บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! - ตอนที่ 617 การพบกันแห่งโชคชะตา คิริโตะ อาสึนะ และ วู่หยาน!
- Home
- All Mangas
- บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!
- ตอนที่ 617 การพบกันแห่งโชคชะตา คิริโตะ อาสึนะ และ วู่หยาน!
SGS บทที่ 617 – การพบกันแห่งโชคชะตา คิริโตะ อาสึนะ และ วู่หยาน!
วันต่อมา ณ จัตุรัสใจกลางเมืองโทร์บาน่า…….
วันนี้ที่นี่จะมีการประชุมวางแผนพิชิตบอสชั้นที่1ของเกม!……
เช้าตรู่บริเวณโดยรอบจัตุรัสได้เริ่มคับคั่งหนาแน่นไปด้วยผู้เล่น ไม่ว่าจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง ทุกคนก็มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันก็คือต้องจะจบเกมบัดซบนี่ ดังนั้นที่นี่จึงมีผู้คนมามากมาย…….
และไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ ผู้คนที่มาเข้าร่วมประชุมกลับเป็นผู้เล่นไร้สังกัด ไม่มีกิลด์ไหนมาเลย บางทีอาจเป็นเพราะการที่ผู้เล่นไร้ชื่อเสียงคนนึงจัดประชุมมันดูน่าตลกในสายตาพวกเขา เพราะขนาดพวกตนเป็นกิลด์กันยังไม่คิดว่าจะพิชิตบอสได้เลย……
ไม่รู้ว่าถ้าพวกนั้นได้ยินข่าวทีหลังว่ากลุ่มคนที่พวกตนดูถูกสามารถพิชิตบอสได้ มันจะทำสีหน้ายังไงกัน…..
เวลาผ่านไป คนก็มาเยอะขึ้นแต่ละคนถือว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้างไม่มากก็น้อย พอมาถึงพวกเขาก็เดินลงไปนั่งแล้วมองลงไปยังแท่นเวทีหินด้านล่าง ไม่ก็พูดคุยกับคนที่มาด้วยเพื่อฆ่าเวลารองานเริ่ม….
เมื่อวู่หยานมาถึง เขาก็เห็นผู้เล่น30กว่าคนนั่งรออยู่ และไม่ใช่แค่วู่หยานเท่านั้นที่เห็น คนอื่นก็เช่นกัน วินาทีที่ชายหนุ่มโผล่หน้าเข้ามาเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาทันที
“เสื้อโค้ทสีดำ….ดาบใหญ่สีดำ…..” ผู้เล่นหลายคนเริ่มเอะใจให้กับชุดและอาวุธอันคุ้นเคย ก่อนจะพากันเบิกตากว้าง “อย่าบอกนะว่าหมอนั่นก็คือเบต้าเทสเตอร์ที่มีชื่อเสียงคนนั้น?”
“เบต้าเทสเตอร์…..” คนอื่นที่ยังไม่ทันเอะใจก็พากันอึ้งไม่นานเสียงพูดคุยก็ดังไปทั่ว สายตามากมายได้มองวู่หยานไม่หยุด และแน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นสายตาในแง่ลบ…….
ห่างออกไปไม่ไกลมากจากวู่หยาน เมื่อได้ยินคำว่า ‘เบต้าเทสเตอร์’ เด็กหนุ่มที่ใบหน้าออกไปทางน่ารักเหมือนผู้หญิงก็หันขวับมามองคอแทบหลุดทันที นอกจากเด็กหนุ่มคนนี้ก็ยังมีผู้เล่นในชุดคลุมที่หันมามองเหมือนกัน….
“หมอนั่น…เป็นเบต้าเทสเตอร์…..” เด็กหนุ่มผมดำพูดพึมพำกับตัวเอง สายตาที่เขาใช้มองวู่หยานไม่ได้เต็มไปด้วยแง่ลบเหมือนคนอื่นกลับกันมันเป็นสายตาเห็นอกเห็นใจ
ส่วนผู้เล่นที่สวมผ้าคลุมใส่ฮู้ดปิดมิดชิด ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่ก็ดูเหมือนว่าจะสนใจวู่หยานอยู่เช่นกัน…..
ภายใต้สายตาของทุกคน วู่หยานก็ชักจะเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมาแล้ว จ้องอยู่ได้ ถึงเขาจะรู้เหตุผลอยู่แล้วก็เถอะ
วู่หยานเดินมายังที่ว่างแล้วสะบัดชายเสื้อยกมือขึ้นมากอดอก ชายหนุ่มไม่ได้เลือกที่จะนั่งลงไปเขายืนแม่งมันดื้อๆงี้แหละ เวลาผ่านไปพอเริ่มเบื่อวู่หยานก็หันไปมองคนอื่นบ้าง และไม่นานเขาก็เห็นเด็กหนุ่มหน้าสวยกับผู้เล่นในชุดคลุม
เห็นวู่หยานมองมา เด็กหนุ่มผมดำก็พยักหน้าให้อย่างเป็นมิตรแตกต่างจากคนอื่น ส่วนวู่หยานก็กำลังประหลาดใจอยู่เล็กน้อย
เป็นเพราะไอ้ผู้ชายที่สวยน่ารักกว่าผู้หญิงบางคนคนนี้ก็คือตัวละหลัก เทพทรูเดินได้ คิริกายะ คาสึโตะ หรือชื่อในเกม GMคิริโตะ!
ตอนนี้เองวู่หยานก็นึกออกจนได้ว่าในอนิเมะเองก็มีฉากรวมตัวก่อนพิชิตบอสเหมือนกัน ดูเหมือนทั้งพระเอกนางเอกจะเข้าร่วมด้วย
อย่าบอกนะว่าไอฉากรวมตัวที่ว่าก็คือการประชุมวางแผนที่เขามานี่?…………
“ถ้างั้น คนๆนั้นก็ต้องเป็น……” นัยน์ตาสีแดงได้หรี่ลงมองไปยังผู้เล่นที่ใส่ผ้าคลุมตัว วู่หยานสามารถเห็นเส้นผมสีน้ำตาลอมส้มภายใต้ฮู้ดนั่นได้…..
ที่แท้เธอก็เป็นเธอนี่เอง ยูกิ อาสึนะ!
วู่หยานเพ่งพินิจมองอาสินะอย่างจริงจัง ก่อนจะสลับไปมองคิริโตะ จากนั้นวู่หยานก็ก้มหัวลงมุมปากโค้งขึ้น…..
“ดูเหมือนล่าบอสครั้งนี้จะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดซะแล้วสิ…….”
ตอนนี้เองก็มีผู้ชายผมสีฟ้าเดินมาตรงกึ่งกลางเวทีหิน “ขอบคุณมากที่ตอบรับคำเชิญมานะทุกคน! ผมชื่อ เดียร์เบล!”เดียร์เบลพูดด้วยรอยยิ้มกว้างเป็นมิตร เขายกมือขึ้นมาเคาะบนเกราะที่ตนใส่อยู่ “จากความรู้สึก อาชีพของผมก็คือ อัศวิน!”
ได้ยินคำประกาศ ใครหลายคนก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี พวกเขาพูดโห่แซวเดียร์เบลกันใหญ่ ส่วนวู่หยานก็ส่ายหน้าหัวเราะตาม
SAO เป็นเกมที่ไม่มีระบบอาชีพ แต่ถ้าอยากจำแนกคลาสจริงๆก็ดูจากอาวุธที่ใช้กับวิธีการต่อสู้ อย่างถ้าใช้ดาบก็อาชีพนักดาบงี้ มันไม่มีกฎตายตัว
เดียร์เบลยิ้มหัวเราะไปกับทุกคน ก่อนจะชูมือขึ้นแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทีมของพวกผมได้ค้นพบห้องของบอสแล้ว!”
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไปเลิกล้อเล่นกัน วู่หยานหรี่ตามองเดียร์เบลรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ…..
“พวกเราต้องล้มบอสเพื่อขึ้นสู่ชั้นที่2ให้ได้!” ตอนพูดประโยคนี้เดียร์เบลมีสีหน้าหนักแน่นมาก “พวกคนที่เมืองแห่งการเริ่มต้นกำลังเฝ้ารอภาวนาให้เกมแห่งความตายนี่จบลง และนั่นก็คือหน้าที่ของพวกเรา!!!”
ได้ยินคำปลุกใจผู้เล่นหลายคนก็ตบมือดูมีไฟกันใหญ่ ไม่พูดไม่ได้ว่าเดียร์เบลมีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำคนจริงๆ ขนาดยังไม่ทันไปสู้กับบอสเขาก็สามารถเพิ่มกำลังใจคนอื่นได้แล้ว
เดียร์เบลพูดต่อ “เอาล่ะ!ถ้างั้นพวกเรามาเริ่มวางแผนกันเถอะ!”
“ก่อนอื่น ทุกคนช่วยตั้งปาร์ตี้ให้ได้6คนก่อนนะ!”
ตอนได้ยินประโยคนี้ วู่หยานเห็นชัดเจนว่าสีหน้าคิริโตะเปลี่ยนไปทันที
“การปราบบอสไม่ใช่งานที่คนๆเดียวจะทำได้ พวกเราต้องร่วมมือกัน ดังนั้นช่วยจัดกลุ่มกันด้วยครับ!”
ฟังดูมีเหตุผลผู้เล่นพยักหน้าให้ จากนั้นมหกรรมจัดกลุ่มกันก็เริ่มขึ้น มีเพียงแค่วู่หยานกับอาสินะสองคนที่นิ่งเฉยไม่ขยับเขยื้อน ส่วนเจ้าคิริโตะก็กำลังลนลานมองซ้ายมองขวาอยู่
ไม่นานคิริโตะก็เล็งเป้ามายังตัวอาสึนะกับวู่หยาน หลังจากมองสลับไปมาอยู่ครู่นึง คิริโตะก็ขยับก้นกระดึ๊บเข้าไปหาอาสึนะ พอเห็นภาพนี้วู่หยานที่มองอยู่ก็อดจะริมฝีปากบิดเบี้ยวไม่ได้
ไอเจ้านี่มันเกิดมาพร้อมกับโชคหรือไง? ทั้งที่ไม่รู้จักหน้าอีกฝ่ายแท้ๆ แต่กลับสามารถเข้าไปหาเจ้าสาวในอนาคตของตัวเองได้อย่างแม่นยำ…….
คุยกันไม่นานคิริโตะกับอาสินะก็สร้างปาร์ตี้สำเร็จ ถึงตอนนี้คิริโตะถึงหันมาหาวู่หยาน
“คือว่า นายจะมาปาร์ตี้กับพวกเราด้วยไหม?….”
ได้ยินวู่หยานก็ยกคิ้ว ก่อนจะหัวเราะส่ายหน้าปฏิเสธ “โทษทีนะ แต่ไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่ชินกับการสู้เป็นทีม…..”
คิริโตะอึ้ง “แต่เราไม่สามารถปราบบอสได้ด้วยตัวเองคนเดียวนะ……..”
“คนเดียวปราบบอสไม่ได้?” ทันใดนั้นร่างกายวู่หยานก็แผ่แรงกดดันที่มองไม่เห็นออกมา คนอื่นไม่รู้สึกถึงยกเว้นแต่คิริโตะกับอาสินะ ทั้งสองคนตกใจลูกตาหดลงทันที
“ใครบอกนายกันว่าคนเดียวปราบบอสไม่ได้?” วู่หยานฉีกยิ้มกว้างเต็มไปด้วยความมั่นใจ “แค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว!”
คำคุยโม้โอ้อวดนี่ถ้าเป็นไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ คิริโตะกับอาสึนะต้องคิดแน่ว่าวู่หยานอวดดีเกินไป แต่พอหวนนึกถึงแรงกดดันที่ชวนขนหัวลุกเมื่อกี้ทั้งสองก็ไม่อาจพูดอะไรได้ อาสึนะที่ใบหน้าซ่อนอยู่ภายใต้ฮู้ดก็เริ่มมองขึ้นๆลงๆตัววู่หยาน
“เอาล่ะ ทุกคนมีกลุ่มกันหมดแล้วนะ?” เดียร์เบลพูดยิ้มๆ “ถ้างั้น…..”
“ช้าก่อน!”
จู่ๆก็มีเสียงแหบแห้งพูดขัดเดียร์เบล
ทุกคนต่างหันไปมองตามเสียงด้วยความประหลาดใจ และพวกเขาก็เห็นผู้ชายสูงวัยตัวเล็กผมเป็นแท่งเหมือนเม่น เขาคนนี้ได้กระโดดจากบนสุดลงมาเรื่อยๆจนถึงแท่นเวทีตรงหน้าเดียร์เบล
พอเห็นคนๆนี้ นัยน์ตาวู่หยานก็เรืองแสงวูบ…..