บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! - ตอนที่ 1 จุติ และ ระบบบัดซบ
“เราอยู่ไหนวะเนี่ย!!!”
เสียงแหกปากดังสนั่น ทำเหล่านกน้อยที่กำลังนอนอยู่ตื่นตกใจรีบกระพือปีกบินขึ้นเต็มท้องฟ้า แต่ไอ้ตัวต้นเหตุก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นด้วยสีหน้าซังกะตาย
ชายหนุ่มคนนี้มีผมและตาสีดำ อายุราว 20 ปี แม้ใบหน้าจะไม่ถึงกับน่าเกลียด แต่ก็ไม่ได้หล่ออะไร ตอนนี้เขากำลังนั่งยองๆอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง
เขาเงยหน้ามองฟ้า แต่กลับเห็นเพียงแค่ต้นไม้ที่สูงเสียจนไม่เห็นเส้นขอบฟ้า ทำเขาอยากร้องไห้แต่น้ำตากลับไม่ไหล….
ใครจะไปคิดล่ะว่าหลังตื่นนอน ตนเองจะมาโผล่อยู่ในที่บัดซบที่ไม่เห็นแม้แต่เงามนุษย์แบบนี้ แน่นอนว่านี้เป็นแค่ความคิดของเด็กหนุ่มคนเดียว ถ้าเป็นคนอื่นคงจะคิดแค่ว่าเป็นป่าที่ดูเงียบสงบดีจังนะ
เขาก็คิดนะว่าตนยังอยู่ในฝันรึเปล่า? แต่จากแผลถลอกสดๆบนแขนนี่เป็นหลักฐานชั้นดีที่กำลังตอกย้ำความจริงอันโหดร้ายนี้!
“อย่าบอกนะว่านี่คือการถูกส่งมาต่างโลกในตำนาน? แต่ทำไมไม่เห็นมีสูตรโกงบ้างเลยล่ะ? ปกติแล้วตูต้องโดนส่งไปเกิดใหม่ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงได้มาโผล่ในป่าที่มันไร้ผู้คนแบบนี้! เชี่ย! แล้วจะให้ตูทำไงฟะ? ถนนหนทางก็ไม่รู้…….เอ่อ..ท่านมหาเทพแห่งการเคลื่อนย้าย ท่านกำลังล้อผมเล่นใช่ไหม…..?” เขานั่งบนพื้นลงอย่างหมดแรงโดยไม่สนว่าตูดจะเปื้อนขี้ดิน ชายหนุ่มพูดพึมพำอะไรสักอย่างไม่หยุด
ควรพูดว่าสมแล้วที่เป็นโอตาคุใช่ไหม?
บางทีอาจะเป็นเพราะท่านเทพได้ยินคำพูดของเขาที่บ่นกะปอดกะแปดไม่หยุด ด้วยความเหนื่อยใจจึงมีเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ดุจเครื่องจักรดังขึ้นมา
“กำลังเปิดระบบ … เปิดระบบสำเร็จ! ยินดีที่ได้รู้จัก ยูสเซอร์ที่นับถือ…..”
พวกคุณลองคิดดูนะ เมื่อคนๆหนึ่งอยู่ในสถานที่ที่เปล่าเปลี่ยวและเงียบสนิทซึ่งมองไปทางไหนก็ไม่เห็นแม้แต่เงาคน แต่จู่ๆกลับมีเสียงที่เย็นชาชวนขนลุกดังขึ้น พวกคุณจะมีปฏิกิริยาแบบไหน? ตอนนี้ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนี้จะบอกคุณเอง
ร่างเขาสั่น ก่อนจะกรีดร้องแล้วกระโดดโหย่งขึ้นมา ด้วยความสูงที่มากพอที่จะทุบทำลายสถิติการกระโดดที่สูงที่สุดของโลกเก่าไดเลย อนึ่งขอย้ำอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขาเป็นแค่โอตาคุที่นอนขี้เกียจไปวันๆเท่านั้น ไม่ใช่นักกีฬาทีมชาติที่ไหน
“คะ..ใครกัน..อย่าเล่นแบบนี้สิเฮ้ย เอ็งคิดว่าตูจะกลัวรึ? จะบอกไรให้ ถ้าให้เลือกระหว่างกินข้าวหรูๆกับดูอนิเมะ ตูเลือกอดข้าว7วัน7คืนดูอนิเมะจนหิวสุดๆแล้วค่อยกินดีกว่า เพราะงั้นฉันจะไม่มาตายในที่ที่ประหลาดแบบนี้แน่ เข้าใจที่พูดมั้ย?” เด็กหนุ่มเอ่ยพูดรัวๆลิ้นพันกัน ขณะที่ขาก็สั่นพั่บๆไปด้วย
“……” สิ้นเสียงเขาก็มีแต่ความเงียบตอบกลับมา เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเอือกก่อนจะหันซ้ายหันขวามองไปรอบตัว ขณะเดียวกันก็อดด่าตัวเองที่พูดอะไรไม่รู้เรื่องออกไปในใจ
บางทีอาจเป็นเพราะเริ่มคุมสติได้เล็กน้อย เขากลืนน้ำลายและพยายามหยุดความคิดที่กำลังสั่งให้วิ่งหนีไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า “ฮะ..เฮ้..นะ.นายน่ะ พูดอะไรบ้างสิ…”
นี่จะโทษเขาก็ไม่ได้ ไม่ว่าใครลองมาเจอสถานการณ์แบบเดียวกันดูสิ คิดว่าจะสามารถใจเย็นอยู่ได้งั้นหรือไง? แล้วนับประสาอะไรกับเขาที่เป็นแค่ฮิคิโคโมริธรรมดา ที่แม้แต่ก้าวออกจากบ้านยังไม่ทำเลย
แต่น่าเสียดายที่ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับ ราวกับว่าเสียงเย็นชาเมื่อกี้เป็นแค่ภาพลวงตา
เด็กหนุ่มมองไปรอบๆด้วยแววตาตื่นกลัว ไม่นานนักเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ เพื่อสงบจิตใจตนเอง จากนั้นก็เปิดปากพูดอีกครั้งว่า “สวัสดี คุณคนที่พูดว่าระบบ…..”
พูดถึงตรงนี้เขาก็หยุดไป ก่อนที่จะเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
ระบบ? เมื่อกี้เขาพูดว่าระบบเหรอ?…..ไม่ผิดแน่! นี่มันต้องเป็นระบบโครตโกงที่คนที่โดนส่งมาต่างโลกต้องมีติดตัวกันทุกคนแน่นอน!!
เอาจริงดิ? แบบมันต้องเช็ค!
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ใจเย็นลงได้แล้ว ขณะที่เกาหัว เขาก็เอ่ยด้วยนำเสียงสงสัยว่า “ระบบครับ?”
พูดเสร็จปุป ก็มีเสียงเครื่องจักรดังตอบขึ้นมาทันที “ยินดีที่ได้รับใช้ ยูสเซอร์!”
เด็กหนุ่มเผลอตัวสะดุ้งเล็กน้อย แต่เพราะเขาได้เตรียมใจรอไว้ก่อนแล้ว จึงไม่เหมือนเมื่อกี้ที่เล่นมาไม่ให้ตั้งตัวเป็นใครก็ต้องตกใจล่ะ!
“’เอ่อ … ระบบ ที่นี่ที่ไหนอ่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมฉันถึงมาโผล่ที่นี่?” เขายิงคำถามรัวๆจนน้ำลายกระเด็นเป็นปืนกล เขาอยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้ว กับที่ที่ไม่มีแม้แต่รอยเท้าของมนุษย์ ทำให้เขาเห็นระบบดังฟางเส้นสุดท้าย
“ปี๊บ! ตำแหน่งปัจจุบันของยูสเซอร์ โลกซิลวาเรีย ป่าสัตว์อสูร!”
….ห๊ะ? โลกซิลวาเรีย? ป่าสัตว์อสูร?
จากข้อมูลพวกนี้ เด็กหนุ่มสามารถสรุปได้หลายข้อ อาทิเช่น 1.เขาถูกส่งมา 2.จากชื่อของสถานที่นี้ เขาถูกส่งมายังโลกแบบตะวันตก 3.ถ้าที่นี่เป็นโลกปกติธรรมดาก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าเป็นโลกแฟนตาซีที่มีพวกเวทมนต์ล่ะก็….ดูจากชื่อ ป่าสัตว์อสูร บางทีโอกาสที่จะรอดมันมากกว่าการที่ไปบอกรักผู้หญิงแล้วโดนหักอกกลับมาแค่เล็กน้อยเท่านั้น……
สะบัดหัวแรงๆ ราวกับว่าจะโยนความคิดบัดซบพวกนี้ออกจากหัวให้หมด เขาเตือนตัวเองในใจไม่หยุด ว่านี่เป็นแค่การคาดเดามั่วๆ ใครจะไปรู้ล่ะอาจจะคิดผิดหมดเลยก็ได้ บางทีอาจจะเป็นแบบในนิยายแนวส่งมาต่างโลกตามมาตรฐานก็ได้ ที่อีกไม่นานเขาก็สามารถพิชิตโลก มีฮาเร็มเป็นของตัวเอง และทำให้โลกต้องจารึกชื่อ!
ตามในนิยายแล้วมันต้องเป็นแบบนั้นสิ!
อนิจจา นี่เป็นเพียงแค่ฝันกลางวันโง่ๆของโอตาคุคนหนึ่งเท่านั้น……
ไม่นานนัก เขาก็เลิกเพ้อหลังจากนึกถึงเจ้าระบบลึกลับนี้ได้ เด็กหนุ่มค่อยๆผ่อนคลายลง
สูดลมหายใจเข้าออกสองสามครั้ง แล้วหัวเราะแห้งๆออกมา ก่อนที่จะยืดอกตัวตรง หันมาพูดกับความว่างเปล่า “ฉันสามารถกลับไปได้ไหม?”
“ปี๊บ! คำถามเกินขอบเขตที่ระบบจะตอบได้ แนะนำให้ยูสเซอร์หาคำตอบด้วยตัวเอง!”
ริมฝีปากเขากระตุกสองสามที เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “เกินขอบเขตที่ว่ามันหมายความยังไงห๊ะ?”
ทันใดนั่นก็มีหน้าจอโผล่ออกมาตรงหน้า ถึงแม้มันจะมีสีสันอยู่ก็เถอะแต่ทว่ามันกลับให้ความรู้สึกราวกับเป็นภาพลวงตา เหมือนกับภาพที่ถูกฉายออกมาจากโปรเจคเตอร์ยังไงยังงั้น
เขามองมันด้วยสีหน้าเหรอหรา ดูหน้าจอที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้า มีตัวอักษรอยู่ว่า สเตตัส อุปกรณ์ ไอเท็ม อบิลิตี้ และ อัญเชิญ มันดูเหมือนเกมเลย
ตอนนี้ ถ้าเขายังไม่รู้ว่าพวกนี้คืออะไร เขาคงล้มเหลวที่เป็น ฮิคิโคโมริ….ไม่ว่าดูยังไงนี่ … ก็คือระบบเทพที่ออกมาจากนิยายชัดๆ!
เด็กหนุ่มกระโดดตัวลอยประมาณสามเมตรอีกครั้ง โดยที่ลืมเรื่องเมื่อกี้ที่ตัวเองยังกลัวจนฉี่แทบแตกไปเลย…..
ตัวตูช่างเทพเสียจริง! เขาหัวเราะฮ่าๆเหมือนคนสติไม่เต็ม
มองไปที่หน้าจอสถานะ ราวกับว่ามันเป็นคนรักของเขา ก่อนจะค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้และจูบมัน ขณะที่ยังอยู่ในโหมดคนบ้าเต็มตัว
เขาก็กดไปหน้าจอสถานะ
หน้าจอทั้งห้าหายไป และสิ่งที่ปรากฏคือ คำอธิบายค่าสถานะของเขา
ชื่อ : มนุษย์
ความสามารถ : ไม่มี
อุปกรณ์ : ไม่มี
แต้มอุมกรณ์(Ep) : 0
แต้มไอเท็ม(Ip) : 0
แต้มควาสามารถ(Ap) : 0
แต้มอัญเชิญ(Sp) : 0
เลเวล : 0
“……….”
อึ้ง จากสีหน้าของเขาบอกได้เลยว่าโครตอึ้งกับไอ้ค่าสถานะ ใบหน้าของเด็กหนุ่มบิดเบี้ยวเปลี่ยนสีไปมา
แม้ว่าตอนนี้ จะไม่ใช่เวลามาตบมุข แต่ตูก็อดไม่ได้จริงๆอ่ะ
“ฉันขอพูดอะไรหน่อยนะ ปกติแล้ว ค่าสถานะเริ่มต้นจะน้อยแบบนี้ ฉันก็รับได้ แต่เชี่ยนี้มันอะไรกัน? ไอ้ มนุษย์ นี้มันคืออะไรวะ!!?” คนที่เคยเล่นMMORPG หรือคนที่เคยอ่านโนเวลเกมออนไลน์คงรู้ ตรงบรรทัดแรกจริงๆมันควรเป็นชื่อผู้เล่น……
“ฟู่….” สายลมพัดใบไม้บนพื้นลอยขึ้น และพัดมาโดนหน้าเด็กหนุ่ม ราวกับว่ากำลังเยาะเย้ยเขาอยู่
เงียบไปพักหนึ่ง ก็มีเสียงลึกลับของระบบดังขึ้น
“กรุณาเลือกชื่อเล่น!”
เมื่อกี้แกหยุดคิดไปสินะ!! ใช่แน่ๆ!! ไอ้บัดซบ!!!
เขาขยี้ผมบนหัวจนมันยุ่งเหมือนรังนกด้วยความหัวร้อน ขยี้จนพอใจแล้วก็ค่อยๆเอามือลงมาอย่างอ่อนแรง
“กรุณาเลือกชื่อเล่น!”
มันเร่งเขายิกๆ ทำเขาอยากจะบีบคอฆ่าตัวตายจริงๆ ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ถอนหายใจยาวและพูดว่า “ชื่อของฉันคือ……”
หยุดคิดครู่หนึ่ง ที่นี่คือโลกใหม่ งั้นก็หมายความว่าเริ่มต้นใหม่หมด ชื่อเก่าของเขาคงไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
ในเมื่อนี้เป็นการพบกันในที่เงียบเชี่ยๆแบบนี้ ถ้างั้น…..เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพูดว่า “วู่หยาน ต่อจากนี้ไปฉันชื่อ วู่หยาน”
เด็กหนุ่ม ไม่สิ……วู่หยาน ถึงมันจะเป็นชื่อที่ดูไม่ดีเท่าไหร่ แต่นี้เป็นสิ่งที่ตัวเขาในตอนนี้คิดได้อ่ะนะ
“ปี๊บ! ยืนยัน ยูสเซอร์ วู่หยาน โปรดกดยืนยันสถานะจะถูกแก้ไขจาก มนุษย์ เป็น วู่หยาน” เขาพยักหน้าหงึกหงึกด้วยความพึงพอใจกับหน้าจอแบบเดิมที่คุ้นเคย(?)
ต่อจากนั้นด้วยความหวัง วู่หยานก็จิ้มไปที่หน้าจอ อบิลิตี้ และมีหน้าจอย่อยขึ้นมา3อัน ‘สกิล’ ‘พรสวรรค์’ ‘สายเลือด’ เขาคลิกไปที่สายเลือดอย่างไม่ลังเล
เนตรวงแหวน(ลูกน้ำ1อัน) : 1,000 Ap
เนตรวงแหวน(ลูกน้ำ2อัน) : 3,000 Ap
เนตรวงแหวน(ลูกน้ำ3อัน) : 10,000 Ap
เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา : 100,000 Ap
เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ : 500,000 Ap
เนตรสังสาระ : 1,000,000 Ap
สายเลือดแท้(True Ancestor) : 500,000 Ap (@ไม่แน่ใจว่าสายเลือดแท้จากเรื่องไหน ที่ผมรู้ก็มี type moon ไม่ก็ strike the blood )
โอโรจิ : 500,000 Ap
มองไปที่ตัวเลขด้วยความตะลึง วู่หยานรีบกด ‘กลับ’ แม้ว่าจะกลับมาแล้ว แต่จิดใจเขาก็ยังไม่หายจากอาการช็อค
ตอนนี้ วู่หยานมั่นใจอย่างหนึ่งก็คือ ระบบเอ็งมันจะเทพไปแล้ววว แบบนี้มันออกจะท้าทายสวรรค์ใปมั้ย!
ด้วยระบบเทพเจ้านี้ เขาไม่เชื่อว่า ตนจะพิชิตโลกไม่ได้!!
ตอนนี้ วู่หยานรู้สึกดีมากดีสุดๆ ราวกับว่าตัวเองได้ไปยืนอยู่บนจูดสูงสุดของโลกแล้ว ก้าวเท้าไปในเส้นทางที่เต็มไปซากศพ กวาดล้างศัตรูด้วยดาบที่มีพลังอันไร้ขัดจำกัดดุจลาสบอส!
อนึ่ง นี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรค ฮิคิโคโมริ หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘อาการมโน’
วู่หยานยิ้มอย่างมีความสุข และกดไปที่ พรสวรรค์
เปลี่ยนเวกเตอร์
Lv1 : 500 Ap
Lv2 : 1,000 Ap
Lv3 : 5,000 AP
Lv4 : 50,000 Ap
Lv5 : 500,000 Ap
พันธสัญญาแห่งเปลวเพลิง : 300,000 Ap (จากเรื่อง เนตรเพลิงชานะ)
ดวงตามรณะ : 1,000,000 Ap (จากเรื่อง tsukihime)
รายการพวกนี้ ทำวู่หยานเบิกตากว้าง ก่อนจะหัวเราะอย่างคนบ้าออกมาอีกครั้ง จากนั้นกดไปดูที่หมวด สกิล ต่อ
ปราณน้ำแข็ง(Ice dou qi) : 10,000 Ap
ปรานความมืด(Dark dou qi): 10,000 Ap
เวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์: 100,000 Ap
เวทมนต์เงา : 100,000 Ap
เวทมนต์อันเดด : 100,000 Ap
@ชื่อ วู่หยาน แปลว่า ความเงียบ