[นิยายแปล] I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! - ตอนที่ 12
บทที่ 12 เจ้าหญิงอัศวิน
“–ชั้นจะทำไปเพื่อ”
ฉันก้มมองโกอาซที่ตัวดำเมี่ยม แค่เห็นภาพแบบนี้ก็แทบหุบยิ้มไว้ไม่อยู่
ภาพที่ชายร่างโตต้องมาหมอบกราบตั่วสั่นแทบเท้าแบบนี้มันทำให้บันเทิงใจสุดๆ
มันเป็นคนที่มีใบหน้าที่หยาบกร้าน
เป็นไอ้คนแบบที่ฉันเกลียดสุดๆอีกด้วย ไอ้คนจำพวกที่เอาเวลาชีวิตไปหมดกับการเล่นกล้าม
ไอ้คนแบบนี้แหละที่เป็นดั่งมลพิษในชาติก่อนของฉัน
มันทำให้นึกถึงไอ้พวกคนทวงหนี้พวกนั้น
“ได้โปรดละยกโทษให้ข้าด้วย จะให้ทำอะไรข้าก็ยอม”
คนของฉันก็ต่างอยู่ในท่าเตรียมพร้อมจะลั่นไก บ้างก็ถยอยเก็บศพคนที่ล้มตายไป
ดวงตาที่จ้องมองไปที่โกอาซนั่นเย็นชา แลเวทนา
และก็มีสาเหตุที่ฉันจะไม่ปล่อยมันไปอยู่แล้ว
ข้อแรก มันเป็นคนจำพวกที่ฉันเกลียด ส่วนข้อถัดมาดูเหมือนมันจะยังไม่รู้ถึงสภาพของตัวเองที่ไม่กำลังเผชิญอยู่ละนะ
“เข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่า หืม? แกบอกว่าจะยกสมบัติให้เพื่อแลกกับชีวิตแต่ว่า..สมบัติของแกนะน่ะชั้นยึดไว้หมดแล้ว ไอ้ที่แกยังมีค่าพอจะให้ชั้นปล่อยให้อยู่พ่นล่มหายใจได้นะเป็นเพราะค่าหัวที่จักรวรรดิตั้งไว้ต่างหาก”
โกอาซตาโตด้วยความตกใจ
“ดะ เดี๋ยวก่อนสิได้โปรดละถ้าปล่อยข้าไปละก็จะเป็นประโยชน์ให้แกแน่ ถึงจะแพ้ให้แกก็เถอะแต่ก็เห็นถึงความสุดยอดยของข้าแล้วไม่ใช่เหรอแล้วดูสภาพข้าสิแขน ขาก็มีไม่ครบ แค่สั่งจะให้ข้าทำอะไรข้าก็จะยอมหุบปากทำให้เลยน่ะ ขอแค่ปล่อยให้ข้ารอดไปเถอะขอร้องล่ะ แล้วก็ข้ายังมีสมบัติซ่อนไว้ที่อื่นนอกจากที่เก็บไว้ในยานอยู่ด้วย แค่ไว้ชีวิตข้าจะสมบัติที่ซ่อนไว้เท่าไหร่ก็จะยกให้หมดเลยขอร้องล่ะ”
แล้วก็พ่นข้อมูลออกมาเพิ่มจนได้
ถึงที่มันพ่นมาอาจจะเป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่พอจะปล่อยให้มันรอดไปได้อยู่ดี
“หืม ยังมีสมบัติซ่อนอยู่อีกงั้นสินะ ได้เลย ได้เลย หวังว่าแกจะยอมบอกที่ซ่อนทั้งหมดให้ระหว่างทริปไปจักรวรรดิในห้องทรมาณที่แกจะได้อยู่ละนะ ไม่ต้องห่วงชั้นจะจองห้องระดับ VIP ให้เลย”
“อะ อย่ามาล้อเล่นกันนะว้อย ไอ้เด็กเปรต!!”
ดูเหมือนมันจะยอมแพ้ที่จะพูดกับฉันแล้วหันมากระโจนใส่แทนอย่างสุดความสามารถด้วยขาข้างที่เหลือนั่น
พลางมีหมอกสีดำพุดออกมาจากร่างของมันด้วย
แล้วชั้นก็ยกคาตานะขึ้นมาจ่อไปที่โกอาซแล้วก็–
“หุบปาก”
ฉันสับมันพอที่จะทำให้มันไม่ตาย แน่นอนขาข้างที่เหลือของมันก็ขาดไปด้วย
หลังจากไถลไปกับพื้นโกอาซ มันก็ทำหน้าแหยเกราวกับไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน ผ่านไปสักพักมันก็เริ่มร้องไห้ อ้อนวอนขอชีวิต
“ช่วยด้วย! ได้โปรดล่ะ ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย!”
ฉันพลางชื่นชมไปที่คาตานะเล่มใหม่ที่เพิ่งได้มา นับว่าเป็นดาบที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่คาดไว้ซะอีก
แล้วคนของฉันก็เอ่ยถาม
“ท่านเลียม คิดจะจับเป็นจริงๆเหรอครับ”
“แล้วมันมีปัญหาอะไรรึไง”
“มะ ไม่ครับ เพียงแค่มันฆ่าทหารของฝั่งเราไปเยอะ…”
หืม ดูเหมือนจะไม่เหลือที่ไว้ให้เมตตามันแล้วละนะ
“ถ้าฆ่ามันไม่ใช่ว่าค่าหัวมันจะลดลงเรอะ ชั้นก็เลยกะจะจับเป็นแทน”
ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเคยได้ยินว่ามันเป็นทำนองนี้
“ไม่ครับท่าน พวกอาชญกรมีชื่อแบบนี้ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตายครับ โกอาซก็เป็นจำพวกนี้ดังนั้นขอแค่เอาหลักฐานว่าจัดการได้ไปแสดง ยังไงก็จะได้รางวัลแบบเต็มๆอยู่ดีครับ”
“หืม เป็นแบบนั้นเองเหรอ”
โกอาซก็ยังร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตอนฉันหันกลับไป
ภาพนั่นทำเอานึกถึงเรื่องเมื่อชาติก่อน — ไอ้ใครหน้าไหนมันบอกว่าแม้แต่พวกคนถวงหนี้ก็ยังมีหัวใจกัน เพราะมีไอ้พวกระยำแบบนั้นเงินออมที่เก็บๆไว้ก็โดนไถไปหมดฉันเลยต้องมีชีวิตอยู่แบบยาจกในห้องโทรมๆแบบนั้น
พวกมันไม่มีเมตตาแม้แต่น้อย
พวกมันก็มันแต่บอกว่าเอาไปจ่ายเพื่อเป็นค่าประกันชีวิตตัวเองอะไรทำนองนั้นอีก
ไม่ว่าจะร้องอ้อนวอนยังไงก็ไม่มีใครหันมาสนใจ
ทำงานเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อให้มีชีวิตแค่ให้ได้เห็นวันรุ่งขึ้น
ทำไมไอ้โลกนั้นมันถึงได้ไร้เหตุผลได้ถึงเพียงนั้นกัน
แล้วหันมาดูตัวฉันในโลกนี้สิ
ได้อยู่ฝ่ายที่เป็นคนช่วงชิงจากผู้อื่นแบบนี้
แล้วยิงเป็นอาชญากรอย่างโกอาซแล้วไม่คิดว่าเป็นคนจำพวกที่เหมาะสมจะช่วงชิงเลยไม่ใช่รึไงกัน
“ได้โปรดละ แค่ไว้ชีวิตไม่ว่าอะไรข้าก็–”
“ไม่ แล้วแกก็เริ่มจะทำให้ชั้นรำคาญแล้ว”
หลังจากบั่นหัวมันออกก็ทำให้ฉันตกใจกับสภาพของโกอาศทันที
ผิวหนังดำเมี่ยมของมันหายกลับไปเป็นผิวสีเหมือนคนธรรมดาแทน
กลับไปเป็นผิวที่แทนเหมือนโดนแดดเผา
“หืม ทำไมกลับไปเป็นปรกติไปละ งั้นมันก็ไม่ใช่มนุษย์ดัดแปลงสิเนี้ย”
และไม่ว่าจะมองไปที่ร่างตรงกน้าขนาดไหนก็ไม่เห็นร่องรอยของการดัดแปลงร่างกายเลยแม้แต่น้อย
งั้นแสดงว่าไอ้ผิวดำเมื่อกี้เป็นสกิลจำพวกหนึ่งงั้นเรอะ…อีโลกนี้มันจะมีเรื่องมหัศจรรย์เยอะไปไหมเนี้ย
ฉันก็หยิบหัวโกอาซขึ้นมา
“ไอ้นี้พอจะเป็นหลักฐานได้ไหม”
“ดะ ได้ครับ”
ลูกน้องฉันก็ตอบ พลางรีบรับหัวไป
รายงานการบุกยานก็เริ่มถยอยเข้ามาทำให้รู้ว่าใกล้จะยึดยานได้เรียบร้อยแล้ว
แล้วลูกน้องคนนึกก็รายงานข้อมูลที่ทำให้ฉันต้องไปตรวจสอบดู
“ท่านเลียมครับดูเหมือนว่า—เราจะพบคนอื่นที่ไม่ใช่โจรสลัดที่โดนจับกุมตัวมาแล้วครับ”
***
โจรสลัดที่จับมาได้ก็นำทางพวกเราไปยังห้องที่ตั้งอยู่ใกล้ห้องส่วนตัวของโกอาซ
ก็คิดอยู่ว่าไอ้เรือโจรสลัดลำนี้มันสร้างมาได้ดีใช้ได้ สรุปเป็นเรือที่พวกมันยึดแล้วเอามาดัดแปลงจากประเทศที่กลุ่มดาวอื่นนั่นเอง
มีอีกเรื่อง การใช้กำลังกดขี่ข่มเหงไอ้พวกโจรสลัดที่จับมาได้นี่สนุกใช้ได้เลย
พูดเสร็จก็ถีบเข้าให้ไอ้โจรสลัดที่นำทางอยู่จากด้านหลัง
“เร็วๆเข้า”
“ดะ ได้เลยครับ”
คนที่นำทางอยู่นั้นเป็นหนึ่งในคนสนิทของโกอาซโดยพวกโจรสลัดคนอื่นเรียกเขาว่าคนเลี้ยงสัตว์
เป็นคนที่อ้วน เตี้ย และแขนขาสั้น
พูดรวมๆก็คือเป็นคนที่อ้วนเตี้ยแล้วก็น่าขนลุกอีก
และดูเหมือนจะได้ตำแหน่งนี้เพราะความรู้ ความสามารถเฉพาะด้านที่มี
หลังจากนำทางมาถึงห้องใกล้ๆกับห้องพักกัปตัน คนของฉันก็เดินเข้าไปสำรวจก่อน
แล้วเจ้าคนเลี้ยงสัตว์ก็พยายามจะพูดบางอย่าง
“คะ คือว่าถ้าเป็นไปได้ช่วยอย่าจับพวกเครื่องมือด้านในได้ไหมครับ มันเป็นอุปกรณ์สำคัญสำรหรับทำมาหากินนะครับ”
“อุปกรณ์ทำมาหากินเรอะ”
ใช้เครื่องมือพิเศษเลี้ยงสัตว์ในยานโจรสลัดเนี้ยน่ะ
มีอะไรแปลกๆ ดูเหมือนจะไม่ใช้เลี้ยงสัตว์ธรรมดาแล้วละมั้ง…
“เฮ้ย แกนะ”
“ครับ?”
“ได้เลี้ยงหมาไว้ในยานบ้างรึเปล่า”
ดูเหมือนมันจะคิดว่าฉันสนใจในงานของตัวเอง ก็เลยเริ้มฉีกยิ้ม
“ผมละชื่นชอบนายท่านที่มีรสนิยมเยี่ยมยอดจริงๆ นายท่านชอบหมางั้นสินะครับ ไม่ว่านายท่านจะอยากได้สัตว์ประเภทไหนกระผมก็สามารถสร้างออกมาได้ครับ อยากให้กระผมสร้างหมาเชื่องๆให้สักตัวไหมละครับ”
มันพูดบ้าอะไรของมันเนี้ย
ขณะที่กำลังคิดว่าไอ้หมอนี่น็อตในหัวต้องไม่เหลือสักตัวแน่ๆอยู่นั้นพวกทหารที่เข้าไปสำรวจก่อนหน้าก็รีบกระโจนออกมาจากห้อง
บางคนถึงขั้นโยนหมวกทิ้งรีบอาเจียนออกมาทันที
แล้วทหารที่คอยอารักษ์ขาฉันอยู่ก็ส่งเสียงติ
“ดะ เดี๋ยวทำบ้าอะไรต่อหน้าท่านเลียมกัน”
ไปเห็นบ้าอะไรข้างในกันมาละเนี้ย ถึงได้ทำให้ทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดีได้หน้าถอดสีกันหมดแบบนี้
แล้วทหารที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็เดินออกมาพลางพูดรายงานให้ชั้นฟังสั้นๆ
“ท่านเลียมครับ ผมขอแนะนำว่าอย่าเข้าไปด้านในเลยครับ”
ในเสียงนั้นไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
“หยุดโอดครวญกันแล้วบอกมาว่าข้างในมันมีอะไรได้แล้ว”
แต่คำตอบที่ได้หาได้มาจากทหารที่มีท่าทีกังวลตรงหน้าแต่เป็นคนเลี้ยงสัตว์น่าขนลุกแทน
“ด้านในเป็นห้องแลปของกระผมครับ โดยปรกติแล้วหน้าที่ของตัวกระผมจะเป็นการช่วยเหลือด้านงานอดิเรกของเจ้านาย- ของโกอาซนะครับ ถ้าเข้าไปดูด้านในละก็กระผมเชื่อว่านายท่านจะเห็นค่าที่แท้จริงของมันแน่นอนครับ”
ทหารที่โยนหมวกเมื่อตะกี้หันกลับมาจ้องคนเลี้ยงสัตว์แบบแทบจะกินเลือดกินเนื้อ
“แกมันไม่ใช่มนุษย์แล้ว!!”
สิ้นเสียงไอ้คนเลีย้งสัตว์ก็ยิ้งยิ้มกว้างเข้าไปอีก
“…อธิบาย เดี๋ยวนี้”
สิ้นคำสั่ง มันก็เริ่มอธิบายงานของตัวมันอย่างรื่นเริง
และเพราะเนื้อหานั้น มันยิ่งทำให้ความขยะแขยงในตัวพุ่งขึ้นสูงจนยิงคนเลี้ยงสัตว์เข้าไปที่หัวด้วยปืนพก
กะแล้วไอ้พวกโจรทั้งหมดมีแต่พวกเลวทั้งนั้น
คิดเป็นอื่นไม่ได้แล้วสำหรับพวกมัน
***
ภายในห้องด้านในนั้นมืดหม่น และเต็มไปด้วยอุปกรณ์แปลกๆแขวนเต็มพนังห้อง
แต่ที่ทำให้ทุกคนพากันหวาดกลัวนั้นคือเตียงผ่าตัดที่ตั้งอยู่กลางห้อง
ห้องนี้นั้นพวกโจรสลัดต่างเรียกกันว่า “ห้องเพาะเลี้ยง”
เป็นสถานที่ที่เกิดจากการรวมเอาความวิปริตของโกอาซกับคนเลี้ยงสัตว์เข้าไว้ด้วยกัน
เหล่าคนที่ถูกขังอยู่ในนี้นั้นแต่เดิมล้วนเคยเป็นคนที่นับว่าหน้าตาดีกันทั้งนั้น
โกอาซนั้นมีงานอดิเรกที่ชอบทำให้ความสวยงามนั้นแปดเปื้อนจนกว่าจะกลายเป็นความวิปริต
เสริมด้วยยังชอบการทรมาณอีกด้วย
ส่วนคนเลี้ยงสัตว์นั้นสนแต่การดัดแปลงร่างกายมนุษย์ แล้วผลจากงานอดิเรกนั่นจึงทำให้เกิดมนุษย์รูปร่างประหลาดที่เคยเป็นคนสวยคนงามกันนั่นเอง
และในนั้นก็มีคนที่โดนปฏิบัติด้วยโหดร้ายกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ
ชื่อของเธอคือ [คริสเทียน่า เลทา โรสแบร์] ผู้ซึ่งอดีตเคยเป็นอัศวินหญิงรูปงาม
เธอนั้นเกิดมาเป็นเจ้าหญิงในประเทศที่ห่างไกลจากจักรวรรดิและได้รับความเคารพจากทุกคนจนถูกเรียกว่า เจ้าหญิงอัศวิน
เธอถูกจับเป็นจากการที่โกอาซไปบุกถล่มบ้านเกิดของเธอแล้วกลายเป็นของเล่นชิ้นโปรดของมัน
และดูเหมือนทุกคนที่ถูกจับมาล้วนเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมในดาวของตัวเองกันทั้งนั้น
และพวกเขาเหล่านั้นก็ตกเป็นเหยื่อยของงานอดิเรกอันวิปลาสของโกอาซกันทั้งนั้น
คริสเทียน่า – เทียนั้นในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นเพียงก้อนเนื้อที่ไม่เหลือเค้าเดิมของตัวเธอในอดีตเลยแม้แต่น้อย
ดูเหมือนเธอจะพอรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนอกห้องแล้วจึงไม่ได้ตกใจมากนักเมื่อมีกลุ่มทหารติดอาวุธแปลกหน้าบุกเข้ามา
ทหารที่เห็นสภาพของเธอบางคนถึงกับอาเจียนออกมา
บ้างก็ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
“…เกิดอะไรขึ้นกับโกอาซรึเจ้าคะ”
น้ำเสียงที่เคยงดงามเมื่อกาลก่อนตอนนี้นั่นกลายเป็นเสียงที่น่ารังเกียจชวนให้คลื่นไส้จนไม่อาจจะฟังไหว
ถึงกับทำให้ทหารบางคนตกใจจนเอามือขึ้นไกปืน
“-!?”
“ไม่ต้องตกใจไป..ถึงจะมีรูปร่างเช่นนี้แต่ตัวฉันก็ไม่ใช่ศัตรูหรอกเจ้าคะ ขอถามใหม่อีกครั้งนะคะ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าโอกาซหรือคะ”
ราวกับเธอคาดอยู่แล้วว่าทหารตรงหน้าจะมีท่าทีอย่างไรเหมือนเห็นเธอ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นจากห้องด้านข้าง
เหล่าเพื่อนของเธอในห้องนั้นต่างมีทีท่าโล่งใจกับเสียงปืนที่ดังขึ้นกันถ้วนหน้า
นั่นเป็นเสียงที่บอกพวกเธอว่าพวกเธออจะได้ไปสบายกันสักที
แล้วก็มีอัศวินคนหนึ่งเดินเข้ามา
เขานั้นยังเยาวัยและมีรูปร่างเล็ก
เป็นเด็กชายที่ดูแปลกประหลาดที่ถือคาตานะใหญ่กว่าตัวของเขา
และเมื่อดูจากทหารรอบข้างเขา เทียจึงตัดสินได้ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นหัวหน้าของพวกเขา
“เกิดอะไรขึ้นกับโอกาซหรือเจ้าคะ”
ตัวเด็กชายนั้นดูตกใจเล็กน้อยกับคำถามนั่นแต่ก็ตอบกลับในทันที
“ชั้นฆ่ามันไปแล้ว”
“…เป็นเช่นนั้นเองสินะคะ”
สิ้นเสียง เพื่อนของเธอในห้องก็ต่างพากันโห่ร้อง
พวกเขานั้นต่างสงเสียงเเห่งความสุข ความขอบคุณ รวมไปทั้งน้ำตาแห่งความสุข กับภาพตรงหน้านั้นทำให้เหล่าทหารพากันหวาดกลัวแต่ไม่ใช่กับเด็กชายที่ดูสนใจในตัวเทีย
ทหารคนหนึ่งก็ได้ยื่นเทอร์มินัลข้อมูลให้กับเด็กชาย
ตัวเทียนั้นเต็มไปด้วยความดีใจ
ตัวเด็กชายตรงหน้าเธอนั้นราวกับทูตสวรรค์ที่เธอวิงวอนทุกวี่วันได้ลงมาโปรดพวกเธอ
“จบแล้วสินะเจ้าคะ … ถึงจะไม่ทราบชื่อของท่านแต่ถ้ายังมีความเห็นใจเหลืออยู่ได้โปรดปลดปล่อยพวกเราด้วยเถอะคะ”
ถ้าได้ตายด้วยน้ำมือของเด็กชายตรงหน้าก็คงไม่ต่างไปกับการได้ถูกปลดปล่อยไปจากขุมนรกตรงนี้
เธอจะได้ไม่ต้องถูกบังคับให้มีชีวิตอยู่ในร่างกายที่ราวกับกรงขังนี่อีกแล้ว
เทียนั้นคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างในที่สุดก็จะได้จบเสียที
“เธออยากให้ชั้นช่วยสินะ”
“ใช่แล้วเจ้าคะ ก็อย่างที่ท่านเห็น พวกเรานั้นไม่อาจมีชีวิตเยี่ยงมนุษย์ได้อีกแล้วดังนั้นด้วยมือของท่าน–”
หลังจากที่ต้องมามีรูปร่างอัปลักษณ์เช่นนี้มันคงยากที่จะกลับไปอยู่ในสภาพดั้งเดิมของตัวเธอได้แล้ว
ดังนั้นเธอจึงหมดหวังในการมีชีวิตไปแล้ว
แต่ เด็กชายนั้นกลับไม่ได้ออกคำสั่งให้สังหารพวกเธอ
“ได้เลยชั้นจะช่วยพวกเธอเองหนี้นี้น่ะอย่าลืมใช้คืนด้วยละ ใครก็ได้ ไปเรียกหมอมาแล้วขนทุกคนในนี้ออกไปให้หมด”
เทียนั้นรู้ตัวในทันทีว่าเด็กชายนั้นเข้าใจคำว่าช่วยของเธอผิดไป
“ดะ เดี๋ยวก่อนเจ้าคะ”
แต่ตัวเด็กชายนั้นเดินออกจากห้องไปพร้อมกับทหารบางส่วนแล้ว
เธอจึงหันไปส่งเสียกับทหารที่เหลือยู่แทน
“ได้โปรด ฆ่าฉันด้วยเถอะคะ ข้อร้องละเจ้าคะได้โปรดให้ฉันได้ตายเถอะ”
แต่เหล่าทหารนั้นได้แต่ตอบปฤิเสธ
“- ขอโทษนะพวกเราไม่อาจขัดคำสั่งของท่านเลียมได้หรอก”
ภายในห้องอันมืดมิดนั้น เทียก็ได้จมไปสู่ห้วงแห่งความสิ้นหวังอีกครั้ง
***
พอฉันออกมาจากห้องก็เปิดข้อมูลรูปลักษณ์เก่าของพวกเธอที่ถูกดัดแปลง จากตัวเทอร์มินัลที่เพิ่งได้มา
อะไรเป็นรูปลักษณ์โดดเด่นของพวกเธอ โดนทดลองอะไรไปบ้าง รวมไปถึงอวัยวะส่วนไหนโดนดัดแปรงไปทุกอย่างถูกเขียนอธิบายไว้อย่างละเอียด
พอฉันดูไปที่ข้อมูลการดัดแปรงมันก็เขียนอธิบายไว้ราวกับไดอารี่การเลี้ยงสัตว์
ดูเหมือนพวกเธอทุกคนค่อนข้างจะเป็นคนสวยกันทั้งนั้นแล้วก็มาโดนทดลองจนมีสภาพอย่างปัจจุบัน
“เป็นงานอดิเรกที่อุบาตสิ้นดี”
ไม่เห็นจะเข้าใจว่ามันจะมีคนสนุกกับไอ้เรื่องแบบนี้ได้ยังไง
แล้วลูกน้องฉันก็ส่งเสียงถามขึ้น
“ท่านเลียมคิดจะช่วยพวกเธอจริงๆเหรอครับ”
คนที่ถามฉันนั้นเป็นบุคลากรที่มีความรู้ด้านการแพทย์ เขาก็เริ่มอธิบายให้ฟังว่าวิธีที่จะรักษาพวกเธอที่โดนดัดแปลงจนถึกขั้นนั้นมันมีจำกัดเป็นอย่างมาก
“การจะช่วยแก้ไขรูปร่างของพวกเธอนั้นมีแค่การที่ต้องแยกและประกอบร่างพวกเธอใหม่ตั้งแต่ต้นเลยนะครับ”
“แล้วจะรักษาพวกเธอได้ไหมละ”
“สิ่งจำเป็นที่ต้องมีก็คงเป็นอีลิเซียร์ครับ ถึงจะใช้แค่ไม่กี่หยดก็พอก็เถอะครับ แต่ท่านก็น่าจะรู้นะครับว่ามันหายากและราคาแพงขนาดไหน”
ถ้าพูดถึงอีลิเซียร์ในโลกแฟนตาซีละก็คงหนีไม่พ้นยาสารพัดประโยชน์ละนะ
ดูเหมือนในโลกนี้ก็จะมีอยู่ด้วยแต่ถึงจะมีไม่มากก็เถอะในจักรวรรดินี้น่ะ
แค่โดนเอาออกมาวางขายในตลาด ก็เป็นที่แน่นอนว่ามันจะโดนขายออกไปในราคามหาโหด
“ก็แค่ซื้อมันมาซะสิ ยังไงชั้นก็อยากได้ติดไว้อยู่แล้วจะซื้อเยอะหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร”
ถ้าขายสมบัติทั้งหมดที่ยึดมาจากโกอาซได้ละก็ยังไงก็คงได้ราคางามไม่เบา
เพราะมันอาจจะมีสมบัติซ่อนไว้ที่อื่นที่ฉันยังหาไม่เจออยู่ก็เป็นได้
และไอ้ฉันก็อยากได้อีลิเซียร์ติดตัวไว้อยู่แล้วด้วย
“ไม่ใช่แค่นั้นนะสิครับ เรายังต้องจ้างหมอเฉพาะด้านรวมไปถึงจัดเตรียมสถานพยาบาลที่มีอุปกรณ์ระดับแนวหน้าของจักรวรรดิ แต่มีขนาดนั้นยังอาจต้องใช้เวลาเป็นปีพวกเธอถึงจะกลับมามีร่างแบบปรกติได้แล้วในกรณีที่พวกเธอรอดมาได้เราก็ยังต้องเตรียมหมอมาบำบัดสภาพจิตใจของพวกเธอกับเรื่องที่เคยเผชิญมาทั้งหมดอีกด้วยนะครับ ราคาที่ต้องจ่ายมันมหาศาลเลยนะครับ”
ก็ไม่เห็นมันจะมีปัญหาตรงไหนหนิหว่า ยังไงก็ทำเงินได้เยอะอยู่แล้วด้วย
“ไอ้ชั้นก็แค่ช่วยเพราะพวกเธอขอให้ช่วยเองนะ”
“แต่ไอ้ที่พวกเธอขอให้ช่วยนะมันหมายถึง–”
“ชั้นรู้”
แล้วลูกน้องฉันก็เงียบลง
พวกเธอไม่อาจจะหวังให้ใช้ชีวิตแบบธรรมดาได้อีก
ไอ้ฉันก็รู้ แต่พอมาอ่านไอ้กรรมวิธีที่พวกเธอต้องพบเจอก็คิดได้แค่ว่าพวกเธอโชคร้ายเท่านั้นเอง
ฉันเห็นใจคนพวกนี้ ที่ต้องมาเจออะไรที่โหดร้ายยิ่งกว่าฉันเคยพบเจอมา
เกือบทุกคนที่โดนจับมานั้นต่างโดนทำลายดาวบ้านเกิดไปเพราะการรุกรานของโกอาซกันทั้งนั้น
ทำให้เกือบทุกคนไม่มีบ้านให้กลับแล้ว
“ก็แค่อารมณ์ชั่ววูบนะ นานๆทีทำเรื่องดีๆบ้างก็ไม่เลวไม่ใช่รึไง”
ลูกน้องฉันได้แต่ยืนเงียบหาคำพูดไม่ได้
***
พอกลับมาถึงดาวของตัวเองฉันก็ได้ราวการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษเลยทีเดียว
ประชาชนต่างพากันโห่ร้องด้วยความยินดีรวมไปถึงพ่อบ้านไบรอันก็ด้วย ที่ออกมาต้อนรับฉันถึงหน้าปราสาท
ถึงอามากิจะยังนิ่งเหมือนเดิม
แต่ไบรอันนั้นร้องห่มร้องไห้จนไม่มีเค้าเดิมซะแล้ว
“ท่านเลียม ไบรอันผู้นี้เชื่อมันอยู่แล้วว่าท่านจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย”
“งะ งั้นเหรอ”
อามากินั้นเสริมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ส่วนฉันกังวลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะเชื่ออยู่แล้วว่านายท่านจะได้รับชัยชนะคะ”
“…เป็นงั้นเหรอ”
-ฉันก็อยากให้เธอกังวลมากกว่านึ้จนร้องไห้เหมือนกันนา
ไบรอันนั้นพยายามรายงานเรื่องราวต่างๆพลางร้องห่มร้องไห้ไปด้วยจนฟังไม่รู้เรื่อง อามากิเลยรับหน้าที่แทน
เรื่องที่รายงานมาก็คือ–
“ชั้นโดนเรียกตัวไปที่เมืองหลวงงั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ ทางนั้นเขาต้องการจะมอบเหรียญให้กับนายที่ที่ทำการกำหลาบกุมโขรสลัดโกอาซได้คะ ถึงตอนนี้จะยังไม่ใช้ทางการแต่ ตัวเรียกอย่างเป็นทางการจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้คะ”
แล้วก็ทำให้นึกถึงเขาพูดของผู้นำทางได้
เขาบอกว่าฉันจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดด้านททางการทหาร
เป็นจริงอย่างที่เขาว่าเลย
ด้วยการที่ทำลายโจรกลุ่มสลัดที่มีขนาดใหญ่แบบนั้นทำให้ได้ทั้งเกียร์ติยศและเงินทองมากมาย
“แล้วทางเราก็ยังได้รับการติดต่อมาจากทางหอการค้าแฮนฟรี่และทางโรงงานผลิตอาวุธที่เจ็ดอีกด้วย ทางท่านโทมัสนั้นต้องการติดต่อเรื่องการซื้อสินทรัพย์ที่ยึดมาได้คะ”
“โรงงานผลิตอาวุธจะติดต่อมาเพื่ออะไรละนั้น”
ฉันคิดสาเหตุที่ทำให้ที่ทำงานของคุณไนอาสสุดสวยจะติดต่อมาได้เลย
แต่อามากิก็ตอบกลับมาทันที
“ตัวอาวุธที่ทางโจรสลัดใช้ส่วนมากผลิตจากประเทศอื่น ดังนั้นพวกเขาอยากซื้อไปเพื่องานวิจัยเพิ่มเติมค่ะ”
“ก็คืออยากได้ของไปวิจัยเพิ่มงั้นสินะ”
“และเขาเสริมมาว่าถ้านายท่านมีแร่ห่ายาก พวกเขาก็ต้องการจะขอซื้อไปด้วยเช่นกันคะ”
กลุ่มโจรสลัดโกอาซก็มีแร่หายากเยอะอยู่แหละ
–แต่ทองดันไม่ได้มีเยอะซะงั้นเนี้ยสิ
“งั้นชั้นขอคุยกับโทมัสก่อนละกัน”
“จะทำการติดต่อให้เดี๋ยวนี้คะ”
แค่มีลูกน้องเก่งๆจัดการให้เรื่องอะไรมันก็ง่ายไปหมดละนะ
***
ยังไม่ตายครับ…ตอนหน้าอาจช้าหน่อยยังไม่ได้เล่นอีเว้นม้าเลย หมุนไม่ได้มายะจังชุดเจ้าสาวเส้า…4 วัน กับ 400k แต้ม orz
แล้วก็ลองใช้ ‘ชั้น’ กับบทคำพูดส่วนบทอธิบาย หรือบางตัวละครใชั ‘ฉัน’ ถ้าขัดตาเดี๋ยวจะเปลี่ยนเป็นแบบเดียวกันหมดให้นะครับ ส่วนบทพูด
เทียในหัวผมนางไปแนวๆ เจ้าคะ นะครับเลยแปลไปแบบนั้นในบทยุ่นนางค่อนข้างพูดสุภาพอยู่ด้วย