cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1005 ภัยพิบัติมาถึง

  1. Home
  2. All Mangas
  3. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
  4. บทที่ 1005 ภัยพิบัติมาถึง
Prev
Next

บทที่ 1005 ภัยพิบัติมาถึง

บทที่ 1005 ภัยพิบัติมาถึง

ฟ้าดินถูกปกคลุมด้วยความสงบและความเคร่งขรึม

มีเพียงเสียงของเฉินซีเท่านั้นที่เหมือนกับเสียงของธรรมชาติล่องลอยไปในอากาศช้า ๆ มันแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันเงียบสงบที่ทำให้หัวใจสงบนิ่ง ทำให้อากาศดูจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเต๋าที่อบอวลไปทั่วทั้งท้องฟ้า

ศิษย์ทั้งหมดของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองต่างนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น จากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนจากความตื่นเต้นในตอนแรกเป็นเงียบสงบ

แม้แต่เหล่าสัตว์ร้ายบนยอดเขาจรัสตะวันตกในขณะนี้ก็นอนอย่างเงียบ ๆ อยู่บนพื้นและฟังอย่างตั้งใจ

ชิงซิ่วอี้ยืนอยู่คนเดียวในระยะไกล ขณะที่นางจ้องมองไปยังร่างสูงซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลางแท่นบวงสรวงเต๋า ดวงตาของนางเปล่งกระกายและเอ่อล้นไปด้วยระลอกคลื่นแห่งความงดงามที่ไม่ธรรมดา

ในยุคบรรพกาลและก่อนที่ลัทธิเต๋าต่าง ๆ จะก่อตั้งขึ้น เหล่าปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่จะถ่ายทอดความรู้ของพวกเขาโดยไม่แบ่งแยกนิกายหรือชาติกำเนิด และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกสามารถฟังคำสั่งสอนที่ลึกล้ำของพวกเขาและมีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับเต๋า

ในเวลานั้น เหล่าเทพอสูรต่างท่องไปทั่วโลกอย่างอิสระ ในขณะที่ปราชญ์มีจำนวนมากมายเหมือนมวลเมฆบนท้องฟ้า ซึ่งเต๋าอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก และทุกนิกายต่างแข่งขันกันเอง มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและรุ่งโรจน์ที่สุดของโลกแห่งการบ่มเพาะ

น่าเสียดายที่เมื่อเวลาผ่านไป โลกแห่งการบ่มเพาะเริ่มสร้างแนวทางการบ่มเพาะที่มีการแบ่งแยกอย่างเข้มงวด สถานการณ์ที่ลัทธิเต๋าเข่นฆ่ากันเองจากความขัดแย้งเริ่มเกิดขึ้น ทำให้เหตุการณ์ที่เต๋าถูกถ่ายทอดไปยังทุกคนไม่มีอีกต่อไป

ภาพที่ปรากฏตรงหน้านาง ทำให้ชิงซิ่วอี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสมัยโบราณ อาจมีเพียงความใจกว้างดังกล่าวเท่านั้นที่จะทำให้บุคคลหนึ่งสามารถแข่งขันเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในโลก และยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมหาเต๋าในสามภพได้อย่างภาคภูมิ

นี่คือความเข้าใจของนาง

ถ้าใครยังคงยึดมั่นในความรู้ของตัวเองอย่างเห็นแก่ตัว คนคนนั้นก็จะมิอาจบรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

แน่นอนว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ชิงซิ่วอี้เชื่อมั่นในใจนั้น เกี่ยวข้องกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เมื่อเทียบกับสมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

จากมุมมองของนาง แม้ว่าตอนนี้เฉินซีจะถูกจำกัดด้วยการบ่มเพาะของเขา ทำให้ความเข้าใจของเขาถูกจำกัดไว้ที่ภพมนุษย์ แต่ตราบเท่าที่ชายหนุ่มยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ในขณะที่มีจิตใจกว้างไกลและไม่ย่อท้อ เส้นทางเต๋าของเขาก็จะทอดกว้างออกไปแน่!

…

“เต๋านั้นไม่มีชื่อที่แท้จริง แต่ผู้แข็งแกร่งเรียกมันว่าเต๋า ความลึกล้ำของเต๋ามีอยู่ในฟ้าดิน และมันสะท้อนให้เห็นในทุกสิ่งในโลก ถ้าจิตใจของคนเราปราศจากสิ่งมัวหมอง จิตใจก็จะใสกระจ่าง และเต๋าจะอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง”

“เมื่อหยินและหยางแยกออกจากกัน ฟ้าดินก็ก่อตัวขึ้น ซึ่งการถือกำเนิดของเบญจธาตุได้สร้างโลกขึ้น สายลมกับสายฟ้าได้มอบชีวิตให้แก่ทุกสรรพสิ่ง ในขณะที่ดวงอาทิตย์สาดแสงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฤดูกาลทั้งสี่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด สัจธรรมของเต๋ามีอยู่ในทุกสิ่ง”

“เคล็ดวิชาเป็นตัวแทนของเต๋า และศาสตร์เต๋า…”

เสียงที่ใสกังวานประหนึ่งระฆังยามเช้าของเขายังคงแผ่ออกไปอย่างช้า ๆ ใบหน้าของเฉินซีนั้นสงบนิ่งดุจบ่อน้ำโบราณที่ไร้คลื่น ขณะที่ร่างของเขาเปล่งกลิ่นอายอันสูงส่งและเคร่งขรึมออกมา

แม้ว่าจะเป็นการถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างสิ่งที่เขาได้เรียนรู้และประสบพบเจอในตลอดการเดินทางสู่เต๋า และไม่อาจถือว่าได้สร้างความตกตะลึงไปทั้งใต้หล้าได้ เมื่อเปรียบเทียบกับเหล่าปราชญ์ในสมัยโบราณ แต่ในมุมมองของศิษย์ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง มันเหมือนกับว่าพวกเขาได้รู้แจ้งโดยฉับพลัน มันทำให้เหล่าศิษย์ได้รับความเข้าใจอย่างมาก และสูญสิ้นความคิดในขณะที่ตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งการรู้แจ้งอย่างกะทันหันนี้

นี่เป็นดั่งคำกล่าวที่ว่า ‘เต๋าและเคล็ดวิชาทั้งหมดเท่าเทียมกัน’ โดยปกติแล้ว สิ่งที่คนเราต้องการมากที่สุด คือสิ่งที่เข้าถึงใจผู้คนได้โดยตรงที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกสิ่งที่เฉินซีได้เรียนรู้คือคัมภีร์เต๋าสูงสุดและความลึกล้ำของมหาเต๋าที่บรรลุความสมบูรณ์แบบ ยกตัวอย่างเช่น สัจธรรมสวรรค์ คัมภีร์เต๋านิรันดร์ เคล็ดมหาจุติ และความลึกล้ำของมหาเต๋าของธาตุทั้งห้า หยินหยาง วายุ อัสนี และอื่น ๆ เป็นต้น

เขาอธิบายถึงความเข้าใจและประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ด้วยวิธีที่รวบรัดและชัดเจนที่สุด จึงไม่ต้องกล่าวถึงเหล่าศิษย์ของนิกาย แม้แต่ผู้อาวุโสบางคนก็ยังหมกมุ่นอยู่กับมันและไม่สามารถหยุดฟังได้

ในตอนท้าย แม้แต่ผู้อาวุโสบางคนที่บ่มเพาะอย่างสันโดษก็เริ่มฟังเขา และยืนยันสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันเหมือนกับว่าผู้เยี่ยมยุทธ์สองคนกำลังแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และพวกเขาก็ได้รับประโยชน์จากมันอย่างมาก ทำให้สามารถไขข้อสงสัยและปัญหามากมายที่ติดค้างอยู่ในใจได้

ทว่าเฉินซีดูจะไม่ได้สังเกตเห็นเรื่องนี้ ในยามนี้ เขากำลังตกอยู่ในภาวะที่แปลกประหลาด จิตใจของเขาทั้งบริสุทธิ์และใสกระจ่าง ในขณะที่ความเข้าใจมากมายผุดขึ้นมาในใจของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง

กระบวนการถ่ายทอดเต๋า เป็นกระบวนการจัดระเบียบและสรุปทุกสิ่งที่เราได้ครอบครอง เพื่อกำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการและคงไว้ซึ่งแก่นแท้

มันเหมือนกับการอ่าน บางคนสามารถอ่านหนังสือจนเข้าใจอย่างลึกซึ้งได้ และบางคนสามารถอ่านหนังสือจนสรุปได้ ในขณะที่บางคนสามารถเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วจึงสรุปได้

การเข้าใจอย่างลึกซึ้งคือ การหลอมรวมความรู้ทั้งหมดที่มีและอนุมานจากมัน ในขณะที่การสรุปเป็นการกำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป โดยเหลือแต่สารสำคัญไว้เบื้องหลัง

กระบวนการนี้เป็นเหมือนวัฏจักรชีวิต บุคคลหนึ่งมีประสบการณ์ผ่านกาลเวลา สรุปผลได้ผลเสีย และหมกมุ่นอยู่กับความเข้าใจ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่สามารถก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งชีวิตได้ไกลขึ้นและสูงขึ้นได้อย่างง่ายดาย

เฉินซีในยามนี้ดูจะหมกมุ่นอยู่กับการสะสมพลัง เขากำลังสรุปทุกสิ่งที่รู้สึกและเข้าใจบนเส้นทางของตน ก่อนที่จะขึ้นสู่ภพเซียนเพื่อกลายเป็นเซียนสวรรค์

เมื่อเขาบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ มันจะเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับชายหนุ่ม และบทสรุปนี้จะปูทางที่กว้างขึ้นสำหรับเขา ทำให้เฉินซีก้าวเดินได้อย่างมั่นคงและราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับการเดินทางครั้งใหม่

…

เพียงชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปเกือบเดือนแล้ว

ในวันนี้ เฉินซีถูกแรงกระตุ้นกะทันหัน และตื่นขึ้นจากภาวะแปลกประหลาดที่เขาหมกมุ่นอยู่ ดวงตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยดวงดาวที่เคลื่อนคล้อยกับจักรวาลอันกว้างใหญ่และลึกล้ำ

สภาพแวดล้อมโดยรอบเงียบสงัด ขณะที่ศิษย์ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองยังคงหมกมุ่นอยู่ในความเข้าใจของพวกเขา และทุกคนก็ขมวดคิ้วในขณะที่ครุ่นคิดอย่างมีสมาธิ ขณะที่บ้างก็ทำท่าเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง บ้างยังคงนิ่งเหมือนขุนเขา บ้างก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า

แต่แท้จริงแล้วไม่มีสักคนเดียวที่สังเกตเห็นเสียงที่คลุมเครือดุจเสียงของธรรมชาติ หรือเสียงสวดมนต์ของคำสอนอันศักดิ์สิทธิ์ …ที่จู่ ๆ ก็หายไป

เฉินซีไม่ได้รบกวนพวกเขาเมื่อสังเกตเห็นสิ่งนี้ ชายหนุ่มยืนขึ้นและมาถึงตรงหน้าเฉินอวี่และเฉินอันเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็ปลุกเด็กน้อยทั้งสองจากการทำสมาธิ ก่อนที่จะออกจากแท่นบวงสรวงเต๋าไป

ภายในลานบ้าน ณ ริมสระชำระกระบี่

ชิงซิ่วอี้ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ คนเดียว และเมื่อแสงตะวันลับขอบฟ้าได้ส่องกระทบใบหน้าที่งดงามของนาง มันก็ส่องประกายที่งดงามและเหมือนความฝัน ทำให้หญิงสาวดูเหมือนเทพธิดาที่อาบไล้ด้วยแสงสวรรค์

ดูเหมือนว่านางจะรออยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว ชิงซิ่วอี้ยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นเฉินซี เฉินอัน และเฉินอวี่มาถึง “ข้ากำลังจะไปแล้ว”

เสียงของนางชัดเจนและไร้ตัวตน แต่ก็ให้ความรู้สึกเงียบสงบที่ไม่เหมือนใคร

แต่เมื่อมันกระทบหูของเฉินอัน มันกลับทำให้ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาเผยความรู้สึกไม่เต็มใจที่ไม่อาจปกปิดได้

เฉินซีตบไหล่เขาและปลอบใจด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ว่าเราจะจากกันตลอดไป และมันเป็นเพียงชั่วคราว เมื่อเจ้าและอวี่เอ๋อร์บ่มเพาะจนถึงขอบเขตเซียนสวรรค์แล้ว เราจะกลับมารวมกันได้อีกครั้ง”

เฉินอันพยักหน้า ในขณะที่เขาหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์

ชิงซิ่วอี้ก้าวมาข้างหน้า และยื่นมือไปลูบศีรษะของเฉินอัน จากนั้นนางก็กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้าจะรอพวกเจ้าทุกคนในภพเซียน จงอย่าได้เกียจคร้านเล่า”

“อย่าได้กังวลเลยขอรับ ท่านแม่ ข้าจะต้องทำให้ได้อย่างแน่นอน” ใบหน้าหล่อเหลาของเฉินอันอัดแน่นไปด้วยความแน่วแน่มุ่งมั่น

ชิงซิ่วอี้พยักหน้า ก่อนนางจะหันกลับไปมองที่เฉินซี “ข้าจะไปหาเจ้าเมื่อเจ้ามาถึงภพเซียนแล้ว”

เสียงของนางยังคงล่องลอยอยู่ในอากาศ เมื่อนางเปลี่ยนเป็นแสงที่พร่างพราวและเจิดจ้าอย่างยิ่งพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งในขณะนั้นเอง แม้แต่ฟ้าดินก็เต็มด้วยไปรัศมีสีทองที่สว่างไสวไปทั่วหล้า

ฉากเหล่านี้ดูแพรวพราวและเจิดจรัสเกินไป ราวกับว่าลำแสงสีทองส่องลงมาจากสวรรค์และกำลังปกป้องนาง ยิ่งกว่านั้น คลื่นมังกรคำรามและเสียงร้องของวิหคอมตะดังก้องจากภายในนั้น มันไร้ซึ่งตัวตนและเป็นท่วงทำนองมงคล ขณะที่มันโอบล้อมบริเวณโดยรอบ

“นี่คือการขึ้นสู่สวรรค์หรือ?”

เฉินซี เฉินอวี่ และเฉินอันต่างแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า

ในวันนี้ ชิงซิ่วอี้ผู้กลับชาติมาเกิดใหม่นับร้อยชาติและตัดกรรมจากชาติที่แล้วของนางจนหมดสิ้น ได้แหวกท้องฟ้าออกแล้วจากไป ในขณะที่ส่องสว่างด้วยแสงสีทองและบังเกิดท่วงทำนองมงคลลงมาจากสวรรค์ ซึ่งทำให้ทั้งโลกตกตะลึง!

ในวันนี้ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบจากต่างพิภพได้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ระหว่างที่พวกเขากำลังนำทัพต่างพิภพเข้าทำสงครามกับสิบนิกายเซียนและหกนิกายอสูร

แดนภวังค์ทมิฬตกอยู่ในความโกลาหลอย่างสมบูรณ์!

แต่ในตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกเกือบเก้าร้อยปี ก่อนกลียุคของภพทั้งสามที่ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกหล้าได้ทำนายไว้

“จะแตกหักเลยหรือไม่?”

ในวันนี้ ภายในแดนภวังค์ทมิฬอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต จิตสำนึกอันน่าสะพรึงกลัวจำนวนมากที่ดูเหมือนว่าจะพุ่งขึ้นไปถึงสวรรค์ได้ปรากฏตัวพร้อมกัน ๆ ภายในสถานที่อันเงียบสงบบางแห่ง พวกมันกวาดไปทั่วโลกหล้า ก่อนจะเปล่งเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน

ในวันนี้ นิกายกระบี่เก้าเรืองรองตื่นตัวอย่างเต็มที่และค่ายกลใหญ่คุ้มนิกายได้ถูกเปิดใช้งาน ในขณะที่สามปราชญ์แห่งเก้าเรืองรองและผู้อาวุโสบางคนที่เก็บตัวฝึกฝนได้ออกจากการปิดด่านบ่มเพาะ

ในวันนี้เองที่หญิงสาวซึ่งแต่งกายเหมือนชาย ได้ร่อนลงมายังยอดเขาจรัสตะวันตก

“โอ้ เด็กน้อยสองคนนี้เป็นหลานชายของข้ากระมัง” ในลานบ้าน หลียางยิ้มขณะที่นางจ้องมองเฉินอวี่กับเฉินอันทันทีที่นางมาถึง และดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาวของนางก็เต็มไปด้วยความรักที่ไม่ได้ปิดบังเลยแม้แต่น้อย

นางดึงแผ่นหยกสองชิ้นออกมาอย่างไม่ใส่ใจ แล้วโยนมันให้แก่เฉินอันกับเฉินอวี่ จากนั้นจึงกล่าวว่า “อ้อ นี่เป็นของขวัญจากอาจารย์ป้า นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบกัน จงจำไว้ว่า อย่าได้ให้ใครเห็นสิ่งนี้เป็นอันขาด”

ขณะที่กล่าว นางไม่สามารถหักห้ามตัวเองไม่ให้เดินไปข้างหน้า และเอื้อมไปหยิกใบหน้าของเฉินอวี่และเฉินอัน ซึ่งดวงตาของนางก็เปล่งประกายสดใส เปี่ยมล้นด้วยความรักอันอ่อนโยน

เฉินอวี่กับเฉินอันตกตะลึง เพราะพวกเขาไม่ทันรู้ตัวแม้แต่น้อย และแม้จะบ่มเพาะมาเกือบร้อยปี แต่คนทั้งสองก็ยังถูกหยิกแก้มเหมือนเด็ก ๆ นั่นทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดไม่น้อย

เฉินซีตะลึงกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลียางเช่นกัน ทว่าเห็นสีหน้าเขินอายและขุ่นเคืองของเฉินอวี่กับเฉินอันเพราะถูกแกล้ง ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ก่อนจะโบกมือให้เด็กน้อยทั้งสองจากไป

หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป สีหน้าของหลียางก็กลับมาสงบ นางจ้องมองเฉินซีตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าได้พบกับจักรพรรดิยมโลกองค์ที่สามในยมโลกหรือไม่”

เฉินซีพยักหน้า เขาคุ้นเคยกับศิษย์พี่หญิงคนนี้ของเขามานานแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่แปลกใจเลย เมื่อนางกล่าวถึงจักรพรรดิยมโลกองค์ที่สาม

“นั่นคือการดำรงอยู่ที่ไม่ธรรมดา” หลียางถอนหายใจ จากนั้นสีหน้าของนางก็จริงจังเมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างได้ “แต่เจ้าไม่ควรทำความเข้าใจเต๋ารู้แจ้งแห่งจุดจบในตอนนี้”

“ข้าเข้าใจขอรับ” เฉินซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นความอ่อนล้าที่ไม่สามารถปกปิดได้จาง ๆ ที่หว่างคิ้วของหลียาง ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความเป็นห่วง “ศิษย์พี่ มีเหตุใดเกิดขึ้นหรือไม่ขอรับ”

หลียางหัวเราะเบา ๆ “เจ้าอยากรู้หรือ?”

เฉินซีพยักหน้า

หลียางเงยหน้าขึ้น ในขณะที่ดวงตาอันเต็มไปด้วยดวงดาวของนางส่องประกาย หญิงสาวจ้องมองท้องฟ้าเป็นเวลานาน ก่อนที่จะกล่าวว่า “ภัยพิบัติเล็ก ๆ ได้ปะทุขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ม่านแห่งกลียุคของทั้งสามภพได้ถูกเปิดออกแล้ว…”

ขณะที่กล่าว นางได้หันหน้ามามองเฉินซี แล้วกล่าวว่า “อยากให้ข้าพาเจ้าไปสัมผัสกับการต่อสู้ระหว่างผู้ยิ่งใหญ่ของทั้งสามภพหรือไม่?”

เฉินซีตกตะลึง ในขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายแสงเจิดจ้า การต่อสู้ระดับนั้นจะน่าสะพรึงเพียงใดหรือ?

“เจ้าต้องเตรียมพร้อม กองกำลังบางกลุ่มที่ไม่ควรมีอยู่ในภพมนุษย์จะถูกกำจัดหายไปในภัยพิบัตินี้ และไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้…” หลังจากนางกล่าวประโยคที่เป็นความลับอย่างยิ่ง หลียางก็ยื่นมือของนางออกมาและพลิกขึ้น ทำให้แสงดาวเย็นยะเยือกสาดส่องลงมา จากนั้นหญิงสาวก็หายตัวไปพร้อมกับเฉินซีอย่างรวดเร็ว

เมื่อเฉินซีได้สติ เขาก็พบว่า จู่ ๆ ตนเองก็ยืนอยู่บนยอดเขาโบราณที่ตั้งตระหง่านบนสวรรค์ทั้งเก้า และเมื่อแหงนหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ ชายหนุ่มก็มองเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและจักรวาลได้!

—————————————

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 1005 ภัยพิบัติมาถึง"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved