บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! - ตอนที่ 52 เป้าหมายที่ต้องช่วยเหลือ จริงๆแล้วคือโลลิน้อยล่ะ!
- Home
- All Mangas
- บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ!
- ตอนที่ 52 เป้าหมายที่ต้องช่วยเหลือ จริงๆแล้วคือโลลิน้อยล่ะ!
“งั้นสรุปว่าเป้าหมายของพวกเราคือไปฆ่าไอ้หมานั่นและเจ้าของมันให้หมด จากนั้นก็ช่วยคนที่ชื่อ ลิลิน ใช่มั้ย?” ฮินางิคุมองหน้าจอเควส แล้วพูดยืนยันกับวู่หยาน
“ใช่ เควสมันก็บอกว่าอยู่ใกล้ๆนี้ ช่วยลดเวลาเราไปได้เยอะเลย” วู่หยานมองกังเกตุไปรอบๆตัว หมุนดาบในมือเล่น แล้วพูดยิ้มๆ
“ฆ่า….คน…ทุกคน…” มิโคโตะขมวดคิ้ว สีหน้าบูดเบี้ยวราวกับว่ากำลังขัดแย้งในใจตัวเองอยู่ “ฆ่าคนหมด….มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ…” สีหน้าฮินางิคุเองก็ไม่สู้ดีเหมือนกัน ถึงยังไงสุดท้ายแล้วการฆ่ามนุษย์ด้วยกัน ทั้งสองคนก็ยังรู้สึกรับไม่ได้มาก
วู่หยานก็รู้เหมือนกันว่า การขอให้พวกเธอไปฆ่าคนมันดูมากเกินไป ถ้าพวกเธอทำจริงๆโดยไม่พูดอะไรเลย พวกเธอก็คงไม่ใช่ฮินางิคุและมิโคโตะที่เขารู้จัก วู่หยานยกฝักดาบเคาะหัวสองสาวคนละที
“ฉันก็ไม่ได้บอกให้พวกเธอทำซะหน่อย สบาบใจได้ ฉันจะทำเอง!”
พวกเธอยกมือมาจับหน้าผากพร้อมกัน ฮินางิคุกับมิโคโตะมองวู่หยาน จากนั้นพยักหน้า แต่สีหน้าก็ยังคงไม่ดีอยู่เหมือนเดิม
วู่หยานถอนหายใจกับท่าทางพวกเธอ “อย่าบอกนะว่าพวกเธอรู้สึกสงสารหรืออะไรทำนองนั้นกับทหารรับจ้างที่ลักพาผู้คนน่ะ?”
โดยไม่รอให้สองสาวได้ทันเอ่ยปากตอบ วู่หยานก็พูดไปตรงๆว่า “โลกนี้ไม่ได้สวยงามเหมือนที่พวกเธอคิดหรอกนะ มันเป็นโลกแห่งป่าที่ใครมีพลังมากกว่าคนนั้นถูกต้อง และยังมีพวกคนที่ชอบใช้พลังข่มเหงคนที่อ่อนแอกว่าอยู่ด้วย คนประเภทนี้ห้ามสงสารเด็ดขาด!”
นางิคุกับมิโคโตะได้ยินก็อึ้งไป ก่อนจะเม้มปากเงียบ
แน่นอนว่าคนหัวดีอย่างพวกเธอย่อมเข้าใจอยู่แล้ว สิ่งที่วู่หยานพูดเป็นเรื่องจริง….
วู่หยานหมุนคอเล็กน้อยเกิดเสียงกระดูกลั่นกร็อบแกร็บ ยกดาบขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ขอให้พวกเธอทำเรื่องที่ไม่อยากทำ เพราะไม่งั้นพวกเธอก็จะไม่ใช่ตัวเธอเองอีกต่อไป ความเมตตาที่ไม่จำเป็นนั่นน่ะ ฉันหวังว่าพวกเธอจะไม่เอามาใช้ในโลกนี้ ความเป็นจริงมันให้พวกเธอทำแบบนั้นได้!”
ไม่เพียงแค่นั่น ใจอ่อนกับศัตรูก็คือการทำร้ายตัวเองด้วย!
แน่นอนว่า เขาไม่อยากพูดรุนแรงเกินไป ต่อหน้าสองสาว……
“ฮึ! เข้าใจแล้วน่า….” ฮินางิคุทำเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา แล้วพูดเสียงต่ำว่า “อย่างมากฉันก็แค่หลับตาก็ไม่เห็นอะไรแล้ว…”
มิโคโตะเงยหน้าด้วยความร่าเริงเล็กน้อย เธอไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล ตั้งแต่เธอได้รู้เรื่องน้องสาว เธอก็เข้าใจถึงด้านมืดของเมืองแห่งการศึกษา เธอสามารถทนกับความืดพวกนี้ได้ แต่ทนได้ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมรับมัน มันก็แค่เธอต้องอยู่ในด้านสว่างก็พอ ส่วนด้านมืด……
เงยหน้ามองแผ่นหลังวู่หยาน เธอพูดพึมพำเบาๆว่า
“เขา…กำลังแบกรับให้ฉันอยู่?”
แต่ตรงกันข้ามกับมิโคโตะ ฮินางิคุคิดว่าในเมื่อทำผิดจริงก็ต้องโดนทำโทษ นี่คือความคิดของเธอ ถึงแม้บทลงโทษมันออกจะ….หนักเกินไปหน่อยก็เถอะ…
วู่หยานยืนนิ่งรอสองสาวเตรียมตัวเตรียมตัวใจ ถึงแม้เขาจะไม่เคยฆ่าคนมาก่อนก็เถอะ แต่ลึกๆแล้วเขาก็ไม่ได้คิดมากอะไร เขาไม่ใช่คนใจอ่อนกับศัตรูอยู่แล้ว ไม่งั้นตอน สไลม์ เขาคงไม่ฟันมือมันจนขาดหรอก
“ถ้างั้นล่ะก็ หยาน นายรับผิดชอบพวกทหารรับจ้าง ส่วนพวกหมาบ้า…..” ยื่นดาบชิโระซากุระมาข้างหน้าตัวเอง ฮินางิคุพูดยิ้มๆ “ฉันจะจัดการเอง!”
“ให้เธอ?” วู่หยานมองหน้าเธออย่างพูดไม่ออก พวกหมามันเวล20 มันดูไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะให้เธอเลเวล19ไปสู้
“อย่าดูถูกฉันนะ!” สายตาที่เขามองเธอมันบอกทุกอย่าง ฮินางิคุขึ้นเสียงเล็กน้อย “พวกมันเลเวลมากกว่าฉันแค่หนึ่ง ฉันไม่แพ้หรอก!”
วู่หยานพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “ใช่ ฉันเข้าใจว่าเลเวลมันไม่ใช่ทั้งหมด แต่ที่เธอต้องเจอไม่ใช่แค่หนึ่งแต่เป็นฝูงเลยนะ”
“เฮ้ อย่าลืมฉันสิ!” มิโคโตะเขย่งเท้าสุดตัว พยายามบอกเป็นนัยๆว่าเธอก็อยู่ตรงนี้ด้วยนะ “หมาพวกนั้นทั้งเลเวลต่ำกว่าฉันและยังน่าขยะแขยงสุดๆอีกแล้ว ทำไมฉัน มิซากะ มิโคโตะ จะไม่กล้าจัดจัดการมันล่ะ!”
“เยื่ยม!” ดูเหมือนพวกเธอจะไม่พอใจถ้าเขาไม่ให้ช่วย วู่หยานทำแค่พยักหน้ายอมรับ “พวกทหารรับจ้างให้ฉัน ส่วนพวกเธอก็รับผิดชอบพวกหมาไป หลังจากจัดการเสร็จแล้ว เราก็ไปช่วยคนที่ชื่อ ลิลิน กัน!”
“อย่างแรกพวกเราต้องหาพวกมันให้เจอก่อน!” มิโคโตะยกมือพูด
“เควสมันบอกว่าอยู่ใกล้ๆที่นี่นะ….” ฮินางิคุมองไปรอบๆ ที่เธอเห็นมีแค่พุ่มไม้ใบหญ้า!
“จำนวนพวกมันทั้งหมดก็มีรองหัวหน้าและลูกน้องรวมกันเป็น21คน บวกกับหมาอีก19ตัว ยังมีคนที่โดนลักพาตัวอีก ด้วยจำนวนมากขนาดนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เหลือร่องลอยอะไรไว้เลย เราแค่ต้องหาร่องลอยให้เจอด้วยพลังแม่เหล็กไฟฟ้าของฉันและมิโคโตะ ถ้ามันไม่อยู่ไกลมากนักก็ย่อมหาเจอแน่นอน!”
วู่หยานหลับตาลง ตรงหน้าผากก็เกิดระแสไฟฟ้าแล่นไปมา มิโคโตะก็ทำแบบเดียวกัน
วู่หยานสามารถใช้พลังแบบเดียวกับมิโคโตะ ฮินางิคุได้ฟังมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไร เพียงแค่ตัวเธอที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่ยืนอยู่เฉยๆ คอยระวังหมาลอบกัด
“เจอแล้ว!” มิโคโตะเปิดตาพรึบ ได้ยินเสียงเธอ วู่หยานรีบลืมตา เขากับฮินางิคุหันไปมองมิโคโตะ
มิโคโตะชี้มือไปทิศทางหนึ่ง แล้วพูดว่า “ทางนั่น ฉันสัมผัสได้ถึงคลื่นไฟฟ้า ดูเหมือนจะเป็นไฟฟ้าสถิต แถมยังมีเยอะมากด้วย เพราะงั้นพวกมันก็น่าจะอยู่ทางนั่นแหละ!”
“สามารถสัมผัสได้แม้แต่ไฟฟ้าสถิตย์เลยงั้นเหรอ?” ฮินางิคุแปลกใจเล็กน้อยมองมิโคโตะ ไฟฟ้าสถิต ถึงจะเป็นไฟฟ้าก็เถอะ แต่มันสิ่งที่สามารถรู้สึกถึงได้ด้วยเหรอ?
“เป็นเพราะมันไม่ไกลมาก บวกกับที่นี่ไม่มีพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้ามารบกวน ดังนั้นฉันถึงสามารถสัมผัสได้!” มิโคโตะยกหน้าขึ้นเล็กน้อย ยิ้มๆมองฮินางิคุ
“ทางนั่นสินะ?” วู่หยานมองตรงไป ก่อนจะหันมาพูดว่า “เราไปกันเถอะ ไม่รู้ว่าพวกมันจะทำร้ายคนที่ชื่อลิลินรึเปล่า ยิ่งไปเร็วยิ่งดี!”
ฮินางิคุกับมิโคโตะพยักหน้า วิ่งไปกับวู่หยานหาเป้าหมาย
แต่ทว่าไม่นานนัก ก็มีเสียงดังเข้ามาในหูพวกเขา วู่หยานรู้ว่าข้องหน้าต้องมีคนแน่ จึงชะลอฝีเท้าลง โบกมือเป็นนัยให้สองสาว ทั้งสามคนค่อยๆเดินเข้าไปใกล้อย่างไร้เสียง
หลังจากเดินจนเกือบถึงแล้วพวกเขาก็หยุด ก่อนที่วู่หยานจะหาช่องว่างตามพุ่มไม้ส่องดูข้างหน้า
มีกลุ่มทหารรับจ้างสวมชุดเกราะยืนอยู่ข้างๆกองไฟ พวกทหารรับจ้างมองไปรอบๆอย่างตื่นตัว ในมือก็กำอาวุธแน่น พวกมันกำลังเดินลาดตระเวนกันอยู่ แถมยังมีหมาอีกเป็นฝูงเดินอยู่รอบๆด้วย หมาแต่ละตัวมีใบหน้าอัปลักษณ์ น้ำลายก็หยดลงพื้นไม่หยุด ดูแล้วโครตน่าขยะแขยง
สุนัขเขี้ยวอสูรมีเลเวล20หมดทุกตัว แต่ทหารรับจ้างก็คละกันไประหว่างเวล20-30 ดูเหมือนจะเป็นนักรบแรงค์3
เห็นดังนี้ วู่หยานก็ขมวดคิ้ว
ถึงแรงค์3ดูเหมือนกระจอก แต่ก็ไม่ใช่ขยะ ต้องรู้ก่อนว่าครั้งแรกที่เขาเจอลูลู่ เธอก็มีพวกลุงองครักษ์แรงค์3ค่อยคุ้มครองอยู่ ถึงแม้จะไม่จำเป้นก็เถอะ ในเมื่อลูลู่มีเฟยเฟย โอเน่ซามะที่โครตเก่งอยู่ข้างๆอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีองครักษ์แบบนี้ได้
และตอนนี้ มีทหารรับจ้างเลเวล20-30ถึงยี่สิบคน และยังมีสัตว์อสูรเป็นสัตว์เลี้ยงด้วย กลุ่มทหารรับจ้างนี้ดูไม่ธรรมดาซะแล้ว!
แต่คนที่ทำให้วู่หยานใส่ใจจริงๆคือคนที่นั่งอยู่ข้างๆกองไฟ ผู้ชายวัยกลางคนที่กำลังดื่มเหล้า
เทียนลี่ : เลเวล40
ใช่แล้ว ตาลุงนี้แหละแรงค์5! เป็นถึงแรงค์5แต่กับเป็นได้แค่รองหัวหน้า พูดอีกอย่างก็คือยังมีหัวหน้าอยู่อีกคนด้วย มองในแง่ดีสุดๆหัวหน้ามันก็ต้องเก่งพอๆกับตาลุงนี่ด้วย
รองหัวหน้า คนมีความสามารถแบบนี้กลับเป็นคนคุมการลักพาตัว และบวกกับเหตุการณ์พิเศษที่ระบบมันพูดถึง ทำให้วู่หยานรู้สึกว่าตัวเองเข้ามาพัวพันกับเรื่องยุ่งๆเข้าให้แล้ว
มีข้อศอกมาสะกิดเอวเขา เป็นฮินางิคุ เธอพยายามชี้ให้มองไปทิศทางหนึ่ง เมื่อวู่หยานหันไปก็ช็อคทันที
ตรงหน้าต้นไม้ มีเด็กผู้หญิงผมสีทองอายุราวๆ10ขวบ ถูกเชือดมัดไว้อยู่นอนกองกับพื้นอยู่ รูปร่างอันบอบบางแทบดูไม่แตกต่างจากมิซากะมิซากะเลย(Last Order) ร่างบางสั่นระริกขอบตาแดงระเรื่อเต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองพวกทหารรับจ้างด้วยความกลัวสุดขีด
เห็นภาพนี้แล้ว ถ้าวู่หยานยังไม่รู้ว่าเป้าที่ต้องช่วยคือใคร เขาก็คงต้องไปอยู่ศรีธัญญาแล้ว แต่ที่เขาไม่คิดเลยก็คือคนที่โดนลักพาตัวจะเป็นสาวน้อยโลลิแบบนี้ เป็นโลลิที่น่ารักมากเอาไปเลยสิบแต้มเต็ม
ในฐานะโลลิค่อนผู้มากประสบการณ์…….เดียว!ไมใช่แล้วโว้ย! ตูไม่ใช่โลลิค่อน!
ในใจวู่หยานตะโกนบอกตัวเองไม่หยุดว่าไม่ใช่โลลิค่อน แต่อนิจจัง เขาไม่รู้ตัวเลยว่าสองสาวข้างๆเขาก็เป็นครึ่งโลลิอายุ14ปี…..
“ท่านรอง เมื่อไหร่พวกข้าถึงจะออกไปจากป่าสัตว์อสูรนี่ได้กันหรือ?” ทหารรับจ้างที่ดูมีอายุ เดินเข้ามาถามเสียงต่ำ
เทียนลี่ยกขวดเหล้ากระดกดื่มอย่างแรง ก่อนจะเรอออกมาอย่างสะใจ แล้วหันหัวไปทางทหารรับจ้างคนนั่น พูดว่า “เร็วๆนี่แหละ อีกไม่นานหรอก หลังจากได้รับข่าวของพี่ใหญ่แล้ว พวกเราถึงสามารถออกไปจากป่าสัตว์อสูรได้!”
“งั้นก็ดี! อยู่ที่นี่มานานมาก จนผมเพ้าข้ายาวไปหมดทั้งตัวแล้ว”
เทียนลี่หันหน้ากลับไปดื่มต่อ แล้วพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“แกก็แค่กระหายผู้หญิงเท่านั้นแหละ คิดว่าข้าไม่รู้ทันรึ?”
ถูกแฉความคิดแทนที่จะอายกลับกับมันยิ้มออกมา พูดว่า “ของมันแน่อยู่แล้ว ข้าจะซ่อนความคิดจากท่านรองได้อย่างไรล่ะ มัยช่วยไม่ได้จริงๆ ใครใช่ให้ป่าแห่งนี้ไร้ซึ่งหญิงสาวกันเล่า…..”
“ด้วยความสามารถของเจ้าน่ะ…..” เทียนลี่โยนขวดเหล้าที่หมดแล้วทิ้งไป แล้วหยิบขวดใหม่ขึ้นมาใช่นิ้วบีบเล็กน้อยฝาก็หลุดออก
เทียนลี่ยกขวดกระดกดื่มดังอึกๆ และหัวเราะร่า “ต่อให้ออกจากป่านี้ไปเจ้าก็หาหญิงงามไม่ได้หรอก เจ้าคงทำได้แค่ไปเอาที่ซ่องเสียพลังงานไปอย่างไร้ค่า ช่างเปล่าประโยชน์เสียจริง!”
“แน่นอนว่ามาตรฐานของข้ากับท่านย่อมต่างกันคนล่ะระดับอยู่แล้ว สำหรับข้าแค่นั้นก็ดีสุดๆแล้ว กลัวเสียแต่ว่าจะไม่มีให้ใช้!” ทหารรับจ้างทำสีหน้าหื่นกามและต่ำช้า
“ถ้าเป็นนังเด็กนั่นก็ง่ายนักแหละ” เทียนลี่หันไปมองสาวน้อยโลลิ เลียริมฝีปาก แล้วพูดด้วยสีหน้าหื่นกระหาย “เมื่อพี่ใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้นังเด็กนี้แล้ว ข้าก็จะเล่นกับมันสักหน่อย และเมื่อข้าเล่นเสร็จแล้ว ต่อไปก็เป็นตาพวกเจ้า!”
ทหารับจ้างมองเทียนลี่ด้วยสีหน้าแปลกใจระคนดีใจ “ขอบคุณท่านรองที่เมตตา!”
จากนั้นพวกมันทั้งคู่ก็หัวเราะอย่างหึกเฮิมเสียงดัง
“ไอ้สารเลวสองตัวนั่น!”มิโคโตะพูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น คำพูดของเทียนลี่ทุกคำพวกเธอทั้งสามคนได้ยินชัดทุกคำ แค่คิดว่าขนาดเด็กเล็กแค่นี้พวกมันยังคิดจะทำเรื่องแบบนั้นได้ มิโคโตะก็หัวร้อนปรี้ดทันที
“รออีกไม่นานหรอก เดียวพวกมันก็ต้องตาย!” วู่หยานก็ของขึ้นเล็กน้อยเหมือนกัน กับโลลิน้อยที่ควรจะปฏิบัติด้วยความรักและเอ็นดูแท้ๆ แต่!ไอ้ระยำสองตัวนั้นกลับ คิด!จะ!ทำ!เรื่องอย่างว่าได้ลง! แบบนี้มันต้องฆ่า!!!
มิโคโตะกับฮินางิคุพยักหน้าพร้อมกัน บทสนาของเทียนลี่และทหารรับจ้างนั่น ทำให้พวกเธอโกรธมาก จากตอนแรกไอ้ความคิดที่ว่าฆ่าให้หมดออกจะเกินไปหน่อย ถูกสองสาวโยนทิ้งไปจากหัวทันที
เป็นอย่างที่เขาพูดเลย ในโลกนี้ ยังมีกลุ่มคนบัดซบที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องตาย! สงสารและเมตตามันไร้สาระ!
กลุ่มลับถึงตอน211ครับ