cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1002 สัพพัญญูผู้โอ้อวด

  1. Home
  2. All Mangas
  3. บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
  4. บทที่ 1002 สัพพัญญูผู้โอ้อวด
Prev
Next

บทที่ 1002 สัพพัญญูผู้โอ้อวด

บทที่ 1002 สัพพัญญูผู้โอ้อวด

“เซียนลึกลับ!”

ทุกคนต่างตื่นตกใจ เพราะมันผ่านไปเพียงชั่วครู่ที่ชิงซิ่วอี้จากไป แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับกลับถูกจับ และถูกโยนลงไปกองกับพื้นเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว รวมถึงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่รู้จบเช่นนั้น

ผลกระทบทางสายตาที่เกิดจากเหตุการณ์นี้ ได้ดำเนินมาถึงจุดสูงสุดแล้ว และหากพวกเขาไม่เห็นมันด้วยสองตาตนเอง คงไม่มีใครกล้าเชื่อว่าเซียนลึกลับจะปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขาในสภาพที่ดูไม่ได้และน่าอับอายเช่นนี้

แม้พวกเขาบางคนจะเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพี แต่คนส่วนใหญ่ก็เป็นศิษย์รุ่นเยาว์ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้ว ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์เป็นเหมือนเทพที่อยู่บนฟากฟ้า ซึ่งพวกเขาทำได้เพียงแหงนมอง

ถึงกระนั้น ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับดังกล่าวกลับต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ และถ้าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์คงถูกสังหารไปตั้งนานแล้ว…

ความรู้สึกในใจของทุกคนในยามนี้อาจกล่าวได้ว่าซับซ้อนและตกใจขีดสุด

แต่ความรู้สึกเหล่านี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเลื่อมใสในที่สุด มันเป็นการแสดงความเคารพอย่างจริงใจต่อชิงซิ่วอี้ โดยไม่ได้เสแสร้งเลยแม้แต่น้อย

แต่ชิงซิ่วอี้ดูจะไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องทั้งหมดนี้ นางเพียงก้าวเดินไปหาเฉินอัน จากนั้นมองเขาพร้อมกล่าวว่า “แม่ผิดต่อตัวเจ้า”

มันเป็นคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่กลับทำเฉินอันตื้นตันจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ และเขาต้องข่มความรู้สึกของตนเองเป็นเวลานาน ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกล่าวว่า “ลูกสบายดี”

บทสนทนาเช่นนี้ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นระหว่างมารดากับบุตร

แต่มันก็เกิดขึ้นจนได้

…ไม่ว่าจะเป็นชิงซิ่วอี้หรือเฉินอัน ทั้งคู่ต่างรู้สึกว่านี่คือบุตรหรือมารดาในใจของพวกเขา แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี พวกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับความห่างไกลและความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย

เฉินซีเพียงยิ้มบางเมื่อเห็นสิ่งนี้ จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับบนพื้น

คนผู้นี้คือชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อปักลายและเสื้อคลุมขนพังพอน รูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายหล่อเหลาและประณีตราวกับหยกเนื้อดี แต่กลิ่นอายของเจ้าตัวในขณะนี้กลับหดหู่ยิ่ง และสีหน้าของเขาก็ซีดเซียว ในขณะที่เลือดไหลออกมาจากมุมปากอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีร่องรอยความหวาดกลัวและความคับข้องใจเผยออกมาตรงหว่างคิ้ว

“นาม?” เฉินซีถามอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจใด ๆ

“ชิวอวิ๋นเซิง” ชายวัยกลางคนพยายามลุกขึ้นนั่ง เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมถึงกำลังทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดที่ยากจะอธิบาย แต่เจ้าตัวก็ยังอดทนต่อมันอย่างสุดกำลัง และพยายามรักษาท่วงท่าที่สง่างาม ในขณะที่จัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเงียบ ๆ

“นิกาย?”

“ภูเขาหมอกเซียน”

“เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่?”

“กระบี่เต๋าวิบัติ”

“กี่คน?”

“ข้าน่าจะเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่”

เฉินซีและผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับซึ่งเรียกตัวเองว่าชิวอวิ๋นเซิง ได้แลกเปลี่ยนคำถามกับคำตอบที่กระชับและครอบคลุม ยิ่งกว่านั้น ชิวอวิ๋นเซิงยังค่อนข้างให้ความร่วมมือ และไม่แสดงอาการลังเลหรือปฏิเสธใด ๆ

สิ่งนี้ทำให้เฉินซีอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองชายคนนี้อีกสองสามครา

แม้จะมองเพียงแวบเดียว แต่ดูเหมือนว่าชิวอวิ๋นเซิงจะเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย ดังนั้นเจ้าตัวจึงว่า “มันแปลกมากหรือ? อันที่จริงเรื่องนี้ไม่มีอันใดแปลกเลย ข้าแค่ไม่อยากตายอย่างน่าสยดสยองเช่นนั้น”

ขณะที่พูด เขายังคงจัดแจงเสื้อผ้าอยู่ การเคลื่อนไหวของคนผู้นี้ระมัดระวัง และดูจะรักสะอาดเป็นพิเศษ เพราะเจ้าตัวขมวดคิ้วทุกครั้งที่นิ้วสัมผัสบริเวณเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด รวมทั้งยังพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณนั้น

แยกแยะการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่ได้ยากเลย ชิวอวิ๋นเซิงนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับ ที่รักสะอาด และพิถีพิถันกับรูปลักษณ์หน้าตาของตัวเองเป็นพิเศษ

การค้นพบนี้ ทำให้เฉินซีตระหนักได้ทันทีว่า หากต้องการรีดข้อมูลจากชายคนนี้ การโยนอีกฝ่ายลงไปในส้วมซึม อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุผล

น่าเสียดายที่ชิวอวิ๋นเซิงก็คิดถึงเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ให้โอกาสเฉินซีในการรีดข้อมูลด้วยวิธีนั้น และยินยอมตอบทุกคำถามของเฉินซี กลายเป็นคนทรยศโดยสมบูรณ์!

“เหตุใดเจ้าถึงไม่มาที่นิกายกระบี่เก้าเรืองรองโดยตรง” เฉินซีถามอีกครั้ง

“ข้าชอบใช้หัวไม่ใช่กำลัง ในเมื่อสามารถบรรลุเป้าหมายด้วยแผนการได้ ข้าก็จะไม่เอาตัวไปเสี่ยงเป็นอันขาด”

ชิวอวิ๋นเซิงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะต้องทนกับความเจ็บปวดที่รุนแรง แต่เจ้าตัวก็ยังกล่าวอย่างมั่นใจด้วยท่าทางที่ใจเย็น “ข้าเป็นเพียงผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนลึกลับ ในขณะที่นิกายกระบี่เก้าเรืองรองมีผู้อาวุโสสามคนที่มีความแข็งแกร่งที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ กอปรกับมีข้อจำกัดและสมบัติบางอย่างที่ไม่รู้จัก ดังนั้นข้าจึงตระหนักได้ทันทีว่า การที่ข้ามาเยือนภพมนุษย์ในครั้งนี้ ข้าไม่อาจใช้กำลังได้”

นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินซีได้พบกับศัตรูเช่นนี้ ตัวเขาจึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความกล้าหาญและความเฉลียวฉลาดของอีกฝ่ายเล็กน้อย

เขาขี้ขลาดหรือไม่?

ย่อมไม่ใช่อย่างแน่นอน!

เพราะนี่คือภพมนุษย์ ในขณะที่ชิวอวิ๋นเซิงเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับ อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นผู้นำของเซียนสวรรค์สองคนและกลุ่มคนรับใช้จากภพเซียน ดังนั้นอีกฝ่ายจะไม่ได้ทุกสิ่งที่ต้องการในภพมนุษย์ได้อย่างไร?

หากเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับคนอื่น คงบุกเข้าไปในนิกายกระบี่เก้าเรืองรองตั้งนานแล้ว จากนั้นจึงค่อยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดและตรงไปตรงมาในการจัดการกับทุกสิ่ง

แต่ชิวอวิ๋นเซิงกลับไม่ทำเช่นนั้น บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกตัดสินว่าเป็นคนขี้ขลาด แต่ตอนนี้เขาตกเป็นเชลยศึกแล้ว แต่เจ้าตัวยังคงเผชิญกับสิ่งนี้ด้วยท่าทางที่สุขุมและเยือกเย็น ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่คนขี้ขลาดจะทำได้

“เหตุผลที่ข้าเลือกที่นี่ เพราะข้าต้องการควบคุมผู้อาวุโสและเหล่าศิษย์ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง เพื่อเป็นประโยชน์ต่อข้า ทำให้ข้าได้ลอบเข้าไปในนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง และคว้าโอกาสในการนำกระบี่เต๋าวิบัติคืนมา” ชิวอวิ๋นเซิงยังคงกล่าวต่อไป “ด้วยวิธีนี้ ความเสี่ยงก็จะลดลงจนเหลือน้อยที่สุด ในขณะที่ข้าสามารถทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงชีวิต แล้วเหตุใดข้าถึงไม่ทำล่ะ?”

“กระบี่เต๋าวิบัติคือสิ่งใด?” ผู้อาวุโสฟู่อวิ๋นที่อยู่ใกล้ ๆ อดถามขึ้นมาไม่ได้ และคนอื่น ๆ ต่างก็งงงวยอย่างมากเช่นกัน

เฉินซีรู้ถึงสิ่งนี้ดี แต่เขาไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับความลับของถ้ำกระบี่วิญญาณโลหิตชั้นที่เก้าสิบเก้า และมีเพียงไม่กี่คนในนิกายที่รู้เรื่องนี้

สิ่งสำคัญที่สุดคือกระบี่เต๋าวิบัติอยู่ในการครอบครองของเฉินซี และแม้แต่ประมุขหรือผู้อาวุโสระดับสูงคนอื่น ๆ ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองก็ไม่รู้เรื่องนี้

ชิวอวิ๋นเซิงหัวเราะ ในขณะที่เขามองไปยังฟู่อวิ๋นแล้วกล่าวว่า “เนื่องจากพวกเจ้าทุกคนไม่รู้ แสดงว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งต้องห้ามในนิกายกระบี่เก้าเรืองรองของเจ้า เช่นนั้นก็อย่ารู้เสียดีกว่า เพราะหากรู้มากเกินไป ก็จะเป็นทุกข์มากขึ้นเท่านั้น”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่อวิ๋นอดไม่ได้ที่จะขุ่นเคือง จากนั้นจึงตวาดว่า “เจ้ากำลังเยาะเย้ยว่าข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้เรื่องนี้หรือ?”

หากเป็นในยามปกติ เขาคงไม่กล้าถามผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับเช่นนี้ แต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแม้แต่พยัคฆ์ที่ล้มลงก็ยังถูกสุนัขรังแก นอกจากนี้ เขายังไม่รังเกียจที่จะฉวยโอกาสเพื่อทุบตีชิวอวิ๋นเซิงที่ล้มลง!

ชิวอวิ๋นเซิงเพียงยิ้มและไม่พูดอะไรอีก

ท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้ ยั่วยุฟู่อวิ๋นจนขุ่นเคืองได้สำเร็จ แต่เขากลับถูกผู้อาวุโสคนอื่นห้ามปรามไว้ ก่อนจะทันได้ลงมือ ผู้อาวุโสเหล่านั้นดูจะกล่าวบางอย่างกับอีกฝ่าย จึงทำให้สีหน้าของฟู่อวิ๋นเปลี่ยนไปมา ก่อนที่เขาจะยับยั้งตัวเองได้ในที่สุด

หลังจากนั้น ฟู่อวิ๋นก็ขอตัวลา และนำผู้อาวุโสกับศิษย์ทั้งหมดออกจากโถงไป

“ดูเหมือนว่ายังมีคนฉลาดอยู่บ้าง พวกเขารู้ว่าเมื่อใดควรจากไปและสิ่งใดที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เป็นเรื่องที่ดีที่รู้จักถนอมชีวิตของพวกเขาเอง” ชิวอวิ๋นเซิงแสดงความเห็นอย่างสบาย ๆ ราวกับเขารู้อยู่แล้วว่าผลจะออกมาลักษณะนี้

“การมีอยู่ของความกังวลมักถูกใช้ในอุบาย และตราบใดที่ใช้ได้อย่างเหมาะสม ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากมายเพื่อบรรลุเป้าหมายของตน”

ในที่สุดเฉินซีก็ตระหนักได้ว่า ชายวัยกลางคนผู้นี้หลงใหลในเต๋าแห่งกลอุบาย และความเข้าใจของเขาที่มีต่อหัวใจผู้อื่นก็เหมือนกับหลังมือของตนเอง อีกทั้งสติปัญญาของคนผู้นี้ยังฉลาดเป็นกรดเสียด้วย

ความเข้าใจทางโลกคือภูมิปัญญาที่แท้จริง และนี่คือสิ่งชิวอวิ๋นเซิงมี

แต่เฉินซีไม่ชอบคนจำพวกนี้ เพราะเขารู้สึกว่าคนเช่นนี้มักโอ้อวดสติปัญญาอยู่เสมอ และชอบทำทีเหนือกว่า ราวกับถือไข่มุกแห่งปัญญาไว้ในมือ

ดังนั้นในพริบตาต่อมา เฉินซีจึงกล่าวออกมาตรง ๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้าขอถามสักคำ เจ้าคิดว่าข้าจะฆ่าเจ้าหรือไม่?”

ชิวอวิ๋นเซิงพยักหน้าโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “ใช่ แต่ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเดาได้ว่า ตั้งแต่ข้ากล่าวออกมาตรง ๆ และทัศนคติของข้าก็ไม่ได้เลวร้าย ข้าจึงเป็นคนฉลาดอย่างเห็นได้ชัด คนฉลาดทุกคนล้วนกลัวความตาย แต่คนฉลาดอาจรู้มากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ จริงหรือไม่?”

เฉินซีตกตะลึง จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า “แต่ข้าไม่ได้อยากรู้ตอนนี้”

ขณะที่พูด เขาจับคอชิวอวิ๋นเซิงไว้ในมือ แล้วหันกลับมาก่อนจะเดินออกจากโถงไป

การกระทำนี้ย่อมทำให้ชิวอวิ๋นเซิงตกตะลึง ทั้งยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และดูเหมือนว่าสถานการณ์จะคลาดเคลื่อนจากที่เขาคาดการณ์ไว้อย่างกะทันหัน…

“อันใดกัน…นี่เจ้าคิดจะทำอะไร” ชิวอวิ๋นเซิงพยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองดูสงบมากที่สุด ในขณะที่กล่าวออกไป

เฉินซีไม่ตอบ และสีหน้าของชายหนุ่มก็ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

“เฉินซี ข้าได้รู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเจ้าในช่วงไม่กี่วันผ่านมานี้ ยิ่งกว่านั้น ข้าทราบดีถึงความเป็นศัตรูที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ของเจ้ากับตระกูลจั่วชิว และความเป็นศัตรูอย่างลึกซึ้งระหว่างเจ้ากับปิงซื่อเทียน ข้าสามารถช่วยเจ้าจัดการกับเรื่องทั้งหมดนี้ได้ หรือว่าเจ้าไม่ลองอยากฟังแผนการของข้า ให้โอกาสข้าสักนิด ตราบใดที่เจ้าฟังสิ่งที่ข้ากล่าวจนจบ เจ้าจะต้องเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน” ชิวอวิ๋นเซิงตื่นตระหนกเล็กน้อย และเขาไม่สนใจที่จะสงวนท่าทีอีกต่อไป ดังนั้นจึงควักไพ่ตายออกมาทันที

น่าเสียดายที่เฉินซีไม่รู้สึกอยากฟังอีกต่อไป อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ได้อยากฟังในยามนี้

ในเวลาไม่นาน ชายหนุ่มก็หายตัวไปจากโถงรัศมีวิญญาณโดยมีชิวอวิ๋นเซิงอยู่ในมือ

“ท่านป้าขอรับ ท่านลุงตั้งใจจะทำอะไรหรือ?” เฉินอวี่ที่อยู่ใกล้เคียง จ้องมองอย่างว่างเปล่าขณะที่เขาถาม

“ท่านลุงของเจ้าจะโยนมันลงส้วมซึมหรือจุ่มลงชักโครก ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะทำบางสิ่งที่ทำให้คนที่หลงใหลในความสะอาดต้องจิตใจพังทลาย” ชิงซิ่วอี้ตอบอย่างเป็นกันเอง

เฉินอวี่หัวเราะลั่นออกมา แล้วกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ คนผู้นี้หยิ่งหยองเกินไป และเขาสมควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง”

“กลยุทธ์ก็เหมือนเสือกระดาษในท้ายที่สุด และมันก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง” เฉินอันดูจะจมอยู่ในความคิด ขณะที่เขากล่าวว่า “บางทีคนประเภทนี้อาจบรรลุในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่ถ้าเขาไม่มีความแข็งแกร่งที่เพียงพอ เขาก็จะเป็นเพียงตัวตลกที่ต้องคอยรับคำสั่งจากผู้อื่น”

“ใช่ เขาเป็นตัวตลก กลอุบายและเล่ห์เหลี่ยมทั้งหมดไม่สามารถต้านทานการฟันด้วยกระบี่ที่อยู่เหนือกระดานได้” เฉินอวี่กล่าวในเชิงเห็นด้วย และเขารู้สึกว่าคำพูดของเฉินอันนั้นเหมือนกับความคิดของตัวเองทุกประการ

หากคนอื่น ๆ ได้ยินว่าเด็กน้อยทั้งสองที่มีการบ่มเพาะเพียงขอบเขตจุติ แต่กลับกล้าตัดสินผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับว่าเป็นตัวตลก พวกเขาอาจจะรู้สึกว่าเด็กสองคนนี้เสียสติไปแล้ว

แต่ชิงซิ่วอี้กลับชมเชยและเผยรอยยิ้มที่หาได้ยาก เมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ “ถูกต้อง คนที่มีสติปัญญาล้ำเลิศดั่งสัพพัญญูผู้โอ้อวด แท้จริงแล้วมักจะมีฝีมือต่ำทราม”

ในขณะนี้ เฉินซีได้กลับมาแล้ว แต่เขากลับมาเพียงคนเดียว

เฉินอวี่อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย “ท่านลุงขอรับ เจ้าคนอวดดีนั่นอยู่ที่ใดกันหรือ?”

เฉินซีคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “เจ้าคงไม่อยากรู้ ไม่อย่างนั้นข้ารับรองว่าเจ้าจะกินอะไรไม่ลงถึงสามวันสามคืน” ขณะที่เขากล่าวจบ ตัวเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมา และดูเหมือนว่าชายหนุ่มไม่เต็มใจจะนึกถึงภาพเหล่านั้นเช่นกัน

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เฉินอวี่อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และเขาไม่กล้าจินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับคนนั้นแม้แต่น้อย…

“คนผู้นั้นอาจจะเชื่อฟังในวันพรุ่งนี้ เมื่อถึงเวลานั้น เราจะกลับไปที่นิกายกระบี่เก้าเรืองรองใช่หรือไม่?” เฉินซีเงยหน้าขึ้นมองไปทางชิงซิ่วอี้

ชิงซิ่วอี้พยักหน้าด้วยท่าทางที่อ่อนโยนและมีความสุข

เฉินอวี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมลุงของเขาเล็กน้อย และเขาอยากรู้จริง ๆ ว่าเฉินซีคว้าหัวใจของท่านป้าที่งดงามและน่าเกรงขามคนนี้ได้อย่างไร

ถ้าเฉินซีรู้ความคิดของเฉินอวี่ เขาคงโกรธเพราะความอับอาย เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนค่อนข้างไร้เหตุผล แปลกประหลาด และไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก

ที่สำคัญที่สุดคือเขายังคงจำมันได้ไม่ลืม…

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 1002 สัพพัญญูผู้โอ้อวด"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved