บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 980 สิ้นหวังอย่างแท้จริง
ตอนที่ 980: สิ้นหวังอย่างแท้จริง
…………………………………………………..
ตอนที่ 980: สิ้นหวังอย่างแท้จริง
ฮั่วเหยาไม่รู้จักผู้บวงสรวงสวรรค์ที่หนึ่ง
แต่เขากลับรู้สึกได้ว่า เจตจำนงที่จู่ ๆ ก็ผุดออกมาจากตราประทับพุทธะเป็นตายนั้นคละคลุ้งไปด้วยพลังอันน่ากลัวอย่างที่สุด!
น่ากลัวจนทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่น และหนาวสะท้านไปทั้งตัว
ฮั่วเหยาสะบัดแขนเสื้อในทันทีโดยไม่ลังเล
ทันใดโคมไฟเก้ามังกรปล่อยแสงสว่างเจิดจ้า พ่นไฟสีม่วงขนาดใหญ่ออกมา พุ่งซัดเข้าใส่ผู้เฒ่าชุดดำทั้งตัวอย่างแรง
เพลิงผงาดสว่างล้ำเก้าสวรรค์
“ฮึ!”
ผู้เฒ่าชุดดำแสดงท่าทีเย็นชาออกมาทางใบหน้า จากนั้นซัดฝ่ามือออกไป
ประกายแสงสีดำซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังภัยพิบัติพุ่งออกมา ราวกับมีดสะบั้นสวรรค์
เพลิงไฟสีม่วงที่ถาโถมกันเข้ามาถูกผ่ากลางตัวในทันใด
ประกายแสงสีดำยังคงไม่อ่อนกำลัง พุ่งไปที่ฮั่วเหยา!
การทำลายล้างเช่นนั้นทำให้สีหน้าของฮั่วเหยาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
โล่เหล็กเนียนเรียบประดุจกระจกโผล่มาอยู่ในมือข้างซ้ายของเขา ลายวิถีธรรมชาติปรากฏขึ้นบนตัวโล่ ถักทอเป็นภาพปลาวิญญาณสีขาวกับสีดำอย่างละตัว
วัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์… โล่ธาตุผสานสองขั้ว!
ปัง!!!
ประกายแสงสีดำฟาดลงบนโล่ ระเบิดเป็นแสงสว่างเจิดจ้า
ร่างของฮั่วเหยาสั่นสะท้านอย่างแรง จนเลือดลมในตัวพลุ่งพล่าน ทว่าเขาก็สามารถต้านทานการโจมตีอันน่ากลัวไว้ได้สำเร็จ
ผู้เฒ่าชุดสีดำที่อยู่ไกลออกไปหรี่ตามองด้วยความตระหนกเล็กน้อย “ไม่คิดเลยว่า คนในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำอย่างเจ้าเช่นนี้จะสามารถควบคุมวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์จำนวนมากมายเช่นนี้ได้”
ในสายตาของเขา ไม่ว่าจะเป็นดาบเมฆาแดง โคมไฟเก้ามังกร หรือโล่ธาตุผสานสองขั้วที่ฮั่วเหยาควบคุม ล้วนเป็นเกราะสวรรค์แสงเงินที่ปกคลุมอยู่บนตัว เรียกได้ว่าเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์ที่พบหาได้ยากยิ่งนัก
หากผู้เป็นจักรพรรดิมีสมบัติล้ำค่าประเภทนี้ในครอบครอง พวกเขาก็ใช้มันได้ไม่มีวันหมดแล้ว
ทว่าฮั่วเหยากลับมีถึงสี่ชิ้น!
“ตาเฒ่า ในโลกนี้มีเรื่องมากมายที่เจ้าไม่รู้ ยิ่งกว่านั้นเพียงแค่เจตจำนงเดียวของเจ้า คิดว่าตัวเองสามารถกร่างได้แล้วเช่นนั้นหรือ!?”
ฮั่วเหยาตะคอก ดวงตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความดุดัน
เสียงยังคงดังกึกก้อง มือข้างขวาที่ขาดไปแล้วกลับมีนิ้วมืองอกออกใหม่อีกครั้ง ราวกับหญ้างอกใหม่เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ
ครืน!
ครู่ถัดมา ฮั่วเหยาพุ่งไปฆ่าผู้เฒ่าชุดดำ
ดาบเมฆาแดงส่งเสียงสะท้านพิภพ แสงของโคมไฟเก้ามังกรถักทอประสาน สร้างความสง่าให้กับฮั่วเหยาเฉกเช่นเทพอสูรออกรบ
เกรียงไกรกร้าวแกร่ง ดุดันมีพลัง!
สีหน้าของผู้เฒ่าชุดดำยังคงราบเรียบเหมือนดังเคย แขนเสื้อพองลม สำแดงเคล็ดวิชามหาวิถีอันพิสดารยากจะคาดเดา สิบนิ้วเรียวบางเห็นโครงกระดูกชัดเจนราวกับคมมีดสิบเล่มกรีดกรายไม่หยุด
ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ!
ประกายแสงสีดำที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังภัยพิบัติแต่ละสายถูกปล่อยออกไปพร้อม ๆ กัน
ประกายแสงแต่ละสายรวดเร็วประดุจสายฟ้าแลบ ไร้ทิศทางแน่นอน ทว่ากลิ่นอายพลังทำลายล้างในตัวมันกลับบาดอากาศให้เกิดเป็นรอยฉีกยาว ๆ ได้อย่างง่ายดาย
เพียงชั่วพริบตา อากาศในบริเวณนั้นก็ฉีกขาดเป็นริ้ว ๆ ราวกับผืนผ้าที่ถูกฉีกจนไม่มีเหลือชิ้นดี!
ศึกใหญ่ปะทุขึ้น
ความดุดันบ้าคลั่งของฮั่วเหยา กับความราบเรียบเย็นชาของผู้เฒ่าชุดดำ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
การต่อสู้อย่างดุเดือดบนผืนปฐพีแห่งนี้ สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าทั่วแผ่นดิน เดือนตะวันอับแสง ภูเขาลำเนาไพรที่อยู่ใกล้ ๆ ล้วนทรุดตัว
ประกายแสงอันเร่าร้อนเกิดขึ้นพร้อมกับเสียงปะทะพุ่งชนอย่างรุนแรง สั่นสะเทือนไปรอบด้าน
ซูอี้ยังคงอยู่ ไม่จากไปไหน
เขายืนมองดูการต่อสู้ในครั้งนี้อยู่ห่าง ๆ อย่างสงบ ไม่ยินดีและไม่ทุกข์ร้อน
เจตจำนงของผู้บวงสรวงสวรรค์ที่หนึ่งแห่งหอเก้าสวรรค์มีความน่ากลัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎวอนสวรรค์ที่เขาควบคุม ยิ่งใหญ่ดังอานุภาพแห่งสวรรค์
แม้ว่าจะเป็นเพียงเจตจำนงเดียว ก็ยังเหนือกว่าผู้แข็งแกร่งอย่างหงอิ๋งผู้ลงทัณฑ์ที่สี่
หากไม่ใช่เพราะฮั่วเหยาควบคุมวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์เป็นจำนวนมาก คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้บวงสรวงสวรรค์ที่หนึ่งแน่
ทว่า ข้อเสียของเจตจำนงก็เด่นชัดมากเช่นกัน
นั่นก็คือพลังมีขีดจำกัด ไม่อาจต้านทานได้นานมากนัก!
ครืน!
ศึกใหญ่กำลังดำเนินต่อไป ดุเดือดรุนแรงยิ่งนัก
ฮั่วเหยาดุดันแข็งกร้าว แต่เขาไม่ได้ต่อสู้กับผู้เฒ่าชุดดำซึ่ง ๆ หน้า แต่ใช้กลยุทธ์โอบหลัง
เขาตระหนักเข้าใจดีว่า ด้วยความสามารถของตัวเองในตอนนี้ไม่อาจเอาชนะอีกฝ่ายได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้กลยุทธ์โอบหลังถ่วงกำลังของอีกฝ่าย!
ผู้เฒ่าชุดดำไม่ยอมให้ฮั่วเหยาทำตามใจชอบ จากนั้นเขาก็ใช้วิธีแข็งกร้าวที่สุดบุกโจมตีฮั่วเหยาอย่างสุดกำลัง
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น ฮั่วเหยาก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่งแล้ว
“ตาเฒ่า หากว่าร่างแท้ของเจ้าอยู่ตรงนี้ ข้าอาจจะยังกลัวอยู่บ้าง แต่เพียงแค่เจตจำนงเท่านี้ จะทำอะไรข้าได้?”
ฮั่วเหยาแผดเสียงตะคอก
รอบตัวของเขาเต็มไปด้วยพลังเพลิงอันดุดัน ขณะขับเคลื่อนจิตรับรู้ในตัวพุ่งสู่ขีดสุด
และเขาสามารถรู้สึกได้ว่า กำลังของผู้เฒ่าชุดดำกำลังถดถอยลงไปเรื่อย ๆ แล้ว!!
“เช่นนั้นหรือ?”
แววตาของผู้เฒ่าชุดดำผุดประกายเย็นยะเยือกออกมา
ทันใดเขาก็ส่งเสียงประหลาดออกมาพลันสะบัดแขนเสื้อ
โครม!
ตราประทับพุทธะเป็นตายส่งเสียงดัง ประกายแสงสีดำระเบิดขึ้น สร้างความสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแก่ผืนฟ้าและผืนดินราวกับจะถล่มทลายให้ได้
ฮั่วเหยาหรี่ตา ตาเฒ่าคนนี้ทนรอไม่ไหวจะเสี่ยงหมดตัวตอนนี้แล้วหรือ!?
“เจ้าหนู เจ้าพูดไม่ผิด ข้าเป็นเพียงเจตจำนงหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งเจตจำนงนี้ยังเป็นเจตจำนงที่ข้าเก็บรักษาไว้ตอนที่อยู่ขอบเขตสานพันธะลึกล้ำขั้นต้น แต่…”
ไฟลุกโหมตัวผู้เฒ่าชุดดำในทันใด “การจัดการกับคนอย่างเจ้า ไม่ใช่เรื่องยากเลย!”
น้ำเสียงราบเรียบยังคงดังกึกก้อง ฉับพลันผู้เฒ่าชุดดำก็กลายเป็นแสงสว่างเจิดจ้าพุ่งเข้าไปในตราประทับพุทธะเป็นตาย
ครืน!
ชั่วเวลานี้ ตราประทับพุทธะเป็นตายราวกับดวงตะวันสีดำขนาดใหญ่ส่องประกายเทวะสีดำขนาดมหึมาพุ่งไปที่ฮั่วเหยา
“ตาเฒ่า เด็ดเดี่ยวไม่เบาเลย” ซูอี้แอบคิด
“สมควรตาย!!”
ฮั่วเหยาสีหน้าเปลี่ยน จากนั้นเขาก็หลบหลีกโดยไม่รอช้า
ขณะที่กำลังหลบหลีก ฮั่วเหยาแทบจะยกเอาสมบัติล้ำค่ากับเคล็ดวิชาป้องกันตัวทั้งหมดที่มีออกมาใช้อย่างเต็มที่
ดาบเมฆาแดงแสดงความเก่งกาจในการป้องกัน กลายเป็นม่านดาบกฎเกณฑ์สามสิบสามด่านมาบังอยู่ตรงหน้า
แสงเทวะสีม่วงที่ระเบิดออกมาจากโคมไฟเก้ามังกรประสานกันเป็นดอกบัวขนาดใหญ่บดบังตัวรอบสี่ด้าน
มือซ้ายผลักดันโล่ธาตุผสานสองขั้ว
แม้กระทั่งเกราะเพลิงเงินสวรรค์บนตัวก็ยังเกิดอักขระมหาวิถีอันลึกล้ำ…
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ฮั่วเหยาก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ
โดยไม่รอช้า เขากัดลิ้นตัวเองในทันใด เลือดลมในตัวเกิดเสียงดังรุนแรงราวกับเสียงฟ้าผ่า รอบสี่ด้านของตัวเขาปรากฏวงล้อมหลายวงล้อมซึ่งก่อตัวขึ้นจากเลือดสด ๆ คล้ายกับเขตอสูรที่กำลังปรากฏขึ้นซ้อน ๆ กัน
เขตแห่งอสูรเพลิง!
นี่คือพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิดของฮั่วเหยา เขาต้องสูญเสียพลังโลหิตไปมากจึงประสานกันเป็นเขตแห่งกฎเกณฑ์ราวกับกำแพงสวรรค์มาบดบังอยู่ตรงหน้า
และในชั่วขณะนี้เอง ตราประทับพุทธะเป็นตายที่คล้ายกับดวงตะวันสีดำก็พุ่งมาถึง
โครม!!
ฟ้าดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับฟ้าจะถล่มลงมาเสียให้ได้
เสียงกระทบกระทั่งราวกับเสียงฟ้าผ่าจากสวรรค์ชั้นที่เก้า ดังจนแก้วหูแทบระเบิด
ตราประทับพุทธะเป็นตายพังทลายดอกบัวสีม่วงที่เกิดจากโคมไฟเก้ามังกรได้อย่างง่ายดาย สะเก็ดไฟกระจายตัวเต็มท้องฟ้า
ถัดจากนั้น เกิดเสียงระเบิดราวกับเสียงกลองดังขึ้นติด ๆ กัน
นั่นคือเสียงของม่านดาบสามสิบสามด่านอันเกิดจากดาบเมฆาแดงถูกแทงทะลุอย่างรุนแรง ม่านดาบแข็งแกร่งซึ่งสามารถต้านทานการโจมตีอย่างเต็มกำลังของตัวตนขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำก็แตกไปอย่างง่ายดายราวกับกระจก!
ทันใด เสียงหวีดแหลมเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ทั้งยังมีเสียงกระดูกแตกคลอมาด้วย
โล่ธาตุผสานสองขั้วกระเด็นออกไปไกล มือซ้ายของฮั่วเหยาถูกบดจนละเอียด เลือดอาบกระเซ็น
จากนั้น ตราประทับพุทธะเป็นตายก็กระแทกลงบนตัวฮั่วเหยาอย่างแรง
ปัง!!!
ร่างของฮั่วเหยาพุ่งออกไป
วงล้อมกฎเกณฑ์ซ้อนกันหลายชั้นที่ปกคลุมอยู่รอบตัวเขาระเบิด ชุดเกราะสวรรค์แสงเงินที่คอยปกป้องหน้าอกยุบลง เสียงกระดูกแตกดังขึ้นเป็นพัก ๆ
เมื่อหันไปมองดูฮั่วเหยาอีกครั้ง เลือดออกเจ็ดทวาร สีหน้าขาวซีด ผิวแตกไม่มีชิ้นดี นองไปด้วยเลือด
สุดท้ายส่งเสียง “เอื๊อก” ร่างของฮั่วเหยาฟาดกับพื้นที่แตกร้าวอย่างแรง ฝุ่นละอองปลิวว่อน
ทีเดียว!
ซูอี้ทลายเคล็ดวิชาป้องกันระดับสุดยอดกับวัตถุศักดิ์สิทธิ์ปฐมสวรรค์หลายชิ้น และยังทำให้ฮั่วเหยาบาดเจ็บปางตายในทีเดียว!
ภาพเหตุการณ์ระทึกเช่นนั้นสร้างความตื่นตระหนกให้กับทุก ๆ คน
ทว่า ในชั่วขณะนี้เอง จู่ ๆ ตราประทับพุทธะเป็นตายซึ่งมีอานุภาพน่ากลัวไร้ขอบเขตเมื่อครู่นี้ก็สั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างแรง แสงสว่างอ่อนกำลังลง แสงเทวะหม่นหมอง ราวกับสูญสิ้นกำลังทั้งหมดที่มี ร่วงหล่นลงกับพื้น
เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้แล้ว สายตาของซูอี้ยังคงสงบนิ่ง
ถึงแม้ผู้บวงสรวงสวรรค์ที่หนึ่งจะเผาผลาญเจตจำนง แต่สุดท้ายก็ยังไม่อาจฆ่าฮั่วเหยาจนตายได้
“ก็ใช่ อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเพียงแค่เจตจำนงที่เขาเก็บรักษาไว้ตอนอยู่ในขอบเขตสานพันธะลึกล้ำขั้นต้นเท่านั้น”
ซูอี้แอบคิด
ฝุ่นละอองตลบอบอวล ทุกอย่างบนแผ่นดินพังทลาย
บนผืนแผ่นดินที่แตกร้าว ฉับพลันเสียงหัวเราะราวกับคนเสียสติของฮั่วเหยาก็ดังขึ้น
“อาจารย์ ไม้ตายของอาจารย์ร้ายกาจจริง ๆ แต่เสียดาย สุดท้ายตาเฒ่านั่นก็ฆ่าศิษย์ไม่ได้!”
ร่างของฮั่วเหยาโผล่ออกมาจากรอยแยกของแผ่นดิน
เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ผิวแตกเลือดอาบ มีรอยเว้าขนาดใหญ่บนหน้าอก สภาพไม่ต่างกับผีร้ายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก
ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่ากลิ่นอายพลังยังดุดันบ้าคลั่งเหมือนเดิม!
ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดจ้องมองไปที่ซูอี้ เขายิ้มกว้างเป็นกระด้ง เต็มไปด้วยความสะใจ และเต็มไปด้วยความเคียดแค้น จากนั้นจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเย็นชา “ตอนนี้ ท่านยังมีไม้ตายอะไรอีก งัดออกมาใช้ได้เต็มที่!”
เสียงยังคงดังกึกก้องทั่วปฐพี ทันใดรอบ ๆ บาดแผลที่มีอยู่เต็มตัวของเขาก็เกิดมีแสงเก้าสีสว่างวาบขึ้น
จากนั้น ภาพอันมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น
บาดแผลเต็มร่างฮั่วเหยาสมานอย่างรวดเร็วทันตาเห็น!
โอสถโชคเก้าสี!
ซูอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เมื่อชาติก่อน เขาใช้โอสถเซียนนับพันชนิด ทุ่มเทเวลาเป็นร้อยปี จึงหลอมสร้างโอสถที่ได้รับสมญานามให้เป็น ‘วัตถุเทพอันดับหนึ่งแห่งมหาแดนดิน’
โอสถนี้ก็คือโอสถโชคเก้าสี มีเพียงแค่เก้าเม็ดเท่านั้น มีคุณประโยชน์ในการชุบชีวิตคนตายและสร้างเนื้อหนังเสริมกระดูก แม้ว่าตัวตนขอบเขตจักรพรรดิจะได้รับบาดเจ็บร้ายแรงเพียงไหน ขอเพียงกินโอสถนี้เข้าไปหนึ่งเม็ดก็จะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในระยะเวลาอันสั้น!
หลังจากที่ฮั่วเหยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็กินโอสถนี้ในทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ช่างเถอะ ข้าจะให้เจ้าได้รับรู้ว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงเป็นอย่างไร!”
ในชั่วขณะนี้ แววตาอันเฉยชาของซูอี้ผุดประกายอำมหิตโดยไม่ปิดบังอีก
เขาสะบัดแขนเสื้อ
น้ำเต้าขนาดสามชุ่นหมุนติ้ว
ห่างออกไป รอยยิ้มของฮั่วเหยาพลันแข็งทื่อ ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดหดตัวลงในทันใด ความหวาดกลัวอันยากจะสะกดกลั้นปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ดาบสามชุ่นสะบั้นใจสวรรค์!!!
……….