cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ] - ตอนที่ 974 ยั่วโมโห

  1. Home
  2. All Mangas
  3. บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
  4. ตอนที่ 974 ยั่วโมโห
Prev
Next

ตอนที่ 974: ยั่วโมโห

…………………………………………………..

ตอนที่ 974: ยั่วโมโห

“ข้ารู้สึกว่าประกาศิตพร่างสวรรค์นี้ไม่ชอบมาพากล”

ผู้ชายวัยกลางคนสวมมงกุฎขนนกพูดเสียงเข้ม

ทุกคนต่างก็ตะลึงด้วยความฉงนสงสัย

กู้จื้อหมิงขมวดคิ้วขึ้นพลางกล่าว “สหายเต๋าหลี่ ประกาศิตนี้มีอะไรผิดปกติเช่นนั้นหรือ?”

ผู้ชายวัยกลางคนสวมมงกุฎขนนกมีนามว่าหลี่ชิงฉวี มาจากบรรพตวิถีพยัคฆ์มังกรแห่งมหาแดนดิน เขาเป็นคนสลักประกาศิตพร่างสวรรค์แห่งนั้นด้วยตนเอง

หลี่ชิงฉวีส่งเสียงเคร่งขรึมออกมา “ให้ข้าตรวจดูสักหน่อย”

ดวงตาของผู้ชายวัยกลางคนสวมมงกุฎขนนกผุดประกายสีทอง ขณะมองไปที่ ‘ประกาศิตพร่างสวรรค์’ ซึ่งอยู่บนหนทางที่ไกลออกไปเส้นนั้น

พินิจพิจารณาอยู่นานมาก

หลี่ชิงฉวีขมวดคิ้ว จากนั้นจึงกล่าวด้วยความฉงนสงสัย “พลังของประกาศิตพร่างสวรรค์ไม่มีความเปลี่ยนแปลง เพียงแต่…เพียงแต่…”

กู้จื้อหมิงหมดความอดทน และกล่าวขึ้นมา “เหตุใดต้องอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ด้วย พูดมาตรง ๆ ก็ได้”

หลี่ชิงฉวีสูดหายใจลึก ๆ ไปทีหนึ่ง จากนั้นกล่าว “ข้ารู้สึกว่า พลังที่อยู่ในประกาศิตพร่างสวรรค์นี้ ทรงพลังยิ่งกว่าตอนที่ข้าสลักในครั้งนั้นมาก ดูเหมือนว่า… จะแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก…”

ทุกคนพากันตะลึง

เช่นนี้หมายความอย่างไร?

กู้จื้อหมิงก็ตะลึงงันเช่นกัน “เป็นเพราะช่วงระยะเวลานี้ประกาศิตพร่างสวรรค์ดูดซับพลังกฎเกณฑ์ที่อยู่ในถ้ำสวรรค์หกวิถี จึงได้เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ขึ้นใช่หรือไม่?”

หลี่ชิงฉวีส่ายหน้าน้อย ๆ พลางกล่าว “ตอบยาก”

“เรื่องนี้มีอะไรต้องสงสัยกันเชียว ขอเพียงประกาศิตพร่างสวรรค์ยังอยู่ ก็แสดงว่าหนทางเส้นนั้นไม่มีเหตุขัดข้องอันใด”

ผู้ชายวัยกลางคนสวมชุดสีเทากล่าวไม่ใส่ใจ

พูดจบ เขาก็เดินไปที่ปากทางเส้นนั้นแล้ว

เขาพินิจพิเคราะห์อยู่สักครู่ จากนั้นจึงหันหน้ามองดูทุกคน ยิ้มพลางกล่าว “ข้าบอกแล้ว ไม่เห็นจะมีปัญหาอันใดเลย พวกเรารีบเดินทางกันเถอะ”

กู้จื้อหมิงกับคนอื่น ๆ ต่างก็พากันพยักหน้า

ทว่ายังไม่ทันได้ออกเดินทาง สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

ลึกเข้าไปในปากอุโมงค์ด้านหลัง กระดูกมือสีขาวมีเลือดไหลเยิ้มปรากฏขึ้นอย่างไร้สุ้มไร้เสียง มันจับตัวผู้ชายที่สวมชุดสีเทาเอาไว้

“ช่วยข้าด้วย…!!”

ผู้ชายคนนั้นตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ยังไม่ทันดิ้นกระเสือกกระสนก็ถูกมือกระดูกขาวขนาดใหญ่ดึงเข้าไปในอุโมงค์ หายลับไปไม่เห็นอีก

มีแต่เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังก้องอยู่ไม่ขาด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกกู้จื้อหมิงจนหนาววาบไปทั้งตัว สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปในทันใด

“นี่ นี่มันเรื่องอันใดกัน?”

มีคนถามเสียงสั่น

ผู้ชายที่สวมชุดสีเทาคนนั้นเป็นถึงจักรพรรดิขอบเขตหยั่งเห็นลึกล้ำของคีรีดาบเก้าดาราเลยเชียว!

ทว่าตั้งแต่เริ่มจนจบกลับไม่ทันได้ดิ้นรนกระเสือกกระสนก็ถูกมือกระดูกขาวเลือดอาบจับตัวไป!!

“ตามที่คาดไว้ไม่ผิด… ประกาศิตพร่างสวรรค์นั่นเกิดเหตุขึ้นแล้ว!”

หลี่ชิงฉวีสีหน้าคร่ำเคร่ง ขณะพูดพึมพำ “หากว่าข้าดูไม่ผิด มีคนลบประกาศิตพร่างสวรรค์ที่ข้าสลักไว้ และทิ้งประกาศิตพร่างสวรรค์ที่เหมือนกันไว้ที่ปากทางเข้าอีกทางหนึ่ง”

พอเอ่ยเช่นนี้ออกมา ทุกคนก็พากันสูดปาก

“ให้ตายสิ ที่แท้ก็มีคนกลั่นแกล้งพวกเรานี่เอง!!”

มีคนสีหน้าย่ำแย่ร้องด่าออกมา “ชั่วร้ายยิ่งนัก อำมหิตมาก!”

“พี่หลี่ ประกาศิตพร่างสวรรค์เป็นวิชาสืบทอดลับของบรรพตวิถีพยัคฆ์มังกร ทั่วทั้งภูมิมืดมิดแห่งนี้ จะเป็นไปได้เช่นใดที่มีคนรู้วิธีสลักประกาศิตเช่นนี้ได้อีก?”

หลี่ชิงฉวีส่ายหน้า “นี่เป็นจุดที่ข้าคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกเช่นกัน”

ในชั่วขณะนี้เอง กู้จื้อหมิงราวกับนึกอะไรขึ้นได้ สายตาเป็นประกาย “หากว่าข้าเดาไม่ผิด เป้าหมายที่พวกเรารอคอยในครั้งนี้ชิงตัดหน้าพวกเราเข้าไปในถ้ำสวรรค์หกวิถีแล้ว!”

ทุกคนต่างตื่นตะลึง

“ศิษย์พี่กู้ ที่พี่พูดถึงคือชายหนุ่มขอบเขตวงล้อสวรรค์คนนั้นน่ะหรือ?” ซั่งกวนเจี๋ยทนไม่ไหวจึงกล่าวถามขึ้นมา

“ไม่ผิด ก็คือเขา” กู้จื้อหมิงพยักหน้า

“ความหมายของสหายเต๋ากู้ก็คือ ชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนทิ้งประกาศิตพร่างสวรรค์ไว้เช่นกันอย่างนั้นหรือ?”

หลี่ชิงฉวีกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ

สายตาของกู้จื้อหมิงดูแปลกไป “ตามที่ข้ารู้มา เขาสามารถทำได้ถึงขั้นนี้จริง ๆ”

ทุกคนไม่อาจสงบใจได้อีก

“ศิษย์พี่กู้ หรือว่าพี่รู้ที่มาของคนผู้นี้แล้วเช่นนั้นหรือ?” ซั่งกวนเจี๋ยถาม

กู้จื้อหมิงตอบเสียงเข้ม “ประเดี๋ยวพวกเจ้าก็จะเข้าใจ ตอนนี้สำคัญที่สุดคือหาหนทางที่ปลอดภัยเส้นนั้นโดยเร็วที่สุด รีบเข้าไปในถ้ำสวรรค์หกวิถีโดยเร็ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด ชายหนุ่มคนนั้นอาจจะไปถึงที่แห่งนั้นแล้วก็ได้!”

พูดจบ เขาก็เบนสายตามองไปที่หลี่ชิงฉวี ก่อนจะกล่าวขึ้นมา “สหายเต๋า ต้องรบกวนเจ้าให้ลงมืออีกครั้งแล้ว”

ครั้งแรกสุด หลี่ชิงฉวีคือคนสำแดงเคล็ดวิชาช่วยพวกเขาหาหนทางปลอดภัยเส้นนั้นเจอ

“ได้”

หลี่ชิงฉวีพยักหน้ารับปาก

…

ลึกเข้าไปในถ้ำสวรรค์หกวิถี

มันเป็นถ้ำที่กว้างใหญ่ไพศาล

รอบสี่ด้านแปดทิศทางเป็นหน้าผาสูงชันจรดฟ้าดิน

เมื่อยืนอยู่บนนั้นแล้วคนตัวเล็กกระจ้อยร่อยราวกับมดตะนอย

ใจกลางอุโมงค์ถ้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ มีตำหนักทองอร่ามงดงามทรงโบราณตั้งตระหง่าน

โซ่เทวะสีดำขนาดใหญ่แต่ละเส้นห้อยลงมาจากตัวภูเขารอบด้าน ร้อยทะลุสี่ด้านของตำหนักทองอร่ามจนเต็มไปหมด

โซ่เทวะสีดำแต่ละเส้นพันด้วยพลังกฎเกณฑ์พิศวง ประกายแสงสลัว ๆ ที่แผ่กระจายออกมาราวกับหมอกควัน ให้ความรู้สึกลึกลับน่ากลัว

โซ่เทวะสีดำนับร้อยนับพันเส้นผูกรัดตำหนักทองอร่ามแห่งนั้นไว้อย่างแน่นหนา

เห็นแล้วรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง

ด้านหน้าตำหนักทองอร่าม เป็นลานวิถีที่กินอาณาบริเวณถึงพันฉื่อ

ทางกว้างขนาดสามจั้งทอดเป็นแนวตรงทะลุผ่านลานวิถี มุ่งตรงไปสู่ประตูใหญ่ของตำหนักทองอร่าม

เมื่อซูอี้เดินเข้าไปในที่แห่งนี้มองเห็นสภาพที่คุ้นเคยเหล่านี้แล้ว สายตาสั่นเครือขึ้นมาน้อย ๆ

ที่ตรงนี้ยังคงเหมือนเมื่อก่อน คล้ายกับคุกเรือนจำที่คุมขังเทพเซียน ไม่มีความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ทันใดซูอี้หรี่ตาลงเล็กน้อย

ผู้ชายร่างผอมผมเผ้าปรกหน้าปรกตาถูกจับตัวอยู่บนเครื่องทรมานทองอร่าม เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด บาดแผลเต็มตัว

ถึงแม้ผมเผ้ารุงรังที่เกรอะกรังด้วยเลือดจะบดบังโฉมหน้าของผู้ชายคอตก ทว่าซูอี้ยังคงจำฝ่ายตรงข้ามได้ในทันทีที่เห็น

เฒ่าบอด!!

ซูอี้ขมวดคิ้วขึ้น ดวงตาลุ่มลึกผุดประกายน่าสะพรึงกลัว

ตอนที่อยู่ตระกูลชุย ณ เมืองตาข่ายม่วง เฒ่าบอดได้ออกเดินทางมายังดินแดนอันเป็นที่ตั้งผู้สืบเชื้อสายโคมผีเก็บโลงศพ

แต่ซูอี้ไม่คาดคิดมาก่อนว่ายังไม่ทันหาไก่แจ้เฒ่าเจอ กลับมาเจอเฒ่าบอดอีกครั้งในพิภพยมราชฝังวิถีซึ่งอยู่ในส่วนลึกของทะเลทุกข์แห่งนี้!

“ดูท่าแล้ว คนที่เหล่าบรรดาพันธมิตรเสวียนจวินเหล่านั้นตามหาก็คงจะเป็นข้า…”

ซูอี้ยังคงมีสีหน้าราบเรียบดังเดิม เพียงแต่สายตาลุ่มลึกยิ่งกว่าเดิม

เขาก้าวมายังกลางลานวิถี พลางจ้องดูเฒ่าบอดสักครู่ เฒ่าบอดหมดสติไปแล้ว โซ่ล่ามสีเลือดขนาดเท่ากับหัวแม่มือแต่ละเส้นแทงทะลุแขน เอว และขาของเขา ตรึงรัดเขาไว้บนเครื่องทรมานทองอร่าม

เห็นได้ชัดว่าเฒ่าบอดได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส เนื้อตัวมีแต่บาดแผลเหวอะหวะ พลังในตัวอ่อนแรงจนถึงขีดสุด

บาดแผลที่มีเลือดไหลย้อยเหล่านั้นสร้างความโกรธแค้นให้แก่ซูอี้อย่างระงับไม่อยู่

ทว่า เขาไม่ได้ช่วยเฒ่าบอดในทันที

เพราะโซ่ล่ามสีเลือดที่ผูกรัดบนตัวเฒ่าบอดหลอมประทับด้วยกลิ่นอายกัดกร่อนอันร้ายแรงอย่างที่สุด

เหมือนกับค่ายกลกักขังขนาดเล็ก เพียงแค่จับต้องนิดเดียว เฒ่าบอดก็จะถูกทรมาน

คิดสักครู่ ซูอี้ก็หยิบโอสถรักษาบาดแผลที่เก็บรักษาติดตัวออกมา บดโอสถจนแตกละเอียด จากนั้นตวัดปลายนิ้ว

ผงโอสถที่แตกละเอียดรดลงบนตัวของเฒ่าบอดราวกับแสงสว่างสาดส่อง

บาดแผลรอบตัวเขาสมานตัวกันอย่างรวดเร็วทันตาเห็น

“เฒ่าบอด”

ซูอี้ส่งเสียงเรียกเบา ๆ น้ำเสียงราวกับเสียงกลองบอกเวลายามเช้า แฝงเร้นด้วยวิถีอันลึกล้ำ ดังก้องอยู่ในจิตวิญญาณของเฒ่าบอด

ไม่นานนัก ร่างของเฒ่าบอดสั่นสะท้าน ตื่นขึ้นจากอาการสลบไสล

เขาเงยหน้าขึ้นด้วยความยากลำบาก เบ้าตาที่ว่างเปล่ามองไปที่ซูอี้

ฉับพลัน เขาราวกับตื่นจากภาวะฝันร้าย ร้องเรียกด้วยความตื่นเต้น “คุณชายซู!?”

น้ำเสียงแหบแห้ง อ่อนกำลัง

พรึ่บ!

เขาราวกับต้องการจะดิ้นรน ทว่าโซ่ล่ามสีเลือดรอบตัวกลับส่องแสง ระเบิดพลังทำลายล้างอันน่ากลัวออกมารัดตัวเขาอย่างแรง ฉับพลันเขาได้รับความทุกข์ทรมานอย่างไร้ขอบเขต ร้องส่งเสียงออกมาเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว

“อย่าขยับ”

ซูอี้ร้องเบา ๆ “ข้าจะช่วยเจ้าถอดโซ่ล่ามบนตัวออกก่อน ค่อยพาเจ้าหนีออกไปจากที่นี่”

เฒ่าบอดพลันนึกอะไรขึ้นได้ แผดเสียงออกมาในทันใด “คุณชายซู รีบหนีไป! ไม่ต้องเป็นห่วงข้า! คนพวกนั้นวางกับดักไว้ที่นี่เพื่อเตรียมจัดการกับท่าน!”

เสียงของเขาเต็มไปด้วยความร้อนรน

สีหน้าของซูอี้ราบเรียบพลางกล่าว “นับตั้งแต่ที่เห็นเจ้า ข้าก็เดาไว้แล้ว พูดขึ้นมา ครั้งนี้เป็นเพราะข้าจึงทำให้เจ้าพลอยเดือดร้อนไปด้วย”

ขณะที่พูด เขาก็ใช้มือแทนดาบฟันออกไปในพริบตาสิบกว่าครั้ง

ฉึบ! ฉึบ!

ท่ามกลางเสียงแตกละเอียดที่ดังขึ้น โซ่ล่ามสีเลือดที่ผูกรัดอยู่บนตัวเฒ่าบอดขาดสะบั้นลงเป็นท่อน ๆ

หลุดจากการจองจำ ร่างของเฒ่าบอดเซถลา เห็นว่ากำลังจะคะมำกับพื้นก็ถูกซูอี้คว้าตัวไว้ได้ทันเวลา

“คุณชาย! ข้า…ข้าผิดต่อท่าน…”

ใบหน้าของเฒ่าบอดเต็มไปด้วยความละอายใจ เอ่ยพูดเสียงสั่น “หลังจากที่พวกเขาจับตัวข้า ทรมานข้า เดิมทีข้าตั้งใจจะปลิดชีพของตัวเอง แต่ไม่นึกเลยว่าทำไม่ได้ กลับยังโดนพวกเขากักขังไปไหนไม่ได้ และค้นจิตของข้า… ข้า ข้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าที่แท้แล้วพวกเขารู้ไปมากน้อยเท่าใด…”

ซูอี้กล่าวเบา ๆ “ขอเพียงเจ้ามีชีวิตอยู่ เรื่องอื่น ๆ ย่อมไม่สำคัญ ข้าจะพาเจ้าหนีไปจากที่นี่ก่อน”

ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนนี้ สีหน้าของเขาสงบราบเรียบมาก ราบเรียบจนถึงขั้นไร้ความรู้สึก

ทว่าความโกรธแค้นภายในใจกำลังสั่งสมจนใกล้จะระเบิด

นับตั้งแต่เข้าสู่ภูมิมืดมิดมาจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกยั่วจนโมโห!

และในขณะที่ซูอี้ตั้งใจจะพาเฒ่าบอดหนีไป จู่ ๆ เสียงทุ้มหนักของผู้เฒ่าก็ดังขึ้นในอุโมงค์ถ้ำขนาดใหญ่มหึมาแห่งนี้

“ในมื่อมาถึงแล้ว ไหนเลยจะออกไปได้อีก”

ขณะที่เสียงยังคงดังกึกก้องอยู่นั้นเอง ข้างประตูใหญ่ของตำหนักทองอร่ามที่อยู่ห่างออกไป ใกล้กับเงามืดของโซ่เทวะสีดำขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันไปมาพลันสะท้อนระลอกคลื่นต้องห้ามขึ้น

จากนั้น ผู้เฒ่าในชุดสีดำ มือถือแส้ปัดสีขาวก็ปรากฏตัว

ใบหน้าของเขามีความเมตตากรุณา ลักษณะท่าทางประดุจเทพเซียน

หลังจากที่เขาปรากฏตัว อานุภาพอันน่ากลัวก็แผ่ขยายตามออกมา นั่นเป็นกลิ่นอายพลังของผู้แข็งแกร่งขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำ!

“คุณชายรีบหนีไป!!”

เฒ่าบอดตกใจจนหน้าถอดสี

“ฮ่า ๆๆ พวกข้ารออยู่ ณ ที่แห่งนี้เป็นเวลานานมากแล้ว จะปล่อยให้พวกเจ้าหนีรอดไปได้เช่นใดกัน?”

อีกด้านหนึ่ง บนเขาที่สูงชัน พลันเงาดำที่หยุดนิ่งอยู่ก็เคลื่อนตัว กลายร่างเป็นผู้ชายร่างผอมในชุดสีทอง

เขามีผมขาวโพลนทั้งหัว ลักษณะท่าทางราวกับชายหนุ่มวัยเยาว์ สายตาเย็นวาบประดุจสายฟ้า อานุภาพยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า กลิ่นอายพลังในตัวไม่ด้อยไปกว่าผู้เฒ่าชุดสีดำ

อย่างไม่ต้องสงสัย นี่ก็เป็นตัวตนในขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำเช่นเดียวกัน!

หัวใจของเฒ่าบอดดิ่งวูบ

ทว่าสีหน้าของซูอี้ยังคงราบเรียบเหมือนดังเดิม จากนั้นเขาก็กล่าวขึ้นมา “เหตุใดยังหลบ ๆ ซ่อน ๆ อีก แสดงตัวออกมาให้หมด”

……….

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 974 ยั่วโมโห"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved