cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1006 เต๋าแห่งสวรรค์แตกสลาย

  1. Home
  2. All Mangas
  3. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
  4. บทที่ 1006 เต๋าแห่งสวรรค์แตกสลาย
Prev
Next

บทที่ 1006 เต๋าแห่งสวรรค์แตกสลาย

บทที่ 1006 เต๋าแห่งสวรรค์แตกสลาย

ภูเขาลูกนี้สูงเสียดฟ้าทะยานไปถึงจักรวาล

และชายหนุ่มกำลังยืนอยู่บนยอด มันให้ความรู้สึกเหมือนยืนอยู่นอกโลกและเดินเข้าสู่จักรวาลอันไกลโพ้น ดวงดาวมากมายเรียงร้อยเป็นประกาย ตะวันและจันทราส่องแสง เป็นภาพอันยิ่งใหญ่ตระการตา

เฉินซีไม่คิดเลยว่าจะมีภูเขาเช่นนี้อยู่ในแดนภวังค์ทมิฬ มันสูงเหมือนเสาตั้งตระหง่านเสียดฟ้า เมื่อยืนอยู่ข้างบนแล้วมองลงมาก็จะเห็นหมู่เมฆ ฟ้าใส ภูเขา ธารน้ำ ทะเลสาบ มหาสมุทร และโลกทั้งใบ …มันเป็นความรู้สึกแปลกพิลึกเช่นเดียวกันกับภาพเบื้องหน้าชายหนุ่มในขณะนี้

“นี่คือยอดเขาเดียวดายในเขตแดนไร้นาม ตามตำนานเล่าไว้ว่า มันเกิดขึ้นจากโลหะหนาชิ้นหนึ่งเมื่อครั้งบรรพกาล โดยนับจากกาลก่อนก็มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถขึ้นมาถึงยอดเขาได้ ข้าบังเอิญได้อ่านบันทึกเรื่องนี้ในตำราเล่มหนึ่งของนิกายเรา” ชุดของหลียางสะบัดปลิว นัยน์ตาของนางใสกระจ่าง “หากเราดูการต่อสู้จากตรงนี้ก็จะเห็นได้ทุกอย่าง”

ว่าแล้ว นางก็นั่งลงบนหินก้อนหนึ่งแล้วตบที่ว่างข้าง ๆ เป็นสัญญาณให้เฉินซีนั่งลงเช่นกัน

“แดนไร้นาม ยอดเขาเดียวดาย…” เมื่อนั่งลงข้างหลียางแล้ว เฉินซีก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย ชั่วพริบตาเดียวเขาก็มาถึงแดนไร้นาม ซึ่งเป็นสถานที่ลึกลับที่สุดในแดนภวังค์ทมิฬแล้ว วิชาเคลื่อนมิตินี้เหนือกว่าที่เขาจินตนาการไว้จริง ๆ

“ศิษย์พี่หญิงเล็ก เรื่องของภัยพิบัตินี้…” เฉินซีพูดยังไม่ทันจบ หลียางก็ขัดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “ภัยพิบัตินี้มีผลกระทบเป็นวงกว้าง เราไม่จำเป็นต้องพูดถึงมันแล้ว เพราะอย่างไรเจ้าก็ไม่เข้าใจ พอผู้ยิ่งใหญ่พวกนั้นปะทะกันเมื่อใดเจ้าถึงจะเข้าใจเอง”

เฉินซีอึ้งไป แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

เขาเก็บความคิดตนเองไว้แล้วมองไปไกล ๆ เห็นภาพท้องฟ้าเหนือแดนภวังค์ทมิฬที่เต็มไปด้วยพลังผันผวนอันไม่สามารถอธิบายได้

เหมือนว่าพลังอันน่าเกรงขามกำลังคุกรุ่นอยู่…

ซึ่งพลังผันผวนนี้ดำเนินอยู่นานสามวันสามคืน ยิ่งนานก็ยิ่งดูมืดมนเรื่อย ๆ ทำให้มันปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทำเอาคนใจสั่นออกมา

ไม่เพียงเฉินซีที่สังเกตเห็นภาพนี้ ผู้บ่มเพาะหลายคนในแดนภวังค์ทมิฬเองก็เห็นเช่นกัน ทุกคนเกิดความกังวลอยู่ชั่วขณะ สัมผัสได้ว่าอีกไม่นานคงเกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจขึ้น

“ภัยพิบัติกำลังมาถึงแล้ว!”

“ไม่คิดเลยว่าภัยพิบัติจะมาถึงเร็วเช่นนี้”

“รังแตกเช่นนี้ไข่ในรังก็ไม่รอด มีแต่ต้องสู้เท่านั้น!”

ภายในแดนภวังค์ทมิฬ ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสที่เร้นกายหรือผู้ละทิ้งสวรรค์ทั้งหลาย หากมีพละกำลังเหนือกว่าพลังในขอบเขตภพมนุษย์ล้วนแต่มีสีหน้าตึงเครียดด้วยกันทั้งสิ้น

“ศิษย์พี่หญิง สหายของข้าจะไม่เป็นไรใช่หรือไม่ขอรับ?” ในวันนี้ เมื่อเฉินซีนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ อีกทั้งยังมีหลียางอยู่ข้างกายเขา ดังนั้นชายหนุ่มย่อมไม่ต้องเกรงกลัวภัยอันใด แต่หั่วโม่เลย หลิงไป๋ และคนอื่น ๆ เล่า?

“พวกเขาน่ะหรือ?” หลียางลืมตาขึ้นพลางส่ายหน้า “ไม่ต้องห่วง การต่อสู้นี้ไม่ใช่ว่าใครก็เข้าร่วมได้”

เฉินซีได้ยินแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่หลียางกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ได้ ชายหนุ่มก็เป็นต้องตกใจอีกครั้ง ‘กองกำลังบางกลุ่มที่ไม่ควรมีอยู่ในภพมนุษย์จะถูกกำจัดหายไปในภัยพิบัตินี้ และไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้…’

คำเหล่านี้หมายความว่ายังไง?

หรือว่า…

เฉินซียังไม่ทันทำความเข้าใจ เขาก็ได้ยินเสียงฟ้าลั่นดังก้องไปทั่วทั้งแดนภวังค์ทมิฬ มันรุนแรงมากราวกับฟ้าดินจะแยกออกจากกัน ทำให้ทุกคนสั่นกลัวขึ้นมา

จากนั้นท้องฟ้าทั่วทั้งแดนภวังค์ทมิฬก็กรีดออกเหมือนผ้าไหมถูกฉีก เกิดเป็นรอยแยกปรากฏขึ้นมากมาย คล้ายว่าฟ้ากำลังจะถล่ม

พร้อมกันนั้น สายฟ้าหลายเส้นที่หนาพอ ๆ กับแขนคนก็ซัดลงมาจากรอยแยกเหล่านั้น มันสว่างวาบและส่งเสียงคำรามไปทั่วทั้งแดนภวังค์ทมิฬ

แทบจะในพริบตา ฟ้าดินก็เต็มไปด้วยพลังผันผวนที่แผ่กลิ่นอายทำลายล้างออกมา!

จังหวะนั้นผู้บ่มเพาะทั้งหลายต่างพากันแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า ก่อนพวกเขาจะพร้อมใจกันตกใจจนหน้าซีดขาว ตัวคนสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ เกือบจะล้มหงายหลังลงกับพื้น

ไม่เพียงแต่ฟ้าเท่านั้นที่เหมือนจะถล่มลงมา แม้กระทั่งพลังกฎแห่งเต๋าสวรรค์ที่ไหลเวียนอยู่ยังใกล้จะล่มสลายเช่นกัน!

“สวรรค์โปรด! โลกกำลังจะถึงการอวสานอย่างนั้นหรือ?”

“นี่มัน…นี่…นี่…”

“ฟ้ากำลังถล่ม เต๋าแห่งสวรรค์ถูกทำลายแล้ว แดนภวังค์ทมิฬกำลังประสบมหาภัยพิบัติหรืออย่างไร?” ผู้บ่มเพาะทั้งหลายในแดนภวังค์ทมิฬพากันไม่สบายใจและหวาดกลัว ร้องตกใจขึ้นมาพร้อมกันหรือไม่ก็หลบอยู่ในเรือนอาศัยแล้วใช้วิชาป้องกันหลากหลายอย่างที่ตนมี และแต่ละคนก็ล้วนดูตื่นตระหนกตกใจกันมากทีเดียว

“จะเริ่มแล้ว” หลียางพลันผุดลุกขึ้นแล้วมองไปยังท้องฟ้าที่อยู่ไกลออกไป ดวงตาเปล่งประกายของนางส่องแสงสะท้อนราวกับภาพฝันลวงตา

พร้อมกันนั้นก็มีเงาร่างอันสูงส่งทั้งสามพุ่งออกมาจากภายในนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง พวกเขาพุ่งขึ้นฟ้าเหมือนทวยเทพทยาน เป็นสามปราชญ์แห่งเก้าเรืองรอง เฟิงถิง เติ้งเฉิน และเฟยหลิงนั่นเอง!

คนทั้งสามยืนอยู่กลางอากาศแล้วมองหน้ากัน นัยน์ตาเผยแววเด็ดเดี่ยว

พริบตาต่อมา พวกเขาก็หายลับไป

“ไอ้พวกบัดซบนั่นมันใช้ภพมนุษย์เป็นกระดานหมาก น่ารังเกียจยิ่งนัก! ไปกัน เรามาสังหารพวกมันกันเถอะ!” ภายในเรือนไม้แห่งหนึ่ง ณ แดนไร้นาม ชายชราผอมแห้งคนหนึ่งคว้ามีดไม้ไว้ในมือขณะก่นด่าด้วยความโกรธ เขาทุ่มชามไม้ ถ้วยไม้ เก้าอี้ไม้ และกล่องไม้ลงพื้น ก่อนจะส่ายหน้าและก้าวขึ้นฟ้าไป

“โอ๊ะ จะไปขย้ำพวกบัดซบกันหรือ! ในที่สุดมันก็มาแล้วหรือ? เดี๋ยวก่อนท่านอาจารย์! ศิษย์น้องเล็กยังปิดด่านบ่มเพาะอยู่เลย! อาจารย์! เหตุใดจึงไปไวนัก…” มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์คำรามลั่น จากนั้นเปลี่ยนร่างจนสูงเสียดฟ้า แล้วซัดหมัดใส่ท้องฟ้าจนเกิดรอยแยกติดตามชายชราร่างผอมไป

“ค่อยพานางมาตอนปิดด่านบ่มเพาะเสร็จแล้ว สั่งอวิ๋นหลานให้ออกจากนิกายมาด้วย” ณ นิกายอสูรสวรรค์แรกกำเนิด ฟางจ่านเหมยที่สวมชุดขาวดั่งหิมะสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ก่อนจะกรีดอากาศเปิดห้วงมิติแล้วเดินเข้าไป

“เวรเอ๊ย! ข้าไปล่ะ มีอารมณ์เมื่อไหร่ค่อยกลับ” ณ ตระกูลไป๋แห่งเทือกเขาหนามม่วง ไป๋จิงเฉินซดก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ก่อนตะโกนเสียงลั่น จากนั้นเตะอากาศเบื้องหน้าแล้วเดินเข้ารอยแยกไป

ตอนนี้ ผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหลายปรากฏขึ้นทั่วแดนภวังค์ทมิฬ พากันมุ่งหน้าขึ้นมาบนฟากฟ้า เขาวิญญาณนิรันดร์ วัดป่าธยานะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนก แดนไร้นาม สิบนิกายเซียน หกนิกายอสูร…

ถึงขนาดที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ในภพมนุษย์เองก็ยังจับสังเกตได้ ก่อนพากันส่ายหน้าถอนหายใจ บ้างก็มีสีหน้าเด็ดเดี่ยว หรือไม่ก็ส่งเสียงก่นด่าออกมา ก่อนจะพากันออกเดินทาง

ครืน!

ท้องนภาเหนือแดนภวังค์ทมิฬ เต๋าแห่งสวรรค์ได้แตกสลายไปแล้ว ห้วงกาลเวลาเลือนหาย เกิดหลุมดำน่าสะพรึงกลัวขึ้น และมีสิ่งมีชีวิตอันน่าเกรงขามนับไม่ถ้วนเดินออกมาจากหลุมดำนั้น

ในบรรดากลุ่มเหล่านั้นคือยักษ์หินตัวสูงราวเก้าจั้งและมีพละกำลังมหาศาล ปีศาจโครงกระดูกที่ถือเคียว ปีศาจบินได้น่าผวาซึ่งมีแขนนับพันที่ทำลายห้วงอากาศได้…

มีสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ออกมาจากรอยแยกไม่รู้จบ

ผู้เยี่ยมยุทธ์จากแดนภวังค์ทมิฬที่พุ่งขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็วพากันมุ่งหน้าสู่รอยแยกทั้งหลาย และเข้าห้ำหั่นกับสิ่งมีชีวิตลึกลับอันน่ากลัวพวกนั้นอย่างดุเดือด

ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงเจิดจ้าและการต่อสู้อันหนักหน่วงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง อีกทั้งยังมีลำแสงโปรยลงมาดั่งฝนพรำสู่ผืนดิน เสียงฟาดฟันดังสะท้านสะเทือนไปทั่วทุกทิศทาง

“นี่…คือภัยพิบัติหรือ?” เฉินซีตกตะลึง ทั่วทั้งร่างชาวาบ สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าหากเขาต้องเข้าไปต่อสู้ด้วยคงได้ถูกฉีกร่างเป็นหลายส่วนแน่

“นี่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ดูเสีย นี่คือสมรภูมิรบของผู้เยี่ยมยุทธ์ที่แท้จริง” หลียางชี้นิ้วเรียวยาวของนางไปยังฟ้าสูง

เฉินซีเงยหน้าขึ้นมอง แต่เห็นเพียงความโกลาหลที่เปล่งประกายแสงอันน่ากลัวออกมาเสียดแทงดวงตาจนปวดร้าวไปหมด เขาจึงมองไม่เห็นว่าจุดนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่พริบตาต่อมา เขาก็ใช้เนตรเทวะแห่งความจริง และมองเห็นได้ชัดเจนว่าบนท้องฟ้าที่มีรอยแยกมิติกระจายอยู่ทั่วนั้น …กำลังกลายเป็นสนามรบที่น่าขวัญผวายิ่งกว่าเดิม!

ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ทั้งหลายรวมกันจนมืดฟ้ามัวดิน พลังถูกซัดออกมาจากห้วงมิติลึก เมื่อปะทะกันก็ส่งเสียงลั่นครืนไม่รู้จบ ทุกการบรรจบของพลังทำเอาท้องฟ้าปั่นป่วน ตะวันและจันทราหม่นแสง พื้นที่โดยรอบถูกทำลายสิ้น

เมื่อมองให้ลึกลงไปจะเห็นว่าภายในวงต่อสู้เหมือนมีแขนขนาดใหญ่จำนวนมากคล้ายกับยื่นออกมาจากห้วงมิติ หากไม่แผ่กลิ่นอายทำลายล้าง มันก็กว้างขวางเหมือนมหาสมุทร หรือไม่ก็ให้ความรู้สึกบริสุทธิ์เหมือนดวงจันทร์ หรือไม่อย่างนั้น มันก็เป็นความรู้สึกชั่วร้ายกลืนวิญญาณ… บางแขนถือสมบัติวิเศษที่มีอำนาจสะท้านโลกาไว้มากมาย เพียงแค่พวกมันกำมืออย่างแผ่วเบา ห้วงเวลาก็แตกสลาย ท้องนภาถูกทำลาย เป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง!

นี่คือการต่อสู้กันของผู้เยี่ยมยุทธ์ ทุกอย่างแตกสลาย เลือดในกายกลายเป็นฝุ่นผง ทั่วท้องฟ้าของแดนภวังค์ทมิฬเต็มไปด้วยพลังผันผวนปะทะกัน

เฉินซีถึงขนาดเห็นนิ้วมือที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณยื่นออกมาจากห้วงอากาศ มันเคลื่อนผ่านหมู่ดวงดาว ก่อนจะทำท่ากดลงเบา ๆ ดวงดาวเหล่านั้นพลันแหลกเป็นผุยผง!

แต่นิ้วทรงพลังที่ทำลายดาวได้ทั้งดวงนั่นกลับถูกฟันจนขาดด้วยกระบี่เหล็กสนิมเขรอะเล่มหนึ่ง!

ชั่วพริบตานั้น ชายหนุ่มรู้สึกใจสั่นอย่างแรง หนังศีรษะชาหนึบไปหมด กระดูกในกายสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกอันน่าหวาดกลัว ทุกการเคลื่อนไหวสามารถทำลายดวงดาวระเบิดกาลเวลาได้ มันจึงจินตนาการได้ยากว่าจะต้องบ่มเพาะพลังเช่นไรถึงจะสามารถสร้างการโจมตีเช่นนี้ออกมาได้

เฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึกหลายครั้ง ก่อนจะคลายความตกใจลงได้ ในใจพลันเกิดคำถามขึ้นมาหลายอย่าง

‘พวกเขาเป็นใครกัน?’

‘เหตุใดจึงเข้ามาอยู่ในการต่อสู้อันดุเดือดเช่นนี้ได้?’

‘แล้วเหตุใดจึงต้องสร้างภัยพิบัตินี้ขึ้นมาด้วย?’

“นี่เป็นเพียงภัยพิบัติขนาดเล็กเท่านั้น มีเพียงยอดฝีมือจำนวนไม่มากในสามภพที่เข้าร่วมการต่อสู้ หมากสำคัญตัวจริงล้วนพากันหลบดูการต่อสู้อยู่หลังม่านทั้งสิ้น” ริมฝีปากสีแดงของหลียางเผยอเล็กน้อยเพื่ออธิบายเสียงเบา ไม่ปิดบังแววเยาะเย้ยถากถางในน้ำเสียงสักนิด

นี่…เป็นเพียงแค่ภัยพิบัติขนาดเล็กเท่านั้นหรือ? เฉินซีนิ่งไป มันไม่น่าตกใจสักหน่อยหรือ? เท่านี้ก็นึกภาพไม่ออกแล้วว่าหากกลียุคแห่งสามภพมาถึงจริงจะเป็นอย่างไร

“ศิษย์น้องสงบใจลงแล้วบ่มเพาะพลังเถอะ ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งเร็วขึ้นก็ยิ่งดี กลียุคแห่งสามภพมาถึงเมื่อไร ถึงคราวนั้นใครก็หนีไม่พ้น…” ไม่รู้ว่าหลียางคิดคำนึงอะไรอยู่ แต่นางถอนหายใจออกมาและดูหดหู่ใจยิ่งนัก

ในใจของเฉินซีได้แต่ตกตะลึง จากนั้นสีหน้าก็เกิดความมุ่งมั่นขึ้นมา “ศิษย์พี่หญิง ถึงตอนนั้นข้าต้องช่วยแบ่งเบาภาระให้ท่านได้แน่!”ไอรีนโนเวล

“ไม่ใช่ข้า แต่ต้องเป็นเขาเทพพยากรณ์ของเรา อีกอย่าง ข้าเชื่อว่าเจ้าจะแกร่งกว่าที่ข้าคาดไว้เสียอีก” หลียางเงยหน้ามองเฉินซี นัยน์ตาดาราเปล่งประกายดุจสายน้ำดูจะวางใจเล็กน้อย

จากนั้นนางก็ลากสายตาไปมองการต่อสู้ต่อ มุมปากพลันปรากฏรอยยิ้มลึกล้ำ “ศิษย์น้อง กฎแห่งเต๋าสวรรค์ถูกทำลายแล้ว เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์เองก็มัวแต่ยุ่งกับเรื่องของตนเอง นี่จึงนับเป็นโอกาสอันดีในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างยิ่ง”

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 1006 เต๋าแห่งสวรรค์แตกสลาย"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved