัดตา ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างด้วยสัญชาตญาณ

ทว่าเรื่องที่น่าพรั่นพรึงก็ยังบังเกิดไม่จบสิ้น เศษเสี้ยวของกระบี่ที่ยังไม่ร่วงหล่นเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันครั้ง! จนในที่สุดมันก็กลายเป็นปราณกระบี่ที่ส่องประกายรัศมีออกไปยังแผ่นฟ้ากว้างไกล

สายใยแห่งปราณกระบี่เหล่านั้นเต็มไปด้วยกฎแห่งวารี พวกมันเหมือนกับเม็ดฝนคมกริบที่พร้อมจะกรีดแทง และตัดห้วงอากาศให้ขาดออกจากกันอย่างง่ายดายไม่ต่างกับการตัดผ้าผืนหนึ่ง

ม่านพลังปราณที่ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้ายามนี้ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในฤดูฝน มันโอบล้อมทั้งฟ้าดิน จ้าวติงและชิวเยี่ยนเอาไว้ด้วยรัศมีอันตราย ทำให้คนทั้งสองอดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังยามสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเย็นยะเยือก

“ตายซะ!”

“ตายซะ!”

ท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ จ้าวติงและชิวเยี่ยนส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธตามสัญชาตญาณของตน พวกเขาออกแรงโจมตีม่านพลังที่ปิดกั้นเอาไว้อย่างเต็มกำลัง

จ้าวติงกวาดวงแขนเพื่อสะบัดโซ่ไฟเส้นใหญ่ที่มีอยู่ร่วมสามสิบหกเส้น พวกมันลอยขึ้นไปบนอากาศราวกับมังกรเพลิงที่คำรามออกมาด้วยความบ้าคลั่ง

ส่วนชิวเยี่ยนพยายามทุบม่านพลังนั้นด้วยค้อนเหล็กที่ยาวกว่าหนึ่งจั้ง ท่าทางเหมือนกำลังแกว่งไกวภูเขาลูกมหึมาไว้ในมือ มันเปี่ยมไปด้วยรัศมีที่ทรงพลังราวกับจะบดขยี้ทุกสรรพสิ่งบนโลกได้ภายในพริบตา

การโจมตีของพวกเขาทั้งสองอัดแน่นด้วยกฎที่น่าสะพรึงกลัว อานุภาพของมันรุนแรงถึงขนาดที่แม้แต่เหลี่ยปิงหานยังรู้สึกหวาดผวาจนหายใจติดขัด

ชายหนุ่มตระหนักดีว่า หากสองคนนั้นโจมตีแบบนี้ตั้งแต่แรก เขาก็คงตายไปนานแล้ว!

ตึง! ตึง! ตึง!

ทว่าสิ่งที่ทำให้เหลี่ยปิงหานต้องตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ก็คือไม่ว่าจ้าวติงและชิวเยี่ยนจะออกแรงขนาดไหน การโจมตีของพวกเขาก็ไม่ต่างจากการเอากระดาษมาทุบตีปราณกระบี่จำนวนมหาศาลที่พร่างพราวดังเม็ดฝนเหล่านั้น ยิ่งลงแรงมากเท่าใด อาวุธในมือพลันแตกสลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย ก่อนจะเกิดเป็นแรงระเบิดที่สั่นสะเทือนไปทั้งฟ้าดิน

สถานการณ์ตอนนี้ราวกับบุกหน้าเหมือนผ่าลำไผ่*[1] ครั้นพลังพัดพายให้แตกสลาย สรรพสิ่งที่เหลือล้วนแหลกราบ!

“นี่มันปราณกระบี่แบบไหนกัน!?”

“ให้ตายเถอะ!”

ดวงตาของจ้าวติงและชิวเยี่ยนเหลือกโปนด้วยความไม่เชื่อ

ซู่! ซู่! ซู่!

น่าเสียดายที่คำตอบมีเพียงหยาดฝนแห่งปราณกระบี่ที่ตกลงมาอย่างไร้ความปรานี มันบางเบาประหนึ่งละอองฝนปรอย หากเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารอันทรงอานุภาพ

ครู่ถัดมา ร่างของพวกเขาทั้งสองพลันแข็งทื่อ ทั่วทั้งสรรพางค์กายโยงใยไปด้วยเลือดข้นเหนียวประหนึ่งใยแมงมุม ไม่นาน เสียงดังปึงปังสองครั้งก็ดังกึกก้องพร้อมกับร่างสองร่างที่ระเบิดออกเป็นชิ้นเนื้อขนาดเท่าหัวแม่มือหลาย ๆ ก้อนแทบจะในทันที หยาดเลือดสีแดงฉานไหลเป็นสาย โปรยปรายไปทั่วบริเวณ

ละอองเลือดล่องลอยอยู่ในอากาศ ขณะที่ปราณกระบี่ที่เป็นดังฝนโปรยเหล่านั้นก็อันตรธานหายไป

เมื่อภาพที่ชวนหวาดผวาปรากฏขึ้นต่อหน้า มือและเท้าของเหลี่ยปิงหานพลันเย็นเฉียบราวน้ำแข็ง ร่างกายชะงักค้างนิ่งเป็นเสาหินด้วยความงุนงง นี่มันวิชากระบี่ประเภทไหนกัน? เหตุใดจึงได้น่ากลัวถึงเพียงนี้!

ตอนนั้นเอง ร่างสูงร่างหนึ่งลอยลงมาจากบนฟ้า ชายคนนั้นคือเฉินซีไม่ผิดแน่

เฉินซีไม่แม้แต่จะเหลือบมองซากศพเละเทะเหล่านั้น ร่างสูงใหญ่เหยียดมือออกไปหยิบโซ่ทั้งสามสิบหกเส้นและค้อนเหล็กขึ้นมาเก็บไว้ ก่อนจะมองไปที่เหลี่ยปิงหานและกระทำบางสิ่ง

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!

ธงค่ายกลสีเหลืองอมส้มจำนวนมากปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า พวกมันถูกตรึงไว้โดยรอบพื้นที่หนึ่งร้อยลี้ตามที่เฉินซีตั้งใจ

เมื่อเหลี่ยปิงหานเห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มก็คลายอาการตกใจ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ ราวสองสามครั้ง “ข้า เหลี่ยปิงหาน ขอบคุณสหายเต๋าที่ช่วยชีวิต” เขาพูดอย่างจริงใจพร้อมกับประสานมือขอบคุณ

เหลี่ยปิงหานมองออกว่าเฉินซีเพิ่งจะอยู่ในขอบเขตเซียนลึกลับขั้นต้นเท่านั้น กระนั้น ก็รู้อีกว่าเฉินซีนั้นหาใช่คนธรรมดา เพราะชายผู้นี้สามารถสังหารทั้งจ้าวติงและชิวเยี่ยนได้อย่างง่ายดาย

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ ข้าก็เพียงต้องการจะฆ่าพวกเขาเท่านั้น การช่วยเจ้าเป็นเพียงผลพลอยได้” เฉินซีไม่คิดจะหันไปมองอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ชายหนุ่มวางธงค่ายกลสีเหลืองอมส้มไว้ตามจุดต่าง ๆ พร้อมกับร่างภาพของมหาค่ายกลสยบมาร

เหลี่ยปิงหานตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะเตือนเฉินซีด้วยความหวังดี “สหายเต๋า พวกมันมีกันอยู่จำนวนมาก ทั้งยังแข็งแกร่งไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าสองคนเมื่อครู่นี้ หากท่านไม่ออกไปตอนนี้ ข้าเกรงว่าไม่นานพวกเขาคงจะยกโขยงกันมาที่นี่แน่”

“เป็นเช่นนั้นก็ดีสิ” น้ำเสียงของเฉินซีสบายอารมณ์ ประกอบกับใบหน้าสงบนิ่ง ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าชายหนุ่มกำลังพูดเรื่องลมฟ้าอากาศทั่วไป

เหลี่ยปิงหานชะงักอีกครั้ง ตอนนี้เขาสังเกตเห็นแล้วว่าสิ่งที่เฉินซีกำลังทำเหมือนกับการตั้งค่ายกล ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “สหายเต๋า นี่ท่าน!”

“เอาละ ๆ ตอนนี้ข้ากำลังยุ่ง เก็บข้อสงสัยที่เจ้ามีไว้ในภายหลังเถอะ ข้าในตอนนี้บอกได้เพียงแต่ให้เจ้าใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่า อย่างเช่นการใช้มันไปกับการฟื้นฟูพลังของเจ้า” เฉินซีขมวดคิ้ว และพูดแทรกคำถามของผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับหนึ่งของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปแห่งทวีปเมฆาพำนักด้วยหมดความอดทนเต็มที

เหลี่ยปิงหานชาวาบไปทั้งหน้า ชายหนุ่มรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย ด้วยสถานะของตนในทวีปเมฆาพำนัก หากเป็นในเวลาปกติแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าพูดเช่นนี้แน่

ทว่าตอนนี้สถานการณ์มันต่างออกไป เขาตระหนักดีว่าแม้ชายแปลกหน้าคนนี้จะมีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าราว ๆ สองขั้น แต่กลับมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้อันน่าเกรงขามที่ไม่อาจมองข้ามไปได้อย่างยิ่ง

เดิมทีข้าคิดว่าไอ้สารเลวพวกนั้นมันเหนือมนุษย์ไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับคนที่ผิดแผกยิ่งกว่า… เหลี่ยปิงหานส่ายหน้าพลางหัวเราะขื่น ชายหนุ่มนั่งขัดสมาธิบนพื้นและเริ่มควบคุมการหายใจเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง

เหตุการณ์ก่อนหน้านี้สร้างผลกระทบทางความรู้สึกต่อเขาอย่างมาก มันทำให้ตระหนักได้ว่า แม้ตนจะเป็นอันดับหนึ่งในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปของทวีปเมฆาพำนักและเป็นผู้ที่มีสถานะสูงส่งที่สุด แต่หากเทียบกับทั้งภพเซียน สถานะตอนนี้ ก็ไม่ได้น่าภูมิใจอะไรนัก

ก็อย่างที่เห็น ทั้งชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ตรงหน้าหรือแม้แต่ศัตรูที่เผชิญหน้าเมื่อครู่นี้ พวกเขาล้วนมีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตเซียนลึกลับ ทว่าความแข็งแกร่งกลับเหนือธรรมดาไปมาก หากทั้งสามคนเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อจัดอันดับในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปของทวีปเมฆาพำนัก ตนจะต้องสูญเสียการเป็นที่หนึ่งไปอย่างไม่ต้องสงสัย

เวลาผ่านไปหนึ่งเค่อ เฉินซีก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับหรี่ตาลงเล็กน้อย “เอาละ พวกเขามาแล้ว!”

เหลี่ยปิงหานฟื้นคืนสติก่อนจะปลดปล่อยญาณมหาเทวะอมตะเพื่อค้นหาศัตรูโดยรอบ ทว่าไม่พบอะไรเลย

สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มต้องตกใจอีกครั้ง รู้ได้ในทันทีว่าแม้แต่ในแง่ของความแข็งแกร่งด้านจิตวิญญาณ เขาก็ไม่อาจเทียบกับอีกฝ่ายได้…

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เพียงพริบตา ร่างของเฉินซีและเหลี่ยปิงหานก็หายไปจากจุดนั้น

[1] บุกหน้าเหมือนผ่าลำไผ่ เป็นสำนวนจีนแปลว่า เมื่อจุดหนึ่ง ๆ พังทลายลง สิ่งต่าง ๆ ที่เหลือก็จะพังลงมาด้วย

———————————-

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 1109 สายฝนแห่งคมกระบี่"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF